ถาม.
ขอถามพระธรรมโรมบทที่ 13:8-10 อยากขอให้ อจ. อธิบายในพระคำ 3 ข้อนี้ค่ะว่ามันหมายความว่ายังไงค่ะเอเมนค่ะ
13:8 อย่าเป็นหนี้อะไรใคร นอกจากความรักซึ่งมีต่อกัน เพราะว่าผู้ที่รักคนอื่นก็ทำให้พระราชบัญญัติสำเร็จแล้ว
13:9 พระบัญญัติกล่าวว่า ‘อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา อย่าฆ่าคน อย่าลักทรัพย์ อย่าเป็นพยานเท็จ อย่าโลภ’ ทั้งพระบัญญัติอื่นๆก็รวมอยู่ในข้อนี้คือ ‘ท่านจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง’
13:10 ความรักไม่ทำอันตรายเพื่อนบ้านเลย เหตุฉะนั้นความรักจึงเป็นที่ให้พระราชบัญญัติสำเร็จแล้ว
ตอบ.
หนังสือโรมบทที่ 13 พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสผ่านเปาโลพูดถึงเรื่องการเป็นหนี้ จริงๆ แล้วถ้าหากใครที่ไม่จนตาแจจริงๆ ไม่ถึงขั้นที่ไม่มีทางออกจริงๆ มันหลีกไม่ได้ ก็คือต้องยืมต้องเป็นหนี้
แต่สำหรับชีวิตคริสเตียนฝ่ายวิญญาณ อันนี้ผมจะพูดกับเรานะครับ และพี่น้องที่ยังมีปัญหานี้อยู่ คือการเป็นหนี้นะครับ ผมพูดด้วยความรัก และไม่ตัดสินไม่ตำหนินะครับ คืออยากจะถามเรานะครับว่าถ้าหากเราใช้ชีวิตอยู่ในการสนิทในพระเยซู ถ้าหากเราเดินในฝ่ายวิญญาณอย่างสม่ำเสมอ พูดคุยกับพระเยซู สนทนากับพระเยซู บอกรัก เป็นชีวิตที่ใกล้ชิดสนิทชิดเชื้อ มีความผูกพันที่ดีกับพระเยซูมากๆ แน่นอนที่สุดครับพระเจ้าจะไม่ให้มาถึงจุดที่ต้องเป็นหนี้ใคร อาจจะไม่มั่งมีร่ำรวย อาจจะไม่คือชีวิตดีไปทั้งหมด แต่ไม่ถึงขนาดนั้นไม่ถึงต้องเป็นหนี้ใคร
นอกเสียจากว่าเรายังบกพร่อง ยังมีจุดบกพร่องในเรื่องการเดินในฝ่ายวิญญาณ ยังกระวนกระวายอยู่ ยังกังวลอยู่ ยังไม่ปล่อยปลงวาง และชีวิตของเรายังอยู่ในฝ่ายเนื้อหนังมากกว่าฝ่ายวิญญาณ
แต่บางคนเท่านั้นที่พระเจ้าเลือก บางคนหนึ่งในร้อยนะครับ ที่พระเจ้าให้ชีวิตที่ขัดสน แต่เขาไม่ยอมเป็นหนี้เป็นอันขาด เนื่องจากว่าเขาเดินในฝ่ายวิญญาณ เขาสนิทในพระเยซูคริสต์ และทางออกของพระเจ้าก็จะมีมาเรื่อยๆ พระเจ้ามีทางออกให้เราไม่เคยมีคำว่าทางตันสำหรับพระเจ้า ประตูของพระเจ้าไม่เคยปิด ขอให้เราเข้าใจตรงนี้
และถ้าพี่น้องได้ยิน และได้ฟังในวันนี้ก็ขอให้เราพิจารณา ว่าชีวิตของเราตอนนี้มีจุดบกพร่อง มีข้อบกพร่องตรงไหน แล้วรีบแก้ไข เพื่อเราจะไม่ต้องมาถึงจุดที่ต้องเป็นหนี้ใคร และไม่ต้องมาถึงจุดที่ชีวิตต้อง คือมันลำบากมันขัดสนมากเกินกว่าที่มันควรจะเป็น คริสเตียนนะครับไม่มีขอทาน คริสเตียนนะครับไม่มีชีวิตที่ต้องขัดสนเป็นอย่างมากถึงขนาดต้องเป็นหนี้ใคร เราเป็นลูกพระเจ้า เราเป็นบุตรที่รักของพระเจ้า เป็นลูกพระเจ้าองค์ผู้สูงสุด พระเจ้าจะไม่ปล่อยให้เราขัดสนเป็นอันขาด
เพราะฉะนั้นขอให้เราพิจารณา ตรวจดูค้นดูนะครับว่าชีวิตของเราบกพร่องตรงไหน
ฉันทำผิดอะไร ฉันทำอะไรที่ไม่ถูกต้องตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ฉันอยู่ในพระคุณของพระเจ้าในการดูแลของพระเจ้าในการสนิทในพระเจ้าหรือยัง
อีกครั้งนะครับอาจจะมีหนึ่งในร้อยคนที่เหมือนเปาโล ที่ชีวิตต้องขัดสนเป็นระยะๆ แต่เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า และสิ่งที่ท่านได้รับก็คือมงกุฎ และเราเองทุกวันนี้ส่วนมากนะครับคริสเตียนส่วนมากทุกวันนี้ อาจจะไม่มาถึงการขัดสนในลักษณะของเปาโลที่ได้รับ
แต่จะเป็นการขัดสนที่เราไม่สนิทในพระเยซู อาจจะเป็นการตีสอนบ้าง การทดลองทดสอบบ้าง หรือการลงโทษที่พระเจ้าลงโทษเรา ตีสอนเรา คือสำหรับพี่น้องหลายท่านที่มาคุยกับผม ผมรู้นะครับ ผมรู้ว่าใครชีวิตมาถึงไหน ถึงจุดไหน และพอมาถึงบางตอนบางเวลาก็พูดถึงเรื่องหนี้ ชีวิตที่ขัดสน แล้วถามว่าพระเจ้าทำไมไม่รักฉัน พระเจ้าทำไมไม่รักผม พระเจ้าทำไมไม่ดูแลผม คืออันนี้ผมก็ไม่ได้ตอบนะครับ แต่ผมก็บอกว่าจะอธิษฐานเผื่อ แต่จริงๆ แล้วคำตอบก็คือ เราต้องไปพิสูจน์ไปตรวจดูไปค้นดูว่าชีวิตของเรามีจุดบกพร่องตรงไหน
โอเคมาพูดถึงเรื่องคำตอบในโรมบทที่ 13
1. เรื่องเป็นหนี้ผมพูดไปแล้ว
พระเจ้าตั้งเราให้ใช้ชีวิตอยู่เพื่อเอาความรักเป็นหลัก เอาความรักเป็นใหญ่ เอาความรักเป็นที่หนึ่ง อันแรกก็คือ รักพระเจ้า อันที่สองก็คือ รักซึ่งกันและกัน
เพราะฉะนั้นเราไม่ได้อยู่เพื่อเป็นหนี้ใคร แต่เราอยู่เพื่อรัก เอเมน. โรม 13:8 เพราะว่าคนที่รัก คนที่รักคนอื่นก็ทำให้พระบัญญัติของพระเจ้าสำเร็จแล้ว นี่นะครับความรักอันเดียวเท่านั้นทำให้พระบัญญัติทุกข้อสำเร็จ เพราะว่าพระเจ้าเป็นความรัก พระเจ้าเป็นอากาเป ถ้าหากเรามีพระคัมภีร์ภาษากรีกเราไปแปลดูสิครับ โรมบทที่ 13 ข้อที่ 8 รักตรงนี้คืออะไร ก็คืออากาเป
เพราะฉะนั้นขอบคุณพระเจ้า พระเจ้าตั้งเราให้มีชีวิตอยู่เพื่อรักผู้อื่น เมื่อเรารักผู้อื่นได้มากเท่าไหร่ เห็นใจผู้อื่น ช่วยเหลือผู้อื่นได้มากเท่าไหร่ ชีวิตของเราจะไม่มาถึงการเป็นหนี้ใครเป็นอันขาด ถ้าหากเราเป็นคนที่มีใจกว้าง เราช่วยเหลือคนยากจน คนขัดสน เราช่วยพี่น้อง เราแบ่งทรัพย์สินของเราบ้าง เพื่อให้ผู้อื่นได้บรรเทาความทุกข์ หรือช่วยแก้ไขสถานการณ์ แน่นอนครับพระเจ้าจะให้เรามียัด สั่น แน่น พูน ล้น เอเมนขอบคุณพระเยซู เราจะไม่มาถึงการเป็นหนี้นะครับ
ถ้าหากเราอาจจะค่อนข้างไม่ค่อยคิดถึงการช่วยเหลือพี่น้อง ช่วยเหลือคนขัดสน คนยากจน คนขอทาน หญิงหม้าย ก็ไม่แน่นะครับคือความรักจะต้องเป็นหลักเป็นใหญ่เพื่อให้เราไม่มาถึงชีวิตที่ขัดสน เอเมน.
