5:1 พี่น้องทั้งหลาย เราไม่จำเป็นต้องเขียนบอกท่านว่าเป็นวันเวลาใด
5:2 เพราะท่านรู้ดีว่าวันขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะมาถึงเหมือนขโมยในยามวิกาล
** วันขององค์พระผู้เป็นเจ้า the day of the Lord เปาโลกล่าวถึงวันที่พระเยซูจะกลับมาเพื่อพิพากษาผู้เชื่อก่อน (มธ 7:21-23)
** เหมือนขโมยในยามวิกาล คือในวันเวลาที่ไม่มีใครคาดคิดหรือหลับอยู่ในการเดินในพระวิญญาณ ใช้ชีวิตกินดื่มเพื่อความสุขในการฝ่ายเนื้อหนัง (มธ 24:36-39)
5:3 ขณะที่ผู้คนกำลังพูดกันว่า “สงบสุขและปลอดภัย” ขณะนั้นหายนะก็จะมาถึงพวกเขาในฉับพลันเหมือนการเจ็บท้องจะคลอดที่เกิดขึ้นกับหญิงมีครรภ์ และคนเหล่านั้นจะหนีไม่พ้น
** ขณะนั้นหายนะก็จะมาถึง ก็คือความทุกข์ยากการทนทุกข์ทรมานทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นก่อนที่พระเยซูจะเสด็จมา
5:4 แต่พี่น้องทั้งหลาย ท่านไม่ได้อยู่ในความมืดเพื่อว่าวันนั้นจะไม่ทำให้ท่านประหลาดใจเหมือนขโมยมา
** ความมืด ในที่นี้ ไม่ใช่เวลากลางคืนของโลก แต่มันคือการใช้ชีวิตและเดินในเนื้อหนังชีวิตเก่าอาดัม คนที่อยู่ในความสว่างจะได้รับการเตือนโดยพระวิญญาณเพื่อให้ไม่ออกไปจากการเดินในพระคริสต์
5:5 พวกท่านล้วนเป็นลูกของความสว่าง เป็นลูกของกลางวัน เราไม่ได้เป็นของกลางคืนหรือของความมืด
** ลูกของความสว่าง ก็คือบุตรพระเจ้าที่ควรจะมีชีวิตและเดินในความเชื่อในแต่ละวัน
5:6 ฉะนั้นเราอย่าเหมือนคนอื่นๆ ที่หลับใหล แต่จงตื่นตัวและควบคุมตนเอง
** คนอื่นๆ ที่หลับใหล ก็คือทุกคนที่ไม่เชื่อ และผู้เชื่อที่ไม่สนิทในพระเยซูไม่ฝึกเดินในแต่ละวัน
5:7 เพราะผู้ที่หลับก็หลับเวลากลางคืน ผู้ที่เมามายก็เมามายตอนกลางคืน
** หลับ คือการไม่สนิทบอกรักและเดินในพระวิญญาณ
** กลางคืน ก็คืออยู่ในอาดัมที่ไม่มีความสว่างของพระเจ้า
5:8 แต่เพราะเราอยู่ฝ่ายกลางวัน ให้เรารู้จักบังคับตน สวมความเชื่อและความรักเป็นเกราะกำบังอก มีความหวังใจในความรอดเป็นหมวกเหล็ก
5:9 เพราะพระเจ้าไม่ได้ทรงกำหนดให้เราเผชิญพระพิโรธ แต่ทรงให้รับความรอดโดยทางองค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเรา
** 1 ธส 5:8-9 ในข้อนี้เปาโลยกสามสิ่งเพื่อไม่ให้เราหลับและอยู่ในเวลากลางคืนได้ คือ..
1. สวมความเชื่อ ก็คือการใช้ชีวิตที่เชื่อและเชื่อเอาในความจริงของพระเจ้าที่ทำสำเร็จแล้วในพระคริสต์
2. สวมความรัก ก็คือเอารักเป็นหลักเป็นศูนย์กลางเป็นฐาน คือการกระทำทุกสิ่งพูดทุกสิ่งต่อทุกคนด้วยความรักให้ผู้อื่นได้สำผัสรักของพระเจ้าผ่านเรา เมื่อเรามีสองสิ่งนี้เป็นเกาะกำบังอก มนุษย์หรือผีมารก็ทำอะไรเราไม่ได้
3. สิ่งที่สาม ก็คือเอาความหวังใจในความรอดเป็นหมวกเหล็ก ก็คือเราเชื่อในความจริงของพระเจ้าว่าเรารอดแล้วรอดเลย
อย่าเชื่อถ้าหากมีผู้นำอาจารย์ผู้เผยพระวจนะมาบอกเราว่า เราจะไม่รอดถ้าหากเชื่อต้องรักษาพระบัญญัติต้องเคร่งศาสนาด้วยจึงจะรอด
เนื่องจากว่าเรารอดก็รอดโดยทางพระคุณของพระเยซูที่พระองค์เป็นคนกระทำและเราเป็นคนได้รับจากพระองค์
ส่วนเรื่องการกระทำดีเชื่อฟังเป็นเรื่องของการรอดเข้าไปในอาณาจักรในยุคหน้า
5:10 พระองค์ได้สิ้นพระชนม์เพื่อเรา เพื่อไม่ว่าเราจะอยู่หรือตายก็จะมีชีวิตกับพระองค์
** การสิ้นพระชนม์ของพระเยซู คือคำตอบเรื่องความรอดในวันสุดท้ายและรอดเข้าไปในอาณาจักร คือเชื่อเท่านั้นการตายของพระเยซูก็ทำให้เราได้กลายเป็นคนชอบธรรมเนื่องจากว่าพระเจ้าพอใจแล้ว และการตายของพระเยซูที่นับเราเข้าส่วนในการตายกับพระองค์และเป็นขึ้นกับพระองค์ ก็ช่วยให้เรามีชีวิตใหม่ที่มีพระคริสต์ทำแทนเรา พระองค์จะอยู่กับเราและอยู่ในเราขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ (มธ 28:20/ โรม 6:8)
5:11 เหตุฉะนั้นจงให้กำลังใจกันและเสริมสร้างซึ่งกันและกันขึ้นเหมือนที่ท่านก็กำลังทำอยู่แล้ว
** การให้กำลังใจ และการเสริมสร้าง คือสิ่งที่จะช่วยพี่น้องในพระกายได้เติบโตไปด้วยกัน นี่คือหัวใจหรือน้ำพระทัยของพระเจ้า ผู้เชื่อไม่ควรคิดลบ และมองพี่น้องด้วยสายตาอารมณ์ความรู้สึกในฝ่ายเนื้อหนัง แต่รักกันและกันโดยไม่มีข้อแม้ ให้กำลังใจแทนการทำร้ายทำลายจิตใจกัน ทั้งเสริมสร้างด้วยคำพูดที่มีรสเค็ม ไม่ใช่รสขม
5:12 พี่น้องทั้งหลาย เราขอให้ท่านนับถือผู้ที่ทำงานหนักในหมู่พวกท่าน ผู้ที่ปกครองดูแลพวกท่านในองค์พระผู้เป็นเจ้าและผู้ที่ตักเตือนท่าน
** นับถือ กรีกคือ οἶδα (ไอ-ดู) คือซาบซึ้ง ชื่นชม เห็นคุณค่า เคารพ นับถือ สำนึกบุญคุณ
5:13 จงรักและเคารพเขาเหล่านั้นอย่างสูงเนื่องด้วยการงานที่เขาทำ จงอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
** อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข คือหัวใจของพระบิดา เราควรคำนึงถึงพระกายที่ต้องทำหน้าที่ของตนต่อพี่น้องที่เป็นอวัยวะของพระกาย มีอะไรไม่เข้าใจกันเราเปิดใจสามัคคีธรรมกันได้ไม่ปล่อยให้ซาตานมีโอกาสเข้ามาทำลายพระกายของพระองค์ เอาความรักเป็นหลักเพื่อทุกคนจะได้สะสมบำเหน็จมากมาย มากกว่าสะสมการตีสอน
5:14 พี่น้องทั้งหลาย เราขอให้ท่านตักเตือนคนที่เกียจคร้าน ให้กำลังใจผู้ที่ขลาดอาย ช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอ อดทนกับทุกคน
** การตักเตือน และให้กำลังใจ ด้วยความรัก เอาใจใส่ จะช่วยให้พี่น้องที่เกียจค้านกลับใจ เราไม่ควรไปตัดสินทำร้ายจิตใจใครเพราะไม่ใช่หน้าที่ของเรา
5:15 จงสอดส่องดูแลอย่าให้ใครทำชั่วตอบแทนการชั่ว แต่จงพากเพียรทำดีต่อกัน และดีต่อคนอื่นๆ ทุกคนเสมอ
** สอดส่องดูแล ก็คือเป็นหูเป็นตาช่วยกัน
** ทุกคน ก็คือทำดีต่อทุกคนไม่เว้นแม้แต่คนเดียว ถ้าหากเรายังทำไม่ได้ก็กลับใจ และขอการชำระจากพระบิดา
5:16 จงชื่นชมยินดีอยู่เสมอ
