1. คุณคือปัญหา พระเจ้าจะไม่เปลี่ยนทุกคนและทุกสิ่งให้ถูกใจคุณ แต่จะเปลี่ยนคุณให้ถูกใจทุกคนและทุกสิ่ง
2. การรู้ผิด เชื่อผิด ก็ดำเนินชีวิตผิด
3. จงอากาเป้คือคำสั่งของพระเยซู คุณทำเองไม่ได้
4. การเดินด้วยตัวใหม่ทุกวัน ต้องทำอะไรบ้าง
เราคือปัญหา ไม่ใช่เขา ถ้าหากจิตใจเราดี (ชนะแล้ว) ทุกสิ่งก็จะดีไปหมด ถ้าหากจิตใจเราไม่ดี (ไม่ชนะ) ทุกสิ่งก็จะไม่ดีไปหมด
You are the problem. If your heart is right, everything will be alright. If your heart is wrong, everything will be wrong.
ถ้าหากจิตใจเราดี ทุกสิ่งจะดีไปหมด ถ้าหากจิตใจเราไม่ดี ทุกสิ่งก็จะไม่ดีไปหมด
...
พี่น้องทราบไหมว่าปัญหาเรื่องการเป็นคริสเตียนที่ดีการเป็นสามีที่ดีภรรยา ลูก ผู้รับใช้ ศิษยาภิบาล อะไรก็ตาม การดำเนินชีวิตคริสเตียนไม่ใช่พระเจ้าจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งที่อยู่รอบข้างเรา ให้ถูกใจเราไปหมดแล้วเราจะสมหวังแล้วมีความสุข ปัญหา อยู่นี่ อยู่ที่ตัวท่าน ปัญหาอยู่ที่ตัวคุณ อยู่ที่ตัวผม เรามักจะหวังใช่ไหมว่าพระเจ้าจะต้องเปลี่ยนคนในครอบครัวของเรา
พระเจ้าจะทำให้เราสมหวังพระเจ้าจะนำสิ่งดีๆ เข้ามาสู่ชีวิตของเราแล้วเราจะมีความสุขนี่คือความหวังของชีวิตคริสเตียน อันนี้เป็นการหลงประเด็นเป็นการเข้าใจผิดต่อน้ำพระทัยพระเจ้า ในยุคนี้เป็นยุคที่ทำนา ยุคนี้เราต้องลำบาก ยุคนี้เราจะต้องเป็นคนที่ ต่ำ ถ่อมและยอมเสียเปรียบ พระเจ้าไม่ได้ต้องการจะเปลี่ยนใคร คุณคือปัญหา ถ้าหากจิตใจของคุณดี ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะดีไปหมด แต่ถ้าหากวันไหนจิตใจของคุณไม่ดี เวลาไหนที่จิตใจของคุณไม่ดี ทุกสิ่งก็จะไม่ดีตามไปด้วย
...
