"ความเชื่อ ความจริง และประสบการณ์" (มานาที่ซ่อนไว้)
- ความเชื่อและการเชื่อเอา ไม่ใช่อันเดียวกัน
ความเชื่อมีสองความเชื่อและการเชื่อเอาก็มีสองเชื่อเอา
ความเชื่อ คือการยอมรับว่าสิ่งที่ตามองไม่เห็นนั้นมีจริง (ฮบ 11:1) คือการเชื่อในอำนาจของพระเจ้าว่าทำได้ เชื่อว่ามีพระเจ้า
เรามีความเชื่อและใช้ความเชื่อของเราก่อน เมื่อเป็น คต. พระเยซูจะเชื่อแทนเรา (กท 2:20) เราจึงย้ายภูเขาได้ (เห็นการอัศจรรย์) ความเชื่อแรกคือเชื่อของเรา เรามึก่อนเชื่อ ส่วนความเชื่อที่สองเรามีตอนที่รับเชื่อ แต่ต้องรับการช่วยเหลือจากพระเจ้า เราจึงจะเห็นความเชื่อที่สองนี้ปรากฏ
"การเชื่อเอา"
เมื่อรับมานา เราเริ่มได้รู้และเข้าใจความหมายของคำว่าเชื่อเอา คืออะไรและเพื่ออะไรและการนำใช้มัน.
แต่การเชื่อเอาดังกล่าวคือการเชื่อเอาของเราเอง เพราะว่าเราต้องฝึกเชื่อเอานี้นานพอสมควรเพื่อจะเข้าสู่การเชื่อเอาแทนของพระเยซู
ขั้นตอนในการฝึก เพื่อจะได้เห็นการเชื่อเอาของพระคริสต์มาแทนที่การเชื่อเอาของเรานั้นต้องผ่านขั้นตอนคือ นับ ถวายตัว สนิท สะสมมานา ในแต่ละวัน
ทำไมการฝึกสี่ขั้นตอนดังกล่าวดูเหมือนยากและหนัก เพราะว่าพระเจ้าต้องการให้เราเห็นอย่างชัดเจนและยอมรับว่าความเชื่อและการเชื่อเอาของเรามันใช้ไม่ได้ และการเข้าสู่ประสบการณ์ชีวิตพระคริสต์ มันต้องใช้เวลา เราจะดีกว่าหรือเก่งกว่าเปาโลและผู้ชนะอื่นๆ ไม่ได้ สุดท้ายทุกสิ่งก็จะง่ายขึ้น
พน. ที่รับมานาในเมืองไทยเพิ่งมีประสบการณ์ชีวิตล้ำลึกนี้ได้ไม่ถึงสี่ปี เมื่อฝึกและไม่เห็นผลมากพอ เราอย่าเพิ่งสรุปว่า บทเรียนผู้ชนะ ใช้ไม่ได้ เนื่องจากเรายังไม่มีตาเหมือนนกอินทรีย์
มานาที่ซ่อนไว้ ซึ่งในอเมริกาเรียกว่า ความรู้ล้ำลึก deeper knowledge ไม่ใช่มาจากผม (อ...) หรือเริ่มจากผม หรือผมเป็นคนวางรากฐานเพื่อให้เรารับและฝึก แต่พี่น้องผู้ชนะในอเมริกานำไปใช้และเห็นผลมานานแล้ว
แต่มีพี่น้องหลายคนที่ตายังไม่เปิดมากพอ แต่กลับหลงไปคิดว่ารู้หรือพระเจ้าเปิดตาโดยพระวิญญาณจึงคิดว่ามานาไม่ดีและเมื่อฝึกด้วยวิธีที่ตนคิดว่าได้ผล จึงไม่สุกงอม แต่กลับกลายเป็นเหมือนกลุ่มฟื้นฟูที่หลุดออกไปจาก ความรอบรู้ในการฝ่ายวิญญาณ ของพระเจ้า
ขอให้เราอธิษฐานเผื่อพี่น้องทุกคนให้ "ถ่อมถึงดิน" และเรียนรู้ไปด้วยกัน เพื่อเราจะมีมงกุฏแห่งสง่าราศีในอาณาจักรแห่งสวรรค์
ขอบคุณพี่น้อง...ที่เอ่ยถึงคำว่า กรีก และ ภาษาไทย ว่าไม่ตรงกัน
และสิ่งที่พวกเราตามหามากที่สุดก็คือ "รอบรู้ในการฝ่ายวิญญาณ"
โคโลสี 1:9 เพราะเหตุนี้พวกเราเหมือนกัน นับตั้งแต่วันที่เราได้ยิน ก็ไม่ได้หยุดในการที่จะอธิษฐานขอเพื่อท่าน และปรารถนาให้ท่านเต็มไปด้วยความรู้ถึงพระประสงค์ของพระองค์ในสรรพปัญญาและในความเข้าใจ"การฝ่ายวิญญาณ"
...