สำหรับข้อที่ 9 อย่าเล่นชู้ อย่าฆ่าคน อย่าลักทรัพย์ คริสเตียนฝ่ายวิญญาณเรา พระเจ้าตั้งให้เราดำเนินชีวิตโดยในรูปแบบของชีวิตและนิสัยของพระเยซู แน่นอนที่สุดครับการเล่นชู้เป็นเรื่องของมนุษย์เนื้อหนังอาดัม การฆ่าคนเป็นเรื่องของมนุษย์เนื้อหนังอาดัมที่ตกต่ำ การลักทรัพย์ก็คือเป็นเรื่องของอาดัมไม่เกี่ยวกับพระคริสต์ ในพระคริสต์ไม่มี 3 เรื่องนี้ 3 ข้อนี้ 3 สิ่งนี้ ไม่มีนะครับ
เพราะฉะนั้นสิ่งที่พระเจ้าเตือนเราผ่านเปาโลในข้อนี้ ก็คือให้เราใช้ชีวิตดำเนินชีวิตในพระคริสต์ เพื่อเราจะไม่มาถึงการเล่นชู้ การฆ่าคน และการลักทรัพย์ เข้าใจนะครับ
รากปัญหาอยู่ที่การใช้ชีวิตในพระคริสต์ แต่ถ้าหากเมื่อไหร่เราอยู่ในอาดัมแน่นอนที่สุด 3 สิ่งนี้อาจจะเกิดขึ้นในหัวของเราในความคิดของเรา พูดง่ายๆ ข้อที่ 9 เปาโลไม่ได้บอกว่าอย่าเล่นชู้ อย่าฆ่า อย่าลักทรัพย์ แต่จริงๆ แล้วท่านอยากจะบอกเราให้ดำเนินชีวิตในพระคริสต์ เพื่อเราจะไม่ต้องทำ 3 สิ่งนี้
ข้อที่ 10 "ความรักไม่ทำอันตรายแก่เพื่อนบ้านของตนเองเลย แต่เหตุฉะนั้นความรักเป็นการทำให้พระบัญญัติสำเร็จแล้ว" ขอบพระคุณพระเจ้าใครที่ดำเนินชีวิตในความรักในแต่ละวัน ในแต่ละชั่วโมง ในแต่ละเวลา เวลาพูดคุยกับใคร ใช้ชีวิตกับใคร อยู่ที่ไหน ไปไหนมาไหน ทำอะไร ขอให้มีหัวใจที่มีความรักเป็นหลักเป็นใหญ่ เราอยู่เหนือพระบัญญัติของพระเจ้าเอเมน
พี่น้องน่าจะจำได้หนังสือยอห์นที่เราเรียนรู้เป็นเรื่องของความรัก แล้วผมก็เคยพูดนะครับ 1 โครินธ์บทที่ 13 ข้อ 1-3 เราจะถวายชีวิตให้เขาเอาไปเผา เราจะถวายทรัพย์สินของเราทั้งหมดให้พระเจ้า ช่วยเหลือคนยากจน เราจะทำดีมากมายประกาศข่าวประเสริฐ รับใช้ สร้างโบสถ์ นำคนมาเชื่อ จะทำอะไรก็แล้วแต่ ถ้าหากคุณไม่มีความรักทุกสิ่งก็ไม่มีค่าอะไร น่าสงสารนะครับทุกวันนี้ผู้เชื่อมากมายทำๆๆๆ เพื่อพระเจ้า ถวายตัวให้พระเจ้า ถวายทรัพย์สินให้พระเจ้า ถวายเวลาให้พระเจ้า รับใช้พระเจ้าตั้งแต่เช้าจนค่ำ ขยันมาก แต่จุดบกพร่องของเขาก็คือ ไม่มีความรัก
คุณลองนึกภาพดูนะครับในอดีตของคุณ คุณเคยเป็นไหม ทำๆๆๆ เพื่อพระเจ้า ขยันมาก แต่ไม่มีความรัก ไม่พอใจคนนู้นไม่พอใจคนนี้ มองคนนี้แล้วมองลบกับเขา หรือคิดไม่ดีกับเขา อิจฉาบ้างนิดๆ นึง เกลียดคนนี้บ้าง ไม่ชอบคนนี้บ้าง แอบมองแง่ลบของเขาบ้าง เราเคยเป็นใช่ไหม และปัญหาที่ใหญ่มากสำหรับคริสเตียนศาสนาที่เมื่อก่อนเราก็เคยเป็น ก็คือการที่ไม่เคยบอกรักพระเยซูเลย ไม่เคยเลย คิดว่าเป็นประเพณี เป็นวัฒนธรรมของฝรั่งของชาวต่างชาติเขา
คนไทยคนลาวคนเอเชียไม่ค่อยใส่ใจแต่เน้นที่เรื่องการกระทำมากกว่า ทำงานทั้งวัน ทำงานพอสิ้นเดือนได้รับเงิน ก็เอามาให้ภรรยา ก็ถือว่าเป็นความรักแล้ว หรือทำให้เขาคือใช้ชีวิตที่สบายไม่ต้องลำบากแบ่งเบาภาระ แต่ไม่เคยบอกรักเลยไม่เคยสนิทไม่เคยแสดงความรัก มันไม่ใช่ความรักนะครับอันนั้นไม่ใช่ความรัก มันคือการกระทำให้เขาพอใจ การกระทำเพื่อให้เกิดสิ่งดี แต่ไม่ได้เรียกว่าความรัก
ความรักก็คือ I love you ผมรักคุณ คุณรักฉัน ฉันรักคุณ ลูกรักพ่อ พ่อรักแม่ รักนะ คำว่าความรักมันคืออะไรบางอย่างที่ออกมาจากตัวเรา ที่มันเกิดปฏิกิริยาบางอย่างที่ทำให้เขา คนที่อยู่ต่อหน้าเราได้เห็นผลของความรัก ไม่ใช่เห็นผลของการกระทำที่ไม่ได้เกี่ยวกับความรัก ขอให้เราเข้าใจตรงนี้
แล้วผมก็เคยแสดงละครอาจจะเป็นภาษาลาวบ้างคนลาวก็ทำ คนไทยก็ทำ คือเรื่องครอบครัวสามีภรรยาที่เลิกงาน กลับบ้านก็อาบน้ำมานั่งทานข้าวไม่พูดไม่คุยไม่บอกรัก คือพูดแต่เรื่องปัญหา เหนื่อยทำงาน ไปอาบน้ำก่อนนะ ไปนอนก่อนนะ คือเป็นแบบนี้นะครับทั้งวันทั้งเดือนทั้งปี อันนี้เรียกว่าความรักไหม? ไม่นะครับ
เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับชีวิตคริสเตียน การใช้ชีวิตอยู่ต้องมีความรักเป็นหลัก เอาความรักเป็นใหญ่ เอเมนขอบคุณพระเยซูที่สอนเรา ที่ให้เราได้เข้าใจว่าคริสเตียนไม่ใช่ศาสนาคริสต์ที่เอาแต่ทำๆๆ แต่คริสเตียนเป็นเรื่องของความผูกพันระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า และวันนี้เราได้เข้าใจแล้วรับการเปิดตาแล้ว และเราจะอยู่เพื่อรักพระองค์และรักซึ่งกันและกัน เอเมน พอจะเป็นคำตอบของพี่น้องได้ไหมครับ
ถาม.
เอเมนค่ะได้คะ ขอถามต่ออีกนิดนึงนะคะ ข้อพระคัมภีร์ข้อนี้ใช้ได้กับพี่น้องหลายท่านไหม แล้วพี่น้องบางท่านที่ไม่ชอบทำงานแต่ชอบยืม แล้วก็เวลายืมก็จะพูดในสิ่งที่ไม่ใช่ความจริง ในข้อ 9 บอกว่าเป็นพยานเท็จอะคะ มันใช้ได้กับพี่น้องมานาที่กำลังอยู่ในกลุ่มพวกเราไหมคะ ฝึกเดินกับเราอยู่ไหมคะ เพราะว่าที่เทียวไปยืมเงินคนอื่น แล้วก็โกหกในสิ่งที่ไม่ใช่ความจริงในชีวิตประจำวันของตัวเอง อันนี้ที่ถามเพื่อความเข้าใจของตัวเองเพื่อตัวเองได้หลุดพ้นในตรงนี้ เพราะว่าดิฉันค่อนข้างสะดุดพี่น้องบางท่านที่เทียวยืมเงินพี่น้องในกลุ่มอย่างเนี่ยคะ ดิฉันก็เลยอยากถามให้เป็นข้อชัดเจนคะ อยากถาม อจ.ว่าที่พี่น้องเทียวยืมเงินคนอื่นข้อนี้ใช้ได้ไหม แล้วก็พี่น้องมาเป็นพยานเท็จกับเรา เขาเรียกพยานเท็จเพราะว่าพูดไม่ใช่ความจริงในชีวิตประจำวัน อย่างนี้เราควรจะทำยังไงคะ เราควรจะหลีกเลี่ยงเขา หรือเราควรจะยังรักเขา หรือยังจะคบเขาต่อหรือยังไงคะ เอเมนคะ
ตอบ.
