ถาม.
มีน้องคนหนึ่งเขาทำงานเป็นแม่บ้านค่ะ แล้วนายจ้างตอนแรกบอกว่าให้เป็นแม่บ้าน แต่พอทำไปทำมาเขาก็จะให้เราทำมั่วไปหมดนะคะ คือเขาจะใช้เราทำเกินกว่าค่าจ้าง แล้วก็ใช้เราไปเกี่ยวกับเรื่องทำความสะอาดหิ้งพระ พวกรูปเคารพต่างๆ ที่เขากราบไหว้นะคะ แล้วไปทำครั้งหนึ่งแล้วปวดหัวมากเลยค่ะ ปวดหัวมากหัวจะระเบิด อยากให้อาจารย์แนะนำหน่อยค่ะว่าจะปฏิเสธแบบไหนอย่างไรค่ะ เพื่อที่จะไม่ให้เป็นปัญหากับนายจ้างแล้วก็เพื่อนร่วมงานนะคะ
ตอบ.
สิ่งแรกนะครับหนุนใจให้เขาอธิษฐาน ขอคำตอบจากพระเยซูให้มากกว่าใคร สิ่งที่สอง ทำตามขนาดของความเชื่อ ถ้าสมมุติว่าเขาใช้เรามากกว่า แล้วเราทำได้เราก็ทำ ถ้าทำไม่ได้เราก็คุยกับเขา
แล้วเรื่องการไปเช็ดไปถูไปทำความสะอาดหิ้งพระหรือพระ หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่เกี่ยวกับพระอื่น สำหรับผมนะครับสำหรับผมถ้าทำ คือถ้าหลีกได้เราหลีก ถ้าหลีกไม่ได้จริงๆ หลีกไม่ได้จริงๆ ก็คือเราทำในลักษณะว่ามันเป็นแค่สิ่งของ เมื่อเราทำ เราทำความสะอาด เราก็บอกว่า
"เอเมนพระเยซู เป็นสิ่งของ ข้าพระองค์ทำตามหน้าที่ที่เขาใช้ นายใช้ข้าพระองค์ทำ แล้วพระองค์ทำร่วมกับข้าพระองค์ เอเมน พระองค์เป็นหนึ่งเดียวกับข้าพระองค์ ไม่มีสิ่งใดทำอะไรข้าพระองค์ได้ ขอบคุณพระเยซู"
แค่นี้นะครับ เราจะปลอดภัยไม่มีอะไรทำอะไรเราได้ เอเมน
แต่ถ้าเขายังเป็นเด็กในความเชื่อ ถ้าหลีกได้ก็หลีก เพราะว่ามันจะตามมา มันจะทำร้ายทำลาย มันจะทำอะไรก็ได้ ซึ่งเราไม่ควรไปใกล้นะครับ แต่ถ้าทำเหมือนผมได้ก็ทำ แล้วพระเจ้าจะดูแลพระเจ้าจะช่วยเหลือ พระเจ้าจะเข้ามามีส่วนมีบทบาทในชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเรื่องของการทำความสะอาดพระหิ้งพระหรืออะไรก็แล้วแต่ ทุกสิ่งพระเจ้าจะช่วยเรา
ถ้าพูดคุยกับเขาได้แล้วเขาฟัง ก็คือขอเขานะครับบอกว่า เราเชื่อพระเยซู เราแตะไม่ได้ ถ้าบางกรณีบางคนที่กล้าพูดนะครับ ก็จะบอกไปว่า คือถ้าแตะเนี่ย คุณอาจจะป่วยไข้ ไม่ใช่เรานะ ก็คือบอกเจ้าของบ้านนั่นแหละ ว่าคุณอาจจะป่วยไข้ เพราะว่าพระเยซูมีฤทธิ์เดชพระเยซูมีอำนาจ ถ้าผมไปแตะถ้าดิฉันไปแตะ ก็คือคุณอาจจะมีปัญหานะ อย่าให้แตะดีกว่าอย่าให้ไปจับไปทำความสะอาดดีกว่า หรือพูดอะไรก็ได้ที่หลีกเลี่ยงนะครับ ที่ไม่ไปใกล้
เป็นสิ่งที่แน่นอนนะครับเรามีนายจ้างที่นับถือศาสนาอื่น หลายคนจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ หรือคล้ายๆ กัน เหตุการณ์แบบนี้คล้ายๆ กัน เราจะแก้ไขยังไง..