สิ่งที่สำคัญก็คือจิตใจของคุณ จิตใจของผม (คุณคือปัญหา)
คุณคือตัวปัญหา ถ้าหากหัวใจของคุณดี ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะดี ไปหมด แต่ถ้าหากหัวใจของคุณ ไม่ปกติไม่ดีทุกสิ่งทุกอย่างก็จะผิดไปหมด ไม่ดีไปหมดผิดหูผิดตาผิดใจเราเพราะฉะนั้นในยุคนี้ เราจะเห็นใช่ไหมมีการฟื้นฟู มีการสัมมนา บทเรียนบทเทศนามากมายเราจะเห็นนะครับทำยังไงถึงจะเป็นคริสเตียนที่ดีได้ทำยังไงถึงจะเป็นพ่อเป็นลูกเป็นภรรยาเป็นสามีเป็นผู้รับใช้ที่ดีที่ประสบความสำเร็จ
ผู้รับใช้ที่ดีสามีที่ดีภรรยาที่ดีลูกที่ดีอะไรก็ตามที่ดีอยู่ที่ตัวคุณ และการแก้ไข การที่จะเป็นคนดีการจะเป็นสามีที่ดีภรรยาที่ดี คนนี้ก็บอกว่าเนี่ย เคล็ดลับเนี่ยต้องทำแบบนี้ต้องทำแบบนั้น ต้องอดทนนานนะ ต้องอะไรก็ตาม ต้องขอพลังเสริมจากพระเจ้า ไม่ครับผม...ไม่ครับ
เชื่อว่าคุณเป็นใหม่ เดินด้วยตัวใหม่ทุกวัน การฝึกครั้งแรก เราจะเผลอบ่อยมากเราจะเผลอเราจะกลับไปอยู่ในสภาพของตัวเก่าคนเก่าคนเดิม ผมถ้าหากถูกกระทบกระแทกจากภรรยา จากลูกจากเพื่อนที่ทำงาน จากพี่น้องในคริสจักร จากใครก็ตามหรือจากคนที่ไม่รู้จักอยู่ข้างนอก และผมเกิดมีอาการตอบสนองตอบโต้กับเขาในด้านลบ ผมกลับมาทันทีกลับมาแล้วสารภาพบาปต่อพระเจ้า แล้วบอกว่าพระเยซูพระบิดา ข้าพระองค์ขอสารภาพบาป ขอยอมรับผิดว่าเมื่อกี้เผลอ เผลอไปเป็นตัวอาดัมที่ตอบโต้โต้ตอบในสิ่งที่ไม่ดีกับคนที่ทำไม่ดีกับเรา
...
แล้วกลับมาตั้งใหม่ทำแบบนี้ทุกวัน เราจะเข้าข่ายคำสอนของพระเยซูและคำสั่งของพระเยซู ในลูกาบทที่ 9 ข้อที่ 23 (พระองค์จึงตรัสแก่เขาทั้งหลายว่า “ถ้าผู้ใดใคร่จะตามเรามา ให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง และรับกางเขนของตนแบกทุกวัน และตามเรามา) คือเราต้องตายต่อตัวเก่าทุกวัน 1 โครินธ์บทที่ 15 ข้อที่ 31 อาจารย์เปาโลกล่าวโดยพระวิญญาณ อาจารย์เปาโลกล่าวว่าข้าพเจ้า ตายทุกวัน นี่คือเคล็ดลับในการดำเนินชีวิตของคริสเตียนที่ประสบความสำเร็จ เราจะเป็นพ่อที่ดีได้ยังไง เป็นผู้รับใช้ที่ดีได้ยังไง เป็นสามีภรรยาที่ดีได้ยังไง เป็นผู้ที่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าได้ยังไง เป็นผู้ที่ซื่อสัตย์ต่อการถวายต่อการดำเนินชีวิตเชื่อฟังพระเยซูอะไรก็ตามไม่สำคัญ.. ปัญหาคือราก.... รากของปัญหาอยู่ที่ตัวคุณ.... อยู่ที่ตัวผม
คือใจจิตใจของเรา ถ้าหากใจนี้ดี ใจนี้เป็นใจใหม่ ใจนี้เป็นคนใหม่แล้วพระเยซูครอบครองแล้ว เราจะทำได้ทุกสิ่ง เราจะมีพลังยิ่งใหญ่ เราจะมีกฎแห่งพระวิญญาณและกฎแห่งชีวิต ครอบเอาชนะกฎแห่งความบาปและกฎแห่งความตาย ที่ตัวบาปมันอยู่ในเราพยายามชักจูงเรานำเราดึงเรา ให้ไปทำบาป แต่ถ้าหากเราดำเนินชีวิตด้วย ความเชื่อว่าเราเป็นตัวใหม่ ว่าเรา เป็นคนใหม่ เราเกิดใหม่แล้ว และเรานี้ปัจจุบันเรามีพระเยซูในสภาพของพระวิญญาณอยู่ในเรา (กท 2:20 / 2 คร 5:17 / โรม 6:4)
ให้พระองค์ดำเนินชีวิตแทนเรา ให้พระองค์รักแทนเรา ให้พระองค์เดินไปอีกกิโลแทนเรา ให้พระองค์หันแก้มอีกครั้ง ให้เขาตบแทนเรา ให้พระองค์ทำทุกสิ่ง เราทำไม่ได้ คำสั่งของพระเยซูที่สั่งเราในพระคัมภีร์ใหม่ทุกครั้งที่พระเยซูตรัสว่าจง รักเพื่อนบ้าน จงรักศัตรู จงรักซึ่งกันและกัน จงรัก จงรัก พระเยซูใช้คำว่าจง "อากาเป้" คำว่า "อากาเป้" เป็นของพระเจ้าเป็นธรรมชาติของพระเจ้าเป็นความรักที่พระเจ้ารัก เรารักไม่ได้
...