ถ้าหากมีพี่น้องคนหนึ่งนะครับพี่น้องคนใดคนหนึ่งที่ขัดสน แล้วก็มาขอยืมเรา หรือยืมหลายคน สิ่งแรกนะครับเราต้องเห็นใจ เห็นใจเขาและเข้าใจเขา ว่าเขาขัดสนจริงๆ หรืออาจจะพูดนี่นู่นนั่นบ้าง ที่อาจจะโกหกบ้างหรืออะไร อันนั้นเป็นเรื่องส่วนตัวของเขานะครับ
แต่การที่คนใดคนหนึ่งจะไปยืมใครก็น่าจะเป็นเรื่องของความขัดสนที่เขาต้องมีความต้องการจริงๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนะครับเราต้องเข้าใจว่าเขายังอยู่ในความเชื่อขนาดของความเชื่อของเขายังอยู่ในระดับเด็ก และแน่นอนครับเป็นสิ่งที่ไม่สมควรที่เราจะเทียวไปยืมคนนู้นคนนี้ไปยืมใครต่อใคร
เอาแบบนี้ดีกว่าสำหรับชีวิตคริสเตียนตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ถ้าหากเรามีชีวิตที่ขัดสน เรามีความจำเป็นจริงๆ และเราไม่มีเงินนะครับ และต้องใช้จำเป็นต้องใช้ เราเสนอต่อพี่น้องในกลุ่ม เราเสนอต่อทีมประสาน บอกว่าฝากพี่น้องอธิษฐานเผื่อด้วยตอนนี้มีปัญหาตรงนี้ ตรงนี้ แค่นี้นะครับ และไม่ไปขอยืมใคร หรือถ้ามีใครที่เราสนิท เราสนิทกับใครเราก็ไปบอกกับเขาว่าตอนนี้จำเป็นมีปัญหาช่วยอธิษฐานเผื่อด้วย เพื่อพระเจ้าจะส่งการช่วยเหลือมา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งไม่จากใครก็จากคนใดคนหนึ่ง ก็แค่นั้นนะครับ
และพระเจ้าจะมีทางออกให้เรา เอเมนไหมครับ แต่ถ้าหากเราจะเทียวไปยืมใคร อันนี้คือเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม และจะทำให้พี่น้องหลายคนสะดุด และไม่ว่าจะเป็นกลุ่มมานา หรือกลุ่มไหน คริสตจักรไหนก็ตามนะครับก็ไม่ควรทำโดยเฉพาะนะครับ และสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่หลายคนที่เพิ่งเข้ามาและเข้าใจผิดและสะดุดว่า อ้าวทำไมมีแบบนี้ด้วยเหรอ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขอให้เราเข้าใจ ทุกคนเข้าใจนะครับเข้าใจกันว่าเขามีความขัดสนจำเป็น เราเห็นใจเราเข้าใจเขาและเรารักเขา เราก็ไม่ปฏิเสธนะครับเราไม่หนีจากเขา เราก็บอกว่าคือตอนนี้ทรัพย์สินของเรามันก็ไม่มากพอ แล้วก็อยู่ในเศรษฐกิจในลักษณะแบบนี้ ก็คือเราก็ขัดสนอยู่เหมือนกัน เราจะอธิษฐานเผื่อ หรือถ้าใครพระวิญญาณบริสุทธิ์กระตุ้นหรือทำให้เราปลุกเราดลใจเราให้เห็นใจเขา ช่วยเหลือเขาโดยที่ไม่ต้องให้เขายืม ก็คือให้เขาไปเลย เท่าไหร่ที่เราสะดวกก็ให้ได้ แต่ถ้าหากพระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่กระตุ้นเราไม่ทำอะไรเลยเราไม่ได้สัมผัสอะไรเลย เราก็รอดูไปก่อน แต่อธิษฐานเผื่อเขานะครับเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อพระเจ้าจะให้ทางออกกับเขา เอเมน
แต่สิ่งที่ต้องแก้ไขนะครับ สิ่งที่จะต้องแก้ไขคืออย่างที่ผมพูด ชีวิตคริสเตียนถ้าเรามาถึงมนุษย์วิญญาณ เป็นบุตรพระเจ้า เป็นบุตรที่รักของพระเจ้าแล้ว พระเจ้าจะไม่ปล่อยให้เราขัดสน เราจำกันได้ไหม ยัด สั่น แน่น พูน ล้น เราจำคำนี้นะครับ คือถ้าหากเราเป็นคนที่ใจกว้างพอ เราให้ ให้ ให้ ให้คริสตจักร ให้พี่น้องที่ขัดสน ให้คนยากจน ให้หญิงหม้าย ถ้าเราทำสิ่งนี้ แน่นอนครับพระเจ้าจะให้เรามีพอใช้ หรือมีมากเท่าไหร่ อันนั้นก็แล้วแต่พระเจ้านะครับ เอเมน
คือสำหรับบางคนที่ผมรู้ดี ผมรู้จักเขาดีนะครับรู้ดีมากๆ เลย เขาอาจจะไม่มีงานทำ เขาอาจจะไม่มีรายได้ แต่ขอบพระคุณพระเจ้านะที่พระองค์เลี้ยงดูเขา ชีวิตอยู่บนการอัศจรรย์ของพระเจ้าทุกวัน เนี่ยเป็นผลที่ได้มาจากที่อยู่ในพระคริสต์ ชีวิตอยู่ในพระคริสต์สนิทบอกรัก พูดคุยสนทนา สร้างความผูกพันที่ดีกับพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ แล้วชีวิตของเราจะไม่จนตกอับ ไม่ถึงขั้นไม่จนขนาดที่ต้องไปเป็นหนี้ใคร ไปยืมใคร เพราะว่ามาตรฐานของพระเจ้าตั้งไว้สำหรับคริสเตียนฝ่ายวิญญาณ อยู่ในโรมบทที่ 13 ข้อที่ 8 อย่าเป็นหนี้ใคร อย่าเป็นหนี้สิ่งใดๆ แก่มนุษย์
เพราะว่าอะไร เพราะว่าคนที่เป็นหนี้ แน่นอนที่สุดครับเมื่อเป็นหนี้ ตอนที่ไม่เป็นหนี้ก็เป็นเพื่อนกัน เป็นลูกหลาน เป็นพี่น้องธรรมดาๆ ทั่วไป แต่พอเป็นหนี้ใครปุ๊บ เราจะตกฐานะกลายเป็นทาสใช่มั้ย แล้วคนที่ให้เรายืมก็คือเป็นนายเรา มันจะเป็นลักษณะอาการแบบนี้ คุณจะเป็นหนี้บุญคุณเขา แล้วคุณก็จะต้องแบบคือเป็นคนที่อยู่ใต้เขา เขาต้องมาท้วงมาทวง ต้องใช้คำพูดที่เป็นลักษณะแบบคือเป็นนาย เราก็ต้องเป็นทาสเขา
คืออย่าเป็นหนี้ใครนะครับ เรามีอิสระเสรี เรามีชีวิตที่เป็นไท เราใช้ชีวิตที่เป็นบุตรพระเจ้ามีสง่าราศี เพราะฉะนั้นถ้าหลีกได้ก็หลีกนะครับ และสิ่งที่เราเห็นใจเข้าใจก็คือ คริสเตียนบางคนยังเป็นเด็กอยู่ อันนี้เราต้องเข้าใจเขา เขาเพิ่งรับมานา เพิ่งรับการเปิดตาใหม่ๆ และยังใช้ชีวิตอยู่ในเนื้อหนัง เขาอาจจะมีการโกหกบ้าง คำพูดที่ไม่เหมาะสมบ้าง หรืออยู่ในการบาปบ้าง และไปขอยืมเงินคนบ้าง อันนี้เราต้องเข้าใจเขาและอธิษฐานเผื่อเขา และใครที่ช่วยเขาได้ก็ช่วยเขาไป และตามขนาดของความเชื่อของเราไม่หนักไม่เหนือกว่าแรงของเรา เอเมน
ถาม.
การเป็นหนี้รวมถึงการกู้ซื้อบ้าน คอนโด ฯลฯ อะไรด้วยมั้ยครับ
ตอบ.
