คำอุปมานั้นพระเยซูได้ตรัสกับเขาทั้งหลายแต่เขาไม่เข้าใจความหมายของพระดำรัสที่พระองค์ตรัสกับเขาเลย
ยอห์น 10:1–18
10:1 “เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ผู้ที่มิได้เข้าไปในคอกแกะทางประตู แต่ปีนเข้าไปทางอื่นนั้นเป็นขโมยและโจร
** คอกแกะ คือพระบัญญัติที่เป็นภาระหนักของชาวยิวที่ต้องอยู่ในคอกต้องรักษาพระบัญญัติอย่างเคร่งครัดเพื่อที่จะได้รอด และรับพระพร
** ขโมยและโจร คือชาวยิวที่รักษาพระบัญญัติ ก่อนที่พระเยซูเสด็จมา
...
10:2 แต่ผู้ที่เข้าทางประตูก็เป็นผู้เลี้ยงแกะ
** คือพระเยซูที่มาในฐานะของพระผู้ช่วยให้รอด(เพื่อช่วยให้หลุดพ้นจากการแบกภาระหนักคือพยายามรักษาพระบัญญัติ)
...
10:3 นายประตูจึงเปิดประตูให้ผู้นั้น และแกะย่อมฟังเสียงของท่าน ท่านเรียกชื่อแกะของท่าน และนำออกไป
** “นายประตู” คือพระเจ้า
** “เปิดประตูให้ผู้นั้น” คือให้พระเยซูมีสิทธิอำนาจเหนือพระบัญญัติ สามารถเข้าออกได้ และนำคนเข้าออกไปกับพระองค์ได้
** “แกะ” กลุ่มแรก คือสาวกทั้งหลายที่ติดตามพระเยซู กลุ่มที่สอง คือผู้เชื่อที่พบมานาที่ซ่อนไว้และถูกเปิดตา ส่วนแกะที่ไม่ยอมออกมา คือพวกยิวและคริสเตียนศาสนาทั้งหลาย
...
10:4 เมื่อท่านต้อนแกะของท่านออกไปแล้วก็เดินนำหน้า และแกะก็ตามท่านไปเพราะรู้จักเสียงของท่าน
** แกะที่เดินตามพระเยซู คือสาวกและผู้เชื่อที่ถูกเปิดตา เราจึงตายจากพระบัญญัติแล้ว (โรม 7:4)
...
10:5 คนแปลกหน้าแกะจะไม่ตามเลย แต่จะหนีไปจากเขา เพราะไม่รู้จักเสียงของคนแปลกหน้า”
** คนแปลกหน้า คือผู้ที่อ้างตนว่าเป็นพระคริสต์
...
10:6 คำอุปมานั้นพระเยซูได้ตรัสกับเขาทั้งหลาย แต่เขาไม่เข้าใจความหมายของพระดำรัสที่พระองค์ตรัสกับเขาเลย
10:7 พระเยซูจึงตรัสกับเขาอีกว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่า เราเป็นประตูของแกะทั้งหลาย
** เราเป็นประตู คือพระเยซูปลดปล่อยยิวให้ได้หลุดพ้นจากภาระหนัก คือการรักษาพระบัญญัติ
...
10:8 บรรดาผู้ที่มาก่อนเรานั้นเป็นขโมยและโจร แต่ฝูงแกะก็มิได้ฟังเขา
** ขโมยและโจร คือผู้นำยิว ที่มีหน้าที่ทุบตีลงโทษชาวยิวที่ละเมิดพระบัญญัติ
...
10:9 เราเป็นประตู ถ้าผู้ใดเข้าไปทางเรา ผู้นั้นจะรอด และเขาจะเข้าออก แล้วจะพบอาหาร
** ผู้เชื่อทุกคนได้รอด แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าออกจากพระบัญญัติได้และพบอาหาร แต่คือผู้เชื่อที่ถูกเปิดตาเท่านั้น
...
10:10 ขโมยนั้นย่อมมาเพื่อจะลักและฆ่าและทำลายเสียเราได้มาเพื่อเขาทั้งหลายจะได้ชีวิต และจะได้อย่างครบบริบูรณ์
** ขโมยและโจร คือผู้นำยิว ที่มีอำนาจลงโทษคนที่รักษาพระบัญญัติไม่ได้
** เมื่อถูกเปิดตา เราจึงพบชีวิตที่ครบบริบูรณ์
...
10:11 เราเป็นผู้เลี้ยงที่ดี ผู้เลี้ยงที่ดีนั้นย่อมสละชีวิตของตนเพื่อฝูงแกะ
10:12 แต่ผู้ที่รับจ้างมิได้เป็นผู้เลี้ยงแกะ และฝูงแกะไม่เป็นของเขา เมื่อเห็นสุนัขป่ามา เขาจึงละทิ้งฝูงแกะหนีไป สุนัขป่าก็ชิงเอาแกะไปเสีย และทำให้ฝูงแกะกระจัดกระจายไป
10:13 ผู้ที่รับจ้างนั้นหนีเพราะเขาเป็นลูกจ้าง และไม่เป็นห่วงแกะเลย
** “ผู้รับจ้าง” ก่อนพระเยซูและในสมัยพระเยซู คือผู้นำศาสนายิว
** “ผู้รับจ้าง” หลังพระเยซู คือผู้นำคริสเตียนทุกวันนี้ ที่ทำหน้าที่ดูแลผู้เชื่อทั้งหลาย
** “สุนัขป่า” ก่อนพระเยซู คือซาตาน ที่พยายามทำให้ชาวยิวเชื่อพระเจ้าในรูปแนวศาสนา และไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้า
** “สุนัขป่า” หลังพระเยซู คือคนที่ไม่เชื่อและซาตาน ที่พยายามข่มเหงหรือทำให้คริสเตียนเลิกเชื่อไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และสุนัขป่ายังเล็งถึงผู้นำคริสเตียน ที่พยายามขัดขวางและข่มเหงผู้เชื่อที่พบมานา เพื่อไม่ให้เขาได้พบชีวิตที่ครบบริบูรณ์
...
10:14 เราเป็นผู้เลี้ยงที่ดี และเรารู้จักแกะของเรา และแกะของเราก็รู้จักเรา
10:15 เหมือนพระบิดาทรงรู้จักเรา เราก็รู้จักพระบิดาด้วย และชีวิตของเรา เราสละเพื่อฝูงแกะ
10:16 แกะอื่นซึ่งมิได้เป็นของคอกนี้เราก็มีอยู่ แกะเหล่านั้นเราก็ต้องพามาด้วย และแกะเหล่านั้นจะฟังเสียงของเรา แล้วจะรวมเป็นฝูงเดียว และมีผู้เลี้ยงเพียงผู้เดียว
** แกะอื่น บางกลุ่มแปลว่ามนุษย์ต่างดาว แต่ความหมายที่แท้จริง ก็คือ คนต่างชาติทั่วโลกที่มาเชื่อพระเยซู
...
10:17 ด้วยเหตุนี้พระบิดาของเราจึงทรงรักเรา เพราะเราสละชีวิตของเรา เพื่อจะรับชีวิตนั้นคืนมาอีก
10:18 ไม่มีผู้ใดชิงชีวิตไปจากเราได้ แต่เราสละชีวิตด้วยใจสมัครของเราเอง เรามีสิทธิที่จะสละชีวิตนั้น และมีสิทธิที่จะรับคืนอีก พระบัญชานี้เราได้รับมาจากพระบิดาของเรา”