คริสเตียนที่จะเป็นผู้ชนะได้:
ได้รับการเปิดตาเข้าสู่พระคำล้ำลึก หรือพบและกินอาหารผู้ใหญ่
ใส่ใจในการฝึกเดิน ในพระคำแห่งความจริงที่ได้รับมา โดยเฉพาะเรื่อง ...
ก. เดินด้วยการเชื่อ (เอา) เริ่มต้นก็ด้วยเชื่อและจบลงก็ด้วยเชื่อ (เอา) เพราะทุกสิ่งสำเร็จแล้วในพระคริสต์
ข. ท่อง นับ จำ ทำบัญชี ว่า 1) เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า พระเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกับเราอยู่ในเรา 2) ทำทุกสิ่งด้วยเชื่อว่าคนใหม่ทำและพระคริสต์ทำอยู่ทั้งที่ยังไม่เห็น 3) สามัคคีธรรมหรือสนิทในพระคริสต์อย่างสม่ำเสมอ
การทำบัญชี นับ ถือว่า consider ท่องจำ เราตายต่อตัวเก่าและเป็นอยู่ด้วยตัวใหม่
*การตั้งอารมณ์ตาย*
- เปาโลดำเนินชีวิตที่ตายต่อตัวเก่าและเป็นอยู่ด้วยตัวใหม่ทุกเวลาและทั้งวัน ท่านกล่าวว่าข้าพเจ้าตายทุกวัน (1 คร 15:31)
- ท่านนับว่าท่านตายอยู่เสมอ (โรม 6:11)
- เมื่อท่านนับ ท่องจำ ถือว่า ตาย ซึ่งเป็นความจริงของพระเจ้า ท่านก็ได้เจริญขึ้นในการตายนั้น และพระวิญญาณก็เริ่มให้ท่านเจริญขึ้นในการเป็นคนใหม่ที่เอาชนะบาปได้ (โรม 6:4-5)
- สิ่งที่ท่านได้รับเมื่อเข้าสนิทในการตายกับพระเยซู ก็คือตัวบาปจะไม่มีที่อาศัยอยู่เพราะว่าเราตายแล้ว ตัวบาปสิงอยู่ในเนื้อหนังได้แต่สิงในคนใหม่ไม่ได้ มันจึงไม่มีอำนาจที่จะสั่งหรือบังคับคนใหม่ให้ไปทำบาปอีก กฎแห่งบาปและกฎแห่งความตายก็อ่อนกำลังและพ่ายแพ้ต่อกฎแห่งพระวิญญาณและกฎแห่งชีวิตในพระคริสต์ในเรา (โรม 8:1-2)
สรุป ก็คือยิ่งเรานับตายเราก็จะได้เห็นฤทธิ์อำนาจแห่งชีวิตของการฟื้นขึ้นของพระคริสต์ในเรา ไม่ว่าจะมีคนพูด หรือทำผิดต่อเรา นำปัญหามาสู่เรา บ่อยครั้งที่พระเจ้านำมาเพื่อให้เราฝึกเดินฝึกนับตายแต่เราไม่รู้และไม่คิด และขอบพระคุณพระเจ้าที่วันนี้เราได้รู้ความจริง
• การฝึกที่เบาสบาย คือ
1. เรา ฝึกตามขนาดของความเชื่อ
2. เรามีพระโลหิตตั้งไว้เพื่อการสารภาพเมื่อเผลอพลาดหลุด
3. นับตาย คือ เดินไปกับการตายต่อคนเก่าอยู่ด้วยคนใหม่ พูด ฟัง มอง อยู่ในอารมณ์ตาย
สำหรับวันนี้นะครับบทเรียนในพระคัมภีร์เราจะไม่มี เนื่องจากว่าเราได้คุยกันตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วว่าวันจันทร์จนถึงวันเสาร์ เราจะสามัคคีธรรมกันในกลุ่มไลน์ เรื่องเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า เรากับพระเจ้าร่วมกัน ร่วมทีมกัน พระเจ้าใช้อวัยวะใหม่ของเราเพื่อทำในเราผ่านเรา เรายอมให้พระองค์ใช้ ก็คือถวายตัวใหม่นี้ ในฐานะสภาพ สถานะของคนที่เป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว (โรม 6:12-13)
และสุดท้ายก็คือ การสนิทในพระองค์ สามัคคีธรรมกับพระองค์อยู่เสมอ แล้วก็เราก็ได้คุยกันเรื่องการนับ การท่องจำ การทำบัญชี คือเงินในกระเป๋าของเราตอนนี้มีเท่าไหร่มันก็มีเท่านั้น ตอนที่เรานั่งอยู่ ตอนที่เราไปตลาดไปซื้อของมันก็มีเท่านั้น เราต้องจำนะครับเพราะว่าถ้าเราไม่จำเราก็ไม่แน่ใจว่ามีเท่าไหร่ ก็ไปตลาดไปซื้อของเงินไม่พอนะครับ
แน่นอนครับสมมุติว่าเราเอาเงินใส่ในกระเป๋า 1,000 บาท อยู่ที่นี่มันก็ 1,000 บาท ออกไปกลางถนนมันก็ยัง 1,000 บาท ไปที่ตลาดไปซื้อของเราก็รู้แน่นอนว่าเป็น 1,000 บาท หรือเราจะไปไหนก็ตามเงินในกระเป๋าของเรา เราต้องจำอยู่เสมอ นับท่องอยู่เสมอ มันมี 1,000 บาท เพราะว่าการใช้จ่ายของเราในวันนั้น เราต้องใช้อะไรซื้ออะไร ต้องแน่ใจว่ามันพอ การทำบัญชีก็เป็นลักษณะนี้นะครับ
แล้วสุดท้ายก็คือการตั้งอารมณ์ตาย การตั้งอารมณ์ตายคืออะไร วันนี้เราจะมาพูดถึง
วันนี้เราจะคุยกันถึงเรื่องการเข้าสู่ชีวิตผู้ชนะ แย่งชิงกันเข้า ร้อนรนกระตือรือร้น แย่งชิงกันเพื่ออาณาจักร เพราะว่าเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าเปิดตาเรานำเรามาพบมานาที่ซ่อนไว้ แล้วทำไมเราจะไม่แข่ง เอเมนไหมครับ แล้วสุดท้ายอาณาจักรสวรรค์ก็เป็นของเรา ที่นั่งที่อยู่ใกล้พระเยซูก็เป็นของเรา พระเยซูอยู่ไหนเราอยู่ที่นั่น พระเยซูไปไหนเราก็ไปกับพระองค์ ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์รักเรา และวันนี้เราทั้งหลายรักพระองค์ และจะสู้ไปด้วยกันเพื่อแย่งชิงอาณาจักร
วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่อง ..
1. การเป็นหนึ่งเดียว
2. ก็คือการร่วมทีมกับพระเยซู
3. ก็คือการสามัคคีธรรม คือการสนิท
แล้วก็เรื่องการนับตาย แล้วสุดท้ายก็คือการตั้งอารมณ์ตาย เอเมน
..
มัทธิวบทที่ 20:28 เหมือนกับที่บุตรมนุษย์ได้มา มิใช่เพื่อรับการปรนนิบัติ แต่เพื่อจะปรนนิบัติ และเพื่อจะประทานชีวิตของท่านให้เป็นค่าไถ่สำหรับคนเป็นอันมาก
..
1 ทธ 2:5 เพราะว่ามีพระเจ้าองค์เดียวและมีคนกลางแต่ผู้เดียวระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ คือพระเยซูคริสต์ผู้ทรงสภาพเป็นมนุษย์
2:6 ผู้ได้ประทานพระองค์เองเป็นค่าไถ่สำหรับคนทั้งปวง เพื่อที่จะถูกเป็นพยานรับรองในเวลาอันเหมาะ
..
1 ปต 1:18 เพราะพวกท่านทราบว่า พวกท่านมิได้ถูกไถ่ไว้ด้วยสิ่งทั้งหลายที่เสื่อมสลายได้ เช่นเงินและทองคำ จากการประพฤติอันหาสาระไม่ได้ของพวกท่าน ซึ่งได้รับเป็นประเพณีจากบรรพบุรุษของพวกท่าน
1:19 แต่เราทั้งหลายได้รับการไถ่ด้วยพระโลหิตอันล้ำค่าของพระคริสต์ ดุจเลือดของลูกแกะที่ปราศจากตำหนิและปราศจากจุดด่างพร้อย
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับการทรงไถ่ของพระองค์โดยพระโลหิต คือสิ่งที่ล้ำค่ามาก และเป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่พระเจ้าพระบิดายอมรับ เพื่อที่จะซื้อเราทั้งหลายจากความบาปความตาย สิ่งที่เป็นฝ่ายเนื้อหนังที่เสื่อมสลาย ที่ถูกสาปแช่งตกต่ำ
..