อย่างที่ผมพูดนะครับ มาตรฐานของพระเจ้า พระเจ้าไม่ต้องการให้เราเป็นหนี้ใคร ถ้าหากซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ซื้อรถ ซื้อผ่อนอะไรก็แล้วแต่เรียกว่าเป็นหนี้ทั้งนั้น เป็นหนี้ทั้งนั้นนะครับ ซึ่งจะมีปัญหาตามมาก็คือเราจะต้องกระเสือกกระสนใช่ไหม เราก็ต้องดิ้นรนไปทำมาหาเลี้ยงชีพ ต้องทำงานเพิ่ม ต้องทำอะไรก็แล้วแต่นะครับ การใช้เงินก็ต้องคือต้องคิดพิจารณาใหม่ ไม่ใช้แบบเหมือนเดิม เมื่อก่อนที่เราไม่เป็นหนี้ใครเราใช้เงินก็สบายใช่ไหมครับ แต่พอมาเป็นหนี้ปุ๊บ เราก็ต้องคิดแหละ คิดหนักว่าต้องเก็บเงินไว้ตรงนี้ ต้องใช้ตรงนี้ ตรงนี้ๆ คือมันจะเป็นภาระที่หนักขึ้น และอีกอย่างมันจะเกิดความไม่สบายใจ ความกังวล ความกระวนกระวายเกิดขึ้น
เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่ถ้าเราหลีกได้นะครับก็หลีก แต่ถ้าเราหลีกไม่ได้ คือซื้อไปแล้วเมื่อซื้อไปแล้วเราก็ขอพระเจ้าช่วยเรา เมตตาเราสิ่งที่เราทำไปแล้ว ในพระคัมภีร์บอกว่าถ้าเราทำอะไรไปแล้วก็ทำไม่เป็นไรไม่ถือไม่นับ แต่การทำสิ่งใหม่ๆ หลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยงนะครับ แต่สิ่งที่เราทำไปแล้วพระเจ้าก็จะมีทางออกทางแก้ไขให้เรา เอเมน
สำหรับเมืองไทยนะครับเอเชียเมืองไทยเมืองลาวหลายๆ ประเทศ ซื้อบ้านซื้อรถผมเห็นว่าโดยปกติก็มีคนที่ซื้อไม่ต้องผ่อนก็จ่ายไปเลยก็มี แต่บางคนมีความจำเป็นเงินไม่พอก็ต้องเป็นหนี้ ก็ต้องจ่ายผ่อน ไม่ว่าจะเป็นรถเป็นบ้าน แล้วทีนี้คริสเตียนมากมายก็ทำ
แต่ผมอยากจะบอกพวกเรานะครับ คริสเตียนที่อเมริกาคือเขาเป็นหนี้กันหมดแหละ คือซื้อบ้าน เขาอาจจะมีเงินบ้าง บางคนมีเงินแต่ไม่ยอมจ่ายทั้งหมด คือจ่ายผ่อนเพื่อผลประโยชน์นะครับก็คือเครดิต คือเขาจะมีเครดิตมากขึ้น มากขึ้น เป็นการบิวท์เครดิต แล้วก็เงินที่ยังมีอยู่ในบัญชี คือไปใช้ในด้านอื่นในทางอื่น ผมก็เห็นเยอะ และทุกคนนะครับเกือบทุกคนที่ซื้อจ่ายผ่อนเป็นหนี้และพระเจ้าเข้าใจ พระเจ้าเข้าใจ พระเจ้าก็จะให้ทางออกกับเรา พระเจ้าไม่ได้หมายความว่าเป็นหนี้แล้วนะ ไม่เชื่อฟังเรา ไม่อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์พระบัญญัติใหม่ของเรา เราจะไม่รัก ไม่ช่วยเหลือ ก็ไม่ใช่นะครับ
เมื่อเราทำอะไรไปแล้ว และทำในส่วนที่คนส่วนใหญ่เขาทำกันอยู่นะครับ คริสเตียนก็ตกอยู่ในสภาพแบบนี้ พระเจ้าก็เข้าใจเรา แต่อย่าลืมนะครับว่าเมื่อเรานึกถึงพระเจ้า อย่านึกถึงว่าพระเจ้าเคร่งครัด พระเจ้าเป็นพระเจ้าที่นั่งประทับที่พระบัลลังก์แห่งพระบัญญัติ ตอนนี้พระเจ้าประทับที่พระบัลลังก์แห่งพระคุณแล้ว คำว่าพระคุณก็คือความรัก ความเมตตา ความเข้าใจเห็นใจ
เพราะฉะนั้นเมื่อเราเป็นหนี้ใคร เราทำอะไรผิด เรายังใช้ชีวิตที่ผิดบาปอยู่ ยังอยู่ในเนื้อหนัง พระเจ้าเข้าใจเห็นใจและรักเรา หาทางออกให้เราช่วยเหลือเรา และสำหรับคนที่สนิทในพระเยซูมากๆๆๆ มากขึ้นๆๆๆ สุดท้ายพระเจ้าก็ให้เราหลีกเลี่ยง หลีกหนีจากการเป็นหนี้ เข้าใจนะครับ เพราะว่าสังคมทุกวันนี้ สภาพทุกวันนี้ โลกทุกวันนี้มันเป็นไปแบบนี้ ทุกคนจ่ายผ่อนกันหมดเป็นหนี้หมด แล้วเราจะเป็นคนเดียวที่เป็นหนี้ไม่ได้มันเป็นชีวิตที่เหนือธรรมชาติที่ต้องอาศัยการอัศจรรย์ของพระเจ้า ที่อยู่บนการสนิทในพระเยซูคริสต์ เป็นชีวิตที่อยู่ภายใต้การดูแล การครอบครอง การช่วยเหลือของพระเยซูตลอดเวลา ถ้าหากคุณมาถึงชีวิตผู้ชนะ แน่นอนครับคุณจะหลุดพ้นจากการเป็นหนี้ หลุดพ้นจากโลก ระบบของโลก เอเมน
และถ้าใครที่ยังเป็นอยู่ ยังจ่ายผ่อนอยู่ ยังเป็นหนี้อยู่ ก็ไม่ต้องน้อยใจ พระเจ้ารักเราเข้าใจเรา เห็นใจเรา เพราะว่าพระองค์ประทับที่พระที่นั่งแห่งพระคุณแล้ว พระองค์จะหาทางออกพระองค์จะช่วยแก้ไขให้เราแน่นอนไม่ทิ้งเราไปไหน เอเมน
ถาม.
ระหว่างเป็นหนี้แบบเราไม่ค่อยทำงานแล้วเราชอบไปยืม
กับเราเป็นหนี้จากธนาคารหรือสิ่งที่เราจำเป็นที่จะต้องซื้อแบบใช้ในชีวิตประจำวัน แต่เราขอพระเจ้าเปิดทางพระเจ้าก็นำ แล้วทำไมเรียกว่าพระเจ้านำ เพราะว่าเวลาเราเดินเรื่องอะไรมันง่าย อย่างที่ อจ. ว่าทุกคนที่จะซื้อบ้านซื้อรถพร้อมทั้งการเล่าเรียนของลูกเราไม่มีเงินสดอยู่แล้วที่จะให้เขาเรียนสูงๆ เราต้องอาศัยกองทุนใหญ่จากธนาคาร เพื่อหยิบยืมหรือกู้ยืมมา แล้วยืมมาแล้ว เราก็ใช้ตามกำหนด อย่างนี้เขาเรียกว่าผิดกฎไหมคะ หรือว่ามันไม่ได้คะ
มันแตกต่างกันไหมคะ กับเราไปยืมคนอื่นที่เราขี้เกียจทำงาน เราไม่ชอบทำงาน กับเราทำงานเพื่อเราจะได้สิ่งนั้นมา เอเมนคะ
ตอบ.