ถาม.
เราไม่มีตัวตนจริงหรือ แต่พระคริสต์เป็นตัวใหม่ของเราเท่านั้นหรือ
ตอบ.
ไม่จริง เราก็มีชีวิต มีตัวตน คือวิญญาณใหม่ จิตใหม่ และร่างกายใหม่ ซึ่งพระคริสต์เป็นผู้ครอบครอง (ใน กท 2:20 มีสี่คน สองคนเก่าตายที่กางเขน และสองคนใหม่เป็นอยู่ที่นี่)
...
ถาม.
เมื่อทำบาป ตัวบาปทำในเรา เราไม่ได้ทำ เพราะว่าเราใหม่แล้วจริงหรือ.
ตอบ.
ไม่จริง เพราะว่าในพระคริสต์ไม่มีการทำบาป ในพระคริสต์ไม่มีช่องว่าง ไม่มีห้อง ไม่มีที่อยู่ให้คำว่า ทำบาป คือทำบาปไม่ได้ เหมือนเรือที่ไม่อาจจะจมน้ำได้ เพราะว่ามันไม่รั่ว เมื่อตัวบาปทำบาปในเราก็คือเราเนื้อหนังในอาดาม ไม่ใช่ในพระคริสต์
...
ถาม.
ทำไม เราเชื่อเอาทุกวันว่าใหม่ แต่เรายังไม่เห็นชีวิตพระคริสต์ทำแทน
ตอบ.
ก็เพราะว่า เรายังเชื่อเอาด้วยการเชื่อเอาของเราเอง พระคริสต์ยังไม่มาเชื่อเอาแทนเรา เราจะเชื่อเอาร้อยครั้งพันครั้งต่อวัน ก็ไม่อาจนำประสบการณ์พระคริสต์ทำแทนเข้ามาได้
การเชื่อเอา สิ่งเดียวซึ่งปราศจากการระลึก (นับ) และสนิท สะสมมานาและถ่อมถึงดินต่อผู้ที่มีของประทานเปิดเผยการฝ่ายวิญญาณ ก็จะสำเร็จไม้ได้
เราต้องรับการเปิดตาจริงๆ การฝึกของเราจึงจะเบาและนำไปสู่ความสำเร็จได้
ทำไมเราต้องนับว่าตาย แทนที่จะเชื่อเอา คำตอบคือพระเยซูและเปาโลสั่ง ลก 9:23 โรม 6:11 ว่าต้องนับ
...
ถาม.
ทำไมเราต้องสารภาพ เพราะเราเชื่อเอาว่าเราใหม่แล้วไม่ใช่ตัวเก่า เราไม่ทำบาปแล้ว เราอย่าจดจ่อปักใจที่เนื้อหนัง
ตอบ.
เวลาที่คนคนนี้ทำบาป คนนี้ไม่ได้อยู่ในพระคริสต์จริงๆ เพราะว่า ชีวิตผู้ชนะในพระคริสต์ทำบาปไม่ได้ เพราะฉนั้น คนนี้ทำบาปจึงเป็นเนื้อหนัง จนกว่าการฝึกเดินจะเติบโต การที่เราพูดว่าตัวเก่าของเราทำบาปหรือหลุดไปเป็นเนื้อหนัง ไม่ใช่ว่าเราปักใจที่เนื้อหนัง การปักใจจดจ่อไปที่เนื้อหนังคือการรักชอบในสิ่งของฝ่ายโลกนี้ต่างหาก
...
ถาม.
เราไม่ควรใส่ใจจดจ่อที่การสารภาพ เพราะจะทำให้เราฟ้องผิด เรามัวแต่สารภาพและไปทำบาปและกลับมาสารภาพอีก วนอยู่อย่างนี้ เราก็จะไม่ไปถึงไหน....
ตอบ.
ไปถึงครับ เราจะไปถึงการชำระด้วยพระวิญญาณ เพราะว่า พระเจ้าจะไม่ปล่อยให้เราวนอยู่อย่างนั้น เรายิ่งสารภาพเราก็รับการทำงานของพระเจ้ามากยิ่งขึ้น ถ้าไม่อยากให้การสารภาพเป็นภาระหนัก เราก็สารภาพทีเดียวพูดคำเดียวว่า ทุกสิ่งที่ข้าทำผิดในวันนี้ ข้าขอโทษ เราจะไม่มานั่งนับและสารภาพทีละอย่างเหมือน คต. ศาสนาเขาทำกัน