1. เมื่อกลับใจ… พระเจ้าไม่ได้ต้องการให้เราทำบาปอีกต่อไป
2. การแก้ไขเรื่องเลิกทำบาป คืองานของพระเจ้า และมันก็ไม่ได้ยากเหมือนที่คุณคิด
3. บัพติศมามี 2 แบบ
4. การร่วมมีส่วนในการตาย และเป็นขึ้นกับพระเยซู
5 การหลุดพ้นจากตัวบาป กฎแห่งความบาป และกฎแห่งความตาย
การตายต่อตัวบาป แต่มีชีวิตต่อพระคริสต์ (We Died to Sin And Live to Christ)
6:1 ถ้าเช่นนั้นแล้วเราจะว่าอย่างไรควรเราจะอยู่ในบาปต่อไปเพื่อให้พระคุณมีมากยิ่งขึ้นหรือ
** การชำระให้ชอบธรรมต่อพระพักตร์พระเจ้าเป็นเพียงขั้นตอนแรก ขั้นตอนต่อมา คือนำเราเข้าสู่กระบวนการเพื่อให้เราเลิกทำบาปได้เพื่อชีวิตจะถวายเกียรติแด่พระเจ้า แต่ก็ต้องใช้เวลากว่าผู้เชื่อที่เป็นเด็กจะโตและสุกงอมได้
6:2 ขอพระเจ้าอย่ายอมให้เป็นเช่นนั้นเลย พวกเราที่ตายต่อตัวบาปแล้วจะมีชีวิตในบาปต่อไปอย่างไรได้
** การทำบาป เป็นสิ่งที่พระเจ้ายอมไม่ได้ หรือไม่อนุญาต และอีกอย่างพระเจ้าได้กระทำแล้วคือทำลายเนื้อหนังของเราโดยการตรึงที่กางเขน เราจะเห็นการตายของเนื้อหนังเมื่อเราฝึกเดินในความเชื่อเรื่อง "ในพระคริสต์" แต่น่าเสียดายที่ผู้เชื่อมากมายไม่รู้และไม่เข้าใจเรื่องการเข้าส่วนในการตายและเป็นขึ้นกับพระเยซู เพราะว่ามันเป็นหลักการการดำเนินชีวิตของคริสเตียนตามน้ำพระทัย
** "ตัวบาป" คือชีวิตของซาตานที่สิงอยู่ในฝ่ายเนื้อหนังของมนุษย์ ตัวบาปเป็นบุคคล มีชีวิตมีความคิด มีกฎแห่งความบาปและกฎแห่งความตายอยู่ในตัวของมัน
6:3 ท่านไม่รู้หรือว่าเราทั้งหลายที่ได้รับบัพติศมาเข้าในพระเยซูคริสต์ก็ได้รับบัพติศมานั้นเข้าในความตายของพระองค์
** วันที่เรารับบัพติศมาไม่ใช่วันที่เราตาย แต่คือวันที่เรายอมรับความจริงว่าเราตายแล้ว ประวัติศาสตร์ของพระเยซูก็คือประวัติศาสตร์ของเรา
6:4 เหตุฉะนั้นเราจึงถูกฝังไว้กับพระองค์แล้วโดยการรับบัพติศมาเข้าส่วนในความตายนั้นเหมือนกับที่พระคริสต์ได้ทรงถูกชุบให้เป็นขึ้นมาจากความตายโดยเดชพระรัศมีของพระบิดาอย่างไร เราก็จะได้ดำเนินตามชีวิตใหม่ด้วยอย่างนั้น
** 1. เราได้บังเกิดใหม่โดยการตาย และเป็นขึ้นของพระเยซู
** 2. เราได้รับบัพติศมาเข้าในการตาย และเป็นขึ้นกับพระเยซูเพื่อเราจะหลุดพ้นจากตัวบาปและไม่เป็นทาสของตัวบาปอีกต่อไป
** เราก็จะได้ดำเนินตามชีวิตใหม่ เนื่องจากว่าเราได้บังเกิดใหม่ และพระคริสต์ทรงสถิตอยู่ในเราแล้ว เราจึงมีกฎแห่งพระวิญญาณและกฎแห่งชีวิตพร้อมที่จะสำแดงพระคริสต์ต่อโลก
6:5 เพราะว่าถ้าเราเข้าสนิทกับพระองค์แล้วในการตายอย่างพระองค์เราก็จะเป็นขึ้นมาอย่างพระองค์ได้ทรงเป็นขึ้นมาจากความตายด้วย