คือสำหรับพระเจ้า สำหรับมาตรฐานของพระเจ้าก็คือผิดทั้งสอง คนแรกก็ผิด คนที่สองก็ผิด ถ้าจะพูดเรื่องผิดนะครับ ก็ผิดทั้งสอง เพราะว่าพระบัญญัติใหม่ของพระเจ้าคือไม่ให้เป็นหนี้ใคร ไม่มีการจ่ายผ่อน ไม่ต้องมีภาระมีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับเงินทอง แต่ขอให้เราเข้าใจนะครับ แต่สำหรับพระเจ้าเมื่อทั้งสองผิด
** 1. คนแรก ก็ผิดมากกว่า เนื่องจากว่าไม่ทำงาน แต่เทียวไปยืมคนอื่นเพื่อการใช้จ่าย พระเจ้าไม่ได้สอนเรานะครับว่าให้เป็นคนที่ขี้เกียจ เกียจคร้าน และมาตรฐานของพระเจ้านะครับคือให้เราเป็นคนที่ขยันกระตือรือร้นร้อนรน ไม่ต้องให้ใครเป็นภาระเรา เราไม่ต้องเป็นภาระใคร
แต่สำหรับการช่วยเหลือของคริสเตียน ก็คือช่วยคนที่ขัดสนยากจนจริงๆ มีปัญหาจริงๆ เขาขยันเขาทำงานแต่ปรากฏว่าเขาเจอปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อันนั้นเราช่วยเขา
แต่ใครที่ไม่ทำงาน คือในลักษณะคนแรก ก็ไม่เหมาะสม ไม่สมควร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพระเจ้าก็รักเขา เราอธิษฐานเผื่อเขา ขอพระเจ้าให้เขาเจอทางออกที่ตามน้ำพระทัยของพระองค์
** 2. และสำหรับคนที่สอง ก็คือไปยืมธนาคารเพื่อทำอะไรบางอย่าง อาจจะซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือทำธุรกิจ สำหรับน้ำพระทัยของพระเจ้าอย่างที่ผมพูดนะครับ มาตรฐานของพระเจ้า คือพระเจ้าไม่มีน้ำพระทัยไม่มีพระประสงค์ที่จะให้เราทำแบบนี้ แต่เมื่อเราทำไปแล้ว ขอให้เข้าใจนะครับว่า เรามีลูกนะครับ มีลูก แล้วก็เรารักลูกเรา เราสอนลูกเราสั่งสอนบอกว่าอย่าไปเป็นหนี้ อย่าไปทำไม่ดี อย่าไปขโมย อย่าไปตีใคร อย่าไปมีเรื่องทะเลาะกับใคร แต่ปรากฏว่าวันหนึ่งเขาไปทำ แล้วเรายังรักเขาอยู่ไหม? เราที่เป็นพ่อแม่ แล้วบางคนนะครับลูกที่ติดคุก ติดคุกอยู่มีเรื่องกับชาวบ้านจนไปติดคุก แล้วเรายังรักเขาอยู่ไหม เรายังไปเยี่ยมเขาอยู่ไหม
แล้วเราเป็นบุตรพระเจ้าหรือไม่ เราเป็นลูกพระเจ้าใช่ไหมครับ แน่นอนครับเมื่อเราทำผิด เมื่อเราไม่ได้อยู่ภายใต้พระบัญญัติใหม่ของพระเยซู แล้วเรายังมาถึงจุดที่ระดับไม่มาถึงระดับหนุ่มหรือพ่อ เรายังอยู่ในระดับเด็กและทำบาปอยู่ และเรายังไปทำสิ่งที่ระบบโลกนี้เขาทำกันอยู่ เราก็ต้องทำกับเขา แล้วพระเจ้ายังรักเราอยู่ไหม (รักครับ) พระเจ้ายังช่วยเหลืออยู่ไหม (ช่วยเหลือครับ) พระเจ้ายังหาทางออกนะครับ
และสิ่งที่สำคัญ สิ่งที่สำคัญขอให้เราสนิทในพระเยซู และสิ่งที่พระเจ้าต้องการทำมากกว่าอะไรทุกวันนี้ พระเจ้าต้องการทำมากกว่าสิ่งใดในชีวิตของเรา ก็คือไม่ได้ช่วยเหลือเราให้มีชีวิตที่ดี ไม่ได้ช่วยเหลือเราให้ไม่ขัดสน ไม่ได้ช่วยเราให้ทำธุรกิจที่เหมาะสมหรืออะไรก็แล้วแต่ พระเจ้าไม่ได้ใส่ใจในส่วนนี้ แต่ทุกวันนี้พระเจ้าต้องการก่อเราขึ้นให้ถึงชีวิตและนิสัยของพระเยซูเท่านั้น เข้าใจนะครับ
ส่วนเรื่องอื่นเรื่องการทำธุรกิจ เรื่องการเป็นหนี้ เรื่องอะไรก็แล้วแต่เป็นเรื่องรองที่พระเจ้าจะทำ แน่นอนครับพระเจ้าต้องทำ แต่งานหลักของพระเจ้าก็คือทำให้เรามีชีวิตและนิสัยเหมือนพระเยซู เป็นผู้ชนะพูดง่ายๆ พระเจ้าต้องการก่อเราขึ้นให้เป็นผู้ชนะ ให้สำแดงชีวิตและนิสัยของพระเยซูต่อโลก นี่คืองานหลักของพระเจ้า
การเป็นหนี้เรื่องการทำอะไรก็แล้วแต่ทุกวันนี้ที่เราถามกันไปถามกันมา ก็คือเป็นงานรองที่พระเจ้าจะทำให้เรา ทำแน่นอนครับพระเจ้าจะช่วยให้ทางออกกับเรา แต่ว่าสิ่งแรกที่พระเจ้าต้องการและเราควรตระหนัก เราควรคิดถึงมากกว่าเรื่องสิ่งอื่นใด ไม่ต้องห่วงนะครับเรื่องเป็นหนี้ ไม่ต้องห่วงนะครับเรื่องค่าใช้จ่าย ไม่ต้องห่วงนะครับว่าจะทำอะไร ธุรกิจอะไร งานอะไร ไปทำแบบไหน ทำอยู่ที่ไหน เปิดร้านอะไร ขายอะไรดี ไม่ต้องห่วงครับ สิ่งแรกที่เราต้องการทำคือสนิทในพระเยซูและบอกรักพระเยซูและสร้างความผูกพันที่ดีกับพระเยซู และแสวงหาอาณาจักรของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระเจ้าจะประทานสิ่งทั้งปวงให้แก่ท่านทั้งหลาย
มัทธิวบทที่ 6:33 พูดชัดเจนนะครับว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่ไม่ต้องกระวนกระวาย ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องไปใส่ใจ พระเจ้าจะเป็นคนเทคแคร์เราเอง เพียงแต่เราแสวงหาความชอบธรรมของพระเจ้าและอาณาจักรของพระเจ้า สองสิ่งนี้ สองสิ่งนี้อยู่ที่ไหนครับ อยู่ในการสนิทกับพระเยซู อยู่ในการบอกรักพระเยซู อยู่ในการสร้างความผูกพันที่ดีกับพระเยซู แล้วพระเจ้าจะเป็นคนเปิดเผยอาณาจักรของพระเจ้า และเปิดเผยความชอบธรรมของพระองค์ การสำแดงชีวิตและนิสัยของพระเยซูก็จะมีมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้นในเรา จากนั้นชีวิตของเราก็จะเบาสบาย กางเขนก็จะเบาสบายไม่มีภาระไม่มีปัญหา
นี่คือทางออกทางแก้ของพระเจ้าสำหรับคริสเตียน ไม่ใช่ว่าพระเจ้าจะตามไปแก้ไขตรงนี้ ตามไปช่วยตรงนี้ ไปแก้ไขจุดนี้ ไปเปิดประเด็นจุดนี้ ไปทำอะไรจุดนี้ จุดนี้ พระเจ้าจะไม่วิ่งไปตามเพื่อไปช่วยเราตรงนี้ ตรงนี้ แต่พระเจ้าจะช่วยเราให้ก่อชีวิตของเราขึ้นสู่ชีวิตและนิสัยของพระเยซู จากนั้นการเป็นอยู่ชีวิต การฝ่ายร่างกาย เสื้อผ้า ทรัพย์สิน เงินทอง การใช้จ่ายทุกสิ่ง พระเจ้าจะเป็นคนเลี้ยงดู ดูแลเรา พระเยซูเป็นผู้เลี้ยงที่ดี จำได้ไหมครับ เอเมน
สำหรับผมนะครับเห็นว่าคริสเตียนโดยเฉพาะนะครับคริสเตียนศาสนา ศาสนาคริสต์ กังวลกันมากเรื่องการเป็นอยู่ เรื่องชีวิต เรื่องฝ่ายร่างกาย เรื่องเงินทองทรัพย์สิน เรื่องการทำมาหากิน ทำมาค้าขาย กังวลมาก เขาไม่ได้ใส่ใจมัทธิวบทที่ 6 ข้อที่ 33 และมาถึงการเปิดตา เราพี่น้องที่ได้รับการเปิดตาก็จะมีความกังวล แต่ขอบคุณพระเจ้านะครับก็ดีขึ้น น้อยกว่าสมัยก่อน เพราะว่าเราได้เข้าใจมัทธิวบทที่ 6 ข้อที่ 33 แล้ว อย่ากระวนกระวายเลย อย่ากระวนกระวายเลย อย่ากระวนกระวายเลย พระเยซูตรัสถึง 3 ครั้ง แล้วจากนั้นพระองค์ตรัสว่า จงแสวงหาอาณาจักรของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อน ใครที่มีปัญหาเรื่องการดำเนินชีวิต การใช้ชีวิตฝ่ายร่างกายที่ขัดสน เข้ามาใกล้พระเจ้า สนิทในพระเยซู แสวงหาอาณาจักรของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์สิครับ ชีวิตของคุณจะดีขึ้น เอเมน
ถาม.
คือเราไปซื้อประกันชีวิต ตอนนั้นยังไม่ได้เชื่อพระเจ้า เราซื้อมาแล้ว เราก็ยังจ่ายมาจนถึงวันนี้ แต่ไม่ผิดใช่ไหมอาจารย์เราทำมาแต่ก่อนแล้วอ่ะค่ะ
ตอบ.