มนุษย์เราทำได้แต่ฟิเลโอ หรือมนุษย์เราพ่อแม่อากาเป้ลูกได้ บางคนยอมตายเพื่อลูกได้ เพื่อนบางคนยอมตายเพื่อเพื่อนฝูงได้แต่มีน้อยมาก อากาเป้เป็นสิ่งที่มาจากพระเจ้าเป็นธรรมชาติของพระเจ้าเป็นชีวิตที่พระเจ้าให้เรา เพื่อเราจะทำได้และการกระทำการช่วยเหลือการไถ่ของพระเจ้าการทำงานของพระเจ้าสำเร็จแล้ว พระเจ้าทำเมื่อ 2,000 ปีก่อน สัญญาที่พระเจ้าให้ไว้กับเราคือ เอเสเคียล บทที่ 36 ข้อ 26-27 ว่าเราจะให้จิตใจใหม่แก่เจ้า เราจะให้วิญญาณใหม่แก่เจ้า เราจะให้ชีวิตใหม่แก่เจ้า สำเร็จแล้ว สำเร็จแล้วเมื่อไหร่ ? 2,000 ปีก่อนพระเยซูตายบนไม้กางเขน เราก็ตายด้วย พระเยซูฟื้นคืนพระชนม์ เราก็ฟื้นขึ้นมากับพระองค์ด้วย
และเราได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้วยเมื่อพระเยซูได้รับเกียรติจากพระบิดา ทุกสิ่งมันจบแล้ว พระเจ้าประทานให้เราแล้วในพระเยซู อยากได้เหรอ อยากเป็นคนใหม่เหรอ อยากมีจิตใจใหม่เหรอ ไปรับกับพระเยซู ก็คืออยู่ในพระวิญญาณ อยู่ในพระคริสต์ อยู่ในพระองค์พระองค์ก็อยู่ในเรา สนิทอยู่ในพระคริสต์พระคริสต์ก็สนิทอยู่ในเรา พระเยซูสัญญาพระเยซูสั่งว่า จงสนิทในเราและเราสนิทในเจ้า ถ้าเจ้าไม่สนิทในเรา เราจะสนิทในเจ้าได้ยังไง อย่าไปหาเลยนะครับเสียเวลา อย่าไปหาวิธีเคล็ดลับ ทำยังไงถึงจะเป็นสามีที่ดี เคล็ดลับทำยังไงเป็นภรรยาที่ดี เป็นผู้รับใช้ที่ดี เป็นคนดีของพระเจ้า เป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระเจ้า มันไม่เกิดผล ถ้าหากเราไม่อยู่ บนพื้นฐาน ของความเชื่อ หลักการแห่งการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องที่พระเจ้าวางไว้แล้วในพระคริสต์
ก็คือตายกับพระเยซูและเป็นขึ้นมาดำเนินชีวิตในสภาพตัวใหม่ทุกวัน ทุกวันเลย ถ้าเผลอเมื่อไหร่ กลับไปเป็นตัวอาดัมเมื่อไหร่ เรากลับมาสารภาพ และเรากลับมายืนอยู่ในสภาพ ของคนใหม่ และเชื่อว่าพระเยซูดำเนินชีวิตแทนเราทุกวัน
...
