เมื่อมีคนใดคนหนึ่งรับเชื่อพระเยซู พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะบันดาลให้วิญญาณของเขาได้บังเกิดใหม่ (ยน. 3:5–6) คือชุบชีวิตขึ้นมาจากตาย วิญญาณของเขากลายเป็นที่อยู่ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ และเป็นเรือนหรือวิหารของพระเจ้า (ยน.14:16; 1 คร. 6:19–20)
พระเจ้าพระบิดา พระเจ้าพระบุตร และพระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทั้งสามพระภาคเข้ามาอยู่ในวิญญาณของคนนั้น เพราะว่าวิญญาณของเขาได้รับการชำระให้บริสุทธิ์แล้ว โดยพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ (โรม 5:1) เขาได้บังเกิดใหม่ พระวิญญาณเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิญญาณ (โรม 8:16) เข้ามาอยู่ในวิญญาณอยู่กับวิญญาณของเขา และตั้งแต่นั้นมาจะไม่พรากจากกันไปไหนอีกเลย
ถามว่าเมื่อคริสเตียนทำบาป พระวิญญาณจะออกจากเขาไหม? คริสเตียนคนนั้นเมื่อทำบาป วิญญาณเขาไม่ได้ทำ แต่จิตใจของเขาเป็นผู้ทำ จิตใจบังคับให้ร่างกายไปทำบาป แต่วิญญาณไม่มีส่วนในการทำบาปเลย
เมื่อเราทำบาป จิตใจเราทำ และร่างกายเราทำ แต่วิญญาณของเราไม่ได้ทำ พระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่ได้อยู่ฝ่ายเนื้อหนัง หรือสถิตอยู่ในใจ แต่พระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตอยู่ที่วิญญาณ และพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสียพระทัย ไม่ออกจากเราแต่จะเสียพระทัย
เป็นการหักห้ามพระวิญญาณ และดับพระวิญญาณ เมื่อชีวิตของเราอยู่ฝ่ายเนื้อหนังและทำบาป และหันหลังให้กับพระเจ้า หรือไม่สนิทกับพระคริสต์ พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็เสียพระทัย และพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็พยายามทำงาน
ทุกวันนี้เมื่อผู้เชื่อรับเชื่อแล้ว วิญญาณของเขาคือที่อยู่ที่สถิตของพระวิญญาณบริสุทธิ์ และพระเยซูคริสต์ยืนเคาะที่ประตูใจของเราทุกวัน เมื่อไหร่ที่เราเปิดต้อนรับพระองค์ พระเยซูก็จะเข้ามาขยายอาณาเขตจากวิญญาณของเรามาถึงจิตใจของเรา และพระวิญญาณพระคริสต์ก็จะทำงานเพื่อครอบครองจิตใจทีละส่วนของเรา ไม่ว่าจะเป็นความหยิ่ง ความโกรธ ตัณหาของเนื้อหนัง หรือตัณหาของร่างกาย
คริสเตียนเรามีปัญหาสี่ประการด้วยกัน ปัญหาแรก คือความหยิ่งยโส (Pride) ความหยิ่งนี้เป็นสิ่งที่ซาตานหลงตัวเอง มันหยิ่งเพราะว่าคิดว่ามันมีอำนาจ รูปร่างก็สวยงาม และพร้อมที่จะเป็นใหญ่ เพราะฉะนั้น ความหยิ่งเป็นอุปสรรค และเป็นศัตรูตัวร้ายกาจที่จะทำให้คริสเตียนเราไม่สามารถถ่อมได้
เมื่อพระเจ้าครอบครองจิตใจเราทีละส่วน ส่วนแรกคือหยิ่ง เมื่อครอบครองได้แล้วเราก็จะถ่อม และอาณาเขตของพระเยซูคริสต์จะถูกขยายต่อไปอีกในจิตใจ
ปัญหาที่สอง คือความโกรธ (Anger) เมื่อถูกครองครองแล้ว ความโกรธจะถูกความรักเข้ามาแทนที่ เราจะรักมาก และความโกรธจะถูกดับ
ปัญหาที่สาม คือตัณหาของเนื้อหนัง (Lust of the Flesh) ตัณหาของเนื้อหนังไม่ใช่ตัณหาของร่างกาย เป็นคนละอย่างกัน ตัณหาของเนื้อหนังก็คือความต้องการ ความโลภ อยากได้สิ่งต่างๆ หรือความปรารถนา
และเขตปัญหาสุดท้ายของจิตใจ ก็คือปัญหาที่สี่ คือตัณหาของร่างกาย (Lust of the Body) ก็คือความใคร่ หรือเรื่องเพศสัมพันธ์
พระเจ้าจะทำงานขยายอาณาเขตจากวิญญานของเรามาสู่จิตใจ มาสู่สี่ห้องหัวใจนี้ และเมื่อไหร่ที่พระเจ้าครอบครองได้ จิตใจของเราก็จะเป็นผู้ชนะ ก็จะมีชีวิตใหม่ถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วยผลแห่งพระวิญญาณ คือ ความรัก ความดี ความเมตตาปราณี ความสงสาร การอภัยให้ หันแก้มซ้ายฯ เดินไปอีกกิโลฯ และทำทุกสิ่งที่พระเยซูคริสต์ตรัสในมัทธิวบทที่ 5–7 ได้ เป็นชีวิตของผู้ชนะ และเป็นชีวิตที่อยู่ในสันติสุขกับพระเจ้าทุกวันเวลา
ต้องทำอย่างไรบ้าง เพื่อให้พระวิญญาณบริสุทธิ์และพระคริสต์ได้ขยายอาณาเขตจากวิญญาณของเรามาสู่จิตใจ อฟ. 3:17 บอกว่า “เพื่อพระคริสต์จะสร้างบ้านอยู่ในจิตใจของท่านโดยความเชื่อ” ก็คือโดยความเชื่อ เราไม่อ้อนวอนขอให้พระเยซูขยายบ้านจากวิญญาณเข้ามาอยู่ในจิตใจของเรา เราไม่รักษาชีวิต และเราไม่พยายามเชื่อฟังเพื่อจะได้พระวิญญาณ เพื่อจะได้พระเยซูคริสต์ขยายบ้านเข้ามาสู่จิตใจของเรา แต่โดยทางความเชื่อครับ คือเชื่อว่าพระเยซูเข้ามาแล้ว และเชื่อว่าพระเยซูครอบครองแล้ว ผลที่เราจะเห็นก็คือชีวิตจิตใจใหม่ แต่ต้องใช้เวลาครับ
การดำเนินชีวิตในฝ่ายวิญญาณ การดำเนินชีวิตในพระวิญญาณ และการดำเนินชีวิตในจิตใจใหม่ไม่มีทางลัดครับ ต้องใช้เวลา ไม่รู้อีกนานเท่าไหร่ และไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหน แต่เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า ที่จะให้เราโตตามขนาดของความเชื่อของเรา และที่จะให้เราโตตามกำหนดเวลา แต่ขึ้นอยู่กับการที่เราร่วมมือกับพระเจ้ามากแค่ไหนด้วยครับ