สิ่งแรกนะครับ ขอคำตอบขอทางออกจากพระเจ้า อันนี้เป็นสิ่งที่เราต้องทำ สิ่งที่สอง ถ้าหลีกเลี่ยงได้ ทำตามขนาดของความเชื่อได้ เราก็ทำตามนั้น แล้วถ้าหากเขาบังคับเรา เขาใช้เราเขาบอกว่าเราต้องทำ ก็ทำเหมือนผม ก็ไปจับไปแตะต้องแต่อธิษฐานก่อน "พระเยซูนี่คือวัตถุสิ่งของ ที่ข้าพระองค์ทำความสะอาด ข้าพระองค์ไม่ได้มองว่าเป็นพระเป็นพระพุทธเจ้า เป็นอะไรก็แล้วแต่ ข้าพระองค์ไม่ได้มองแบบนั้น คือเป็นวัตถุสิ่งของ"
เหมือนที่ผมมองนะครับ คือพระนุ่งห่มผ้าเหลือง ผมก็มองว่าเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ผมไม่ได้มองว่าเป็นพระ เมื่อพูดคุยกับเขาก็พูดคุยแบบธรรมดาทั่วไป ผมก็เคยพูดคุย บางคนก็เคยไปส่งด้วยนะ ก็คือขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่ง ก็คือทำดีกับเขา แต่มองเขาว่าเป็นมนุษย์คนหนึ่ง แล้วมองวัตถุสิ่งของที่เราทำความสะอาด ก็คือเป็นวัตถุสิ่งของ ไม่ได้เป็นพระไม่ได้เป็นอะไรที่เราเคารพนับถือกราบไหว้ เท่านั้นครับ และสำคัญก็คือเรามีส่วนร่วมกับพระคริสต์ พระคริสต์มีส่วนร่วมกับเรา อันนี้เป็นสิ่งที่พระเจ้าจะให้เราเข้าสู่ประสบการณ์ชีวิตที่มีชัยชนะได้ ชนะทุกสิ่ง เอเมน
เราจำกันได้ไหมที่ผมเคยพูดว่าตอนที่อยู่กับคุณแม่ คุณแม่ให้ทำนู่นทำนี่ ให้กินอาหารที่ผ่านการไหว้พระของเขามาแล้ว ผมก็บอกตามตรงว่าถ้าผมกินเข้าไปเนี่ย หรือทำร่วมกับพวกเรา ก็คือผมจะมีอันเป็นไป จะป่วยไข้ หรืออาจจะเป็นมะเร็ง เป็นอะไรก็แล้วแต่ คืออาจจะเบาอาจจะหนักไม่รู้นะ จะเสี่ยงไหมจะให้เป็นไหม เมื่อคุณแม่ได้ยินแบบนี้ เขาก็กลัว เขาก็บอกเออช่างเหอะไม่ต้องทำละ
ก็คือเราพูดในสิ่งที่เราเห็นว่าเหมาะสม ไม่ไปดูถูกศาสนาเขา ไม่ไปดูถูกพระเขา แล้วก็ทำในสิ่งที่เราให้เกียรติพระเจ้าของเราด้วย คือมันมีทางออกทุกวิถีทาง สิ่งสำคัญนะครับก็คือขอพระเจ้าให้เปิดทางให้เรา ขอพระเจ้าแก้ไข เอเมน
อ่านต่อ: การทำงานร่วมกับคนที่ไม่เชื่อ