เนื่องจากว่าคริสเตียนไม่เข้าใจ การที่จะประสบความสำเร็จในการเป็นสามีที่ดี ภรรยาที่ดีผู้รับใช้ที่ดีลูกที่ดี อะไรก็ตามที่ดีหมดเนี้ย คือเราอยู่บนพื้นฐานของการ เป็นผู้ที่ตายแล้วต่อตัวเก่าและ อยู่ในสภาพของคนที่ใหม่ ทุกวัน และคนที่ใหม่นี้เราเชื่อว่าเรามี พระคริสต์อยู่ในเรา และการดำเนินชีวิตคริสเตียน ที่ประสบความสำเร็จ ในการเอาชนะบาป ในการมีสันติสุขทุกวันเวลานาทีคือการ ที่เราได้เรียนรู้ ในการเลิกกลัวพระเจ้า ซึ่งพระโลหิตของพระเยซู จัดการกับความบาปทุกชนิด บาปในอดีตบาปในปัจจุบัน และบาปในอนาคตด้วย
เมื่อเราเลิกกลัวพระเจ้าเราจะเกิดมีความสงบสุข ภายในจิตใจ และสันติสุขทุกวันเวลาเราสามารถรับได้เมื่อไหร่ที่เราสามัคคีธรรมกับพระเจ้า สนิทในพระคริสต์ เรายิ้มเราอธิษฐาน เราใกล้ชิดเราบอกรักเราทำทุกสิ่งเพื่อให้เข้ามาอยู่ในพระนิเวศของพระเจ้า ซึ่งพระเจ้าเปิดต้อนรับเรา 24 ชั่วโมง 7 วันแต่เนื่องจากเราไม่เข้าใจ เราใส่ใจในเรื่องการเชื่อฟังมากเกินไป การเชื่อฟังเป็นสิ่งที่ดีแต่ พระเจ้าให้เราใส่ใจในการสนิท ไม่ใช่การเชื่อฟัง ถ้าหากเราสนิทในพระคริสต์มากเท่าไหร่การเชื่อฟังก็มีมากเท่านั้น ถ้าหากเราสนิทในพระคริสต์มากเท่าไหร่ เราก็อดทนได้ อดทนนานด้วย ถ้าหากเราสนิทกับพระคริสต์มากเท่าไหร่ สนิทในพระคริสต์มากเท่าไหร่ชีวิตของพระคริสต์ก็จะเต็มล้นในเราและเราสามารถ อดทน รัก เมตตา อากาเป้ ทุกสิ่งได้
...
พี่น้องคริสเตียนมากมายไม่รู้ ว่าพระบัญญัติใหม่ของพระเยซู สรุปอยู่ที่ 3-4 ข้อนี้ก็คือ ต่ำ ถ่อม และยอมเสียเปรียบ ถ้าหาก ใครมาตบแก้มข้างหนึ่งของเรา เราหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาตบเสียเปรียบไหมครับ ถ้าหากใครเกณฑ์ให้เราเดินไปอีก กิโล ถ้าหากเราเดินไปกับเขากิโลนึงแล้ว การเดินไปอีกกิโลเนี่ยเสียเปรียบไหมครับ เสียนะครับ ถ้าหากเขาขอเสื้อในเราถอด เสื้อคลุมให้เขาด้วย เสียเปรียบไหมครับ การดำเนินชีวิตคริสเตียนเรา มีพระเยซูที่เป็นแบบเป็นตัวอย่างและพระเยซูเอง ไม่เพียงแต่สำแดงการเป็นตัวอย่างการเป็นแบบที่ดี แต่อีกหน้าที่หนึ่งของพระองค์ ก็คือต้องไปสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน และฟื้นขึ้นมาจากตายและเป็นพระวิญญาณ ที่แจกชีวิตของพระองค์ ให้ผู้เชื่อทุกๆคน และเมื่อเรารู้ พระเจ้าเปิดตาเราให้รู้ เราเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ในสภาพของพระวิญญาณเนี่ยอยู่ในเรา
และเป็นบุคคลที่จะดำเนินชีวิตให้เรากลายเป็นคนชอบธรรมต่อหน้ามนุษย์ ต่อหน้าภรรยา สามี ต่อหน้าครอบครัว ต่อหน้าคริสตจักร ต่อหน้าเพื่อนที่ทำงาน.....ถ้าหากเราจะไปแสวงหาเคล็ดลับ การประสบความสำเร็จ ในการดำเนินชีวิต เป็นสามีภรรยาที่ดี เป็นผู้รับใช้ที่ดี เป็นพ่อที่ดีของลูก เป็นอะไรก็ตาม เราจะล้มเหลว ถ้าหากเราไม่ดำเนินชีวิตอยู่บนพื้นฐาน ของการตายร่วมกับพระเยซู และฟื้นขึ้นมาจากตายร่วมกับพระเยซู และได้ชีวิตใหม่และมีพระคริสต์อยู่ในเรา เมื่อเรามาถึงจุดที่ยอมเสียเปรียบได้พระคริสต์ทำแทนเราแล้ว เมื่อเรามันถึงจุดที่เดินไปอีกกิโลได้ โดยไม่บ่น โดยความอดทน ด้วยความรักเมตตา เรามาถึงจุดยืนของชีวิตใหม่ในพระคริสต์ผู้ชนะแล้ว
และถ้าหากเราเสียเปรียบจนถึงสุดสุด ถ้าหากเรายอมต่ำถ่อมจนถึงดิน คือไม่ต้องการชื่อเสียง ไม่ต้องการเป็นคนที่เด่นดังดีกว่าใคร เราเป็นผู้เล็กน้อยคนหนึ่ง ไม่มีคุณค่าไม่มีความหมาย ต่อสายตาของใคร เราไม่ถือสาคำพูดของใคร เราไม่สนใจใครจะว่าอะไรเรา แต่ชีวิตของเราทุกวันเรายืนหยัดอยู่ในการเป็นคนใหม่และมีพระคริสต์อยู่กับเรา สองคนมีความผูกพันกันไปในแต่ละวัน
...
และการดำเนินชีวิตในยุคนี้ คือยุคทำนา เราต้องทำนาไม่ใช่ยุคที่หวังผลตอบแทน (ยุคนี้ทำนา - ยุคหน้ารับค่าจ้างรางวัล) หวังรางวัลหวังความสนุก หวังความสุขสบายในชีวิตนี้ต้องการอะไรที่ให้สมหวังแล้วเราจึงจะมีความสุขอันนั้นไม่ใช่ครับผม เป้าหมายที่พระเยซูให้เราได้ บังเกิดใหม่ ดำเนินชีวิตอยู่ในยุคนี้ ก็เพื่อทำนา เพื่อประกาศข่าวประเสริฐ เพื่อดำเนินชีวิตที่สำแดงพระเจ้าให้โลกเห็นพระเจ้าไม่ใช่เห็นเรา และผลตอบแทนก็คือ ราชอาณาจักรซึ่งเป็นการร่วมครอบครอง กับพระเยซู พระเจ้าไม่เคยให้เราทำฟรีๆ พระเจ้ามีผลตอบแทนทุกครั้งทุกเหตุการณ์ ทุกเวลาทุกสถานการณ์
และโลกนี้ทุกวันนี้โลกนี้เป็นห้องสอบสำหรับเรา ปัญหาทุกอย่างที่เข้ามาในแต่ละวัน พระเจ้าอนุญาตนะ สิ่งเหล่านี้จึงเข้ามาได้ ถ้าหากพระเจ้าไม่อนุญาต สิ่งเหล่านี้ก็จะเข้ามาไม่ได้แม้แต่ เส้นผมเส้นเดียวเล็กๆ ปัญหาเท่าเส้นผมมันก็จะมาไม่ถึงเรา เพราะฉะนั้นแล้วเรา รู้ว่าพระเจ้ามองดูเรา พระเจ้าดูเราทุกย่างก้าว และพระเจ้าอนุญาตให้ปัญหาเข้ามาถึงเรา ทุกครั้งทุกเหตุการณ์ ทุกสถานการณ์เพื่อให้เรา ทำการบ้าน เพื่อให้เราเอาชนะสิ่งเหล่านั้นได้ ด้วยความรัก ด้วยจิตใจที่ดี ด้วยจิตใจของพระเจ้า ของพระคริสต์ที่อยู่ในเรา ให้พระเยซูคริสต์คิดทำแทนทุกอย่างทุกสิ่ง
และถ้าหากเรายอมเสียเปรียบได้ ต่ำได้ ถ่อมได้ ไม่ถือสาใครได้ รักอากาเป้ได้ อดทนนานได้ ทุกสิ่งเรารู้ว่าพระเยซู ทำในเรา เราก็มาถึงชีวิตผู้ชนะ แล้วเราก็จะมีส่วนครอบครองกับพระเยซูและเราจะเป็นรัฐบาล จะเป็นผู้ปกครอง เป็นผู้ใหญ่ เป็นผู้มีตำแหน่ง ในยุคหน้า และชั่วนิรันดร์
...
