กฎหมายใหม่ข้อหนึ่งที่พี่น้องคริสเตียนส่วนมากทุกวันนี้ไม่รู้ ไม่เข้าใจ และไม่ได้ดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้กฎหมายใหม่ข้อนี้ คือ เราอยู่ได้วันละครั้ง ครั้งละวัน หรือวันต่อวัน (Live one day at a time) เราไม่อยู่เพื่อวันวาน เราไม่อยู่เพื่อพรุ่งนี้ แต่เราอยู่เพื่อวันนี้วันเดียว
ในมัทธิวบทที่ 6 พระเยซูสอนให้เราอธิษฐาน ตรัสว่า “เมื่อท่านอธิษฐาน จงอธิษฐานว่า ขอพระบิดาประทานอาหารประจำวัน…” พระเยซูไม่ได้บอกว่า ประทานอาหารประจำสองวัน สามวัน อาทิตย์หนึ่ง เดือนหนึ่ง หรือปีหนึ่ง แต่พระเยซูตรัสว่า “ขอประทานอาหารประจำวัน”
พระเยซูตรัสอีกว่า “ถ้าหากผู้ใดไม่แบกกางเขนของตน และเดินตามเรามาทุกวัน ก็ไม่เหมาะกับเรา” (ลก 9:23) ความหมายในที่นี้ คือเราตายทุกวัน และมีชีวิตใหม่ทุกวัน เมื่อเรานอนเราก็ตาย เมื่อเราตื่นเราก็เป็นคนใหม่ และมีชีวิตอีกวันหนึ่ง
เราขอบพระคุณพระเจ้าที่ประทานชีวิตใหม่ให้เรา และชีวิตนี้วันนี้เราจะอยู่ให้คุ้มค่า คือการถวายตัวใหม่ชีวิตใหม่เป็นอวัยวะ เพื่อให้พระเจ้าใช้เพื่อปรากฏความเค็ม รสเค็ม ความสว่าง หรือความชอบธรรมของพระเจ้าผ่านตัวเรา
อาจารย์เปาโลยังกล่าวอีกว่า “ข้าพเจ้าตายทุกวัน” (1 คร 15:31)
ใน มธ. 6:19–34 พระเยซูยังตรัสอีกว่า “อย่ากระวนกระวายถึงวันพรุ่งนี้” คือพระเยซูสอนเราว่า ให้ดำเนินชีวิตและทำให้ดีที่สุดภายในวันนี้ ปัญหาของพรุ่งนี้ก็เป็นเรื่องของพรุ่งนี้ ไม่เกี่ยวกับวันนี้ครับ
เราไม่มีสิทธิ์ที่จะยึดสิ่งที่เป็นอดีตที่ผ่านมาแล้วและเราไม่มีสิทธิ์ที่จะยื่นมือไปคว้าอนาคตแต่มือของเราใช้เพื่อทำให้วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุดเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า และเพื่อสะสมบำเหน็จรางวัลของเรา
ใน มธ. 6:19–34 นี้ พระเยซูตรัสถึงสามครั้งว่า “อย่ากระวนกระวาย อย่ากระวนกระวาย อย่ากระวนกระวาย…” ถ้าพระเยซูตรัสถึงสามครั้ง แสดงว่าเป็นเรื่องใหญ่ครับ พระเยซูมีพระประสงค์ที่จะให้เราไว้วางใจในพระเจ้าจริงๆ และพระองค์ต้องการสื่อให้เรารู้ว่า “นี่นะ ชั้นสัญญากับเธอ ชั้นพูดจากใจของชั้นว่าไม่ต้องกระวนกระวาย ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าชั้นพูดสามครั้งแล้ว ก็คือชั้นทำจริงนะ” แต่คริสเตียนเราไม่ใว้ใจพระเจ้า
เราบอกว่า “ข้าเชื่อวางใจ” แต่เราไม่เคยวางใจพระเจ้าอย่างแท้จริง การเชื่อวางใจของเรายังมาไม่ถึงมาตรฐานของพระเจ้า คือเราวางใจในพระเจ้า แต่เรายังยึดไว้ เป็นห่วง มีความกระวนกระวาย เป็นทุกข์หนักในเรื่องของชีวิต การงาน หรืออะไรก็ตามที่เราเผชิญอยู่ แต่พระเยซูตรัสว่า “ไม่ต้องกระวนกระวาย” ถึงสามครั้ง
ถ้าหากเราเชื่อและวางใจพระเจ้าและมั่นใจว่าพระเจ้าสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม เราก็จะเห็นคำตอบ ทางออก ได้พบความหวังในพระเจ้า และเห็นฤทธิ์เดชการทำงานของพระเจ้าอย่างชัดเจนมาก
ขอพระเจ้าช่วยเรานะครับ ที่จะเปลี่ยนความคิดใหม่ ไม่ดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้อดีต กลัวว่าพระเจ้าจะไม่ยกโทษ เพราะเมื่อก่อนเราทำผิดไว้มากมาย และยังคิดถึงปัญหามากมายที่เคยมี เคยเป็น หรือความผิดของผู้อื่น เรายึดไว้ เก็บไว้ สะสมไว้ เราจึงไม่มีโอกาสที่จะคิดถึงวันนี้ และทำวันนี้ให้ดีที่สุด
ทุกสิ่งที่เป็นวันวานเราลืมครับ พระเจ้าลืมเราก็ลืม พระเจ้ายกโทษเราก็ยกโทษ พระเจ้ายกโทษให้เรา เราก็ยกโทษให้ตัวเอง และยกโทษให้ผู้อื่นด้วย
พี่น้องคริสเตียนศาสนายังจดจำความผิดของพี่น้องผู้อื่น เมื่อเขาทำผิดกับเรา หรือทำผิดต่อคริสตจักร เขาจำได้แม่นมาก วันไหนเวลาไหนเขาจำได้หมด แต่สำหรับพระเจ้า เมื่อเราทำผิด เราสารภาพ พระเจ้ายกโทษให้เรา
เราขอบพระคุณพระเจ้า และขอพระเจ้าเปลี่ยนเราให้เรามาถึงจุดที่จะสามารถยกโทษให้อดีต พี่น้อง และตัวเราเอง เพื่อเราจะทำให้วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตของเราในการดำเนินชีวิตในความเชื่อ และการที่จะเกิดผลถวายเกียรติแด่พระเจ้า และเรื่องของพรุ่งนี้ เราก็ค่อยว่ากันใหม่อีกทีครับ
บทความเพิ่มเติม: