เราขอบคุณพระเยซูที่พระเจ้าประทานชีวิตที่มีชัยชนะนี้อยู่ในเราแล้ว
เราขอบคุณพระเจ้าชีวิตที่มีชัยชนะก็คือชีวิตของพระเยซู และก็คือตัวตนของพระเยซูที่สถิตอยู่ภายในเรา
เราขอบคุณพระเยซูที่พระองค์เปิดเผยให้พวกเราได้เข้าใจว่า เราตัวเก่าชีวิตเก่าของเรา ชีวิตเนื้อหนังไม่สามารถเอาชนะความบาปได้
เราขอบคุณพระเจ้าที่เปาโลเปิดเผยว่าเขาเป็นคนที่เคร่งศาสนามากกว่าใครในบรรดาพวกฟาริสีและในบรรดาพวกชาวยิว แต่เขายังล้มเหลวในการดำเนินชีวิตในฝ่ายวิญญาณ เขาต้องพึ่งพาพระเยซู เขาต้องพึ่งพาชีวิตที่มีชัยชนะนี้
เพราะฉะนั้นขอบคุณพระเจ้าการแปลที่ถูกต้องในข้อที่ 10 เพราะว่าเราเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ที่สร้างขึ้นในพระเยซูคริสต์
เราถูกสร้างขึ้นแล้วในพระเยซูคริสต์ ในชีวิตของพระคริสต์นะครับมีชัยชนะ ในชีวิตของพระคริสต์มีสันติสุข ในชีวิตของพระคริสต์มีพระสัญญาของพระเจ้า ที่ประทานให้อับราฮัม ก็คืออยู่ใต้ร่มพระคุณ ก็คือพระพร ก็คือทุกสิ่ง เราเป็นลูกของพระเจ้าแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่พระเจ้าสัญญาจะประทานให้อับราฮัม มาถึงเราโดยพระเยซูคริสต์ในพระเยซูคริสต์แล้ว
ซึ่งพระเจ้าได้ทรงจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า พระองค์จัดเตรียม พระองค์วางแผน พระองค์จัดไว้ให้เราแล้ว เพราะฉะนั้นเพื่อวันนี้เราจะได้เดินไปตามนั้น เดินไปตามการจัดเตรียมของพระเจ้าไม่มีทางอื่น
ขอบคุณพระเยซูสำหรับชีวิตผู้ชนะนี้ พระองค์เลือกคนส่วนน้อย คนกลุ่มน้อยเท่านั้นที่จะมาถึง ก็คือพระองค์จัดเตรียมผู้ที่จะเป็นรัฐบาลของพระเยซูชั่วนิรันดร์ ชุดเดียวเท่านั้นนะครับ รัฐบาลชุดเดียวให้มาถึงชีวิตผู้ชนะนี้ได้
...
เราสงสารพี่น้องที่ยังดำเนินชีวิตที่สุขบ้างทุกข์บ้างดีบ้างบาปบ้าง และยังไม่ได้มาถึงชีวิตที่มีสันติสุขเต็มล้นเหมือนพวกเรา เราอธิษฐานเผื่อพี่น้องเหล่านั้น แล้วก็ขอบคุณพระเจ้าที่เรามาถึงสวรรค์บนดินได้ เรามาถึงชีวิตผู้ชนะได้ เราเป็นผู้ชนะร่วมกับพระเยซูได้ เป็นพระพรมากมายครับ
...
สำหรับมนุษย์ทุกวันนี้พอเรามาเชื่อพระเยซู เรามีความคิดมีแนวคิดในลักษณะของรูปแนวศาสนา เราคิดว่าเชื่อพระเจ้าแล้วก็ต้องเลิกทำบาป ก็ต้องดำเนินตามรักษาพระบัญญัติ ต้องทำนู่นนี่นั่นให้พระเจ้า รับใช้ ประกาศ
แต่สิ่งที่เราพลาด ผมพลาด 18 ปี แล้วเราหลายคนก็พลาดมาหลายปี เราไม่รู้จักเราไม่รู้ใจพระเจ้า ว่าใจพระเจ้าคืออะไร น้ำพระทัยพระเจ้า พระเจ้าต้องการอะไร เราไม่รู้ เราเห็นอยู่กับตาใช่ไหม มัทธิว 6:33 พระเจ้าต้องการให้เราแสวงหาอะไร
อาณาจักรและความชอบธรรมของพระองค์
แสวงหาอาณาจักรก็คืออยากให้เรามีส่วนร่วมในการเป็นรัฐบาลชุดเดียวของพระเจ้า อยากให้เรามีส่วนร่วมในการครอบครองโลกนี้ร่วมกับพระองค์ เป็นเพื่อนเป็นมิตรสหายกับพระองค์ แล้วก็เคล็ดลับอันหนึ่งก็คือแสวงหาความชอบธรรมของพระองค์ ก็คือเข้าสู่การดำเนินชีวิตที่มีนิสัย มีชีวิตของพระเยซูผ่านเราให้โลกได้เห็น สองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากและสองสิ่งนี้จะทำให้เราเข้าสนิทใกล้ชิดผูกพันกับพระเยซูอย่างมากมาย
แต่เราแสวงหาสิ่งอื่น เราทำๆๆๆ แทนที่จะรักๆๆๆพระเยซู เรารับใช้ๆๆๆๆ แทนที่จะอยู่ใกล้ชิดพระเยซู มารธาล้มเหลว มารีย์ประสบความสำเร็จ
มารธารับใช้ๆๆๆ ทำกับข้าวบ้างทำอาหารรับใช้ แต่มารีย์นั่งใกล้พระเยซูฟังพระเยซูตลอดเวลา คริสเตียน 5% ของคริสเตียนทั่วโลกที่เป็นมารธาอยู่
ต้องขอบคุณพระเจ้าที่เราได้รู้ว่าน้ำพระทัยพระเจ้าคืออะไร พระเจ้ามีใจแบบไหน พระเจ้าอยากให้เราแสวงหาอะไร
...
ข้อที่ 11 สำหรับข้อนี้เราขอบคุณพระเยซูที่เราไม่จำเป็นที่จะต้องมีพิธีสุหนัต แล้วก็พิธีสุหนัตก็เป็นเรื่องของฝ่ายวิญญาณ แต่สำหรับพวกเรา เราตอนนี้เข้าสุหนัตในฝ่ายวิญญาณ เข้าสุหนัตในพระคริสต์แล้ว เพราะฉะนั้นการเข้าสุหนัตในพระคริสต์ ก็คือการได้เข้ามาเป็นบุตรของพระเจ้า เป็นลูกที่รักของพระเจ้าทั้งหลาย และเข้าร่วมในพระสัญญาของพระเจ้าที่ให้กับอับราฮัม และเราได้รับมรดกทุกอย่างที่อยู่ในอับราฮัม ที่พระเจ้าสัญญาจะประทานให้
ตอนนี้เราไม่ใช่ยิว ไม่ใช่คนต่างชาติ เราเป็นยิวฝ่ายวิญญาณแล้ว ถ้าวันไหนที่เรายังคิดนะครับว่าเราเป็นคนไทย คนลาว คนจีน คนฝรั่งชาติไหน อันนี้เรายังไม่ได้มาถึงความเชื่อที่อยู่ในฝ่ายวิญญาณครับ แท้ที่จริงเชื้อชาติที่แท้จริงของเราตอนนี้ปัจจุบันนี้ เราเป็นยิวฝ่ายวิญญาณ เราเป็นลูกหลานอับราฮัมฝ่ายวิญญาณ ขอบคุณพระเยซูสำหรับข้อนี้
เราที่เป็นมนุษย์วิญญาณ เราเป็นยิวแท้ เราไม่เหยียดสีผิว เราไม่เหยียดฐานะ ชนชั้น เรามองทุกคนเหมือนพระเจ้ามอง เอเมน
เราทุกคนเท่ากัน แม้แต่คนที่ทำบาปมากมาย หรือฐานะยากจน แต่สำหรับเราขอบคุณพระเยซู เราทุกคนเป็นพี่เป็นน้อง ไม่ว่าจะเป็นคริสตจักรศาสนา หรือคริสตจักรฝ่ายวิญญาณ เรายังมองเหมือนพระเจ้ามอง ก็คือทุกคนเป็นคนใหม่ ใหม่ในกายเดียวกัน ก็คือกายของพระเยซู เราเป็นครอบครัวของพระเจ้าที่กำลังถูกก่อขึ้นสู่ชีวิตและนิสัยของพระเยซู
...
ข้อที่ 13 ผมเคยทำคลิปบางคลิปที่พูดถึงเรื่องเชื่อในพระเยซู กับเชื่อเข้าในพระเยซู
จริงๆ แล้วภาษากรีกบอกว่า "เชื่อเข้าใน" ถ้าจะไปให้ถูกหรือจะแปลว่า "เชื่อใน" ก็ได้ ถ้าเราเข้าใจความหมายที่แท้จริง
** การเชื่อ "เข้าในพระเยซู" แตกต่างจาก "เชื่อในพระเยซู" ยังไง คือเมื่อเราเชื่อเข้าในพระเยซู ไม่เพียงแต่เราเชื่อเท่านั้น แต่เอาชีวิตทั้งชีวิตเข้าไปในสิ่งที่เราเชื่อ ก็คือในพระเยซู
** การเอาชีวิตทั้งชีวิตเข้าไป คืออะไร ก็คือชีวิต ความคิด คำพูด การกระทำ ทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไปในพระเยซูทั้งหมด ก็คือเราเอาชีวิตของเราเดินออกมาจากชีวิตในอาดัม ในตำแหน่งเก่า เข้ามาอยู่ในตำแหน่งใหม่และอยู่ในพระคริสต์ ในพระเยซู แล้วเมื่อเราเข้าไปอยู่ในพระเยซู อันนี้เป็นความเชื่ออันแรก
จากนั้นก็คือการเริ่มเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติ ในการกระทำ ในคำพูด ในกิริยาอาการ คุณสมบัติต่างๆ แล้วสิ่งเหล่านี้แน่นอนที่สุด พระคริสต์จะเป็นคนทำ สิ่งแรกก็คือเราเอาความเชื่อเข้าไปก่อน เมื่อเราเอาความเชื่อเข้าไปก่อน ประสบการณ์ก็จะตามมา
เนื่องจากว่าคริสเตียนไม่รู้ ไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำว่า "เชื่อใน" หรือ "เชื่อเข้าใน" เขาจึงได้แต่มาเชื่อพระเยซู เชื่อพระเยซูแล้ว ชีวิตก็ดำเนินชีวิตตามแบบอาดัม เหมือนเก่าเหมือนเดิมไม่มีอะไรใหม่ๆ ก็เป็นศาสนาคริสต์ ไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ มีเซลล์บ้าง มีนมัสการตอนกลางคืนบ้าง สามัคคีธรรม
แต่สำหรับพระเจ้า ก็คือพระเจ้าต้องการให้เราทุ่มชีวิตของเราเข้าทั้งชีวิต ทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไปเป็นของพระเจ้า อยู่ในพระเจ้า อยู่ในพระคริสต์ทั้งหมด แล้วพระองค์จะก่อชีวิตของเราขึ้นสู่ชีวิตและนิสัยของพระเยซู
...
แล้วสิ่งที่ผมขอบคุณพระเจ้าอย่างมากมายก็คือ โดยทางพระโลหิต เรายังได้เข้ามาใกล้กว่าคริสเตียนศาสนา ก็คือโดยทางพระโลหิต เราเข้ามานั่งใกล้กับพระบิดา ใกล้พระเยซูมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ สนิทติดกับพระองค์เลย เพราะว่าพระโลหิตของพระเยซูถูกตั้งไว้เพื่อการเข้าใกล้พระองค์
ไม่ใช่ว่าวันไหนเราอารมณ์ไม่ดี เราโมโห เราโกรธ มีกิเลสตัณหา เราทำบาปอยู่ ตอนนั้นคือตอนที่เราเป็นคริสเตียนศาสนาอยู่ คือเรากลัวเราไม่อยากมาใกล้ เราอายพระเจ้า เรากลัวว่าพระเจ้าจะไม่ต้อนรับเรา
แต่เดี๋ยวนี้นะครับขอบพระคุณพระเจ้า สำหรับพระโลหิตที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ พระโลหิตที่มีค่ามากมาย เราเข้ามาครับ เราเข้ามาใกล้พระองค์ และรับพระพร รับสันติสุข รับน้ำแห่งชีวิต รับพลัง รับกฎแห่งพระวิญญาณ รับทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของพระองค์ที่ประทานให้เราแล้ว
ถาม.
"เชื่อเข้าใน" สรุปได้ไหมว่า คือการอยู่ในพระคริสต์ ไม่อยู่ในอาดัม แบบนี้ไหมครับ
ตอบ.
คือเราเชื่อว่าเราอยู่ในพระคริสต์ก่อนครับ เชื่อก่อน เพราะว่าการเลิกทำบาปเรายังเลิกไม่ได้แน่นอน คือเราเชื่อก่อน ว่าเราเชื่อ เชื่อว่าเราอยู่ในพระคริสต์ คือการใช้เวลานะครับ ใช้เวลาอยู่ในการสามัคคีธรรมกับพระเยซูตลอดเวลา นี่คือความหมายที่แท้จริงของคำว่า "เชื่อเข้าใน"
ก็คือเรา ตั้งแต่นี้ไป เราเกิดใหม่ในพระคริสต์ เรารู้แล้ว รู้ความจริงว่าเราเชื่อเข้าในแล้ว คือคำพูดของเราต้องอยู่ในพระคริสต์ อยู่เสมอ เราจดจ่อที่พระเยซูเสมอ
เปาโลเตือนคริสเตียนทั่วไปนะครับว่า เราต้องสามัคคีธรรม เราต้องอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ ก็คือพูดคุยกับพระเยซูอย่างสม่ำเสมอ
** สม่ำเสมอคืออะไรครับ
ก็คือบ่อยๆ ก็คือเป็นประจำ ก็คือทุกเวลา ใครบ้างที่มีแฟน ตอนที่คบกับแฟนใหม่ๆ รู้จักใครใหม่ๆ แล้วชอบรักเขามาก เราขาดเขาไม่ได้ใช่ไหม จะตายนะครับ ต้องโทรไปคุย แชท ทักไปหา บอกว่าคิดถึงๆๆๆๆ ตลอดเวลา คือพระเจ้าต้องการให้เรามีหัวใจแบบนั้นนะครับ ความรักมันเป็นแบบนั้นจริงๆ ครับ
ผมสรุปได้นะครับว่าที่ผ่านมาเมื่อก่อนเราเป็นคริสเตียนศาสนา เราไม่รู้ความจริงข้อนี้ เราก็ไม่เคยบอกรักพระเยซู แล้วก็ไม่เคยสนิทในพระเยซู ไม่เคยพูดคุย ไม่เคยมีความผูกพัน ไม่รู้นะครับว่าพระเยซูอยู่ในเรา ไม่รู้จักความรักที่แท้จริง เราเป็นคนรักของพระเยซูที่ใช้ไม่ได้ ผมพูดถูกไหม เราไม่น่ารักสำหรับพระเจ้านะครับ
แต่ตอนนี้เรารู้ความจริงแล้ว เราขอบคุณพระเจ้านะครับ "เชื่อเข้าใน" ก็คือการ เอาความคิด เอาความรัก เอาความผูกพัน เอาหัวใจ เข้ามาในชีวิตในพระคริสต์