1 คร 6:20 เพราะว่าท่านถูกซื้อไว้แล้วตามราคา (ก็คือพระโลหิต) เหตุฉะนั้นจงถวายสง่าราศีแบบพระเจ้า ในร่างกายของพวกท่าน และในวิญญาณของพวกท่าน ซึ่งเป็นของพระเจ้า
ชีวิตของเรานะครับ ร่างกายของเรา จิตของเรา ทุกส่วน วิญญาณของเรา เป็นของพระเจ้า ขอให้คำนี้นะครับชัดเจนเข้าสู่วิญญาณของเรา เปิดตาเราให้ได้พบความจริง และรู้ๆ ก็คือรู้ความจริง มีประสบการณ์ในความจริงว่าเราเป็นของพระเจ้าแล้ว
..
โรมบทที่ 1 จนถึงบทที่ 8 พระเจ้าทรงสำแดงความรักพระเมตตาพระกรุณาต่อเราทั้งหลาย
โรมบทที่ 3 จนถึงบทที่ 4 กล่าวถึงพระโลหิตจ่ายหนี้บาปของเราทั้งหลาย
โรมบทที่ 5 พระเจ้าทรงยกโทษบาปให้เราทั้งหลาย
โรมบทที่ 6 จนถึงบทที่ 8 สำคัญมากเป็นเรื่องของการเดินในพระวิญญาณ การใช้ชีวิตคริสเตียน เราจะไม่เหมือนศาสนาคริสต์นะครับ เพราะว่าการเชื่อพระเยซู ไม่ใช่เป็นเรื่องของการนับถือศาสนา แต่เป็นเรื่องของการมามีความสัมพันธ์ความผูกพัน ระหว่างมนุษย์และพระเจ้า
เพราะฉะนั้นโรมบทที่ 6 จนถึงบทที่ 8 เป็นเรื่องของการจัดการกับชีวิตเก่าของเราที่กางเขน
..
ทีนี้นะครับเรามาดูโรมบทที่ 6:3 เปาโลกล่าวว่า ควรหรือไม่ที่เราจะทำบาปต่อไป ไม่ควรเลยนะครับเปาโลพูดโดยพระวิญญาณ เราไม่ควรจะทำบาปต่อไป แล้วจะทำยังไง?
โรมบทที่ 6:11 นะครับเราไม่ต้องทำอะไร เราแค่ถวายอวัยวะนี้ในสภาพของคนที่เป็นขึ้นมาจากตายแล้ว อย่าเอาตัวเก่าไปถวายนะครับ อย่าเอาชีวิตเก่าจิตเก่าอะไรที่มันเก่าๆ เราไม่ถวาย แต่เราเอาชีวิตที่เป็นขึ้นมาจากความตาย ออกมาจากอุโมงค์พร้อมกับพระเยซู ชีวิตนี้อวัยวะนี้ร่างกายนี้จิตนี้ถวายแด่พระเจ้า แล้วพระองค์จะใช้เพื่อสำแดงชีวิตของพระองค์ผ่านเรา บำเหน็จก็เป็นของเรา พระเกียรติก็เป็นของพระเจ้า เอเมน
..
ผ่านกางเขนนะครับก็คือ พระองค์ตรึงเราให้ตาย และปลดปล่อยเราโดยชุบชีวิตเราขึ้นมาใหม่ เราจึงบังเกิดใหม่
โรมบทที่ 6 บอกให้เราอุทิศตน - ถวายตัว นั่นคืออวัยวะของเราแด่พระเจ้า ขณะที่โรมบทที่ 12 บอกให้เราอุทิศตน หรือถวายตัว
การอุทิศตนสองแบบนี้ ครอบคลุมหลายสิ่งหลายอย่าง น้ำพระทัยของพระเจ้าคือการที่เราอุทิศตนหรือถวายตัวแด่พระองค์อย่างสมบูรณ์
ถวายตัว อุทิศตน อย่างสมบูรณ์คืออะไร?