สำหรับมาตรฐานของพระเจ้า อีกครั้งนะครับผมขอย้ำ สำหรับมาตรฐานของพระเจ้าก็คือ พระเจ้าเป็นพระเจ้าของเราเอเมน พระเจ้าเป็นผู้ดูแลเราเอเมน
พระเจ้าประทานทูตสวรรค์ให้เราอยู่เพื่อปกป้องเรา ปกปักรักษาดูแลคุ้มครองช่วยเหลือเรา ซึ่งอุบัติเหตุสิ่งร้ายๆ ทั้งหลายที่จะเกิดขึ้น ต้องผ่านมือของพระเจ้าก่อน เข้าใจนะครับต้องผ่านพระหัตถ์ของพระเจ้า ถ้าพระเจ้าไม่รู้เห็นไม่เป็นใจไม่อนุญาต มันก็จะมาไม่ถึงเรา
เพราะฉะนั้นนะครับเรื่องการซื้อประกัน ประกันภัย ไม่ว่าจะประกันอะไรก็แล้วแต่ อันนี้ผมขอพูดตามมาตรฐานของพระเจ้านะครับ ไม่ใช่ตามผมเองนะครับ คือพระเจ้าไม่อนุญาต และไม่สมควรที่คริสเตียนจะซื้อประกันภัย ซื้อประกันทั้งหลาย เพราะว่าเรามีพระเจ้า เรามีทูตสวรรค์ พระองค์เป็นผู้ดูแล เป็นผู้เลี้ยงดู เป็นผู้ปกป้องปกปักรักษาช่วยเหลือคุ้มครองครอบครองเราตลอดเวลาอยู่แล้ว
และอะไรที่จะเกิดขึ้นมันก็เกิด อะไรที่ไม่เกิดก็ไม่เกิด อยู่ภายใต้การอนุญาตหรือไม่อนุญาตของพระเจ้าครับผม
สำหรับเรื่องการดูแลของพระเจ้า สำหรับผม ผมขอเป็นพยานเลยนะครับ คือขอบพระคุณพระเจ้าที่ชีวิตของผมอยู่ภายใต้การปกป้องปกปักรักษาของพระเจ้าอย่างดี อย่างดีที่สุดจนอย่างเห็นได้ อยู่บนการอัศจรรย์ของพระเจ้าจริงๆ คือเกือบ ทุกครั้งก็เกือบ เกือบอุบัติเหตุต่างๆ ที่จะเกิด มันก็ไม่เกิด เกือบนะครับ ก็รู้ทันทีว่ามาจากพระเจ้า พระเจ้าเป็นผู้ผลักดันเป็นผู้ผลักออกเป็นผู้ทำให้ไม่เกิด และสิ่งร้ายๆ ทั้งหลายที่เหมือนจะเกิด ก็ไม่เกิด และสิ่งที่เข้ามาที่ทำให้ผมกังวลนะครับ ผมก็วางใจในพระเยซู ก็ขอบคุณพระเจ้ามันก็ผ่านไปด้วยดี
อาทิตย์ที่แล้วผมขอให้พี่น้องช่วยเรื่องอธิษฐาน เรื่องมีบางคนที่ถูกหลอกให้ไปทำงานในกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถามว่ากังวลไหม ก็มีนิดนึงนะครับเล็กๆ น้อยๆ แค่นั้นเอง แต่สันติสุขเต็มล้น เมื่อผมคิดถึงคนคนนั้นเมื่อไหร่ สันติสุขก็สวมทับครอบครองจิตใจก็สบายใจก็มีความสุข แล้วก็บอกว่าเอเมนพระเยซูพระองค์จะช่วย พระองค์จะช่วยแน่นอน แล้วก็ขอบคุณพระเจ้านะครับ 3-4 วันต่อมาที่พี่น้องอธิษฐานเผื่อพระเจ้าก็ตอบคำอธิษฐาน คนคนนั้นก็ได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระแล้วก็กลับบ้าน
แต่ก็อาจจะต้องจ่ายราคานิดนึงนะครับ ซึ่งเพราะว่าเขาเป็นคริสเตียน แล้วเขาก็ไม่ยอมเชื่อฟังพระเจ้า แล้วเขาก็คือประมาท คือไม่ยอมฟังคำเตือนจากผมจากใคร สุดท้ายก็ไปโดน แล้วก็ขอบคุณพระเจ้าที่พระเจ้าก็ยังเมตตาก็ยังช่วยเนื่องด้วยคำอธิษฐานของพวกเรา และเนื่องด้วยเขาเป็นบุตรของพระเจ้า พระเจ้าไม่ทิ้งใคร พระเจ้ารัก
เพราะฉะนั้นอะไรจะเกิดขึ้นกับเรา ประกันเนี่ยไม่ได้ช่วยอะไร แต่ช่วยด้านฝ่ายเนื้อหนัง ช่วยด้านฝ่ายเนื้อหนังบ้าง แต่พระเจ้าไม่ได้รับรู้ พระเจ้าไม่เกี่ยว พระเจ้าไม่อนุญาต เพราะว่ามาตรฐานของพระเจ้าก็คือไม่ให้เป็นหนี้ใครหรือไม่มีประกัน เพราะว่าพระเจ้าเป็นผู้ดูแล ผู้ปกป้อง คุ้มครอง ผู้เลี้ยงดูเราอยู่แล้วครับผม
แต่อันนี้ผมก็ต้องเข้าใจและเราพี่น้องคริสเตียนก็ต้องเข้าใจนะครับว่าหลายคนยังซื้อประกัน เนื่องจากว่าคือระบบของโลกมันเป็นแบบนี้ใช่ไหม 1. ระบบของโลก 2. ก็คือความเชื่อของเรายังมาไม่ถึง ยังกังวลเรื่องการช่วยเหลือของพระเจ้า พระเจ้าจะช่วยฉันจริงหรอ ฉันวางใจในพระเจ้า พระเจ้าจะปกป้องฉันจริงหรอ ถ้าอุบัติเหตุเกิดขึ้นเนี่ยใครจะมาช่วยเรา เราคิดแบบนี้นะครับก็คือการไม่วางใจในพระเยซู การไม่วางใจในพระเจ้าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับพระเจ้า เราเป็นบุตรพระเจ้าเราต้องวางใจในพระเจ้าครับผม
...
ถาม.
เอเมนค่ะ ก็คือตอนที่ซื้อประกันชีวิต ก็คือยังไม่ได้เชื่อพระเจ้าค่ะ เมื่อถึงตอนนี้แล้วเราจะทำยังไง เราจะหยุดไปหรือว่ามอบให้พระเจ้าค่ะ
ตอบ.
เมื่อมาถึงจุดนี้นะครับ และเราตระหนักถึงเรื่องนี้ เราอธิษฐานครับ อธิษฐาน
"พระเยซูถึงเวลาหรือยัง พระเยซูความรู้ของข้าพระองค์มาถึงจุดนี้แล้ว พระองค์เปิดเผยแล้ว พระองค์เป็นคนกระทำและพระองค์ให้ข้าพระองค์หยุด เอเมน"
แล้วก็รอนะครับรอ พระเจ้าจะดลใจเรา พระเจ้าจะให้อะไรเกิดขึ้นบางอย่างเพื่อทำให้เราหยุดหรือไม่หยุดนะครับ แต่น้ำพระทัยของพระเจ้ามาตรฐานของพระเจ้า ก็คือไม่ซื้อครับผม
สิ่งที่ผมอยากเน้นกับเรานะครับขอย้ำ เรื่องการเป็นหนี้ เรื่องการซื้อประกันอะไรก็แล้วแต่ อย่าลืมนะครับขอให้เราเข้าใจตรงนี้ เราควรวางใจในพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าเป็นผู้เลี้ยงที่ดีของเรา พระเจ้าเป็นผู้ปกป้องปกปักรักษาดูแลคุ้มครองครอบครองช่วยเหลือเป็นผู้ช่วย เป็นพ่อเป็นพระบิดาเป็นทุกสิ่งของชีวิตของเรา เราไม่ต้องประกันชีวิตของเรา แต่ประกันของเราอยู่ที่พระเจ้า ซื้อกับพระเจ้าสิครับ ก็คือซื้อความไว้วางใจในพระเจ้า
และเรื่องนี้นะครับอยู่บนการอัศจรรย์ของพระเจ้า อยู่บนการช่วยเหลือของพระเจ้า เพราะฉะนั้นถ้าไม่ทำถ้าไม่อยู่บนภายใต้การช่วยเหลือของพระเจ้าอยู่บนการอัศจรรย์ ก็คือมันจะยาก เราจะทำไม่ได้
ถาม.
อจ.ค่ะขอถามหน่อยค่ะว่า ถ้าอย่างนั้นเราซื้อ GPS ติดรถได้ไหม ถ้าสมมุติว่าเราเอารถไปให้คนอื่นเช่า เป็นอันเดียวกันไหมคะ เพราะว่ามันมีบริษัทซื้อกล่อง GPS ก็ราคาก็สูงอยู่ แล้วก็มีค่าบริการรายปีด้วย คือเราก็กังวลแหละเนาะ กลัวว่าทุกวันนี้มันมีการขโมยรถกันข้ามประเทศ เราก็เลยกลัวค่ะ อยากปรึกษาค่ะยังไม่ได้ซื้อค่ะแต่กำลังสอบถามอยู่หลายบริษัทค่ะ
ตอบ.