เป้าหมายของพระบัญญัติใหม่ของพระเยซู ก็คือเพื่อกำจัด ตัวเก่าของเรา ตัวเก่าที่มันหยิ่งผยองพองตัว ไม่ยอมเสียเปรียบใคร ไม่ยอมน้อยหน้าใคร ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร
และเป้าหมายหลักที่สองของพระบัญญัติใหม่ของพระเยซูก็คือ เพื่อทำลายความโกรธของเรา ถ้าหากเมื่อไหร่มีอะไรเข้ามาถึงเรา และเราโกรธ เราตอบสนองด้วยการโกรธ ตอบโต้โต้ตอบด้วยการโกรธ เราจะแพ้ เราจะไม่ถึงผู้ชนะ และเมื่อไหร่ ที่สิ่งยั่วยวนล่อลวง ตา สิ่งของที่เป็นของโลกนี้ เข้ามาล่อลวงเรา และดึงเราผักเราให้เข้าไปสู่สิ่งเหล่านั้นเราแพ้ เราไม่ได้เป็นคริสเตียนผู้ชนะ เราคือคริสเตียนเด็กและคริสเตียนศาสนา อะไรก็ตามที่เป็นของโลกนี้ ที่พระเจ้าอนุญาต ให้เข้ามาล่อลวงเรา การทดลองปัญหา ความยากลำบาก การข่มเหงอะไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้คือการบ้าน คือบทสอบหรือข้อสอบของเรา
อีกครั้งนะครับโลกนี้เป็นห้องสอบ ปัญหาทุกอย่างที่เข้ามาถึงเรา คือข้อสอบคือการบ้าน ที่เราต้องทำ ถ้าหากเราต่ำถ่อม และยอมเสียเปรียบ ไม่ตอบโต้สิ่งเหล่านั้นไม่ตอบโต้ โต้ตอบปัญหาด้วยการร้าย ไม่ตอบโต้ศัตรูไม่ตอบโต้ใคร แต่เราดำเนินชีวิตที่ ต่ำ ถ่อม ยอมเสียเปรียบ ดำเนินชีวิตในพระคริสต์ ซึ่งพระคริสต์เป็นคนทำแทนเรา เพื่อสำแดงความเมตตา ความรักความอดทนนาน การกระทำคุณให้ การยกโทษ 70 × 7 ครั้ง พระเจ้าจะเรียกเราว่าเป็นบุตรที่รัก
...