** การ "เข้าสนิท" ก็คือการได้มีส่วนร่วมในการตาย และเป็นขึ้นของพระเยซู
** พระเจ้านับเราเข้าสนิทในการตาย และการเป็นขึ้นกับพระองค์ เรามีหน้าที่เชื่อ จึงจะได้เห็นผลที่ตามมา
6:6 เราทั้งหลายรู้แล้วว่า มนุษย์คนเก่าของเรานั้นได้ถูกตรึงไว้กับพระองค์แล้วเพื่อร่างกายแห่งความบาปนั้นจะถูกทำลายให้สิ้นไป เพื่อเราจะไม่เป็นทาสของตัวบาปอีกต่อไป
** "มนุษย์คนเก่า" (the old man, the flesh, the carnal) คือมนุษย์ที่เกิดจากอาดัม เรียกว่าเนื้อหนัง คนตาย คนบาป ตกต่ำเสื่อมทราม ถูกแช่งสาปแล้ว
** "ร่างกายแห่งความบาป" (the body of sin) คือหนึ่งในสามส่วนของมนุษย์ (1.ร่างกาย 2.จิต และ 3.วิญญาณ) คือร่างกายที่เป็นตัวตนที่เราเห็นอยู่ซึ่งเป็นที่อยู่ของตัวบาป (ปาก ลิ้น ตา หู จมูก แขน ขา มือ เท้า) มันจะว่องไวในการทำบาปมาก ร่างกายแห่งความบาปนี้จะถูกทำลายให้สิ้นไปก็ต่อเมื่อเราเชื่อเอา นับ (ระลึก) ว่าร่างกายเก่านี้ตายแล้ว และที่เห็นเป็นอยู่ ก็คือร่างกายแห่งความชอบธรรม ในที่สุดร่างกายแห่งบาปก็จะอ่อนแรงและทำบาปไม่ได้
** "ไม่เป็นทาสของความบาปอีกต่อไป" คือตัวบาปเป็นนายบังคับจิตเก่าและร่างกายแห่งความบาปและความตาย เมื่อเราฝึกอยู่ในพระวิญญาณและเดินในพระวิญญาณว่าตัวเก่าตายตัวใหม่เป็นอยู่ มันก็จะบังคับเราให้ทำบาปไม่ได้อีก
6:7 เพราะว่าผู้ที่ตายแล้วก็พ้นจาก (ตัว) บาป
** การตายต่อเนื้อหนังหรือตัวเก่า คือทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากการเป็นทาสของตัวบาปได้
6:8 แต่ถ้าเราตายแล้วกับพระคริสต์เราเชื่อว่าเราจะมีชีวิตอยู่กับพระองค์ด้วย
** นี่คือการมีชีวิตของสองชีวิตในร่างกาย (ใหม่นี้) นี้ เอเมน
6:9 เราทั้งหลายรู้อยู่ว่าพระคริสต์ที่ทรงถูกชุบให้เป็นขึ้นมาจากตายแล้วนั้นจะหาตายอีกไม่ความตายหาครอบงำพระองค์ต่อไปไม่
** พระเยซูทุกวันนี้ทรงประทับที่ข้างขวาของพระบิดา จะกลับมาก่อตั้งอาณาจักรและอยู่กับพระบิดาตลอดไปเป็นนิจ
6:10 ด้วยว่าซึ่งพระองค์ได้ทรงตายนั้นพระองค์ได้ทรงตายต่อบาปหนเดียว แต่ซึ่งพระองค์ทรงมีชีวิตอยู่นั้นพระองค์ทรงมีชีวิตต่อพระเจ้า
** การมีชีวิตอยู่ต่อพระเจ้า คือมีชีวิตที่ไม่มีวันจบสิ้น ทรงเป็นอยู่นิรันดร์
6,000 ปีก่อนอาดัมเกิดมา และนำตัวบาป/ความบาปเข้ามาในเรา
2,000 ปีก่อนพระเยซูเกิดมา และนำตัวชอบธรรม/ความชอบธรรมเข้ามา
.....
