ถาม.
ขอบคุณพระเจ้าที่พี่น้องอธิษฐานเผื่อ มันรู้สึกว่าจิตใจที่เจ็บปวด เหมือนขมขืนข้างในแล้วก็ชอกช้ำระกำใจ แต่ว่าพอเข้ามาในมานา รู้สึกว่าดีขึ้นแล้วก็มีความสุขสงบสุขในจิตใจแล้วก็ขอบคุณพระเจ้าที่ได้มาหาที่ได้จากเที่ยงแท้ อจ.คะแล้วทำไมก่อนหน้านั้นเราอธิษฐานๆๆ มันทรมานในหัวใจจังทำไมพระเจ้าไม่รักษาเราสักทีเราเชื่อตั้ง 30 ปีแล้ว แล้วทำไมเรารับใช้ๆๆๆ แต่ว่าพอยิ่งไปรับใช้ๆๆๆ ยิ่งเจ็บๆๆ เข้าไปในคริสเตียนศาสนามันยิ่งทำให้เราเจ็บ เจ็บๆๆ มีครั้งหนึ่งไปทำกับข้าวที่โบสถ์แล้วก็พี่น้องบอกว่าต่างคนต่างเอาอาหารมา แล้วก็หนูพูดว่าทำไมกับข้าวน้อยจังวันนี้ พี่น้องจะกินพอไหม เราตั้งใจจะไม่กินให้คนอื่นกิน แล้วมีอยู่คนหนึ่งแทรกขึ้นมาบอกว่าทำไมเธอไม่เอามา แล้วคำถามนั้นมันทำให้ตอกย้ำมา ยามที่ฉันเจอวิกฤตอย่างนี้ ปกติฉันเป็นคนให้ 1,000-2,000 ฉันไม่ได้สนเลย แต่ยามที่ฉันเจอวิกฤตแล้วก็เหมือนมันบาดเจ็บแล้วมันก็มีบาดแผลเพิ่มขึ้นมา หนูอยากถามว่าทำไมพระเจ้าปล่อยเราเน่าเฟะ เจ็บปวดเป็นเวลานาน พระองค์บอกว่าวิญญาณพระเจ้าอยู่กับข้าพเจ้านำข่าวดีไปเหนือคนยากจนคนที่ชอกช้ำระกำใจ แล้วเมื่อพระเจ้าจะใช้เรา แล้วเราเจ็บปางตายเราจะช่วยคนอื่นได้ไง ทำไมพระเจ้าไม่รักษาเรา ณ เวลานั้น ช่วยตอบหน่อยคะ
ตอบ.
คือพระเจ้าต้องให้เราลอง พระเจ้าต้องให้เราทำ พระเจ้าต้องให้เราพยายามตามที่เราเป็นอยู่ จนสุดท้ายเรายอมแพ้ พระเจ้าต้องการให้เรายอมแพ้ ยอมแพ้โดยสิ้นเชิง เพราะว่าเมื่อก่อนเรายังดิ้นรนได้ เรายังคิดว่าเราก็ยังทำดีอยู่นะ เราก็ดีอยู่นะ เราก็ขยันอยู่นะ เราก็รักพี่น้อง เราเสียสละ โอ๊ยน่ารักมาก ไปโบสถ์ทำตัวน่ารักมาก ทำตัวเป็นคนดี แต่อันนี้เป็นความดีของเราเองพระเจ้าไม่เอา
พระเจ้าก็เลยปล่อยเขาทำไป ปล่อยเขาถูกตี ถูกตบตี ถูกทุบตี จนสุดท้ายเรายอม เราเหนื่อย เราเบื่อ เราได้ยินคำพูดของคนแล้วเราไม่อยากอยู่ใกล้แล้ว ใช่มั้ยละ
เราผิดหวังนะ เราผิดหวังในท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านั้น เมื่อถึงเวลาพระเจ้าก็เรียกเราออกมา แล้วก็มาพบมานา แล้วก็เสริมกำลัง ให้สันติสุข ให้พระพร ให้ตาสว่างขึ้น แล้วเราก็จะเห็นว่าพระเจ้ามีบุญคุณ มีพระคุณมากสำหรับเรา ถ้าพระเจ้าไปช่วยก่อนเราก็ไม่เห็นว่าพระเจ้ามีพระคุณ ไม่เห็นว่าพระเจ้าดีมากมาย
อีกอย่างก็คือศาสนาคริสต์ เราอย่าลืมที่เราไปมาในอดีตโบสถ์ต่างๆ ส่วนมาก อันนี้ผมไม่ได้ตัดสินใครน่ะครับ เราพูดเพื่อการศึกษา โบสถ์เหล่านั้นก็คือศาสนาคริสต์นั่นเอง ไม่ใช่พระกายฝ่ายวิญญาณ ไม่ใช่รูปแนวชีวิต ไม่ใช่มนุษย์วิญญาณเหมือนที่เรากำลังเริ่มก่อตัวขึ้นที่พระเยซูก่อพวกเราขึ้น
เพราะฉะนั้นเราจึงได้พิสูจน์แล้ว เราจึงรู้ว่าที่เราเคยไปอยู่ ไปร่วมไปเข้า มันไม่ใช่ มันเป็นแค่ศาสนาคริสต์ ไม่มีความรักแท้ มีเนื้อหนังเต็มไปหมดเลย
...
