เราขอบคุณพระเจ้าสำหรับพี่น้องที่หนุนใจพวกเรา ที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสผ่านก็คือ เรื่องเกี่ยวกับการสนทนาการโพสต์การพูดคุยสามัคคีธรรมในกลุ่ม ซึ่งขอบคุณพระเยซูเราเป็นมนุษย์วิญญาณ เราเป็นคนใหม่ ทุกสิ่งใหม่หมด เพราะฉะนั้นเราจะไม่เน้นที่ปัญหามากเกินไป พูดถึงเรื่องด้านลบมากเกินไป พูดถึงเรื่องกังวลกระวนกะวายมากเกินไป เราเน้นที่การสรรเสริญ ขอบพระคุณ
ขอบพระคุณพระเจ้ามากเท่าไหร่ คำตอบก็มา การอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น
ถ้าขอมากเท่าไหร่ ก็จะไม่ค่อยได้ผล
ซึ่งเคล็ดลับของชีวิตคริสเตียน เราพูดถึงแต่สิ่งดี และวางใจในพระหัตถ์ของพระเจ้า และวางใจในฤทธิ์เดชของพระเจ้า เน้นที่การขอบพระคุณเราจะเห็นคำตอบและการตอบคำอธิษฐานของพระเจ้าต่อพวกเราทั้งหลาย เอเมนขอบคุณพระเยซู
สำหรับวันนี้พระเจ้าต้องการที่จะย้ำนะครับ เราเชื่อว่าพระเจ้าต้องการที่จะย้ำ ซึ่งอาทิตย์ที่แล้วก็พูดถึง เรื่องการกินการดื่มอาหารและทุกสิ่งที่เป็นสิ่งที่ผ่านการกราบไหว้ เป็นเครื่องถวายบูชาแด่พระอื่น
แต่สำหรับเราที่เป็นบุตรพระเจ้า เราจะมีการตอบสนองอย่างไร เนื่องจากว่าพระเจ้าไม่ได้ให้เราออกไปจากโลกหรือแยกกับโลก เรายังมีญาติ มีพ่อแม่ พี่น้อง สามีภรรยาบ้าง ลูกบ้าง ที่ไม่ได้เชื่อเหมือนเรา
แล้วเราเองต้องวางตัวยังไง ก็คือสิ่งแรกที่เราต้องเข้าใจ เราจะไปดู สำหรับชาวยิวนะครับ ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะว่าเขาถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เกิด และเขารับพระบัญญัติของพระเจ้า ซึ่งถ้าหากไม่ปฏิบัติตาม ก็คือถูกลงโทษ
แล้วมาถึงพวกเรา เมื่อยิวเป็นคริสเตียน ยิวก็ไม่มีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับพวกนี้ แต่จะมีปัญหา ก็คือคริสเตียนต่างชาติ ที่เป็นชนชาติอื่น ที่เป็นชาวเมืองหลายๆ เมืองในอาณาจักรโรมัน ซึ่งพอกลับใจเป็นคริสเตียนปุ๊บ เมื่อก่อนเขาก็เคยเป็นเหมือนพวกเราใช่ไหม ซึ่งเราหลายคนก็เคยเป็นพุทธและเราเองก็กิน การกินสิ่งที่ผ่านการกราบไหว้ กินสิ่งที่เป็นเครื่องถวายบูชา สำหรับหลายคนหลายชนเผ่าหลายชาติ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะว่ากินเพื่อรับพร กินเพื่อสุขภาพ กินเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีเข้ามาในชีวิต กินเพื่อโชคลาภ เขาถือกันแบบนี้
แล้วสำหรับเราจะเป็นคริสเตียน เรารู้ดีแล้วว่า ขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ให้ความเข้าใจกับพวกเรา คือเป็นการเล่นชู้กับพระเจ้าฝ่ายวิญญาณ การเล่นชู้ ในที่นี้ ไม่ใช่เล่นชู้เรื่องฝ่ายร่างกาย แต่เป็นเรื่องของฝ่ายวิญญาณ ก็คือเล่นชู้กับพระเจ้านั่นเอง
สิ่งที่มนุษย์ถวายให้พระของเขา รูปเคารพของเขา คริสเตียนเราแตะไม่ได้ ถึงแม้ว่ามันจะอร่อยมากเท่าไหร่ แล้วก็อาจจะเป็นของฟรีที่เขามาให้เรา หรือยังไงก็แล้วแต่ เหตุผลไม่เท่ากับน้ำพระทัยของพระเจ้า ก็คือไม่แตะ หลายคนก็บอก โอ้ย เสียดายมันอร่อย มันน่ากิน แล้วก็มันฟรีด้วย
แต่เรารู้นะครับว่าเมื่อเราเดินในฝ่ายวิญญาณ เดินไปกับพระเจ้า เราย้อนกลับไปดูอิสราเอล 40 ปีที่เดินทางออกจากอียิปต์ ไปถึงคานาอัน พระเจ้าเลี้ยงเขานะครับด้วย (อพย 16:35) “มานา” ก็คือเป็นเมล็ดเล็กๆ สีขาว แล้วก็มีรสชาติที่ออกจะหวานนิดนึง (กดว 11:7-8) ซึ่งเขากินมาตลอด 40 ปี มันอาจจะดูไม่อร่อย แต่มันอร่อย แล้วก็จะมีนกกระทา (นกคุ่ม) ด้วยใช่ไหม แล้วเขาก็กิน ก็มีอาหารอีกบางชนิดที่ตกลงมาจากสวรรค์ พระเจ้าให้มันมา แล้วอิสราเอลก็ทำกิน
เราอาจจะไม่ได้กินสิ่งที่เป็นอาหารที่อร่อยเหมือนชาติอื่น หรือเหมือนศาสนาอื่น หรือเขาทำกัน แล้วก็ผ่านการกราบไหว้ หรืออาจจะทำในลักษณะที่มันไม่สะอาด เราไม่รู้ใช่ไหม คือร้านอาหารทั่วไป ขอโทษนะครับสำหรับพี่น้องที่มีร้านอาหาร หรือเปิดร้าน โดยปกติจะมีสักคนแหละ หรือหลายคนที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องการล้างผักให้สะอาด ล้างเนื้อให้สะอาด ทำความสะอาดกับชามจาน หรืออะไรใช่ไหมถ้วยชาม เรารู้ใช่ไหมครับ ซึ่งเราทำให้แขกให้ลูกค้ากิน ไม่เหมือนกับที่เราทำให้เราเองกิน มันแตกต่าง
เพราะฉะนั้นความสะอาดก็มีส่วน แล้วก็เรื่องการผิดต่อพระเจ้าก็มีส่วน พระเจ้าจึงให้เราหลีกเลี่ยงที่จะกินอาหารที่ผ่านมือของผู้อื่น แทนที่เราจะกินเองใช่ไหม ทำกินเองถ้าทำเองได้ก็จะเสียเวลา แต่มันจะดีต่อสุขภาพ แต่ถึงทั้งนี้ทั้งนั้นขอสรุปคำเดียว การกินด้วยการขอบพระคุณ อาหารทุกชนิดที่เรากินก็จะถูกชำระให้สะอาดให้บริสุทธิ์ คำว่า "ขอบพระคุณ" คำว่า "เอเมน" คือเครื่องฟิลเตอร์ (Filter) คือเครื่องกลั่นกรองให้พยาธิทั้งหลายให้สิ่งที่ไม่สะอาดสกปรก เข้ามาสู่ชีวิตของเราเป็นสิ่งที่สะอาดได้ เอเมน
แต่ สำหรับเราที่รู้ว่าอาหารเนื้อสัตว์หรือผลไม้หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ผ่านการกราบไหว้ ถวายเครื่องบูชาให้รูปเคารพหรือพระอื่น ถ้าหากเรารู้ หรืออาจจะไม่แน่ใจ แต่เรากินโดยการขอบพระคุณ อันนี้จะไม่มีผลนะครับ มันจะไม่มี ฟิลเตอร์ (Filter) ให้เรา ก็คือเรากินเข้าไปก็จะเป็นสิ่งที่ผิด ถ้าสงสัยแล้วทำ ถ้าสงสัยแล้วกิน ก็คือผิด เราไม่ต้องขี้สงสัยเยอะนะครับ เราเห็นว่าอันนี้เราคิดว่า คิดว่า ไม่น่าจะใช่สิ่งที่เป็นสิ่งที่ผ่านการกราบไหว้ เรากินด้วยการขอบพระคุณ ก็เอเมนเท่านั้น
แล้วถ้าญาติเราที่เราเข้าใจที่คุยกันได้ ที่เขารู้ว่าเราเป็นคริสเตียนแล้วเรากินสิ่งที่กราบไหว้ไม่ได้ เราก็ถามเขาอันนี้ผ่านไหม หรือไม่ผ่าน อันนี้ไปกราบไหว้หรือยัง ถ้าเขาตอบว่ายังเอาไว้ให้เธอ เรากินได้ครับด้วยการขอบพระคุณ
อีกครั้ง...ถ้าเราไม่แน่ใจสิ่งไหนที่เป็นสิ่งที่กราบไหว้หรือไม่ เราไปซื้อมา หรือไปเอามาจากเพื่อน หรือจากญาติ เราไม่แน่ใจเราสงสัยแล้วกิน ก็คือผิด คำว่า เอเมนไม่มีผลอะไรเลย ช่วยอะไรไม่ได้
แต่เมื่อมันผ่านมาแล้ว เรากินไปแล้วนะครับ ก็คือเราสารภาพ แล้วเริ่มใหม่ แล้วหลีกเลี่ยงเรื่องการกิน ให้กินในสภาพที่บริสุทธิ์ ที่เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า กินสิ่งที่สะอาด และไม่เล่นชู้กับพระเจ้า ก็คือไม่ได้ผ่านการถวายเครื่องบูชาแด่พระอื่นหรือรูปเคารพ
เพราะว่าเหตุผลอยู่ตรงนี้นะครับ ก็คือท่านเป็นวิหารของพระเจ้าทั้ง 3 พระภาคที่สถิตอยู่ในท่าน (1 คร 6:19-20) ท่านจึงต้องรักษาร่างกายนี้ จิตใจนี้ และวิญญาณนี้ ให้เป็นของพระเจ้า 100% เพื่อพระคุณ สันติสุข พระเมตตา ความรัก ทุกสิ่งที่เป็นมรดกของพระเจ้า ที่จะเทลงมาหลั่งไหลเข้ามาในชีวิตของเรา และครอบครัวของเราได้ เอเมน
ส่วนมีพี่น้องบางคนที่เน้นที่พูดถึงเรื่องการตีสอนใช่ไหม อย่าลืมว่า ยุคพระบัญญัติเคร่งมาก พระเจ้าเคร่งนะครับ และชาวยิวต้องเคร่งต้องรักษาชีวิต แล้วก็ไม่แตะต้องสิ่งที่เป็นสิ่งที่กราบไหว้
แต่เรามาถึงยุคพระคุณ พระเจ้าประทับอยู่บนพระที่นั่งแห่งพระคุณแล้วในยุคนี้ เรียกว่ายุคพระคุณ พระเจ้าเทความรัก เทพระเมตตาอย่างมากมายสู่โลก โดยเฉพาะคนที่เชื่อในพระเจ้า การตีสอนมีนะครับแต่น้อยกว่า และพระเจ้าดูที่ระดับความเชื่อของเรา ซึ่งเมื่อก่อนชาวยิวทำอะไรผิดเนี่ยก็ตีเลยนะครับ แต่สำหรับเราที่เป็นคริสเตียนพระเจ้ามองว่ามี 3 ระดับ เราจำกันได้น่ะ ก็คือเด็กและหนุ่มและพ่อ
ส่วนเด็กทำอะไรผิด พระเจ้ามีความรักและมีความเมตตาต่อเขาอย่างมากมาย ซึ่งการตีสอนจะมีหรือมีน้อยหรืออาจจะไม่มีเลยก็เป็นได้ สำหรับเด็กนะครับ
แต่เราที่เป็นหนุ่มแล้ว หรือโตแล้ว เข้าสู่การเปิดตามาถึงระดับที่รู้ๆ ได้มีประสบการณ์ชีวิตพระคริสต์ ได้มีประสบการณ์สันติสุขทุกวันเวลา ดื่มน้ำแห่งชีวิตที่ไม่กระหายอีกเลยแล้ว ถ้าเราไปกินไปดื่ม สงสัยแต่กิน แล้วอยากกินก็ไปกิน ก็ไปร่วมกับเขา อันนี้ผิด การตีสอนก็มีมาครับ
อย่าลืมนะครับเราเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราเป็นที่อยู่ของพระเจ้าทั้ง 3 พระภาค เราจึงต้องรักษาชีวิตของเราไม่ให้ยุ่งเกี่ยวเกี่ยวข้อง ให้บริสุทธิ์เสมอนะครับไม่แตะสิ่งที่เป็นสิ่งที่ผ่านการกราบไหว้พระอื่นหรือรูปเคารพ
มีอะไรตั้งเยอะนะครับที่เรากินได้ เราอาจจะเสียดายใช่ไหม แอปเปิ้ล หรือผลไม้ หรือเนื้อสัตว์ หรือหมูย่างหมูอบ อะไรที่มันดูอร่อยมากๆ แต่สำหรับพระเยซูนะครับกินอะไรก็อร่อยได้
เราอาจจะเจอการทดลองหลายคนใช่ไหม เพราะว่าไม่นานมานี้มีตรุษจีนเพิ่งผ่านมาใช่ไหมครับ มีใครไปกินบ้าง ถูกเชิญไปงานบ้าง
ทั้งนี้ทั้งนั้นเราฉลาดเหมือนงู สุภาพเหมือนนกเขา คำตอบของเรานะครับก็คือเราตอบสั้นๆ เราอธิบายด้วยเหตุผลที่คิดว่า พูดอะไรไปแล้ว มันจะไม่ไปแตะต้องจิตใจของเขา เราอาจจะพูด พูดได้นะครับคือพระเจ้าอื่นไม่มี มีแต่พระเจ้าพระเยซู ความรอดทางอื่นไม่มี อันนี้ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยงนะครับ ซึ่งก็ขอบคุณพระเจ้าที่บางคนเขาฟัง เขาก็ใส่ใจ เขาก็ให้ความสนใจเปิดใจ แต่มีหลายคนจะสะดุด แล้วก็จะหันหลังให้เรา โอกาสที่จะประกาศข่าวประเสริฐกับเขาก็จะแทบจะไม่มี ซึ่งฉลาดเหมือนงู ก็คือพูดในสิ่งที่ ที่ไม่แตะต้องจิตใจของเขา ไม่ทำให้เขาสะดุด
ถาม.
พอดีมีพี่น้องคริสเตียนคนหนึ่งเป็นผู้เชื่อใหม่ ทักมาถามค่ะ เขาเพิ่งเชื่อพระเจ้าได้ปีนิดๆ เป็นผู้ชายค่ะเขาไปคริสตจักรแต่ว่านานๆ ไปครั้งหนึ่งเพราะว่าทำงาน แล้วเขาก็ไปดูหมอดูค่ะ เมื่อวันก่อนเขาไปดูหมอดูแล้วเขาก็ไม่สบายใจ แต่เขาเพิ่งจะทักมาบอกค่ะว่าเขาไปดูหมอดูมา ก็เลยหนุนใจน้องแล้วก็อธิษฐานให้น้อง แล้วเขาถามว่าพระเจ้าจะทำโทษไหม แล้วก็จะทำหนักไหมอะไรอย่างนี้ค่ะ ก็คือได้แต่อธิษฐานให้เขาแล้วก็หนุนใจเขาค่ะ
แต่อยากรู้ว่าสิ่งที่เขาไปดูหมอดูดูดวงอะไรพวกนี้ค่ะพระเจ้าจะตีสอนเขาหนักไหม แล้วเป็นแบบไหนค่ะ เพื่อที่จะเอาไปตอบน้องได้ค่ะเอเมน
ตอบ.
สำหรับคำตอบนี้อยู่ในคำพูดที่ผมพูดเมื่อกี้ใช่ไหม คือพระเจ้ามองเราบางคนเป็นเด็กอยู่ แล้วก็บางคนเป็นหนุ่ม เป็นพ่อ
ส่วนคริสเตียนที่เป็นเด็กนะครับ ก็คือเชื่อใหม่ หรือหลายปี แต่ยังไม่มาถึงมานาที่ซ่อนไว้ ยังเรียกว่าเด็กทั้งนั้นเลย ถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่เพิ่งเชื่อวันนี้ หรือเป็นคริสเตียนที่เป็นระดับอาจารย์ศาสนาอาจารย์ก็ตาม ซึ่งถ้าหากไม่พบมานาที่ซ่อนไว้ เรียกว่าเด็กทั้งนั้น อันนี้ผมพูดถูกไหม
เราดูที่ชีวิตของเขานะครับชีวิตของเขา คือการใส่หน้ากาก เอาเป็นว่าใครก็ตามที่ยังเป็นเด็กอยู่นะครับ แล้วทำผิด พระเจ้าเข้าใจ พระเจ้ายกโทษ การตีสอนอาจจะไม่มี หรือถ้ามีก็น้อยมากๆ หนุนใจเขานะครับว่าสบายใจได้ พระเจ้าเทความรักและพระเมตตามาถึงพวกเราในยุคนี้อย่างเต็มล้นอย่างมากมาย ถ้ารู้ว่าผิดนะครับก็สารภาพ แล้วก็ขอพระเจ้านำที่จะไม่ทำอีก แค่นั้นครับ บอกเขานะครับไม่ต้องห่วงไม่ต้องกังวล พระเจ้าเป็นพระเจ้าที่เข้าใจเรา
ถาม.
ขออนุญาตถามค่ะคือตัวอย่างว่า ที่ลูกหลานอะไรก็ตาม เขาจัดวันเกิดแล้วเขาก็เป่าเค้กนั่นแหละเนาะ ก็ร้องเพลง เสร็จแล้วเขาก็ตักเค้กมาให้เรา อันนี้ได้ไหมค่ะอาจารย์ ผ่านไหมที่เราจะไปกินเค้กนั้น
ตอบ.
เพื่อเห็นแก่เขาที่ยังเป็นเด็ก และเพื่อเห็นแก่หลายๆ คนที่มาร่วมงาน เรากินได้ครับเรารับได้ครับ ในใจลึกๆ ของเราเราไม่ฉลองวันเกิด Birthday แต่ถ้าหากคนที่ไม่เชื่อ หรือคนที่มีความเชื่อที่อยู่ในระดับเด็กที่เขาทำกันอยู่ หรือลูกๆ หลานๆ ทำ เราไปกินได้ครับ เราอยู่กับเขาได้ แต่เราในใจลึกๆ ของเราไม่เรียกว่าไปร่วมฉลองกับพวกเขา
ไม่ใช่ว่าหลบหลีกไปเลยนะครับ หนีไปเลยหรือปฏิเสธไปเลยบอกว่า น้าหรือป้า ขอโทษน่ะ คือเป็นคริสเตียนแล้ว แล้วก็ไม่ถือเรื่องวันเกิด อันนี้เราปฏิเสธเราหลีกเราไม่พูดในลักษณะนี้ ก็คือเราฉลาดเหมือนงู ทำตัวให้อ่อนสุภาพอ่อนโยนน่ารักกับทุกคนกับทุกที่ทุกแห่งทุกหน และเรารับเมื่อเขาให้เรา
สำหรับพี่น้องบางคนอาจจะถูกเชิญ เมื่อถึงวันคริสต์มาส หรือปีใหม่ หรือฉลองเทศกาลอะไรทั้งหลาย เราไปได้นะครับ เราอธิษฐานขอการนำพาโดยพระเจ้า ถ้าหากมีการเร้าใจไม่ให้ไป เราหาวิธีหลีกเลี่ยง ใช้คำพูดที่สุภาพเหมือนนกเขานกพิราบและฉลาดเหมือนงู แต่ถ้าหากเราไปได้เราก็ไป แต่ไม่เรียกว่าไปฉลองนะครับ ก็คือไปร่วมกับพวกเขา ไปอยู่กับพวกเขาไปเป็นเพื่อนพวกเขา
ถ้าจะพูดง่ายๆ ให้เข้าใจง่ายๆ สรุปได้ง่ายๆ ก็คือเราถูกเชิญนะครับ เราไปร่วม แต่จิตใต้สำนึกของเรา บอกว่าไปร่วมเฉยๆ ไปสามัคคีธรรม ไปเพื่อเรายอมไปกับเขา เหมือนกับเปาโลที่บอกว่าโดยพระวิญญาณ เปาโลบอกว่า ข้าพเจ้ายอมเป็นยิว เพื่อเอาชนะใจยิว ข้าพเจ้ายอมเป็นคนต่างชาติ เพื่อที่จะเอาชนะใจของคนต่างชาติ (1 คร 9:19-23)
เพียงแต่ว่าเราหลีกเลี่ยงเรื่องการกินที่ผิด และหลีกเลี่ยงเรื่องการกราบไหว้รูปเคารพเท่านั้นเอง เทศกาลอะไรทั้งหลายที่เขาเชิญมา เราไปนะครับ งานแต่งงานเขาเชิญมา เราก็ไปครับ แต่...ในจิตสำนึกของเราบอกว่า เอาชนะใจเขา เราไปเพื่อวันหนึ่งนะครับข่าวประเสริฐจะไปถึงพวกเขา เราจะไม่ไปแบบสนุกสนาน แล้วไปมีจิตมีความคิดที่บอกว่า ไปร่วมเทศกาล หรืองานต่างๆ หรือวันเกิด ไม่ครับ อันนี้ไม่มีในความคิดของเรา แต่เราก็ไม่ได้บอกเขา นะครับ คือเราไป เราไปร่วมกับพวกเขาเท่านั้นเอง
ถาม.
เอเมนค่ะ กรณีเทศกาลตรุษจีนอะไรแบบนี้ ตอนนี้ที่บ้านเขาก็จะใส่เสื้อสีแดงอะไรพวกนี้ ทีนี้เขาซื้อเสื้อสีแดงให้เราใส่ เราใส่นี่เราผิดไหมค่ะอาจารย์
ตอบ.
ถ้าญาติของเราอยากให้เราใส่
อันแรกนะครับขอพูดถึงพระเจ้าก่อน เราอธิษฐานนะครับ ถ้าหากพระเจ้าเตือนเรา หรือเร้าใจเรา พระเจ้าจะเป็นคนตอบเราน่ะว่าให้ใส่หรือไม่ให้ใส่
อันที่สอง ถ้าหากเราไม่ได้ยินเสียงจากพระเจ้า หรือไม่มีคำตอบอะไร ให้เราสังเกตรอบข้างเรา ว่าเราควรใส่หรือไม่ พระเจ้าจะตอบผ่านทุกสิ่งที่อยู่รอบข้างเรา
อันที่สาม ก็คือถ้าหากว่าเราใส่เพื่อเห็นแก่พี่น้อง อันนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกราบไหว้ หรือเกี่ยวข้องกับการกินการดื่มการยกอะไรที่เป็นสิ่งที่เป็นเครื่องถวายบูชา เราใส่กับพวกเขาเพื่อเห็นแก่พวกเขา เราใส่ครับ เพราะว่าการแต่งกายเหมือนๆ กัน หรือเป็นประเพณีนะครับซึ่งไม่ได้ถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดมากหรือเป็นสิ่งที่เป็นการเล่นชู้กับพระเจ้านะครับ ก็เอเมนครับ
คือสำหรับผม ญาติก็ถามนะครับว่าทำไมไม่ใส่เสื้อแดง ผมก็บอกว่า อยากใส่ขอใส่ตัวนี้ได้ไหม คือขอนะครับขอใส่ตัวนี้ได้ไหม โอเคไหม ก็แค่นี้ครับ
ถาม.
ขอถามอีกนิดนึงค่ะ พอไหว้เสร็จ เขาก็บอกว่าที่เขาไหว้เนี่ย เขาไหว้เพื่อให้ พอดีน้องชายเขาป่วยนะคะไหว้เพื่อให้น้องชายได้กินของไหว้จะได้มีสุขภาพที่แข็งแรง แล้วก็ร่างกายจะได้ไม่เจ็บไม่ป่วย เพราะว่าไอสิ่งที่เขาไหว้ กินของไหว้นี่จะทำให้เขาแข็งแรง พอหลังจากที่ไหว้ไปนะคะ เขาก็กินกันใหญ่เลย เขาก็บอกให้เราอ่ะกินสิๆ เราก็บอกว่าขอโทษน่ะไม่กินของไหว้ อันนี้ก็คงไม่ทำให้เขาเสียใจนะคะถ้าพูดลักษณะนี้ค่ะ เอเมนค่ะ
ตอบ.
ถ้าเป็นได้นะครับโอกาสหน้าครั้งต่อไป เราตัดคำว่า ไม่กินของไหว้ออก นะครับ เราพูดว่า ขอโทษน่ะ ไม่หิว หรือไม่อยากกิน หรือปฏิเสธยังไงก็ได้ ฉลาดเหมือนงู สุภาพเหมือนนกเขา อันนี้นะครับเป็นคำตอบ แต่เราจะพูดให้เขาสะดุดหรือพูดให้เขารู้สึกไม่สบายใจจิตใจไม่ดีเนี่ย ก็คือเราหลีกเลี่ยงครับ
อย่างที่ผมพูดนะครับ ก็คือชาวต่างชาติหรือชาติไหนก็ตาม หรือชาวจีนหรือเวียดนาม เขาถือว่ากินของที่ผ่านการกราบไหว้ ถวายเป็นเครื่องบูชา มันจะเป็นสิ่งที่อวยพรเขา สุขภาพดีอะไรทั้งหลาย เป็นความเชื่อนะครับ
แต่สำหรับเราเรารู้แล้วใช่ไหมว่า สิ่งเหล่านี้ก็คือผีมารซาตานจะทำให้อาหารเหล่านี้เป็นมลทินสำหรับบุตรพระเจ้า และสำหรับทุกคนด้วยนะครับ
ถาม.
เอเมนค่ะ ต่ออีกนิดนึงนะคะ พอดีเขากินของไหว้พอวันรุ่งขึ้นน้องชายเขาก็ป่วยล้มแล้วก็เป็นอัมพาตครึ่งซีกค่ะ ก็เราก็ไม่กล้าพูดอะไรนะคะ ก็ได้แต่อธิษฐาน เขาก็บอกเขากำชับบอกว่า อยู่บ้านเนี้ย มาบ้านเขา ห้ามพูดเรื่องพระเยซู บ้านนี้ไม่ต้อนรับบ้านนี้นับถือพระอะไรแบบเนี้ย เขาบอกไม่เอา ไม่เอาพระเยซูไม่เอาพระเจ้าเขาบอกนะคะ อันนี้จะเป็นการลงโทษของพระเจ้าในชีวิตของเขาไหมค่ะ
ตอบ.
น่าจะมีส่วนนะครับ การปฏิเสธพระเจ้าตรงๆ เนี่ยก็คือเป็นโทษที่พระเจ้าจะทำให้เห็นว่าพระเจ้าตีสอน พระเจ้าลงโทษนะครับ
และอีกครั้งนึง อีกครั้ง ก็คือการกินสิ่งที่เป็นผ่านการกราบไหว้ และผีมารและซาตานจะทำให้เป็นมลทิน ไม่สะอาดมีปัญหาต่อสุขภาพ เขาอาจจะได้รับผลซึ่งเขากินของไหว้
อีกครั้ง ถ้าหากเราถวายอะไรก็ตาม เป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้า เราถวายตัวใหม่นี้ให้พระเจ้า พระเจ้าจะใช้และจะอวยพร และจะทำให้ร่างกายใหม่นี้มีสง่าราศี ทุกคนจะมองเห็นพระเยซูผ่านพวกเรา
เมื่อเราถวายความรักแด่พระเจ้า พระเจ้าจะทำให้ความรักในชีวิตของเราขยายใหญ่ขึ้นก่อตัวมากขึ้นและมีความรักเต็มล้นในเรา
เมื่อเราถวายอะไรก็ตามแด่พระเจ้า พระเจ้าจะทำให้มันเป็นสิ่งที่เป็นพระพรเป็นพรเป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น เพื่อมันจะเต็มล้นในชีวิตของเรา
แต่ตรงข้าม ใครที่ถวายเป็นเครื่องบูชานะครับ อาหารบ้าง สัตว์อะไรที่ฆ่าแล้วทำเป็นอาหาร หรือน้ำดื่มหรือผลไม้ เอาไปให้ผีมารหรือซาตาน เป็นรูปเคารพต่างๆ มันจะมีผลร้ายต่อชีวิตของเขาเอง
คือเราถวายให้พระเจ้า พระเจ้าอวยพร พระเจ้าให้สิ่งดีเกิดขึ้น แต่ถ้าหากเราถวายสิ่งที่ดีต่อซาตาน ซาตานจะทำให้เราแย่ลง ตรงข้ามกันนะครับ
ถ้าหากมีบางคนที่บอกว่า เอาไปถวายให้พระให้รูปเคารพ แล้วปรากฏว่าสุขภาพก็ดีขึ้นก็หายโรค อันนั้นเป็นการหลอกลวงนะครับ ซาตานมันจะหลอกให้ดีใจชั่วคราว แต่อีกไม่นานต่อมามันก็ทำให้ป่วย
ถาม.
เอเมนครับขอสอบถามนิดนึงครับ เรื่องพอดีว่าแม่ผมทำข้าวหลามให้กินนะครับ แต่ไม่ไผ่อ่ะ แม่เขาไปขอจากวัดมา จากพระที่วัดมาครับ อันนี้มันกินได้ไหมครับ
ตอบ.
สำหรับไม้ไผ่หรืออะไรก็ตามที่เป็นเครื่องใช้ ที่ถึงแม้ว่าจะเอามาจากวัดหรือเอามาจากนอกวัดในวัด ไม่สำคัญ ความเชื่อของเรานะครับเชื่อว่าเราไปขอแล้วเขาให้มา แล้วเราเอามาใช้เพื่อเป็นเครื่องทำอาหารเกี่ยวกับอาหาร เรากินด้วยการขอบพระคุณ เราเอเมนไม่มีปัญหาครับ
เพราะว่ามันไม่ได้ผ่านการกราบไหว้ ไม่ได้ผ่านการถวายเป็นเครื่องบูชาให้พระหรือรูปเคารพครับ เพียงแต่ว่ามันเกิดอยู่ในบริเวณวัดเท่านั้นเอง
วัดไม่ใช่อาณาจักรของซาตานนะครับ แต่มนุษย์ที่ไม่เชื่อพระเจ้า เรียกว่าเป็นอาณาจักรของซาตาน
ส่วนพี่น้องนะครับที่สะดุด ที่คิดว่า เราไม่น่าจะไปเอาของอะไรต่างๆ ทุกสิ่งที่อยู่ในวัดเนี่ย ไม่ควร ความคิดของเราตรงนี้นะครับ จะทำให้เราเองสะดุดเราเอง ถ้าหากเรายังไปเอามา แล้วทำร่วมกับเป็นสิ่งที่เป็นเพื่อเป็นอาหาร ก็คือก็ผิด แต่ถ้าหากเราคิดว่าเชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่อยู่ในบริเวณวัด แต่ไม่ได้ผ่านการกราบไหว้หรือถวายเป็นเครื่องบูชา เรานำมาใช้เพื่อเป็นเครื่องทำเป็นอาหารทำเป็นกับข้าวอะไร ไม่ผิดครับผม
แต่.. ! ขอแต่นะครับ ถ้าหากว่าเราไปเอาแล้วมีพี่น้องคริสเตียนบางคนได้ยินข่าวและสะดุด อันนี้เราผิดนะครับ อย่าให้เขารู้อย่าให้ใครรู้ เพราะว่าเรื่องทำให้ความเชื่อของผู้อื่นสะดุด โดยเฉพาะคริสเตียนที่ยังเป็นเด็กนะครับชอบสะดุดมาก เห็นคนนี้ทำผิดก็สะดุด เห็นคนนั้นทำผิดก็สะดุด แล้วเราต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้เขาเห็นนะครับ
บางคนกินเหล้ากินไวน์เพื่อสุขภาพ ไม่ได้กินเพื่อเมา หรือไม่ได้กินเพื่อความสนุกสนาน แต่กินเพื่อสุขภาพ เพราะว่ากระเพาะอาหารหรือร่างกายต้องการแอลกอฮอล์ หรือต้องการไวน์ต้องการเหล้า ในพระคัมภีร์พระเจ้าตรัสผ่านเปาโลบอกว่ากินได้ (1 ทธ 5:23) เพียงแต่ว่าไม่เมา แล้วก็ไม่กินเพื่อเป็นการสนุกสนาน กินได้ครับผม แต่อย่าให้พี่น้องสะดุด อย่าให้ใครเห็น พูดง่ายๆ
ถาม.