1. กิตติคุณสี่เล่มแรก พระเยซูมาตายเพื่อไถ่ความผิดบาปเรา หนังสือโรม พระเยซูมาอยู่ในเรา เพื่อช่วยเราไม่ให้ทำบาปอีกต่อไป
2. โรมบทที่ 6 คือกุญแจนำเราให้พ้นจากโรมบทที่ 7 และก้าวเข้าสู่ชีวิตที่ชัยชนะได้
3. ทุกวันนี้คริสเตียนไม่สามารถหลุดพ้นจากประสบการณ์ชีวิตผิดบาปในโรมบทที่ 7 ได้ สาเหตุเป็นเพราะว่า…
- เราเอาเนื้อหนังไปต่อสู้กับตัวบาปที่สิงอยู่ในเรา (ข้อ 14)
- เนื้อหนังของเราไม่มีอะไรดีอยู่เลย อย่าเชื่อถ้าใครบอกเราว่า เขาเป็นคนดีมากมาย และรักษาพระบัญญัติได้ (ข้อ 18)
- เราเอาชนะบาปไม่ได้แน่นอน เพราะเราถูกขายให้ตัวบาปแล้ว (ข้อ 14)
- เราเป็นทาสของตัวบาปในเรา (ข้อ 14)
- เราไม่ได้ทำบาป แต่ตัวบาปในเราเป็นคนทำ (ข้อ 17, 19, 20-21, 23)
- เราต้องการการหลุดพ้น แต่เราไม่มีกำลังพอ (ข้อ 23-24)
- ตัวบาปมีกฎแห่งความบาปและกฎแห่งความตาย ที่มีพลังมากกว่ากฎของจิตเรา จิตเราก็รักชอบในการทำดีเพื่อพระเจ้า แต่อ่อนแอทำไม่ได้มาก (ข้อ 23-24)
- ทางออกไม่ได้อยู่ที่ตัวเรา แต่คือพระคริสต์ (ข้อ 25) (“ใคร” คนนั้น คือพระคริสต์ ในโรม 8:1-2)
.....
ผู้เชื่อมากมายได้อ่านโรมบทที่ 6 แต่ไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาเมื่อสองพันปีก่อน และเคล็ดลับในการเลิกทำบาปได้ พวกเขาเห็นความหมายเพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น
เปาโลเปิดเผย 3 สิ่งที่สำคัญในโรมบทที่ 6
1. รู้ว่าเราตาย ถูกฝัง และเป็นขึ้นกับพระคริสต์
2. นับว่าตาย เพื่อได้พ้นตัวบาป และร่างกายแห่งบาปจะอ่อนกำลัง
3. ถวายตัวใหม่ (ร่างกายใหม่นี้) เพื่อเป็นอวัยวะของตัวชอบธรรม
(เพิ่มข้อ 4 — โรมบทที่ 8)
.....
ฝึกเดินในฝ่ายวิญญาณในแต่ละวัน เดินในฝ่ายวิญญาณคือ..
1. ปักใจในพระวิญญาณ
- สนิท บอกรัก พูดคุยกับพระเยซู อยู่ในความเชื่อ พระคำพระเจ้า
2. สะสมมานาฯ/มาร่วมรับการเสริมสร้างที่คริสตจักร
- มานาที่ซ่อนไว้ คืออาหารผู้ใหญ่ เราไม่สะสมเราก็โตยาก
- เราขาดพระกายไม่ได้ พระกายก็ขาดเราไม่ได้เช่นกัน เพื่อการเสริมสร้างกันและกัน
.....
ชีวิตในอาดัม // ชีวิตในพระคริสต์ (5 ข้อ ดูที่ตางรางภาพข้างล่าง)
ทาสแห่งความชอบธรรม
6:11 เหมือนกันเช่นนั้นแหละท่านทั้งหลายจงนับว่าท่านได้ตายต่อตัวบาปและมีชีวิตอยู่ต่อพระเจ้าในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
** "นับ" ภาษาอังกฤษแปลว่า "reckoning considering" ความหมายของภาษากรีก ก็คือทำบัญชี คำที่เหมาะที่สุด ก็คือระลึก นับ จดจำ และต้องเป็นการกระทำอย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน เช่น เราบอกตัวเองว่า เอเมน เราตายต่อตัวบาปแล้ว และเป็นอยู่ต่อพระเจ้าแล้ววันนี้ และทุกวัน อำนาจแห่งชีวิตของการเป็นขึ้นก็จะเคลื่อนไหวในเราในแต่ละวัน
** "ในพระเยซูคริสต์" ผู้เชื่อมากมายไม่เข้าใจคำนี้ คำว่า "ในพระคริสต์ " เป็นชีวิตที่ตรงข้ามกับในอาดัม ในอาดัมล้มเหลวอ่อนแอตกต่ำเสื่อมทรามหมดหวัง แต่ในพระคริสต์สำเร็จแล้ว มีพลังแล้ว รับการยกชูขึ้นแล้ว มีความหวังแล้ว และคำว่า "ในพระคริสต์" คือการที่ต้องรักษาตำแหน่งของเราให้อยู่ในพระองค์อยู่เสมอ โดยการเชื่อเอา เพราะว่าพระเจ้าทรงกระทำหมดแล้ว ไม่ใช่พยายามเข้าไปอยู่ในพระคริสต์เหมือนผู้เชื่อมากมายทำทุกวันนี้
6:12 เหตุฉะนั้นอย่าให้บาปครอบงำร่างกายที่ต้องตายของท่านซึ่งทำให้ต้องเชื่อฟังตัณหาของกายนั้น
** "กายที่ต้องตาย" คือ "ร่างกายแห่งความบาป และความตาย"
6:13 อย่ายกอวัยวะของท่านให้แก่ตัวบาปให้เป็นเครื่องใช้ในการอธรรม แต่จงถวายตัวของท่านแด่พระเจ้าเหมือนหนึ่งคนที่เป็นขึ้นมาจากความตายแล้วและจงให้อวัยวะของท่านเป็นเครื่องใช้ในการชอบธรรมถวายแด่พระเจ้า
** "อวัยวะ" ในที่นี้ คือ "ร่างกายแห่งความบาปและความตาย"
** การยกอวัยวะให้ตัวบาป คือยอมเป็นเนื้อหนัง ไม่ฝึกอยู่ในพระวิญญาณ และเดินในพระวิญญาณ เมื่อเราไม่เดินในพระวิญญาณกฎแห่งพระวิญญาณและกฎแห่งชีวิตก็จะไม่ปรากฏ ทำให้กฎแห่งบาปและกฎแห่งความตายครอบงำเราได้
** คริสเตียนไม่อาจถวายชีวิตเก่าตัวเก่าเนื้อหนังแด่พระเจ้าได้ มันเป็นชีวิตที่พระเจ้าไม่พอพระทัย แต่เราถวายตัวใหม่ คือเชื่อว่าคนคนนี้เป็นคนใหม่แล้ว (ในพระคริสต์)
** เปาโลถวายตัวและอวัยวะของท่านในลักษณะทาส เพื่อท่านจะไม่มีสิทธิเสรีภาพที่จะใช้ชีวิตเนื้อหนังของท่านได้ พระคริสต์จึงรักษาท่านไม่ให้ทำบาปและเป็นผู้ชนะตามกำหนดเวลาของพระองค์
** คริสเตียนที่ไม่รู้และเข้าใจสี่สิ่งคือ..
1. รู้ว่าเราเข้าส่วนในการตายและเป็นขึ้นกับพระเยซู
2. นับว่าตายและนับว่าเป็นคนใหม่
3. ถวายตัวให้พระคริสต์ทำแทน
4. อยู่ใต้พระคุณ คือไม่ยอมทำดีรักษาพระบัญญัติเอง เมื่อไม่รู้ ไม่เข้าใจ ในสี่สิ่งนี้ จึงเลิกทำบาปไม่ได้
6:14 เพราะว่าตัวบาปจะมีอำนาจเหนือท่านทั้งหลายต่อไปก็หามิได้เพราะว่าท่านทั้งหลายมิได้อยู่ใต้พระบัญญัติแต่อยู่ใต้พระคุณ
** "การอยู่ใต้พระบัญญัติ" คือการพยายาม บังคับตน อดกลั้น ไม่ให้ทำบาป (ด้วยกำลังของตัวเก่า)
** "การอยู่ใต้พระคุณ" คือการทำแทนของพระคริสต์เกิดผลของพระวิญญาณในเรา
** "มิได้อยู่ใต้พระบัญญัติ" คือถ้าหากเรายังไม่เห็นผลของพระคริสต์ทำแทน เราก็ทำบาปต่อไป อย่าพยายามอย่าบังคับตน อย่าฝืนใจเพื่อเชื่อฟังพระบัญญัติให้ได้ เราทำบาปแต่ต้องสารภาพและขอนำเราเข้าสู่กระบวนการการเปลี่ยนแปลงโดยพระคุณของพระองค์ ที่ทรงสัญญาไว้ใน (โรม 5:17)
6:15 ถ้าเช่นนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไปเราจะทำบาปเพราะมิได้อยู่ใต้พระบัญญัติแต่อยู่ใต้พระคุณกระนั้นหรือขอพระเจ้าอย่ายอมให้เป็นเช่นนั้นเลย