เอเมนครับเป็นคำถามที่ดีนะครับ สำหรับคำตอบนะครับอยู่ที่ความเชื่อของเรา อีกครั้งนะครับผมขอนำเรากลับมาสู่เรื่องการสนิทในพระเยซู แทนที่เราจะถามว่าเราควรซื้อประกันไหม เราควรซื้อ GPS ไหม เราควรป้องกันเพื่อความปลอดภัยของเราไหมเพื่อกันขโมย เพื่ออะไรก็แล้วแต่นะครับ เพื่อขโมยจะเข้าบ้านไม่ได้นู่นนี่นั่น
ทีนี้เรากลับมาถามตัวเราเองว่า ชีวิตของเราทุกวันนี้อยู่ภายใต้การดูแลของพระเจ้าที่เห็นกับตาหรือไม่ อยู่บนการอัศจรรย์ของพระเยซูหรือไม่ เนื่องจากว่าเราสนิทในพระเยซูมากพอหรือไม่ ตรงนี้นะครับคือประเด็น ถ้าหากเรารับประกันนะครับกล้าพูดนะครับ เราชีวิตของเราทุกวันนี้ตั้งแต่เช้าจนค่ำเราสนิทในพระเยซู คือพูดง่ายๆ เราถามเราเองว่าทุกวันนี้ในแต่ละวันเรามีความสัมพันธ์ความผูกพันที่ดีกับพระเยซูหรือไม่ ถ้าหากเราไม่มีเราแก้ไขตรงนี้ แก้ไขปัญหานี้ แทนที่เราจะไปซื้อๆๆ ซื้ออะไรก็แล้วแต่เพื่อความปลอดภัยของเรา เรามาแก้ไขจุดนี้นะครับไม่ต้องซื้อนะครับ แต่สนิทในพระเยซู สร้างความผูกพันที่ดีกับพระเยซูให้มากๆ ตรงนี้คือทางออก ทางแก้ที่ถูกต้องตามพระคำพระเจ้า วิธีของพระเจ้า
แต่ถ้าหากเรายังแก้จุดนี้ไม่ได้ คือจำเป็นเราก็ต้องยอมรับว่า ความเชื่อของเรายังมาไม่ถึง และระดับความเชื่อของเรายังไม่มาถึงจุดนี้ เพราะฉะนั้นคริสเตียนหลายคนก็เลือกที่จะซื้อเพื่อความปลอดภัย ก็ซื้อครับผม เข้าใจคำตอบไหมครับ
ถ้าเรายังมาไม่ถึงมาตรฐานชีวิตคริสเตียนชีวิตในพระคริสต์กับพระเจ้า เราก็จำเป็นเราก็ซื้อครับ เนื่องจากว่าแน่นอนครับคริสเตียนฝ่ายเนื้อหนัง และคริสเตียนยังทำบาป หรือคริสเตียนที่ยังไม่สนิทในพระเยซู ไม่บอกรักพระเยซู ไม่มีความผูกพันที่ดีกับพระเยซู แน่นอนครับระบบของโลกจะกลืนกินเรา และระบบของโลกจะทำลายทำร้ายเราได้ ระบบของโลกจะให้โจรขโมย ให้การสูญเสียทั้งหลายมาถึงเราได้ แต่อย่าลืมนะครับพระเจ้าอนุญาต เนื่องจากทำไม ทำไมพระเจ้าอนุญาตให้เราโดนขโมย โดนโกง โดนกลั่นแกล้ง โดนทำร้ายทำลาย เพราะว่าเราไม่สนิทในพระเยซู เราไม่สนิทในพระองค์ เข้าใจหรือยังครับ
...
มีผู้ชายคนหนึ่ง คือที่เมืองไทยเมืองลาวขโมยเยอะ อันนี้เรารู้กันดีใช่ไหม ทีนี้มีหลายครั้งนะครับที่มอไซค์เขาเนี่ย มันก็ไม่ได้ราคาถูกก็ราคาแพง ปรากฏว่าเขาไปไหนเขาจอดไว้เขาวางใจในพระเยซู ขณะที่ที่ไหนก็ตามมีขโมย คือมันชุมมันเยอะมาก คนโดยขโมยรถมอเตอร์ไซค์โดนขโมยเยอะมากๆ แต่ปรากฏว่าเขาไปไหนเขาวางใจในพระเยซู แล้วเขาไปจอดทิ้งไว้ที่สนามที่กว้างใหญ่ แล้วก็คือถ้าเป็นคันอื่นมอเตอร์ไซค์คันอื่นคืออาจจะไม่รอดไม่เหลือนะครับโดนขโมยแน่นอน
แต่เขาจอดทิ้งไว้ทั้งวันหลายชั่วโมงจนพอถึง 3 ทุ่มนะครับเขานึกขึ้นได้ว่าเขาลืมมอเตอร์ไซค์จอดไว้ที่สนามตรงนั้น เขากลับไปดูก็ยังอยู่นะครับ แล้วไม่มีใครสักคนที่อยู่ตรงนั้น แล้วก็คือมีแต่รถมอเตอร์ไซค์คันนั้นจอดอยู่
ขอบคุณพระเจ้านะครับเรียกว่าเป็นการอัศจรรย์ที่พระเจ้าปกป้องดูแล ทูตสวรรค์คุ้มครองอยู่ สำหรับคนที่วางใจในพระเยซู คนที่รักพระเจ้า คนที่เชื่อใจในการดูแลปกป้องปกปักรักษาของพระเจ้า แน่นอนครับพระเจ้าก็จะทำตามที่พระองค์สัญญาในพระคัมภีร์ พระองค์บอกว่าวางใจในเรา เราเป็นพระเจ้าของเจ้า เมื่อเราวางใจในพระเจ้าพระเจ้าก็ทำในสิ่งที่เราวางใจในพระองค์
สำหรับผมคือถ้าจะพูดตามภาษามนุษย์ก็คืองงมาก งง เป็นไปได้ยังไง คือมันน่าจะหายแล้ว มันน่าจะโดนขโมย แต่ไม่มีใครมาแตะคืออัศจรรย์มาก แล้วไม่ใช่ครั้งเดียวนะครับไม่ใช่ครั้งเดียว ก็ขอบคุณพระเจ้า ซึ่งอันนี้ผมกล้ารับประกันนะครับ คนที่วางใจในพระเจ้าจริงๆ เชื่อในคำสัญญาของพระเจ้าที่บอกว่า เจ้าเป็นลูกของเรา เราเป็นบิดาของเจ้า เราจะดูแลเลี้ยงดูเจ้า ไม่ทอดทิ้งเจ้าไปไหน ถ้าหากเรามองเห็นคำถ้อยคำของพระเจ้า แล้วก็วางใจในพระองค์ แน่นอนครับการช่วยเหลือการดูแลการคุ้มครองการครอบครองการปกปักรักษาก็จะมีมาถึงเราแน่นอน เอเมน
อย่าลืมนะครับความเชื่อของเรา เรายังอยู่ในการฝึกอยู่ ความเชื่อเรายังมาไม่ถึง ก็ถ้าจำเป็นนะครับถ้าราคาไม่แพงก็อันนี้ไม่ใช่มาตรฐานของพระเจ้านะครับก็ซื้อครับผม ซื้อประกัน ซื้อ GPS หรือซื้ออะไรทำอะไรตามระบบของโลกที่ทำกันอยู่ ขณะที่เรายังฝึกนะครับ
เมื่อเราฝึกมาจนถึงจุดที่ ถ้าหากพี่น้องเชื่อว่าวันนี้พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสผ่านผม แล้วก็บอกเรานะครับว่าพอได้แล้ว เราจะเป็นพระเจ้าของเจ้า เราจะดูแลเจ้า ปกปักรักษาคุ้มครอง ทรัพย์สินของเจ้าก็คือของเราไม่มีใครมาขโมยได้ ถ้าหากวันนี้พระคำพระเจ้าเป็นจริงถึงเรา หูเราได้ยิน เราวางใจก็เอเมน
ถาม.
อยากทราบว่าคือดิฉันอยู่ในกลางทุ่งนาคนเดียว แล้วทีนี้พี่ชายกับพี่สาวเขายังไม่ได้รับเชื่อพระเจ้า เขาก็ว่าผู้หญิงอยู่คนเดียวอันตรายรอบด้านมีทุกสิ่งทุกอย่างเขาว่า แล้วดิฉันก็ไว้ใจในพระเจ้าว่าดิฉันจะไม่ได้รับอันตรายใดๆ อันนี้เป็นความประมาทของเราหรือว่าการท้าทายพระเจ้าไหมคะ เอเมนคะ
ตอบ.