สำหรับโลกนี้ เราหวังอะไรไม่ได้เราจะไปหวังว่าพระเจ้าให้ความหวังให้เรามีสุขภาพดี ให้เรามีการงานที่ดี ให้เราได้รับในสิ่งที่เราต้องการ เพื่อเราจะมีความสุข เป็นไปไม่ได้ครับ พระเยซูเคยสัญญา เราจะเห็นว่าพระเจ้าสัญญากับชนชาติอิสราเอลใช่ไหม เมื่อเขาซื่อสัตย์ในการถวาย เมื่อเขาเชื่อฟังพระเจ้า พระเจ้าก็อวยพรเขาเดี๋ยวนั้นเลย คือความสมหวังทางฝ่ายร่างกายเขาได้หมด แต่สำหรับคริสเตียน คริสเตียนเราพระเจ้าประทาน พระพรฝ่ายวิญญาณทุกประการ ครบแล้ว ความรอด ความหวัง สันติสุข น้ำแห่งชีวิต พระวิญญาณบริสุทธิ์ การเต็มล้นด้วยชีวิตของพระเจ้า ที่อยู่ในเรา กฎแห่งชีวิต กฎแห่งพระวิญญาณ พระคริสต์ที่เป็นบุคคลที่สถิตอยู่ในเรา คือเราได้รับหมดแล้ว เรากลายเป็นบุตรของพระเจ้า เราเป็นปุโรหิตหลวงของพระเจ้า เป็นประชากรของพระเจ้าเป็นทุกสิ่ง
และเรามีพระวิญญาณเป็นมัดจำเพื่อความรอด ในอนาคต ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นพระพรฝ่ายวิญญาณ ของเราแล้ว และพระเจ้าประทานให้เรา แล้วใน เอเฟซัส 1:3 แต่ส่วนพระพรฝ่ายร่างกายหรือ ผลตอบแทน ค่าจ้างรางวัล ที่พระเจ้าจะนำกลับมาก็คือ เงินเดือนที่เราจะได้รับหรือค่าจ้างที่เราจะได้รับเนี่ย ก็คือความสุข การครอบครองร่วมกับพระเยซู มีตำแหน่งใหญ่โตในยุคหน้าและชั่วนิรันดร์
เราเห็นมาบ่อยใช่ไหมครับเราไปหามาการฟื้นฟู อยู่ที่ไหนเราก็ไป การสัมมนาอยู่ที่ไหนเราก็ไป ค่ายที่ไหนเราก็ไป อาจารย์ผู้นำ ศิษยาภิบาล อะไรก็แล้วแต่ ก็นำบทเรียนที่ดีมาบอก มาบอกว่าเนี่ยนะวันนี้เราจะพูดถึงเคล็ดลับ เคล็ดลับของการเป็นคริสเตียนที่ดีเป็นสามีภรรยาที่ดีเป็นผู้เชื่อที่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า แต่ปรากฏว่าเราเอากลับมาใช้ไม่ได้ เพราะว่า อีกครั้งนะครับการดำเนินชีวิตที่แท้จริง ของคริสเตียนที่แท้จริง ก็คือการดำเนินชีวิตในพระวิญญาณ อยู่ในการสนิทกับพระคริสต์อยู่ในการสร้างความสัมพันธ์กับพระคริสต์ เราสนิทมากเท่าไหร่ เราก็เกิดผลมากเท่านั้นพระเยซูตรัสใน ยอห์น บทที่ 15 ถ้าหากเจ้าสนิทในเรา เจ้าจะเกิดผลมาก
...
เกิดผลในที่นี้ไม่ใช่การนำ คนมาเชื่อมากๆ ไม่ใช่การไปไล่ผีออกหลายๆตัว เกิดผลในที่นี้เป็นการเกิดผล ของชีวิต เป็นเรื่องของชีวิตเพราะว่ากิ่งต่อกับเถาองุ่น ฉันใด ก็ได้รับชีวิตจากเถานั้นและ รับการหล่อเลี้ยง และเกิดผล ผลก็โตและมีผล มาก เพราะฉะนั้นแล้วพระเจ้าบอกเคล็ดลับ เราใน ยอห์นบทที่ 15 ติดสนิทอยู่กับพระคริสต์ ใกล้ชิดพระองค์ ด้วยการพูดคุยสนทนา สร้างความสัมพันธ์สร้างความผูกพันที่ดีด้วย การคุย คุยกับพระองค์และเมื่อเรา