คือครบถ้วน คือถวายตัวก็ถวายตัว เมื่อเราถวายตัวนะครับ เราก็จดจำ เราก็ท่องจำ เราก็นับ ว่าได้ถวายแด่พระเจ้าไปแล้ว
เมื่อเรามีแบงค์ร้อยนะครับอยู่ในกระเป๋า แล้วเราเอาให้เพื่อน เราให้เพื่อน ทีนี้เมื่อเราให้แล้ว เงินแบงค์ร้อยตอนนี้อยู่กับใคร อยู่กับเพื่อนหรืออยู่กับเรา (อยู่กับเพื่อน) เมื่อเราถวายตัวเราต้องนับเราต้องเข้าใจว่าถวายตัวไปแล้ว ไม่ใช่ว่าเรายังใช้เงินแบงค์ร้อยของเราอยู่ มันใช้ไม่ได้เพราะว่าอยู่ที่เพื่อนของเราแล้ว
เมื่อเราถวายตัวแด่พระเจ้า เราก็เชื่อและต้องนับด้วย ท่องจำด้วยว่าได้ถวายตัวแด่พระเจ้าไปแล้ว ถวายอวัยวะชีวิตนี้แด่พระเจ้าไปแล้ว ให้ไปแล้ว คือตอนนี้เราไม่มีสิทธิ์ใช้มัน เราไม่มีสิทธิ์ทำอะไรกับชีวิตของเราอีกต่อไป
ซึ่ง 2-3 วันก่อนผมเคยส่งเข้าไปในกลุ่ม เรื่องพี่น้องชายคนหนึ่ง ที่เมื่อรับการเปิดตาแล้ว การฝึกเดินของเขา การเริ่มต้นเนี่ยเป็นเรื่องที่ยากมาก ผมก็เคยมีประสบการณ์นั้น ก็คือเมื่อเขานั่งรถไปแล้วก็ไปจอดที่ใดที่หนึ่ง แล้วก็มีคนเปิดเพลง ได้ยินเสียงเพลงที่เขาเคยชอบ ผมเชื่อนะครับเราแต่ละคนมีเพลงที่ชอบติดใจติดหู ซึ่งก่อนหน้าเราจะมาเชื่อใช่ไหม มีหลายคนที่ชอบเพลงโลกเป็นเพลงที่เพราะมาก ผมเองก็เคยชอบ
ทีนี้มันเป็นอัตโนมัติที่ตัวเก่าชีวิตเก่าของเรามันพอได้ยิน มันความเคยชินกับเพลงนั้นก็เปิดปากร้องขึ้นมา เมื่อร้องไปสักท่อนหนึ่ง พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็เร้าใจรบกวนบอกว่า ไม่ใช่ละ แล้วเขาก็มาคิดนะครับว่า เอ๊ย ถ้าเราตายแล้ว แล้วเราถวายอวัยวะแด่พระเจ้า ริมฝีปากเราลิ้นเราไม่มีสิทธิ์ที่จะร้องเพลงโลกเพลงที่เป็นฝ่ายเนื้อหนัง
เราก็บอกว่า “เอเมนพระเยซูขอพระองค์นำข้าพระองค์ ชำระข้าพระองค์ ให้ไม่ติดใจ ให้ไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องที่จะเดินในเนื้อหนัง”
แล้วอีกสักระยะหนึ่งเมื่อได้ฟังเพลงใหม่ ได้ยินอีกคนหนึ่งที่เปิดบ้านหลังต่อไป เราก็เริ่มร้องตาม แล้วเราก็นึกได้ พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ช่วยเรานะครับเตือนเราเร้าใจเราให้นึกได้ บอกว่า เอ๊ะ ถ้าเราตายแล้วเนี่ยเราก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะร้องเพลง เราร้องได้แต่เพลงที่สรรเสริญยกย่อง นมัสการพระเจ้าเท่านั้น ถวายแก่แด่พระเจ้าเท่านั้น เราจะทำในสิ่งที่เราชอบใจไม่ได้อีกแล้ว เราก็สารภาพบาป แล้วก็บอกว่า “พระเยซูชำระข้าพระองค์เถิด”
แล้วอีกชั่วโมงหนึ่งต่อมามีคนเปิดเพลง เราก็ทำแบบนั้นเหมือนเดิม เราทำไปเรื่อยๆ เราขอการชำระไปเรื่อยๆ พระเจ้ายกโทษ 70×7 นะครับ แล้วพรุ่งนี้ก็ทำมะรืนนี้ก็ทำ แต่เวลาผ่านไป ผู้ชนะก็คือพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่ในเราที่ช่วยเรา เราได้รับการชำระ สุดท้ายเพลงที่เราชอบมันไม่มีรสชาติ ฟังแล้วไม่เพราะเหมือนแต่ก่อน อันนี้เกิดขึ้นกับผมและเกิดขึ้นกับหลายๆ คนที่ฝึก