ถาม.
ถ้าเราไป เหมือนเราไปเพิ่มบาปขึ้นอีกอ่ะนะ พอเวลาคนอื่นพูดเราก็ยั๊วะเหมือนกัน
ตอบ.
ใช่ครับ เราจำกันได้น่ะครับ มัทธิวบทที่ 9 พระเยซูตรัสว่าเสื้อที่ขาดกว่าเก่า ก็คือมนุษย์ตัวเก่าของเราที่ไปร่วมโบสถ์ในศาสนาคริสต์ เราพยายามทำดีมากเท่าไหร่ เราก็ทำบาปมากขึ้นเท่านั้น ความโกรธ กิเลส ตัณหา โลภ โกรธ หลง ของเราก็จะมีมากขึ้นเท่านั้นเมื่อเราอยู่ในคริสตจักรศาสนา เสื้อตัวเก่าจะขาดมากกว่าเก่าในมัทธิวบทที่ 9
อันนี้เรามีประสบการณ์กันทุกคนใช่ไหม? เมื่อก่อนเราพยายามทำดี แต่สุดท้ายเรากลับยิ่งทำบาปมากขึ้น เรารู้ดีน่ะครับว่าตัวเราเป็นยังไง
เพราะฉะนั้นเราไม่แปลกใจ คือพระเจ้าต้องการอยากเปิดโปงเรา เปิดโปงตัวจริงของเราว่าแท้ที่จริงเราไม่ดีมากเท่าไหร่ เราอาจจะรักพี่น้อง เสียสละ อยากทำดีต่อหน้าผู้คน แต่จริงๆ แล้วตัวเก่าของเรามันไม่มีอะไรดีเลย เปาโลเป็นคนพูดเองไม่ใช่ผมพูดในโรมบทที่ 3 และโรมบทที่ 7
สุดท้ายคือพระเจ้าทำให้เรายอมแพ้โดยสิ้นเชิง ยอมจำนนจนหมดสิ้น แล้วก็พระเจ้าก็เปิดให้เรามารับอาหารที่มาจากสวรรค์ ก็คือตัวตนของพระเยซูเอง
อย่าลืมน่ะครับทุกวันนี้มานาที่ซ่อนไว้ เราอ่าน เราฟังคำแปล ก็คือขอบคุณพระเยซูที่มีผู้แปลมาก่อนหน้านี้ เป็นภาษาอังกฤษแปลรากหรือต้นกำเนิดก็คือมาจากเปาโล แล้วเปาโลเอามาจากไหน มาจากพระเยซูที่สอนเปาโล 3 ปีกว่าที่ประเทศอาระเบีย พระเยซูตรัสเองพระคำล้ำลึกนี้ ไม่ใช่ของใคร
ก็ขอบคุณพระเจ้าเมื่อเราพบแล้วก็ขอให้เราฝึก ฝึกให้เป็น ฝึกให้ถูกวิธี เพื่อเราจะมาถึงชีวิตผู้ชนะตามกำหนดเวลาของพระเจ้า