2:1 แต่มีพวกผู้พยากรณ์เท็จอยู่ท่ามกลางประชากรด้วย เช่นเดียวกับที่จะมีอาจารย์เท็จอยู่ท่ามกลางพวกท่าน ผู้ซึ่งจะแอบนำคำสอนนอกรีตอันถูกสาปแช่งเข้ามา โดยถึงกับปฏิเสธองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ได้ทรงไถ่พวกเขาไว้ และจะนำความพินาศอย่างฉับพลันมาถึงตนเอง
** พวกผู้พยากรณ์เท็จ คือผู้เผยพระวจนะ หรือครู ผู้นำ อาจารย์ ที่มีหน้าที่ป้อนอาหารภายในแต่ละคริสตจักรที่นำคำสอนที่ไม่ได้มาจากพระวิญญาณ แต่มาจากความคิดความเข้าใจของพวกเขาเอง พวกเขาจะนำเสนอความรู้ใหม่ ๆ และเห็นว่าดีต่อผู้เชื่อจนบางครั้งไม่ยอมรับว่าพระเยซูเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าก็มี ซึ่งผู้ที่สอนว่าพระเยซูไม่ใช่พระเจ้าก็จะถูกลงโทษจนถึงตายได้ และคำสอนนี้ถูกนับว่าเป็นพวกเทียมเท็จ
2:2 และหลายคนจะติดตามบรรดาทางแห่งการสาปแช่งของพวกเขา ด้วยเหตุคนเหล่านี้ทางแห่งความจริงจะถูกกล่าวร้าย
** พวกที่สอนบิดเบือนความจริงแห่งพระคำพระเจ้า ส่วนมากมักจะกล่าวร้ายคนที่อยู่ในคำสอนแห่งความจริงว่าหลงทางจนทำให้ผู้เชื่อสับสน และหลงไปเชื่อในคำสอนเท็จของพวกเขา
2:3 และเพราะความโลภ พวกเขาจะกล่าวคำตลบตะแลงเพื่อค้ากำไรจากพวกท่าน ซึ่งการพิพากษาของพวกเขาเมื่อนานมาแล้ว บัดนี้ไม่เนิ่นช้า และพระอาชญาของพวกเขาก็ไม่หลับใหลไป
** ผู้เชื่อและผู้นำมากมายมองเห็นการรับใช้เป็นธุรกิจ พวกเขาจึงทำทุกสิ่งเพื่อหวังผล เงินเดือน ค่าจ้างรางวัล ถ้าหากคริสตจักรไหนให้เงินเดือนมากก็ย้ายไปอยู่ที่นั่น และถ้าหากคริสตจักรไหนไม่มีเงินเดือนให้ หรือให้น้อยก็ไม่อยากอยู่เพื่อรับใช้ เราพบว่าคนเหล่านี้จะถูกตีสอนเป็นแน่
2:4 เพราะว่า ถ้าพระเจ้าไม่ได้ทรงยกเว้นพวกทูตสวรรค์ที่ได้ทำบาปนั้น แต่ได้ทรงผลักพวกเขาลงไปสู่นรก และได้มอบพวกเขาให้อยู่ในบรรดาเครื่องจองจำแห่งความมืด เพื่อที่จะถูกคุมไว้สำหรับการพิพากษา
** มีทูตสวรรค์มากมายที่เชื่อว่าเป็นพวกแรกที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้า และถูกกักขังที่ใต้แผ่นดินโลกเพื่อรอการพิพากษาครั้งสุดท้าย
** คำว่า นรก ในที่นี้ ภาษาไทยแปลผิด มันคือสถานที่ที่อยู่ใต้แผ่นดินโลก ταρταρόω (กรีกคือ ทา ทา รู)
2:5 และไม่ได้ทรงละเว้นโลกสมัยโบราณนั้น แต่ได้ทรงช่วยโนอาห์ คนที่แปดนั้นให้รอด ผู้ประกาศความชอบธรรม โดยทรงบันดาลให้น้ำท่วมโลกของคนอธรรม
2:6 และโดยการกระทำให้เมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์กลายเป็นเถ้าถ่าน ทรงลงโทษพวกเขาด้วยการทำลายล้าง โดยทำให้พวกเขาเป็นแบบอย่างแก่คนทั้งหลายต่อไปที่จะดำเนินชีวิตอย่างอธรรม