มีพี่น้องชายอีกคนหนึ่ง นั่งรถไป มีรถมาปาดหน้า คือด้วยความอัตโนมัติที่นิสัยเคยเป็น ก็รีบเปิดกระจกแล้วก็บอกว่า จะรีบไปตายหรือยังไง ใช่ไหม ทีนี้เขาก็ตอบกลับมาเขาก็ตะโกนกลับมา คือถกเถียงกันใหญ่ เกือบจะมีเรื่องกันนะครับ แล้วทันทีพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็เร้าใจเขา ถ้าฉันตายแล้วเนี่ย ฉันจะโกรธได้ไหม ฉันจะใช้ลิ้นของฉันให้ทำตามที่ตัวเองชอบใจไหม ก็ไม่มีสิทธิ์นะครับ ก็สารภาพบาป ก็นิ่งสงบ
แทนที่จะเกิดเรื่องเกิดราวมีเรื่องมีราวเป็นเรื่องใหญ่ แต่สุดท้ายถ้าหากว่าเราฝึกตาย สุดท้ายพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ช่วยเรา เราก็เริ่มถ่อมใจ อ่อนกำลังในความบาป แล้วมีพลังในความดี สุดท้ายเราก็ชนะ แล้วพระเจ้าก็ได้รับเกียรติ การแก้แค้นก็ไม่มีในเวลานั้น
ถ้าพรุ่งนี้เป็นอีก เราก็ทำเหมือนเดิม ถ้าฉันตายแล้ว ฉันก็ทำอะไรไม่ได้ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปทะเลาะกับเขาไปด่าเขา พรุ่งนี้ มะรืนนี้ ก็เป็นเหมือนเดิมนะครับ นี่คือการตั้งอารมณ์ในความตาย นี่คือการนับ ท่อง จำ ทำบัญชีว่า ตัวเก่าเราตายแล้ว เรามีหน้าที่นับเท่านั้นนะครับ แล้วพลังยิ่งใหญ่ที่มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์จะทำให้เราเอาชนะความบาปได้ เอาชนะความโกรธได้ กิเลสตัณหาโลภโกรธหลงทั้งหลาย พระเจ้าจะเป็นผู้ชนะในเรา เอเมน
สำหรับเรื่องการนับนะครับ เป็นการนับอย่างต่อเนื่อง เปาโลตั้งอารมณ์ตายใน ฟีลิปปีบทที่ 3:10 คือท่านตั้งอารมณ์ตาย ท่านนับว่าตาย ท่านใส่ใจในเรื่องการนับ ท่านร้อนรนกระตือรือร้นในเรื่องการวิ่งแข่ง เพราะว่าในมัทธิวบทที่ 11:12 ก็คืออาณาจักรของพระเจ้า อาณาจักรสวรรค์ เป็นของคนที่วิ่งแข่งด้วยใจร้อนรน ใช้ความรุนแรง คำว่าร้อนรนใช้ความรุนแรง เปาโลนะครับใช้ความรุนแรงสำหรับร่างกายของท่าน คือท่านทุบตี
คำว่าทุบตี คืออะไรครับ? ท่านอดอาหาร
ทุบตี คืออะไรครับ? ท่านใส่ใจ ท่านนับ ท่านท่อง ท่องจำ เป็นงานที่ไม่หนักเป็นการแบกกางเขนที่เบามาก ก็คือแค่นับ นับว่าตายแล้ว ไปทำผิดเผลอพลาดไป หลุดไปทำผิด ก็คือกลับมาสารภาพ และนับใหม่ นี่คือการเฆี่ยนตีตัวเองของเปาโล แล้วเป็นการที่ใช้ความรุนแรงก็คือ อดทน ตั้งใจ ใส่ใจ พยายาม แต่ไม่ได้หมายความว่าจะฝืนใจเรา บังคับใจเราให้มากจนเกินไปจนมันแตกหัก ไม่ครับ
ก็คือการยอมต่อพระเจ้า แล้วฝึกเท่าที่จะฝึกได้ ปีหนึ่งผ่านไป 2 ปีผ่านไป 3 ปีผ่านไป เราจะพบว่าสุดท้ายผู้ชนะก็คือพระคริสต์ที่อยู่ในเราจะเป็นคนทำให้เรา เอเมน
ก็ขอบคุณพระเจ้านะครับสำหรับที่ผมเห็นความก้าวหน้าของน้องชาย ที่พัฒนาความเชื่อ การฝึก จนสุดท้ายได้เห็นผลมากมาย แล้วก็ยังมีผลอีกมากมายที่จะเกิดขึ้น ขอให้ฝึกต่อไปนะครับ
สำหรับเรื่องสุขภาพ เราขอบพระคุณพระเจ้า เมื่อเราออกกำลังกาย เป็นส่วนหนึ่งที่เราทำในชีวิตประจำวัน ส่วนเรื่องที่เหลือก็คือพระเจ้าจะเป็นคนดูแลสุขภาพของเรา แล้วขอให้ฝึกต่อไปขอบคุณพระเยซูสำหรับชีวิตของน้องชาย เอเมน
(เรื่องสุขภาพ เราเชื่อว่าเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์และปักใจในพระวิญญาณ พระเจ้าจะส่งการรักษาผ่านวิญญาณสู่จิต จากนั้นก็มาถึงร่างกาย โรม 8-9)
ถาม.
