ถาม.
ความแตกต่างระหว่างการดำเนินชีวิตคริสตจักรในรูปแนวของศาสนา กับในรูปแนวของชีวิต คืออย่างไรครับ
ตอบ.
ความแตกต่างมีเยอะมากครับ การที่จะนมัสการพระเจ้า รับใช้ ปรนนิบัติ หรือร่วมกันในฐานะของคริสตจักรที่เกี่ยวกับชีวิตนะครับ เน้นที่ความสัมพันธ์ ความผูกพัน เอาความรักเป็นหลัก ความรักเป็นใหญ่ ความรักต้องมาก่อนเพื่อน การตำหนิ การตัดสิน การลงโทษ ไม่มีนะครับ ถ้าสมมุติว่ามีการตัดสินลงโทษ ก็คือด้วยความรัก ด้วยใจอ่อนสุภาพ การตักเตือน การว่ากล่าว ก็คือด้วยความรัก ด้วยความอ่อนสุภาพนะครับ
และเรามองทุกคนใหม่หมด เน้นชีวิตเป็นหลัก คือให้พี่น้องที่เข้ามานะครับคือมันมีความแตกต่างอยู่อย่างหนึ่งน่ะ การอยู่ในคริสตจักรที่มีชีวิต ก็คือไม่อบอ้าว คืออบอุ่นใช่ไหม
ถ้าไปในคริสตจักรศาสนารูปแนวศาสนา เราเข้าไปปุ๊บเราจะรู้สึกอบอ้าว คืออบอ้าว คือร้อนอกร้อนใจ คือไม่สบายใจ ไม่มีความสุข
ยกตัวอย่างการมองพี่น้องนะครับ พี่น้องก็จะมองหรือแยกกลุ่ม หรือชนชั้น หรือคนนู้นคนรวย คนนี้คนจน หลายเรื่องนะครับ แล้วก็คำสอนนะครับ คำสอนก็แตกต่าง ก็คือการสอนเขาจะเน้นที่การปฏิบัติ การทำ การรับใช้ ถ้าไม่อย่างนั้นจะต้องถูกลงโทษ พระเจ้าจะต้องตีสอน ถ้าไม่อย่างนั้นจะไม่รอด คือสิ่งเหล่านี้ก็คือเป็นคำสอนที่ในรูปแนวของศาสนา ที่เน้นเรื่องการกระทำ เรื่องการปฏิบัติ
แต่สำหรับเรื่องชีวิตนะครับ คือพระเจ้าเข้าใจ เราป่วย ไม่เป็นไร ทำตามขนาดของความเชื่อ ทุกสิ่งที่เปาโลพูดน่ะ เป็นเรื่องของรูปแนวชีวิตทั้งนั้น เอเมน
สิ่งที่เป็นประเด็นเป็นเรื่องใหญ่ที่บ่งบอกว่าเป็นความแตกต่างระหว่าง ศาสนาและชีวิต
ก็คือเน้นที่ความรักเป็นหลัก ความรักเป็นใหญ่ ไม่ตัดสินกัน ค่อยๆ เลี้ยงดู เสริมสร้าง ล้างเท้ากันไป ทำตามขนาดของความเชื่อครับ
แล้วก็เน้นที่ไม่มีใคร เด่น ดี ดัง เกินใคร ทุกคนเป็นพี่น้องในพระคริสต์ เป็นน้องๆ ของพระเยซู ไม่มีใครเป็นอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่นะครับ คือผมนะครับเป็นอาจารย์มีของประทานในการเป็นอาจารย์ แล้วก็หลายคนนะครับ อาจารย์ในที่นี้นะครับ ก็คืออาจารย์ที่ต่ำต้อย เป็นผู้เลี้ยงแกะ เป็นคนที่ไม่ถือตัว ไม่อวดตัว ไม่อวดเก่ง (อวดดี อวดฉลาด ไม่ฟังใครเนี้ย อันนี้ไม่ควรทำนะครับ) เราเป็นอาจารย์ผู้ต่ำต้อย และเป็นอาจารย์เป็นครูสอนนะครับ ซึ่งเรารักพี่น้องและมองพี่น้องเท่ากับเราเท่ากัน แต่มีผู้ยิ่งใหญ่คนเดียวเป็นเจ้านายผู้เดียวเป็นศีรษะคนเดียว ก็คือพระเยซู
คือเราเดินเข้าไปในคริสตจักรชีวิต เราจะรู้สึกว่าได้รับชีวิต เริ่มเลยน่ะได้รับชีวิต ชีวิตน่ะเริ่มแพร่กระจายเคลื่อนไหวในคริสตจักร เราจะเห็นความรักฟุ้งซ่าน เห็นอาการของชีวิตมันโกลว์ (glow) มันเต็มล้นเกิดขึ้นนะครับ
แต่ไม่เหมือนกับคริสตจักรศาสนา เราเข้าไปปุ๊บเนี้ยะจะรู้สึกว่า มันเงียบเหงาเหมือนป่าช้าก็มีน่ะบางครั้ง แล้วก็บางครั้งก็แบบมันไม่มีใครเป็นมิตรเรา ไม่มีใครสนใจเรา เราเข้าไปเหมือนโดดเดี่ยวเดียวดาย แล้วก็สายตาก็มองเราแบบแปลกๆ ใช่ไหม แล้วก็คำเทศนาก็ตัดสินเรา คือเรากลัวไปหมดนะครับ มันอบอ้าวมันอยู่ยาก นี่แหละคือคริสเตียนหรือคริสตจักรศาสนา อันนี้เราทุกคนมีประสบการณ์กันแล้วใช่ไหมในคริสตจักรศาสนานะครับรูปแนวศาสนา
แต่คริสตจักรชีวิต ก็คือเราเข้าใจกัน อะลุ่มอล่วย เอาความรักเป็นหลัก เอาความรักเป็นใหญ่