** สำหรับพระเจ้า การทำลายล้างเป็นสิ่งจำเป็นที่พระองค์ต้องทำต่อบางคน บางกลุ่ม บางเมือง และบางเวลา เนื่องจากว่าการกลับใจจะไม่มีท่ามกลางพวกเขา คือพระเจ้าสิ้นหวังกับคนเหล่านั้นแล้ว จึงต้องทำลายล้างพวกเขา เพื่อไม่เกิดผลเสียอย่างมากมายอีกต่อไป
2:7 และได้ทรงช่วยโลทผู้ชอบธรรมให้รอดพ้น ผู้มีความทุกข์ใหญ่หลวงเพราะเหตุการประพฤติลามกของคนชั่วเหล่านั้น
** เรื่องของโลท เป็นตัวอย่างเพื่อเราจะได้เรียนรู้น้ำพระทัยพระเจ้าว่า การหนีออกมาเหมือนโลท ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นผู้กระทำผิด แต่เนื่องจากว่ามีการกระทำผิดที่ไหนที่ไม่กลับใจ พระเจ้าจำต้องให้คนที่แสวงหาพระเจ้าและถ่อมใจจริงๆ ออกมาเพื่อไม่ให้เขาล่มจม และถูกสาปแช่งไปพร้อมกับพวกเขา
2:8 (ด้วยว่าคนชอบธรรมนั้น ซึ่งได้อาศัยอยู่ในท่ามกลางเขาเหล่านั้น ในการเห็นและได้ยิน ทำให้จิตใจที่ชอบธรรมของท่านก็เป็นทุกข์เป็นร้อนทุกวัน ๆ ด้วยการประพฤติที่ผิดพระราชบัญญัติของคนเหล่านั้น)
** การประพฤติที่ผิดพระบัญญัติ ในที่นี้ ไม่ควรแปลว่า พระบัญญัติ แต่ควรแปลว่า การดำเนินชีวิตที่ไม่ชอบธรรม
2:9 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทราบวิธีที่จะช่วยคนที่ตามทางของพระเจ้าให้รอดพ้นจากการทดลองต่าง ๆ และที่จะสงวนคนอธรรมไว้สำหรับวันแห่งการพิพากษาเพื่อที่จะถูกลงโทษ
** วิธีการของพระเจ้าต่อผู้เชื่อ และคนที่ไม่เชื่อในสมัยของโนอาห์ คือผู้ที่ดำเนินชีวิตอยู่ในความชอบธรรมจะได้รับการดูแลจากพระเจ้า และพ้นจากการทดลองมากมาย ส่วนคนอธรรมจะต้องถูกลงโทษ
2:10 โดยเฉพาะคนเหล่านั้นที่่ปล่อยตัวไปตามเนื้อหนัง ในราคะตัณหาแห่งความโสโครก และหมิ่นประมาทผู้ใหญ่ที่มีอำนาจ คนเหล่านี้ทะนงตนและประพฤติตามอำเภอใจ เขาไม่สะทกสะท้านที่จะกล่าวประณามผู้ที่มีบรรดาศักดิ์
** ราคะตัณหาแห่งความโสโครก คือ...ภาษากรีกคือ μιασμός, οῦ, ὁ ไม่บริสุทธิ์ หรือเป็นมลทิน
** หมิ่นประมาทผู้ใหญ่ที่มีอำนาจ คือ...เปโตรกล่าวถึงพระเยซู
** ผู้ที่มีบรรดาศักดิ์ คือ...เหล่าทูตสวรรค์ทั้งหลายและผู้นำที่เป็นมนุษย์ทั้งคนที่เชื่อและไม่เชื่อที่ได้รับการแต่งตั้งมาจากพระเจ้า
2:11 แต่ฝ่ายทูตสวรรค์แม้ว่ามีฤทธิ์และกำลังมากกว่า ก็หาได้กล่าวประณามคนเหล่านั้นหน้าพระพักตร์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่
** คนเหล่านั้น ในข้อนี้ คือ...มนุษย์ทั้งคนที่เชื่อและไม่เชื่อที่ได้รับการแต่งตั้งมาจากพระเจ้า (ดูข้อที่ 10)
2:12 แต่ว่าคนเหล่านั้นเป็นเหมือนสัตว์เดียรัจฉานที่ปราศจากความคิด เป็นสัตว์ที่ทำตามสัญชาตญาณ เกิดมาเพื่อถูกจับและถูกฆ่า เขากล่าวประณามสิ่งที่เขาไม่เข้าใจเลย เขาจะต้องพินาศในการชั่วร้ายของตนเอง