ขอถามนิดนึงครับ ที่บอกว่าการตั้งอารมณ์ตาย ก็คืออย่างที่ อ. แบ่งปันมาสักครู่นี้ ความหมายก็คือว่าคือเราจะไม่ได้พยายาม สมมุติว่าเจอสิ่งเย้ายวนหรือสิ่งที่เข้ามากระทบเรา ก็คือเราจะไม่พยายามฝืนใช่ไหมครับ หรือแม้ว่าโอเคเราจะนับว่าเราตายเราเป็นคนใหม่แล้ว แต่ว่าคือถ้าเกิดใจเรามันอยากจะทำในเวลานั้น คือเราจะยังไม่ฝืนใช่ไหมครับ คือเราอาจจะทำไปแต่ว่าภายหลังเราก็สารภาพ แล้วกลับมาตั้งใจใหม่ มันเริ่มต้นใหม่ นับว่าตายใหม่ แล้วก็อยู่ในการสนิท จนกระทั่งพระคริสต์สามารถที่จะทำแทนเราได้มากขึ้นๆ โดยที่เราไม่ต้องฝืนใจ หมายถึงว่าเรากลับมาตั้งอารมณ์เรื่อยๆ เรื่อยๆ จนกระทั่งพระคริสต์ทำแทนเราได้ ใช่มั้ยครับ หมายถึงว่าคือเราไม่ต้องฝืนใจตั้งอารมณ์ใช่มั้ยครับ
ตอบ.
ตอนแรกเปาโลไม่รู้นะครับ และไม่เข้าใจ ท่านพยายามฝึก ด้วยความใส่ใจตั้งใจ ร้อนรนมาก และเมื่อพยายามที่จะตั้งอารมณ์ตาย พยายามตาย พยายามต่อสู้กับความบาป ทุกครั้งที่ท่านต่อสู้ พยายามเท่าไหร่ก็แพ้เท่านั้น จนมาถึงการถูกเปิดตาอีกระดับนึง
ก็คือการที่เรานะครับเมื่อเห็นว่ากำลังชอบเพลงแล้วอยากจะร้องตาม แต่ต่อมาพระวิญญาณบริสุทธิ์จะทำงาน และเมื่อเรามีรถมาปาดหน้า เราก็ตะโกนใส่เขา แล้วพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็เร้าใจเราเตือนเราว่า ถ้าเราตายแล้วเนี่ย เราไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้น ถ้าเราตายแล้วเราไม่มีสิทธิ์ที่จะร้องเพลงท่อนต่อไป
แล้วหน้าที่ของเราสิ่งที่เราต้องทำก็คือบอกว่า “พระเยซูข้าพระองค์ตายแล้ว แล้วข้าพระองค์ยังรักชอบในฝ่ายเนื้อหนังฝ่ายร่างกายอยู่ ข้าพระองค์ขอถวาย ถวายอวัยวะใหม่นี้แด่พระองค์ ตัวเก่าตายไปแล้ว ตอนนี้เป็นตัวใหม่เป็นคนใหม่ แล้วข้าพระองค์ไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้เอาอวัยวะของข้าพระองค์ตามอำเภอใจ”
แล้วเมื่อเราเกิดที่จะยับยั้งไม่ได้ ห้ามไม่ได้ บังคับก็ไม่ได้ ก็คือไม่ควรบังคับนะครับ เราก็ทำนะครับ อันนี้มันจำเป็น เราก็ทำ แล้วสารภาพบาป แล้วมาตั้งอารมณ์ตายต่อ
สิ่งที่เราทำไม่ใช่ต่อสู้กับบาปหรือพยายามเลิกทำบาป แต่สิ่งที่เราทำคือ สนิทบอกรัก สามัคคีธรรมกับพระเจ้า แล้วเชื่อว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระเจ้า เชื่อว่าเราร่วมทีมกับพระเยซู เราถวายอวัยวะ พระองค์เป็นคนใช้อวัยวะนี้ แค่นี้นะครับแค่นี้เองจริงๆ
หลังจากนั้นครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ครั้งที่ 4 ต่อไป อีกไม่นานต่อมา เราฝึกไปเรื่อยๆ เราจะพบว่าใจสงบนิ่งก็มา การยกโทษก็มา ความยอมการยอมเสียเปรียบก็มา ทุกสิ่งมันจะเกิดขึ้นโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นคนทำ
หน้าที่ของเราก็คือจำเป็นนะครับก็คือทำ แล้วต่อมาก็คือสารภาพบาป แล้วขอการชำระ แล้วตั้งอารมณ์ตายต่อไป
เรามีหน้าที่เชื่อในสิ่งที่พระเจ้าทำสำเร็จแล้ว ก็คือเราตายแล้ว เราไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้อวัยวะนี้แล้ว แล้วเราถวายอวัยวะใหม่แด่พระเจ้าแล้ว ก็คือเชื่อในสิ่งนี้ แล้วปักใจในสิ่งต่อมาก็คือ พระเยซูจะทำ เราร่วมมือกับพระองค์ ให้พระองค์ทำผ่านอวัยวะใหม่ของเรา เรามีหน้าที่ถวายอวัยวะนี้ และสุดท้ายก็คือสนิทบอกรักพูดคุยสนทนา สามัคคีธรรมกับพระเยซูอย่างต่อเนื่อง เข้าใจนะครับ