แล้วก็ผู้รับใช้นะครับที่มีภาระใจที่จะก่อตั้งคริสตจักร น่าจะต้องมีสองสามคนที่มีหัวใจมีความคิดอันเดียวกัน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อที่จะรักษาคริสตจักร และก่อตั้งคริสตจักร และทำให้คริสตจักรเติบโต
ต้องมีสองสามคนที่มีหัวใจเดียวกัน มานั่งคุยกัน สามัคคีธรรมนะครับ บอกว่า พระเยซูเราจะทำแบบไหน เราจะทำยังไง และสามคนนี้นะครับก็คือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจริงๆ ไม่ต้องการเป็นใหญ่ ต้องการให้คริสตจักรของพระเยซูเที่ยงแท้เกิดขึ้น
ก็อธิษฐาน นมัสการร่วมกัน สามัคคีธรรมร่วมกัน และชวนพี่น้องมานะครับ และรูปแนวชีวิต ก็คือใช้ อย่างที่ผมพูดนะครับใช้ความรักเป็นหลัก และคำสอนก็คือเอาคำสอนที่ไม่มีเชื้อมาแบ่งปัน มาเผยพระวจนะ
ถ้าเป็นไปได้นะครับมีโอกาสผมจะทำคลิป แล้วก็อธิบายเรื่องเกี่ยวกับการก่อตั้งคริสตจักรตั้งแต่แรก จนถึงคริสตจักรเติบโตนะครับ ว่าเราต้องทำอะไรบ้าง ทำยังไงบ้าง ทำแบบไหน วิธีที่จะทำให้เป็นคริสตจักรที่มีชีวิต
ซึ่งสำหรับคำอธิษฐานนะครับผมเห็นพี่น้องเราอธิษฐานบ่อย ยังอธิษฐานอยู่ก็คือ (เราถวายพระองค์ด้วยตัวใหม่ เราทุกคนใหม่แล้ว) อันนี้คือถ้าเราอยู่ในคริสตจักรที่มีชีวิตนานแล้วนะครับ เราจะไม่พูดสิ่งนี้นะครับ สำหรับพี่น้องที่เป็นพระกายเที่ยงแท้ที่เป็นคริสตจักรผู้ชนะในอเมริกาเขาจะหยุดพูดนะครับ (เป็นคนใหม่แล้ว ขอถวายตัวใหม่) ไม่น่ะ เราบอกว่า "ขอถวายชีวิตนี้ให้พระองค์" เพราะว่ามันใหม่แล้วไง รู้แล้วว่าใหม่ และชีวิตที่ถวายเนี้ยะก็คือใหม่ ทุกคนก็รู้แล้วนะครับ แต่การสั่งสอน การเผยพระวจนะ การแบ่งปันนะครับอันนี้เป็นจุดที่สำคัญที่เราอธิบายกับพี่น้องที่มาใหม่ให้รู้ว่าการถวาย การนมัสการ การทำทุกสิ่ง การรับใช้ การทำด้วยตัวใหม่คนใหม่ แล้วคนใหม่มาจากไหน ก็อธิบายนะครับ
สำหรับผมเองนะครับประสบการณ์ชีวิตคริสเตียน 18 ปี ที่อยู่ในสังคมคริสเตียนศาสนา ผมไม่เคยพอใจในคริสตจักรของพระเจ้า ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน กลุ่มไหน คณะนิกายไหน ผมไปมาหลายคณะหลายนิกาย คืออยากเติบโตไง อยากเป็นคริสเตียนที่ดี อยากไปโบสถ์ที่ช่วยให้ผมเติบโตเป็นคริสเตียนตามน้ำพระทัย แต่สุดท้ายนะครับก็คือล้มเหลวไม่เคยเจอคริสตจักรที่ผมพอใจ แล้วก็ไม่ใช่ด้วย มันไม่ใช่ แล้วเราทุกคนก็รู้ดีใช่ไหมว่ามันไม่ใช่นะครับ อันนี้ไม่ได้ตำหนิเขานะครับแต่เป็นความจริงเราพูดความจริงนะครับ
คือกลุ่มไฟผมก็ไปมาแล้ว แล้วก็เป็นผู้นำด้วยนะครับ คือไปชวนพี่น้องนะครับพูด แล้วก็เกี่ยวกับไฟเนี้ยะคือผมร้อนแรงมากเป็นคนที่ร้อนแรงร้อนรนมาก แล้วก็ภาษาแปลกๆ โอ้ ผมคือมันเต็มที่นะครับ และสุดท้ายนะครับก็ไปอยู่ในคริสตจักรแบ๊บติสต์คริสตจักรที่เน้นความรู้ ก็ไม่มีอะไร สุดท้ายไปหลายคริสตจักรก็ยอมแพ้นะครับ ก็ยอม ก็บอกพระเจ้าว่าจะไม่ไปล่ะ ไม่เข้าโบสถ์ไม่ไปโบสถ์ คือแค่เชื่อพระเยซูก็พอแล้วโอเค
แต่สุดท้ายนะครับก็คือ..
รู้ว่าพระเยซูต้องการให้มีคริสตจักรเที่ยงแท้
เราต้องการพระกาย พระกายต้องการเรา
เราอยู่โดดเดี่ยวเดียวดายไม่ได้
พระเจ้าสร้างเรามานะครับ เพื่อให้ดำเนินชีวิตในพระคริสต์ สำแดงพระคริสต์ แต่ยังไม่พอนะครับ
พระเจ้าสร้างเรามาเพื่อให้มีคริสตจักร อยู่ในคริสตจักร และมีส่วนในคริสตจักรของพระองค์ เอเมน