- "ความสงบสุขภายในใจ" คืออาการที่ไม่เกรงกลัวพระเจ้าภายในจิตใจ ซึ่งเมื่อก่อนเรากลัวพระเจ้าและทำให้จิตใจไม่อยู่ในความสงบสุข และเนื่องจากความบาปที่เราทำ และการไม่เข้าสนิทในพระเจ้าในแต่ละวัน
- เมื่อเราพบความจริงจากบทความที่ 1. การยกโทษบาป 2. การเข้ามาหาพระเจ้าทางพระโลหิต 3. ความมั่นใจในความรอดของเรา
'ความสงบสุขภายในใจ' ก็จะเกิดมีในเรา และมีตลอดไปตราบใดที่เราเชื่อพระเจ้าอยู่
- "สันติสุข" ในบทความที่ 4 นี้ เป็นอาการ ชื่นชมยินดี ดีใจ หรือสบายใจที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ ซึ่งเป็นการดลบันดาลให้เกิดมีขึ้นของพระเจ้า ในแต่ละวัน และเราอาจมีมากขึ้น เมื่อเผชิญกับปัญหาที่ใหญ่มากกว่าเดิม
พระเยซูตรัสไว้ใน ยน 14:27 เรามอบสันติสุขไว้ให้แก่ท่านแล้ว สันติสุขของเราที่ให้แก่ท่านนั้น เราให้ท่านไม่เหมือนโลกให้ อย่าให้ใจของท่านวิตก และอย่ากลัวเลย
.....
- ทันทีที่เราเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์ พระวิญญาณทรงเสด็จเข้ามาอยู่ในวิญญาณของเรา และเราก็ได้รับการชำระให้ถึงความรอด และสิ่งที่พระเจ้าได้นำเข้ามาพร้อมกับพระองค์ก็คือ บ่อน้ำพุ ซึ่งเป็นแหล่งแห่งสันติสุข เพื่อให้เราได้ดื่มกิน และจะไม่กระหายอีกเลย (ยน 4:13-14)
.....
- "สันติสุข" พระเจ้าทรงประทานให้เราฟรีๆ โดยไม่ต้องทำดี หรือเชื่อฟังพระเจ้า เพื่อรับสันติสุขนี้
- เนื่องจากเราได้รับการชำระให้กลายเป็นคนชอบธรรม เราจึงมีสันติสุขในพระเจ้า
- โรม 5:1 กล่าวว่า "เหตุฉะนั้นเมื่อเราเป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อแล้ว เราจึงมีสันติสุขกับพระเจ้า..."
.....
- การขอ "สันติสุข" จากพระเจ้า เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะว่าพระเจ้าทรงประทานให้เราแล้ว และทรงตั้งบ่อน้ำพุแห่งสันติสุขนี้ไว้ในวิญญาณของเรา ซึ่งพระคริสต์นี่เองที่เป็นบ่อน้ำพุนี้
- การสัมผัส หรือรับสันติสุข ได้มาจากการขอบพระคุณ หลังจากที่เราได้เรียนรู้บทเรียนนี้ และเชื่ออย่างมั่นใจในพระคำของพระเจ้า (ยน 4:13-14) ว่าเป็นจริง เราจะได้สัมผัสสันติสุขนี้อย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน
(ยน 4:13 พระเยซูตรัสตอบนางว่า “ผู้ใดที่ดื่มน้ำนี้จะกระหายอีก 14 แต่ ผู้ใดที่ดื่มน้ำซึ่งเราจะให้แก่เขานั้นจะไม่กระหายอีกเลย แต่น้ำซึ่งเราจะให้เขานั้นจะบังเกิดเป็นบ่อน้ำพุในตัวเขาพลุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร์)
a. เชื่อว่าเรามีแหล่งแห่งสันติสุขอยู่ในตัวเราแล้ว
b. ขอบพระคุณ และยิ้มรับด้วยความเชื่อ และหวังว่าจะได้สัมผัสสันติสุขนี้
c. รอ และไม่ท้อถอยหรือเลิกทำเมื่อเรายังไม่เห็นสันติสุข เพราะพระเจ้าทรงรอดูความเชื่อของเราว่าจะมีมากน้อยแค่ไหน
.....