1 เธสะโลนิกา 5:17 จงพูดคุยกับพระเจ้า สนทนากับพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ อย่างต่อเนื่อง เมื่อเราทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์เป็นเถาองุ่น และขอบคุณพระเจ้าที่เราเป็นกิ่ง กิ่งที่ติดต่อต่อติดเชื่อมต่อกับเถาองุ่น แน่นอนครับเมื่อเถาองุ่นมีน้ำ มันจะมาถึงกิ่งไหม ขอบคุณพระเยซูคำตอบก็คือใช่
เราฝึกไปเรื่อยๆ เราล้มเหลวเราแพ้ เรายังอยากทำ อยากร้องเพลง ร้องไปให้มันจบเพลงเลย อยากตะโกนใส่เขาตะโกนไปเลย แต่เมื่อเสร็จแล้วนะครับเราบอกว่า “ข้าพระองค์ตายตัวเก่า ตอนนี้เป็นคนใหม่ ขอบคุณพระเยซูข้าพระองค์ถวายไปแล้ว” ถวายอีกถวายไปแล้วก็ถวายอีกนะครับ สุดท้ายขอบคุณพระเยซูคำตอบของพระวิญญาณบริสุทธิ์ การช่วยเหลือของพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะมา เอเมน
คือสำหรับการฝึกแรกๆ นะครับ เราจะล้มเหลวบ่อยมาก เราจะแพ้บ่อยมาก เป็นเรื่องของการที่พระเจ้าให้เราเห็นถึงความอ่อนแอของเรา ให้เรามาถึงจุดที่เห็นความจริงว่า คุณอ่อนแอ คุณทำอะไรไม่ได้จริงๆ สำหรับพระเจ้า แล้วให้เรายอมจำนนต่อพระเจ้า เมื่อเรายอมจำนน พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะเป็นคนทำ
การที่เราจะแพ้บ่อยๆ พระเจ้าอนุญาตให้เราแพ้เนี่ยก็คือ พระเจ้าต้องการให้เรายอมรับความจริงว่าเราอ่อนแอ และต้องพึ่งพระเจ้า นี่คือผลดีนะครับของการได้แพ้อยู่บ่อยๆ และสุดท้ายก็คือเราเน้นที่การเชื่อในความจริงของพระเจ้า เชื่อในฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า ในพระคริสต์มีแต่ความเข้มแข็ง ในพระคริสต์มีแต่พลังยิ่งใหญ่ ในพระคริสต์มีกฎแห่งพระวิญญาณและกฎแห่งชีวิต เราเชื่อแบบนั้น
แล้วเราเชื่อว่าเราถวายไปแล้ว เงินแบงค์ร้อยที่อยู่ในกระเป๋าเราตอนนี้มันอยู่กับเพื่อนเพราะว่าเราให้เพื่อน ชีวิตของเราตอนนี้อยู่กับพระเจ้าเพราะว่าเราถวายแด่พระเจ้า ขอให้เราท่องจำ นับ ทำบัญชีว่ามันเป็นความจริง
แล้วเรานับตายตัวเก่าตายไปแล้ว ตัวเก่าตายไปแล้ว ถ้าข้าพระองค์ตายไปแล้วจะร้องเพลงนี้จะร้องเพลงนั้นจะร้องไปทำไม แล้วสุดท้ายพระเจ้าทำงาน ความชอบในเพลงความชอบในสิ่งบันเทิง ความชอบในการดูหนัง ดูซีรีย์ ความชอบในความบันเทิงในโลกเก่าชีวิตเก่า มันจะค่อยๆ จางหายไป ไม่มีรสชาติสำหรับเราอีกต่อไปแล้ว อันนี้หลายคนมีประสบการณ์แล้วผมเองก็มีประสบการณ์
แล้วเรื่องของการมีรถมาปาดหน้า อารมณ์โกรธของเรามันเกิดขึ้นทันทีอัตโนมัติ แล้วเราบ่อยครั้งที่เรานับเราท่องเราจำ “ถ้าข้าตายแล้วเนี่ย จะโกรธได้ยังไง” “ถ้าข้าตายแล้วจะโกรธได้ยังไง” คือใส่ใจตั้งอารมณ์ตายนะครับ ตั้งอารมณ์ตายก็คือพูดตลอด พูดตลอด พูดตลอด “ถ้าตายแล้วเนี่ยจะเดินแบบนี้ได้ยังไง” “ถ้าตายแล้วเนี่ยจะคิดชอบอันนี้ได้ยังไง” คือตอนนี้ตายแล้ว ตอนนี้ตายแล้ว ตอนนี้ตายแล้ว นี่คือการตั้งอารมณ์ตาย สุดท้ายชัยชนะก็เป็นของเรา เอเมน
แต่ตอนนี้ทำอยู่ก็ทำต่อไป แต่สารภาพบาป และขอการชำระ เอเมน
ถาม.