** ชื่นชมยินดี กรีกคือ χαίρω คา-อี-โร be glad rejoice // πάντοτε (ฟานโตเต) อยู่เสมอ คือตลอดเวลา หรือทุกเวลา ซึ่งเป็นพระบัญญัติใหม่ของคริสเตียนที่จะต้องอยู่ในสะบาโตใหม่ของพระเยซู
5:17 จงอธิษฐานอยู่เสมอ
** จงอธิษฐานอยู่เสมอ คือการพูดคุยสนทนากับพระเจ้าตลอดเวลาหรือทุกเวลา
5:18 จงขอบพระคุณในทุกสถานการณ์เพราะนี่คือพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับท่านทั้งหลายในพระเยซูคริสต์
** สำหรับคริสเตียน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราเชื่อว่าพระเจ้าเห็นและอนุญาตให้เข้ามาถึงเราแตะเราได้ สิ่งสำคัญคือเราขอบพระคุณพระเจ้าตลอดเวลาเพื่อหนักจะได้กลายเป็นเบา ยากจะได้กลายเป็นง่าย ร้ายจะได้กลายเป็นดี และพระเจ้าทรงปลอบประโลมเรา
5:19 อย่าดับไฟแห่งพระวิญญาณ
** อย่าดับไฟแห่งพระวิญญาณ คือการขี้เกียจ ใช้เวลาอยู่ในฝ่ายเนื้อหนัง ไม่อธิษฐาน ไม่ฝึกเดิน ไม่นับตายนับเป็น ไม่ถวายตัวใหม่ ไม่อ่าน ไม่ร่วมกับพี่น้อง ไม่มีชีวิตและเดินในพระคริสต์
5:20 อย่าลบหลู่คำเผยพระวจนะ
** อย่าลบหลู่คำเผยพระวจนะ คือการไม่เชื่อ ไม่รับ ไม่เห็นความสำคัญของพระคำแห่งความจริงที่มาจากผู้เผยพระวจนะที่ทรงเลือก
5:21 จงทดสอบทุกสิ่ง จงยึดมั่นในสิ่งที่ดี
** ทดสอบ คือการค้นหาความจริง อธิษฐานถามพระเจ้า และถามผู้รับใช้ ขอการเปิดเผยหรือยืนยันจากพระวิญญาณ จากนั้นก็ยึดไว้เพื่อนำไปเสริมความเชื่อ และฝึกเดินในแต่ละวัน
5:22 จงหลีกห่างความชั่วทุกชนิด
** สำหรับพระเจ้า และ ในพระคริสต์ พระองค์ชำระเราแล้ว และนำกฎแห่งพระวิญญาณและกฎแห่งชีวิตเข้ามาแทนที่กฎแห่งความบาปและความตาย เรายิ่งสนิท และฝึกเดินเราจะพบว่าเราสามารถหลีกห่างจากการชั่วได้ไม่ช้าก็เร็ว
5:23 ขอพระเจ้าเองผู้ทรงเป็นพระเจ้าแห่งสันติสุขทรงชำระท่านให้บริสุทธิ์หมดจด ขอให้ทั้งวิญญาณ จิตใจ และร่างกายของท่านไร้ที่ติเมื่อองค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเราเสด็จมา
** ชำระ ในที่นี้ คือการที่พระเจ้าแยกเราออกจากชีวิตในฝ่ายเนื้อหนัง จากการอธรรมทั้งสิ้น เพื่อเราจะดำเนินชีวิต ในฝ่ายวิญญาณ เพื่อให้เป็นที่พอพระทัยพระเจ้าทั้งความคิดและการกระทำทั้งหมด
5:24 พระองค์ผู้ทรงเรียกท่านนั้นทรงสัตย์ซื่อและพระองค์จะทรงกระทำตามที่ตรัสไว้
** การเปลี่ยนแปลง การเลิกทำบาป การเชื่อฟัง การได้รับการชำระหรือแยกออกมา sanctification ฝ่ายพระเจ้าพระองค์กระทำสำเร็จแล้วในพระคริสต์ เพียงแต่ว่าเราผู้เชื่อยังไม่เห็นเพราะยังไม่ได้ถูกเปิดตา การเป็นคนดีต่อหน้าพระเจ้าและมนุษย์ไม่ใช่การพยายามทำ ทำ ทำ แต่คือการสนิท รัก รัก รัก พระเยซู
5:25 พี่น้องทั้งหลาย โปรดอธิษฐานเผื่อเรา
** ผู้นำผู้รับใช้ทุกคนย่อมต้องการการอธิษฐานเผื่อของพี่น้องในพระกายอยู่เสมอเนื่องจากว่าซาตานจ้องที่จะเล่นงานพวกเขามากกว่าใคร
5:26 จงทักทายพี่น้องทุกคนด้วยการจุมพิตอันบริสุทธิ์
** การจูบ คือธรรมเนียมของชาวยิว คนต่างชาติไม่จำเป็นต้องทำ แต่เราจูบก็คือรัก ถ่อมใจ เป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสต์
5:27 ข้าพเจ้าขอกำชับท่านต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าให้อ่านจดหมายนี้ให้พี่น้องทั้งปวงฟัง
5:28 ขอพระคุณขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเราดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด
** ความรักของพระบิดา จึงประทานพระคุณของพระเยซูคริสต์ให้เรา และดำรงอยู่กับเราโดยการกระทำของพระวิญญาณของพระคริสต์ที่อยู่ในเรา โดยการนำมาของพระวิญญาณบริสุทธิ์