** แต่ว่าคนเหล่านั้น คือ “คนอธรรม” ในข้อที่ 9 และ “คนเหล่านั้น” ในข้อที่ 10
** กล่าวประณามสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ หมายถึง...เรื่องพระเจ้า พระเยซู ทูตสวรรค์ สวรรค์ นรก ฯลฯ
2:13 และจะรับบำเหน็จแห่งการอธรรม เหมือนคนที่ถือการเสเพลเฮฮาในเวลากลางวันเป็นความเพลิดเพลิน เขาด่างพร้อยและมลทิน และประพฤติการเสเพลเฮฮาด้วยการหลอกลวงของตนเอง เมื่อกำลังกินเลี้ยงรวมกับท่านทั้งหลาย
** ค่าจ้างแห่งการอธรรม คือการทนทุกข์ทรมาน นี่คือผลตอบแทนหรือค่าจ้างสำหรับมนุษย์ที่การทำสิ่งที่ไม่ดีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เนื่องจากว่าพระเจ้าทรงเป็นองค์ยุติธรรมและเที่ยงธรรม
2:14 ตาเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาแห่งการล่วงประเวณี และเขาหยุดกระทำบาปไม่ได้เลย เขาวางกับดักคนที่มีจิตใจไม่มั่นคง เขามีใจชินกับการโลภ เขาเป็นลูกแห่งความสาปแช่ง
2:15 เขาสละทิ้งทางถูกต้อง หลงไปในทางผิด ดำเนินตามทางของบาลาอัมบุตรชายเบโอร์ ผู้ที่ชอบบำเหน็จแห่งการอธรรม
** บาลาอัม คือผู้เผยพระวจนะชาวต่างชาติที่เชื่อและเคารพองค์พระผู้เป็นเจ้าของชนชาติอิสราเอล เพียงแต่ว่าเขากระทำผิดที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้า (กันดารวิถี 22)
2:16 แต่บาลาอัมก็ได้ถูกติเพราะการที่เขาได้กระทำความชั่วช้านั้น ลาใบ้ตัวนั้นพูดเป็นภาษามนุษย์ และได้ยับยั้งอาการคลุ้มคลั่งของศาสดาพยากรณ์คนนั้น
2:17 คนเหล่านี้เป็นบ่อที่ไร้น้ำ เป็นเมฆที่ถูกพายุพัดไป ทรงเตรียมหมอกแห่งความมืดทึบไว้แล้วสำหรับคนเหล่านั้นเป็นนิตย์
2:18 เพราะว่าเขาพูดเย่อหยิ่งอวดตัว และเขาใช้ความปรารถนาแห่งเนื้อหนังกับความกำหนัด เพื่อจะล่อลวงคนทั้งหลายที่กำลังหนีไปจากคนเหล่านั้นที่่หลงประพฤติผิด
2:19 เขาสัญญาว่าจะให้คนเหล่านั้นพ้นจากการเป็นทาส แต่ตัวเขาเองยังเป็นทาสของความหายนะ เพราะว่ามนุษย์พ่ายแพ้แก่สิ่งใด เขาก็เป็นทาสของสิ่งนั้น
** สรุป ท่านเปโตรกล่าวโดยพระวิญญาณถึงบรรดาคนที่ไม่เชื่อที่จะไม่รอด และจะถูกพิพากษา เนื่องจากว่าตั้งแต่เกิดจนถึงวันตายพวกเขาไม่แสวงหาพระเจ้า และความรอด และใช้ชีวิตที่ไม่บริสุทธิ์ และทำร้ายทำลายผู้อื่น และดูหมิ่นพระเจ้าทั้งพระเยซู และผู้มีอำนาจทั้งหลายที่เป็นมนุษย์ และทูตสวรรค์ที่มาจากพระเจ้า
2:20 เพราะว่าถ้าหลังจากที่เขาพ้นจากสรรพมลทินของโลกนี้แล้ว ด้วยการที่เขารู้เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า และพระผู้ช่วยให้รอด เขากลับเกี่ยวข้องและพ่ายแพ้แก่การชั่วนั้นอีก บั้นปลายของเขาก็กลับชั่วร้ายยิ่งกว่าตอนต้น
- สรรพมลทินของโลก คืออะไรบ้าง?