ถ้าหากเรากล้าพูดนะครับ เรากล้าพูดบนพื้นฐานของการที่ชีวิตของเราอยู่ในพระคริสต์ สนิทในพระองค์อยู่ เป็นมนุษย์วิญญาณอย่างสม่ำเสมอ แน่นอนครับเราไม่ประมาทครับผม เรากล้าพูดด้วยความเชื่อใจวางใจในพระเยซูจริงๆ ก็เอเมนครับ
แต่ถ้าพูดประมาทนะครับก็คือ เทียวไปบอกคนนะครับ หรือพี่ชายน้องสาวของเราบอกว่า ฉันเป็นบุตรพระเจ้า พระเจ้าดูแลคุ้มครองฉัน ฉันไม่กลัวหรอกไม่มีใครมาทำร้าย อันนั้นก็คือการพูดที่ไม่เหมาะ คือเราไม่อวดนะครับ เราไม่อวด เราไม่พูดอะไรในด้านที่ให้คนอื่นมองว่าเราเป็นอะไรบางอย่างที่ไม่ธรรมดาใช่ไหม แต่คือเราถ่อมใจ เราถ่อมใจ เรานึกในใจขอบคุณพระเยซูพระองค์คุ้มครอง พระองค์ปกปักรักษา ปกป้องข้าพระองค์ เอเมน. ข้าพระองค์อยู่คนเดียวแต่พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ มีพระเจ้า 3 องค์ 3 ตนอยู่ในข้าพระองค์ ไม่เดียวดายไม่โดดเดี่ยว แล้วก็มีทูตสวรรค์ด้วย
สำหรับผมนะครับขอบคุณพระเจ้าหลายครั้งที่อาจจะคิดเผลอปุ๊บขึ้นมาบ้างนะครับ ว่าโอ๊ยอยู่คนเดียว แต่เมื่อไหร่ที่มีคำว่า อ๋ออยู่คนเดียวขึ้นมาเมื่อไหร่ในความคิดของผม ก็จะมีสิ่งหนึ่งที่พูดออกมานะครับ ผมไม่ได้อยู่คนเดียว เราไม่ได้อยู่คนเดียว แต่เรามีหลายคน มีหลายคนในบ้านหลังนี้ ก็ขอบคุณพระเจ้า
ถาม.
ตอนที่เราเชื่อมานาใหม่ๆ แต่เรายังไม่เข้าใจเรื่องของพระเจ้า แต่ตอนนั้นเราขับรถมอเตอร์ไซค์ไปบิ๊กซีแล้วก็ลืมกุญแจอยู่ในรถ ก็จอดไว้นานมากอยู่ในบิ๊กซี แต่ตัวเองก็เข้าห้างแล้วก็ไม่ได้นึกถึงว่าลืมกุญแจนะ แต่ไม่ทราบว่าพระเจ้าปกป้องดูแลเราไหมคะ เพราะว่าออกมาเห็นกุญแจคารถอยู่หลายชั่วโมงมากก็ยังอยู่เหมือนเดิม ก็ขอบคุณพระเยซู ไม่ทราบว่าพระเจ้าดูแลเราด้วยไหมคะตอนนั้นก็ยังไม่เข้าใจน้ำพระทัยพระเจ้าเท่าไหร่
ตอบ.
คือการช่วยเหลือของพระเจ้า คือไม่ว่าจะเป็นคริสเตียนระดับไหน พระเจ้ารักนะครับ พระเจ้ารักทุกคน การช่วยเหลือของพระเจ้าจะมีมาเป็นระยะๆ แน่นอนครับอันนั้นคือการอัศจรรย์แน่นอนครับไม่ต้องสงสัย เนื่องจากว่ารถมันจอดอยู่แล้วก็กุญแจก็ค้างอยู่ตรงนั้น มีโอกาสที่หลายคนจะได้เห็นได้เจอได้พบ แล้วก็โจรขโมยทุกวันนี้ก็ชุมใช่ไหม ขอบคุณพระเจ้านะครับที่พระองค์ช่วยเหลือเรา
สำหรับการช่วยเหลือของพระเจ้า พระเจ้าจะช่วยเหลือคริสเตียนใหม่
1. คริสเตียนใหม่ๆ พระเจ้าจะรักเอาใจใส่เป็นอย่างมาก
2. ก็คือคริสเตียนที่ได้รับการเปิดตาเข้าสู่มานาแล้ว
ส่วนคริสเตียนศาสนา ศาสนาคริสต์ ก็พอมีการช่วยเหลือบ้าง มีการทำงานของพระเจ้าบ้างแต่ไม่มาก แต่ขอบคุณพระเจ้าพระเจ้าทำงานมากช่วยเหลือมากการอัศจรรย์เกิดขึ้นมากกับคริสเตียนที่พึ่งเชื่อใหม่ๆ เพื่อเอาใจเขานะครับ แล้วก็คริสเตียนที่เข้าสู่มานา เพื่อยืนยันความเชื่อของเราว่าถูกต้อง เพื่อให้เราได้เห็นผลของชีวิต เนื่องจากว่าเราเชื่อถูกเอเมน
ขอบคุณพระเยซูคริสเตียนตอนแรกคือปี สองปีแรก สามปีแรกคือเราเป็นคริสเตียน แน่นอนครับขออะไรก็ได้ เราจำกันได้ไหมตอนที่เราเชื่อใหม่ๆ ขออะไรก็ได้นะ หรือสันติสุขเราเห็นบ่อยมาก การอัศจรรย์ก็เห็นบ่อยมาก ฝันบ่อยมาก อะไรก็คือบ่อยๆ เรื่องฝ่ายวิญญาณ ก็ขอบคุณพระเจ้า ไปคริสตจักรไปโบถ์สพระเจ้าก็สัมผัสมากจนร้องไห้ใช่ไหม
แต่พอ 3-4-5 ปีต่อมาก็ปรากฏว่าเราห่างออกจากพระคุณพระเจ้า ห่างออกจากการสัมผัสฤทธิ์เดช การอัศจรรย์ การช่วยเหลือปกป้องปกปักรักษาของพระเจ้าไปแล้ว จนกว่าวันหนึ่งเราได้รับการเปิดตา พระเจ้านำเราเข้ามาสู่มานาที่ซ่อนไว้ แล้วก็กลับเข้าสู่การอัศจรรย์อีกครั้งหนึ่ง เห็นการสัมผัสของพระเจ้ามากมายอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็มีมากกว่าเดิมด้วย ขอบคุณพระเจ้า
...
คือสำหรับผมนะครับขอบคุณพระเจ้าเรื่องการใช้ชีวิตอยู่บนการอัศจรรย์ คือเหมือนกับเดินไม่ต้องเดินแตะดิน เท้าไม่ต้องแตะดิน ก็คือเบาสบาย แล้วก็สิ่งที่จะหาย คือน่าจะหายก็ไม่หาย น่าจะเสียไปก็ไม่เสีย เรื่องที่เดือดร้อนน่าจะเป็นทุกข์ก็ไม่เป็นทุกข์ คือพระเจ้าจะเป็นคนหาทางแก้ไขหาทางออก ไม่มีทางตันสำหรับพระเจ้า ประตูไม่ปิดสำหรับพระเจ้า การช่วยเหลือของพระเจ้าจะมีมาอย่างต่อเนื่อง ขอบคุณพระเยซูเอเมน
โดยปกตินะครับผมชอบซื้อโทรศัพท์ซื้อมือถือมือสอง เนื่องจากว่ามันไม่แพง พอดีก็ไปซื้อมาเนื่องจากว่าเครื่องแรกใช้มานานหลายปี พอดีไปซื้อมือถือมือสองราคาก็โอเคอยู่ พอดีประมาณอาทิตย์ที่แล้วก็ไปทานข้าวกับคุณแม่กับน้องๆ ปรากฏว่าถ่ายรูป กระท่อมที่เรานั่งนะครับมันจะเป็นริมน้ำ ผมก็ถ่ายรูป ถ่ายรูปเผลอทำมือถือตกไปในน้ำลึกเท่าเอวนานถึงประมาณ 10 นาที ผมก็คิดว่าน่าจะไม่เหลือแล้วเพราะว่ามันเป็นมือถือมือสอง แล้วก็น่าจะน้ำเข้าคือไม่รอดแล้วแหละน่าจะเสียแล้วมือถือนี้
ก็ไปเอาขึ้นมานะครับไปเอาขึ้นมาก็ให้พนักงานเขาหาช่วยก็หากันอยู่นานถึง 10 นาทีจึงเจอ พอเจอแล้วเอาขึ้นมาผมก็ทำให้มันแห้งแล้วก็เปิด ก็ขอบคุณพระเจ้านะครับคือมันไม่เสียน้ำไม่เข้า แต่จริงๆ น่าจะเสียแล้วก็ไม่เสียก็ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์เมตตาผม ซึ่งผมก็ประมาทความประมาทของเรา แต่พระเจ้าเมตตาเรา