- ในยุคพระคุณนี้ พระเจ้าไม่เคยสัญญาว่าจะให้เรามีชีวิตที่ราบรื่นในแต่ละวัน
- ยุคนี้ พระพรฝ่ายร่างกายได้ถูกย้ายไปยุคหน้าแล้ว และยุคนี้กลับกลายเป็นยุคทำนา ทำงานเพื่อพระเจ้าในไร่นาของพระเจ้า (โลกนี้)
- โลกจึงกลายเป็นห้องสอบของเรา และความยากลำบาก การข่มเหงทั้งหลาย ก็คือข้อสอบของเรา ถ้าหากเราผ่านการสอบในชีวิตนี้ไปได้ เราจะได้รับบำเหน็จรางวัลเมื่อพระเยซูคริสต์เสด็จกลับมาเพื่อตั้งราชอาณาจักรในยุคหน้า และถ้าหากเราสอบไม่ผ่าน เราก็จะสูญเสีย บำเหน็จรางวัลทั้งหมด และไม่ได้เข้าไปในราชอาณาจักรเพื่อร่วมฉลองงานเลี้ยงเป็นเวลาพันปีกับพระเยซู ซ้ำยังต้องทนทุกข์อยู่ข้างนอกอาณาจักรเป็นเวลาพันปี เนื่องจากเราไม่แสวงหาการดำเนินชีวิตเพื่อให้ผ่านการสอบของชีวิตนี้
เราจะรอดในวันสุดท้ายโดยทางพระคุณและพระเมตตาของพระเจ้า (อฟ 2:8-9 / โรม 11:6 / 1 คร 3:12-15 / 1 คร 5:5)
- สันติสุข จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่เราผู้เชื่อทุกคนควรจะมี (มธ 5:10 บุคคลผู้ใดต้องถูกข่มเหงเพราะเหตุความชอบธรรม ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าอาณาจักรแห่งสวรรค์เป็นของเขา 5:11 เมื่อเขาจะติเตียนข่มเหงและนินทาว่าร้ายท่านทั้งหลายเป็นความเท็จเพราะเรา ท่านก็เป็นสุข 5:12 จงชื่นชมยินดีอย่างเหลือล้น เพราะว่าบำเหน็จของท่านมีบริบูรณ์ในสวรรค์)
.....
- เมื่อใดที่เรารู้สึกอ่อนแอ เหนื่อย เป็นทุกข์ในใจ
a. เราบอกตัวเองว่า "ฉันมีบ่อน้ำพุในตัวฉัน ฉันอยู่ในพระวิญญาณ ฉันมีสันติสุขและจะไม่กระหายอีก อาเมน ๆ พูดซ้ำหลายๆ ครั้ง
b. บอกพระเจ้าว่า "ขอบพระคุณพระเยซู ข้าพระองค์มีบ่อน้ำพุอยู่ในตัวข้าพระองค์ ข้าพระองค์อยู่ในพระวิญญาณ ข้าพระองค์มีสันติสุขและจะไม่กระหายอีก อาเมน ๆ พูดซ้ำหลายๆ ครั้ง
c. ยิ้มรอรับ
- มีคนถามว่า มันเหมือนโกหก หรือหลอกตัวเองนะ เพราะขณะที่ใจเราเป็นทุกข์ หรือไม่มีสันติสุข แต่เรากลับบอกว่าเรามี? คำตอบคือ "ฮีบรู11:1 บัดนี้ความเชื่อคือความแน่ใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นหลักฐานมั่นใจว่า สิ่งที่ยังไม่ได้เห็นนั้นมีจริง"
- เรารู้แล้วว่า ทุกวันนี้เราดำเนินอยู่ด้วยความเชื่อ ความเชื่อคือการยอมรับในสิ่งที่ตามองไม่เห็นว่ามีอยู่จริง เราก็จะได้เห็นสิ่งเหล่านั้น นี่คือความหมายของคำว่า "ดำเนินชีวิตอยู่ด้วยความเชื่อ"
- เมื่อก่อนเราต้อง อธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์ อดอาหาร และเชื่อฟัง เพื่อให้ได้มาซึ่งสันติสุข แต่ก็ได้แค่ชิมรสชาติแห่งสันติสุข และไม่นานก็หายไป
- ทุกวันนี้เราขอบพระคุณพระเจ้าที่ได้พบความจริง และได้สัมผัสสันติสุขทุกครั้ง และจะมีมากขึ้นเมื่อผมเผชิญกับปัญหาที่เข้ามาในแต่ละวัน
- (ยก 1:2) เมื่อท่านทั้งหลายตกอยู่ในการทดลองต่างๆ ก็จงนับว่าเป็นเรื่องน่าชื่นชมยินดีทั้งสิ้น
- (ฟป 4:4) จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งว่า จงชื่นชมยินดีเถิด
- (โรม 14:17) เพราะว่าอาณาจักรของพระเจ้านั้นไม่ใช่การกินและการดื่ม แต่เป็นความชอบธรรมและสันติสุขและความชื่นชมยินดีในพระวิญญาณบริสุทธิ์
- (1 ธส 5:16) จงชื่นชมยินดีอยู่เสมอ
- เมื่อเราเข้าใจเรื่องพระพรฝ่ายร่างกายถูกย้ายไปที่ยุคหน้า ยุคนี้เราต้องทำไร่นา ทำงานในทุ่งนาของพระเจ้า เรามีสิ่งเดียวที่จะไม่ขาดหายไปจากใจเรา และสิ่งนั้นก็คือสันติสุข เพื่อให้เรามีจิตใจที่ถูกต้องกับพระเจ้า
- ถ้าหากจิตใจเราดี อะไรๆ ก็จะดีไปหมด แต่ถ้าหากจิตใจเราไม่ดี อะไรๆ ก็จะดูผิดไปหมด