อาจารย์ค่ะ อย่างเช่นเป็นวันเกิดของเรา วันนี้แหละวันเกิดของเรา แต่ไม่ได้จัดไม่ได้อะไร แต่เราตื่นขึ้นมาแล้วก็ไปรดน้ำต้นไม้แล้วก็ขอบคุณพระเจ้า แล้วก็บอกว่าพระเจ้าลูกอธิษฐานเผื่อตัวเองได้ไหม เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของลูก แต่ลูกก็อธิษฐานกับพระเจ้า แต่ไม่ได้พูดกับใครเลยแต่พูดกับพระเจ้าอย่างเดียว ก็รดน้ำต้นไม้ไปแล้วก็พูดกับพระเจ้าไปอธิษฐานไป แล้วมันมีสันติสุขเกิดขึ้น แบบนี้เราอธิษฐานให้ตัวเองได้ไหมค่ะอาจารย์ เพราะว่าวันเกิดของเรา
ตอบ.
การมีสันติสุขเกิดขึ้นในเรา ไม่ได้หมายความว่าพระเจ้าสนับสนุน ให้เราคิดถึงเรื่องวันเกิด หรือถือวันเกิด หรืออธิษฐานเกี่ยวกับวันเกิดของเรา ไม่ครับผม
พระเจ้าให้สันติสุขเกิดขึ้นเพราะว่าเราเริ่มสนิท เราเริ่มอธิษฐาน การพูดคุยการสนทนากับพระเจ้าเมื่อไหร่สันติสุขก็เกิดขึ้นแน่นอน ถึงแม้ว่าเราจะคิดผิดหรือเชื่อผิดไม่ได้สำคัญ
ถามว่าวันเกิดของพี่น้อง วันนี้หรอ? พี่น้องพวกเราอยู่ในตอนนี้ก็คือประมาณ 50 กว่าคน เราจำวันเกิดของเราแต่ละคนได้ไหม? วันเกิดของเราเมื่อไหร่ เอาปีก็ได้ขอปีก็ได้ ฝ่ายไหนก็ได้ครับตอบเลยครับ ผมอยากถามเพื่อเราจะเข้าใจ เราเกิดเมื่อไหร่? พระเยซูตายเมื่อไหร่ครับ แล้วสามวันต่อมาพระเยซูฟื้นคืนพระชนม์เมื่อไหร่ครับ ก็สองพันปี แล้วเราล่ะ เราเกิดเมื่อไหร่ วันเกิดของเราคือวันไหนครับปีไหนครับ (วันที่พระเยซูฟื้นขึ้นมา) เอเมน นั่นคือวันเกิดของเราทุกคนเลยนะครับ
วันนี้ไม่ใช่วันเกิดของพี่น้องที่ถามว่าวันเกิดคือวันนี้ ขอให้เราลืมนะครับอันนั้นเป็นเรื่องของฝ่ายร่างกายฝ่ายเนื้อหนัง เราตอนนี้เป็นฝ่ายวิญญาณ เป็นมนุษย์วิญญาณ เป็นคนใหม่แล้ว คนเก่าก็ถูกลบล้าง ไม่มีคนเก่าอีกแล้ว คนเก่าตายเมื่อสองพันปีก่อน
วันเกิดของเรา ก็คือวันที่พระเยซูฟื้นคืนพระชนม์ แล้วเราก็เกิดใหม่เป็นคนใหม่ ฟื้นคืนชีพร่วมกับพระเยซู เพราะฉะนั้นถ้าสมมุติว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเรา ปีที่แล้วเป็นวันเกิดของคนนี้ ไม่มีอีกแล้วนะครับ คุณตายแล้ว แล้วคุณเกิดตอนที่พระเยซูฟื้นคืนพระชนม์ ถ้าไม่เชื่อไปดูก็ได้ เอเมน
ถาม.
เอเมนค่ะอาจารย์ เช่นวันนี้ถ้าเราอธิษฐาน พูดคุยกับพระเยซู คือการสนิทบอกรักพระเยซู อันนั้นปรากฏขึ้นเป็นสันติสุขนั้น เป็นความสุขของการสนิทใช่ไหมค่ะ ไม่ใช่วันเกิดใช่ไหมค่ะอาจารย์
ตอบ.
ถูกแล้วครับ การพูดคุยกับพระเยซูเมื่อไหร่ มีการพูดคุย มีการสนทนา มีการอธิษฐานเมื่อไหร่เกิดขึ้น แน่นอนครับสันติสุขก็จะมา
สำหรับคนที่ฝึกมามากแล้ว ขอบคุณพระเจ้านะครับ ตื่นนอนตอนเช้า พูดคุยกับพระเยซูปุ๊บ จากอาการที่ง่วงเหงาหาวนอน เหนื่อย อ่อนแอ เมื่อยล้า เมื่อเราขอบพระคุณ พระเยซูข้าพระองค์เป็นคนใหม่ พระเยซูข้าพระองค์รักพระองค์ พระเยซูวันนี้จะให้ข้าพระองค์ทำอะไร ไปที่ไหน กินอะไร ขอบคุณพระเยซูรักพระเยซูมาก เอเมน พระองค์เป็นน้ำแห่งชีวิตที่ข้าพระองค์ดื่มแล้วจะไม่กระหายอีกเลย เอเมน คุยไปนะครับสันติสุขก็เกิดขึ้นครับ
แต่ไม่ได้เกี่ยวกับวันนี้วันเกิดของข้าพระองค์ พระเยซูขอให้สันติสุขเต็มล้น ไม่ครับ คือเต็มล้นอยู่แล้วเมื่อเราสนิทในพระองค์
คือเราต้องเข้าใจนะครับ พระเจ้าแยกเรื่องความเชื่อผิด กับเรื่องการสนิท เมื่อเราสนิทในพระเยซูสันติสุขก็มา ถ้าเราเชื่อผิดนะครับพระเจ้าก็จะแก้ไขความผิดของเรา จะให้พี่น้องนี่แหละล้างเท้าเรา
แน่นอนครับ ปีหน้าน่าจะไม่มีอีกแล้วใช่ไหมครับว่าวันนี้เป็นวันเกิดของพระองค์ พระเยซูขอสันติสุขหลั่งไหลเข้ามา ขอพระองค์อวยพรข้าพระองค์วันนี้เป็นวันพิเศษ ไม่มีวันพิเศษแล้วนะครับสำหรับพวกเรา
วันพิเศษของพวกเรา ก็คือทุกๆ วัน เราเกิดใหม่ทุกๆ วัน เมื่อตื่นนอนตอนเช้าเราบอกว่า คนใหม่เกิดใหม่อีกแล้ว อยู่วันต่อวัน
แล้วถ้าสมมุติว่ามีญาติของเรา มีสามี มีลูกๆ ซื้อเค้ก ของขวัญวันเกิดมาให้ เรารับนะครับเรารับ เราก็บอกว่าขอบคุณ ก็จะอธิษฐานเผื่อ ก็เท่านั้นเองครับ
แต่เราไม่เน้นที่วันเกิดหรือไปฉลองหรือทำอะไร เขาชวนเราไปทานข้าวเพื่อเลี้ยงนะครับ เป็นวันเกิดของเรา เราก็ไปแต่ในใจลึกๆ ของเราจิตใต้สำนึกของเราบอกว่า ก็ไปเพื่อเอาชนะใจเขา อย่าลืมนะครับการอยู่กับญาติอยู่กับพี่น้องอยู่กับเพื่อนอยู่กับคนในที่ทำงาน เราทำทุกสิ่งร่วมกับพวกเขาได้ เรายอมเป็นเหมือนพวกเขาเพื่อที่จะเอาชนะใจพวกเขา ไม่ใช่ว่าฉันเป็นคริสเตียนไม่เอาน่ะ ฉันเป็นคริสเตียน ฉันเป็นคริสเตียนไม่กินไม่ดื่มไม่ไปไม่มาไม่ร่วม อันนี้เป็นคริสเตียนศาสนาครับผม
ถาม.