** ข้อที่ 20 คือทุกสิ่งที่เป็นมลทินที่ไม่บริสุทธิ์ ภาษาอังกฤษ คือ pollution
- การเกี่ยวข้องกับการชั่วร้าย ในที่นี้ คืออะไร คือการปฏิเสธพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด และปฏิเสธพระเยซูว่าไม่ใช่พระคริสต์หรือไม่ หรือคือการกลับไปอยู่ใต้พระบัญญัติ?
** การเกี่ยวข้องกับการชั่วร้าย คือเมื่อพวกเขา รับคำสอนเรื่องการปฏิเสธพระเยซู ความรักก็ไม่มี พระวิญญาณก็ไม่อยู่ด้วย ชีวิตก็ยิ่งจะทุกข์ ผีมารซาตาน ครอบคลุม และใช้ ให้ทำบาปมากกว่าเก่า
2:21 เพราะว่าถ้าเขาไม่ได้รู้จักทางชอบธรรมนั้นเสียเลยก็ยังจะดีกว่าที่เขาได้รู้แล้ว แต่กลับหันหลังให้พระบัญญัติอันบริสุทธิ์ที่ได้ทรงโปรดประทานให้แก่เขานั้น
- อะไรคือทางชอบธรรม?
- อะไรคือทางอธรรม?
- พระบัญญัติอันบริสุทธิ์ ในที่นี้ คืออะไร?
** ข้อที่ 21 ทางชอบธรรมสำหรับพระเจ้า ก็คือการเดินด้วยตัวใหม่ เดินในฝ่ายวิญญาณ โดยมีพระคริสต์ทำแทน และกระทำทุกสิ่ง ตามน้ำพระทัยของพระเจ้า
** ทางอธรรม คือการดำเนินชีวิตใช้ชีวิตด้วยเนื้อหนัง ชีวิตจม อยู่ในกิเลสตัณหาโลภโกรธหลง และถึงแม้ว่าการทำดี ก็ไม่ได้เป็นที่ยอมรับของพระเจ้า และยังถูกเรียกว่าการอธรรม อยู่ดี
** พระบัญญัติอันบริสุทธิ์ ในที่นี้ เปโตรพูดถึง พระบัญญัติใหม่แล้ว
2:22 พฤติกรรมได้เกิดกับเขาตามสุภาษิตซึ่งเป็นความจริงว่า “สุนัขได้กลับกินสิ่งที่มันสำรอกออกมาแล้ว และสุกรที่ได้ชำระล้างตัวแล้วก็กลับลุยลงไปนอนในปลักอีก”
- ความหมายของพระธรรม ข้อนี้คืออะไร?
** ข้อที่ 22 "สุนัขเล็งถึงชาวต่างชาติ" "สุกรเล็งถึงชาวยิว" เมื่อทั้งสองฝ่าย ได้ยินข่าวประเสริฐ ดูเหมือนจะต้อนรับ พระเยซู เขาเริ่มให้ความสนใจ และเข้ามามีส่วน ในเรื่องความเชื่อ ซึ่งอาจจะยังไม่ได้บังเกิดใหม่ และในที่สุด ก็ไปรับ ข่าวประเสริฐ ปลอม หรือคำสอนเทียมเท็จ โดยปฏิเสธพระเยซูในที่สุด สุดท้าย ก็กลับไปใช้ชีวิต ที่เป็นมลทิน และอยู่ในการอธรรม อย่างเต็มที่