คุยมากเท่าไรเราสร้างความสัมพันธ์สนิทกับพระองค์ มากเท่าไหร่ พระองค์ก็จะประทานชีวิตให้เราเต็มล้นเมื่อเราเต็มล้นด้วยชีวิตของพระเจ้าเราก็จะส่องสว่างได้ พระวิญญาณ ตัดผ่านอาจารย์เปาโลว่า จงเต็มล้นด้วยพระวิญญาณ การเต็มล้นด้วยพระวิญญาณก็คือ การเต็มล้นด้วยชีวิตของพระเจ้า เมื่อเรามีชีวิตของพระเจ้ามากเท่าไหร่ เราก็สำแดงความชอบธรรมเราก็ส่องสว่างได้ ส่องสว่างก็คือการทำดี การดำเนินชีวิตที่มีพระคริสต์ทำแทนเรา
ขอพระเจ้าเปิดตาเรา แล้วก็ขอพระเจ้าช่วยเรา ที่เราจะ มาถึงจุดแห่งการเป็นผู้ชนะและเปลี่ยนมุมมองเปลี่ยนความคิด เพื่อที่เรา จะได้รับการเปลี่ยนจิตใจใหม่ ได้รับชีวิตพระคริสต์อย่างเต็มล้น และดำเนินชีวิตในพระคริสต์ตลอดเวลา ได้ คือเรา เลิกใส่ใจ ในการพยายามเชื่อฟังพระเจ้า ใส่ใจแต่เรื่องการรับใช้ เรื่องนี้เรื่องโน่น แต่เราหันเปลี่ยนมาเป็น การสร้างความสัมพันธ์ ผูกพันสนิทในพระคริสต์ และถ้าหากเราสนิทมากเท่าไหร่ เราก็เกิดผลมากเท่านั้น
อีกครั้ง ยอห์นบทที่ 15 :4-5 จงเข้าสนิทอยู่ในเรา และเราเข้าสนิทอยู่ในท่าน กิ่งจะออกผลเองไม่ได้นอกจากจะติดอยู่กับเถาฉันใด ท่านทั้งหลายจะเกิดผลไม่ได้นอกจากท่านจะเข้าสนิทอยู่ในเราฉันนั้น เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่ง ผู้ที่เข้าสนิทอยู่ในเราและเราเข้าสนิทอยู่ในเขา ผู้นั้นจะเกิดผลมาก เพราะถ้าแยกจากเราแล้วท่านจะทำสิ่งใดไม่ได้เลย
ถ้าท่านสนิทในเรา ท่านก็จะเกิดผลมาก
ถาม:
อาจารย์คะ ได้อ่านเรื่องการตีสอนของพระเจ้าเมื่อเรากลับใจใหม่แล้ว เช่นปัญหาที่เกิดขึ้นเหรอคะ ไม่รู้แต่ละวันบางทีก็ทำให้เราท้อใจ
ตอบ.
ปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละวันมาจาก 3 สาเหตุครับ คือ..
เพื่อทดสอบทดลอง
เพื่อลงโทษ
เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า
คำว่า ท้อใจ มีไว้สำหรับคริสเตียนที่ยังเป็นเด็กฝ่ายวิญญาณ ถ้าเราฝึกชีวิตในการสนิทกับพระเยซู และโตขึ้นสู่ระดับหนุ่มและพ่อ เราจะไม่ท้อ (นานๆ ครั้งเป็นธรรมดา)
พระเจ้าจะไม่เอาปัญหาออกไปจากชีวิตเรา บางคนรับมากบางคนรับน้อย แต่สิ่งที่เรามีอยู่ไม่เคยพรากจากเราไป คือพระคริสต์สถิตในเรา และสันติสุขที่ทรงประทานให้ เราจำต้องเรียนรู้วิธีดื่มกิน และเราจะไม่ท้อแต่มีพลังมาก
พระเจ้าจะไม่เปลี่ยนสิ่งที่อยู่รอบข้างเรา แต่พระเจ้าจะเปลี่ยนเรา และเปลี่ยนความคิดเราให้เข้าใจเรื่องนี้
ถ้าหากจิตใจเราดีทุกสิ่งจะดีไปหมด ถ้าหากจิตใจเราไม่ดีทุกสิ่งก็จะไม่ดีไปหมด
ฝึกการสนิท บอกรัก และใกล้ชิดพระเยซูต่อไปนะครับ เมื่อเราเห็นพระเยซูมากขึ้นสูงขึ้น เราก็จะเห็นปัญหาเล็กลงและไม่ท้อ