คือลูกหลานไม่มีใครรู้สักคน แต่ดิฉันเองไปซื้อขนม ซื้อขนมมาให้ลูกๆ หลานๆ กินแต่ไม่ได้บอกว่า วันเกิดน่ะ แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นวันเกิดของตัวเอง แต่รู้ตัวเองเพียงคนเดียวกับพระเยซูเอเมนค่ะ
ตอบ.
ก่อนที่จะมาเป็นคริสเตียนนะครับ วันเกิดของผมทุกปีคือมันเศร้ามาก และเมื่อผมมาเชื่อในพระเยซู พอถึงวันคริสต์มาส คือชีวิตผมมันเศร้ามาก 18 ปีนะครับที่เศร้า ที่มันมีความรู้สึกว่าเหงา เศร้ามากๆ แต่พอมารับมานาฯ สรรเสริญพระเจ้าความเหงาไม่มีอีกแล้ว ไม่มีวันเกิด ไม่มีวันคริสต์มาส ไม่มีอะไรให้เหงาอีกแล้ว เพราะว่าแต่ก่อนรู้สึกน้อยใจ มีปมนะครับว่า คนอื่นเขามีวันเกิดคนอื่นเขาฉลองคริสต์มาสเขาสนุกสนานเขามีเพื่อนมีอะไร แต่เราเป็นคนที่เหงา อาจจะมีอาการโรคซึมเศร้านิดๆ ก็เป็นได้นะครับเมื่อก่อน
แต่สรรเสริญพระเจ้า พอมาถึงยุคมานาที่ซ่อนไว้ปุ๊บ รับปั๊บ ก็คือมีแต่สันติสุขทุกวันทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นวันเกิดหรือวันคริสต์มาส หรือวันอะไรก็ตาม “เรามีแต่วันใหม่วันเดียวของพระเจ้า เอเมน”
ถาม.
อาจารย์หนูขอเรียนถามแป๊บนึง เราไม่กินของไหว้ของไหว้เราไม่กิน แต่ว่าเขาไหว้ตรุษจีน เขาฝากไปให้ญาติเรา เรารับได้ไหมค่ะ รับไปให้ได้ไหม
ตอบ.
เขาฝากไปให้ญาติ เราเป็นคนคือเอาของไปให้ญาติ ฝากได้ครับ ฝากได้ครับไม่ได้ผิดนะครับ คือจิตใต้สำนึกของเรา เราเอาไปให้ในลักษณะของการช่วยเป็นคนที่เอาไปส่ง เป็นไรเดอร์นะครับ เป็นคนไปส่งให้ เพื่อช่วยเขา เขาขอร้องเราให้ช่วยเราช่วย ไม่ผิดครับ
ถาม.
ถ้าเราบอกว่าอันนี้เราไม่กิน แต่เราเอาไปให้ญาตินี่อย่างนี้ได้ไหมค่ะ
ตอบ.
ถ้าเขาเอามาให้เรา แล้วเราเอาไปให้ญาติต่อ ก็คือเขาเป็นฝ่ายโลกและญาติของเราก็เป็นฝ่ายโลก ให้เขากินกันเอง เขากิน เราไม่กิน เราฝากเราเอาให้ได้ครับถ้าเป็นอาหารนะครับ
แต่ถ้าสมมุติว่ามีคนเอาพระมาให้เราเอารูปเคารพมาให้เรา แล้วปรากฏว่าเราบอกว่าเราเป็น ในจิตใจของเราบอกว่าเราเป็นคริสเตียน เราไม่ควรรับสิ่งนี้ที่เป็นรูปเคารพที่เป็นพระทั้งหลาย แล้วเราเอาไปให้ญาติเรา อันนี้ไม่ควรนะครับ ไม่ควร เราทิ้งเลยนะครับ
ถ้าเป็นอาหาร เอาไปให้ ถ้าเป็นพระเป็นรูปเคารพ ก็คือทิ้งครับ แต่ถ้าเป็นทองคำ เป็นทองคำหรือสิ่งที่มีค่า เป็นธาตุที่มีค่า เราก็หลอมก็เผานะครับ แล้วทำให้มันเป็นทองคำไม่มีรูปร่างเป็นเหมือนรูปเคารพอีกต่อไป แล้วเราบอกว่าเอเมนขอบคุณพระเยซู สิ่งนี้เป็นทรัพย์สินของข้าพระองค์และเป็นของพระเจ้าแล้ว เท่านั้นครับ อย่าไปทิ้งมันนะครับถ้าเป็นทองคำ หรือเป็นสิ่งที่มีค่าที่ญาติเขาให้เรามา เพียงแต่ว่าเราไม่กลับไหว้ แล้วเราไม่รักษารูปให้เป็นรูปร่างเดิม เราเอาไปเผาไปหลอม
มีหลายคนนะครับที่เอาทองคำที่เป็นรูปเคารพเอาไปทิ้ง อันนี้ผิดครับ มันมีค่านะครับ แล้วอีกอย่างเราเอเมน เราขอบคุณพระเจ้า เขาให้เราเป็นสมบัติของเราแล้ว เพียงแต่ว่าเราเปลี่ยนรูป เปลี่ยนรูปให้เป็นสิ่งอื่นเพื่อที่จะขายแล้วนำเงินมาใช้
ถาม.
เอเมนค่ะ มีคำถามค่ะคือว่า การที่เราทำประกันชีวิตนะคะ มันจะหมดเดือนหน้านี้ เราจำเป็นต้องต่อไหมค่ะ มันปีละสองแสนนะคะ เราจำเป็นต้องต่อไหม
ตอบ.
สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่นะครับ เงินสองแสนเป็นเงินจำนวนมาก ถ้าหากมีโอกาสมีเวลาพอมากพอ ขอให้ตั้งแต่วันนี้ ก็คือขอน้ำพระทัยของพระเจ้าสำเร็จ ขอการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์
ถ้าผมจะตอบผมตอบไม่ได้ไม่มีคำตอบที่แน่นอน แต่ขอให้พระวิญญาณเป็นคนตอบ เพราะว่าเงินจำนวนสองแสนมันเยอะนะครับ
สำหรับบางคนผมแนะนำว่าซื้อต่อนะครับ ซื้อประกันต่อ แต่บางคนนะครับถ้าเป็นคริสเตียนที่อยู่ในพระเจ้า มีอาการอัศจรรย์เกิดขึ้นเยอะแยะมากมายพระเจ้าดูแลคุ้มครองปกปักรักษา ก็คือก็เอเมน ไม่ซื้อ เน้นที่การวางใจในพระเจ้า แต่บางคนนะครับการวางใจในพระเจ้ายังไม่มากพอ เราเพิ่งรับมานาฯ เราเพิ่งเชื่อในพระเยซู อันนี้ซื้อครับ
ถาม.
แต่ในส่วนลึก ไม่ต้องการซื้ออ่ะค่ะ เพราะว่าวางใจในพระเยซูเต็มที่เลย ตั้งแต่มาเปิดตาที่มานาของเรา
ตอบ.
แสดงว่า ก็คือ พระวิญญาณบริสุทธิ์ทำงานแล้ว พระวิญญาณบริสุทธิ์ตอบแล้วนะครับว่าไม่ควรซื้อนะครับ ก็เอเมนครับ
มีคริสเตียนบางคนคือด้วยการที่เขายังเป็นเด็กฝ่ายวิญญาณ และเขาอยู่ในเนื้อหนังตลอดเวลา ก็มีความเชื่ออยู่นะครับ ซึ่งก็มีการตีสอนบ่อยมาก แล้วก็มีอุบัติเหตุ เจอปัญหา มรสุมเข้ามาบ่อยนะครับ ต้องเสียเงินเยอะ ซึ่งอันนี้ถ้าจะถามผมว่าซื้อไหมก็ซื้อนะครับ
แต่สำหรับพี่น้องคริสเตียนที่ได้รับนิมิต หรือการดูแลจากพระเจ้า และมีความไว้วางใจในพระเจ้าอย่างมากมาย ก็ไม่ซื้อดีกว่า เพราะว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นคนค้ำประกัน พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นคนยืนยันแล้วว่าเราจะช่วยเจ้า เราก็เอเมนในสิ่งนี้
ถาม.
ค่ะเพราะว่าไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเลยตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยเป็นอะไรเลยค่ะ นั่นแหละค่ะ ยิ่งมาเชื่อในพระองค์พระเยซู ยิ่งในใจลึกๆ ไม่ซื้อแล้วค่ะ ไม่ต่อแล้วค่ะ ขอบคุณพระเยซู
ตอบ.
เอเมน คือคำตอบอยู่ที่การวางใจในพระเจ้า และการยืนยันของพระเจ้ากับเรา พระวิญญาณบริสุทธิ์เร้าใจเราให้ไม่ต้องการที่จะซื้อ หรือวางใจในพระเจ้ามากๆ
ส่วนเรื่องที่น้องสาวบอกว่าที่ผ่านมา ตั้งแต่เด็กจนโตตั้งแต่เล็กจนโต สุขภาพดีไม่มีปัญหา อันนี้สำหรับมนุษย์บางคนหรือมีความคิดบางความคิดอาจจะคิดขึ้นมาว่า เราไม่เป็นเมื่อก่อนเราอาจจะเป็นพรุ่งนี้ มะรืนนี้ อันนี้ไม่มีใครรับประกันใช่ไหม แต่ขอบคุณพระเจ้าเรามีพระเยซูเป็นคนค้ำประกัน เรื่องการซื้อไม่ซื้อเนี่ย ไม่มองไปที่อดีตหรือปัจจุบันของร่างกายสุขภาพของเรา แต่เรามองที่การวางใจในพระเจ้า ฤทธิ์เดชของพระเจ้าและความรักของพระเจ้าที่คุ้มครองเราอยู่ เอเมน
สำหรับวันนี้เราขอบพระคุณพระเจ้า มาถึงจุดนี้ก็คือ พระเจ้าย้ำเตือนเราถึงเรื่อง เราเป็นบุตรพระเจ้าที่เราไม่ควรที่จะกินดื่มรับประทานอะไรที่ผ่านการเซ่นไหว้ ผ่านการถวายเป็นเครื่องบูชาให้พระอื่นหรือรูปเคารพ และอาหารบางชนิดอาจจะเป็นเลือด หรือสัตว์ที่ถูกรัดคอตาย หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับที่จะทำให้มีปัญหาเรื่องสุขภาพ เราหลีกเลี่ยงนะครับ
ถ้าหากว่าเป็นคริสเตียนใหม่ เราอาจจะกิน หรือเราอาจจะอยากจะกิน ก็กินแต่ให้สารภาพบาปนะครับ ให้สารภาพ แล้วพระเจ้าผู้ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรมจะยกโทษให้เรา และช่วยเราในการฝึกเดินต่อไป จนถึงระดับหนุ่ม จากนั้นก็ทำบาปน้อยลง
แต่อาหารก็คือเป็นสิ่งที่เราควรหลีกเลี่ยง แล้วหลีกเลี่ยงโดยการใช้สติปัญญา ฉลาดเหมือนงู สุภาพเหมือนนกพิราบ การตอบคนที่ไม่เชื่อเราตอบด้วยจิตใจ ด้วยคำพูดที่สุภาพอ่อนน้อม และไม่ทำให้เขาสะดุด ไม่แทงใจเขา คือกินไม่ได้ ทานไม่ได้ ไปร่วมไม่ได้ ขอโทษน่ะไม่สะดวก แค่นี้นะครับไม่ต้องบอกว่าเป็นคริสเตียนกินเลือดไม่ได้ เป็นคริสเตียนทำนู่นนี่นั่นไม่ได้ อันนี้มันจะเป็นในลักษณะที่แบบ คือเรายกเราขึ้นสูงกว่าระดับที่อยู่ในระดับของเขา อะไรก็ตามที่ไม่ทำให้เขาสะดุดนะครับ ก็คือฉลาดเหมือนงู และสุภาพเหมือนนกพิราบ
จากนั้น ก็คือพระเจ้าจะอวยพร พระเจ้าจะนำพา พระเจ้าจะก่อชีวิต พระเจ้าจะทำกิจ ได้มากมายในร่างกาย จิตใจนี้ และวิญญาณนี้ ขอบคุณพระเยซู เอเมน