** พระเจ้าไม่ต้องการให้เราทำบาปอย่างแน่นอน แต่การอยู่ใต้พระคุณจะต้องใช้เวลากว่าจะได้เห็นผลของพระวิญญาณปรากฏในเรา ซึ่งการฝึกในระยะแรกๆ เราจะยังเอาชนะบาปไม่ได้ และส่วนที่เราชนะได้แล้วเราก็เชื่อว่าคือพระคริสต์เป็นคนกระทำ เพราะว่าเราเชื่อว่าตัวใหม่กำลังทำอยู่
6:16 ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่าท่านจะยอมตัวรับใช้เชื่อฟังคำของผู้ใด ท่านก็เป็นทาสของผู้ที่ท่านเชื่อฟังนั้นคือเป็นทาสของบาปซึ่งนำไปสู่ความตายหรือเป็นทาสของการเชื่อฟังซึ่งนำไปสู่ความชอบธรรม
** "นำไปสู่ความตาย" ก็คืออ่อนแอ ความบาปและอยู่นอกพระคริสต์
** "เป็นทาสของการเชื่อฟัง" คือพระคริสต์ทำแทนก่อให้เกิดการเชื่อฟังได้
6:17 แต่จงขอบพระคุณพระเจ้าเพราะว่าเมื่อก่อนนั้นท่านเป็นทาสของบาปแต่บัดนี้ท่านมีใจเชื่อฟังหลักคำสอนนั้นซึ่งทรงมอบไว้แก่ท่าน
6:18 เมื่อท่านพ้นจากตัวบาปแล้ว ท่านก็ได้กลายเป็นทาสของความชอบธรรม
** ผู้เชื่อที่ได้รับการเปิดตาฝ่ายวิญญาณจริงๆ เท่านั้นจึงได้พ้นจากตัวบาป และพระคริสต์ครอบครองจิตใจของเขา
6:19 ข้าพเจ้ายกเอาตัวอย่างมนุษย์มาพูด เพราะเหตุเนื้อหนังของท่านอ่อนกำลังเพราะท่านเคยให้อวัยวะของท่านเป็นทาสของการโสโครกและของความชั่วช้าซ้อนชั่วช้าฉันใดบัดนี้ท่านจงให้อวัยวะของท่านเป็นทาสของความชอบธรรมเพื่อให้ถึงความบริสุทธิ์ฉันนั้น
** "ให้อวัยวะเป็นทาสของความชอบธรรม" คือถวายตัวใหม่และยอมเป็นทาสของพระคริสต์ซึ่งเป็นการถวายต่อพระองค์ทุกวันและเวลา
** "ถึงความบริสุทธิ์" คือได้เข้าสู่กระบวนการการเปลี่ยนแปลง (sanctification) จนเติบโตได้
6:20 เพราะเมื่อท่านทั้งหลายเป็นทาสของบาปความชอบธรรมก็ไม่ได้ครอบครองท่าน
** ก่อนพบอาหารผู้ใหญ่ ผู้เชื่อทุกคนเป็นทาสของตัวบาปอย่างแน่นอน พระคริสต์ไม่อาจจะครอบครองจิตใจเราได้
6:21 ขณะนั้นท่านได้ผลประโยชน์อะไรในการเหล่านั้น ซึ่งบัดนี้ท่านทั้งหลายก็ละอายด้วยว่าที่สุดท้ายของการเหล่านั้นก็คือความตาย
** เมื่อเราพบมานาที่ซ่อนไว้ พระคำล้ำลึก หรือการตีความหมายที่ถูกต้อง (อาหารแข็ง) เราจะพบว่าทุกสิ่งที่เรากระทำมันคือความดีที่ตายแล้วคือไม้ฟางหญ้าแห้ง และไร้ประโยชน์
6:22 แต่เดี๋ยวนี้ท่านทั้งหลายพ้นจากการเป็นทาสของบาปและกลับมาเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าแล้ว ผลที่ท่านได้รับก็คือความบริสุทธิ์และผลสุดท้ายคือชีวิตนิรันดร์
** "แต่เดี๋ยวนี้" คือเปาโลพูดกับผู้เชื่อทุกคน คือตั้งแต่วันที่เราเชื่อเราได้พ้นจากการเป็นทาสบาปและเป็นผู้รับใช้ (ปุโรหิตหลวง) ของพระเจ้าแล้ว แต่ผู้เชื่อมากมายไม่รู้และไม่ใส่ใจแสวงหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้
6:23 เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตายแต่ของประทานของพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
** นี่คือกฎของพระเจ้า คือผลของการทำบาปก็คือความตาย