ขอถามหน่อยนะคะ คำว่าตั้งอารมณ์ตาย กับเราต้องผ่านความตายให้ได้ นี่มันคำเดียวกันมั้ยค่ะ เอเมน
ตอบ.
การผ่านความตายให้ได้ ก็คือเป็นผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์
การตั้งอารมณ์ตาย ก็คือหน้าที่ของเรา
พระเจ้าจะเป็นคนผ่านทำให้เราผ่านความตาย ก็คือเริ่มเห็นรสชาติของความอ่อนแอ เริ่มมีประสบการณ์การตายนี้มันอ่อนแอ เรียกว่าการเจริญขึ้นในการตายร่วมกับพระเยซู
หน้าที่ของเรานะครับก็คือนับ ท่อง จำ ว่าเราตายต่อตัวเก่า สนิทในการตายต่อตัวเก่า ตั้งอารมณ์ตายต่อตัวเก่า ตายแล้ว ตายแล้ว ตื่นเช้า “ตายแล้วข้าพระองค์ตายแล้ว” อีกชั่วโมงนึง “ข้าพระองค์ตายแล้ว” อีกชั่วโมงนึง ก็คือตายแล้ว อีกชั่วโมงนึง ก็คือตายแล้ว ตายแล้ว เมื่อเราตั้งอารมณ์ตาย สนิทในความตายมากยิ่งขึ้น พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะทำให้เราสนิทในการเป็นขึ้นมากับพระองค์ ก็คือผ่านความตายไปแล้ว เอเมน
อันนี้อยู่ในโรมบทที่ 6:5 เมื่อเราสนิทในการตาย เราก็จะเจริญขึ้นในความตาย แล้วพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเจ้าจะเป็นคนทำให้เราเจริญขึ้นในการเป็นขึ้นมาใหม่ มีชีวิตใหม่เป็นคนใหม่
ถาม.
ขอถามเรื่อง ควักตา ตัดใจ ตัดมือ เมื่อเรามีปัญหาอย่างนึงแล้วขอให้พระเจ้าตัดใจให้เรา ถือว่าเราอยู่ใต้พระบัญญัติมั้ยค่ะ หรือว่าเราอยู่ใต้พระคุณ
ตอบ.
สำหรับเรื่องการตัดใจนะครับ อันนี้ขอให้พี่น้องที่เข้ามาใหม่ เข้าใจตรงนี้ ก็คือพระเยซูตรัสว่าถ้ามือทำผิด ขอให้ตัดมือ ถ้าตามองในสิ่งที่ไม่ดี มองผิด มีกิเลสตัณหา ก็คือควักตา อันนี้ไม่ใช่ควักตาจริงๆ ไม่ใช่ตัดมือจริงๆ นะครับ ก็คือเป็นเรื่องของฝ่ายวิญญาณ เล็งถึงการตัดใจ ถ้าจะตัดใจได้ ก็คือพระเจ้าเป็นคนทำ เราบอกว่า “ข้าพระองค์ตายแล้ว ตัวเก่าตายไปแล้ว ทุกสิ่งใหม่หมด เอเมน“ ตั้งอยู่ในความตายตั้งอารมณ์ตายนะครับ แล้วพระเจ้าจะเป็นคนตัดให้เรา เอเมน ไม่มีใครตัดเองได้นะครับ
จริงๆ แล้วคนที่ควักตาเก่าของเราออก เอาตาใหม่ให้เรา ก็คือพระเยซู แล้วคนที่ตัดมือเก่าของเราไป แล้วให้มือใหม่ของเรา ก็คือพระเยซู คนที่หันแก้มอีกข้างหนึ่งไปให้เขาตบ ก็คือพระเยซู คนที่เดินไปอีกกิโลหนึ่ง ก็คือพระเยซู ไม่ใช่เรา
ถาม.
สรุปแล้วก็คืออยู่ใต้พระคุณใช่มั้ยค่ะ
ตอบ.
ใช่ครับ การอยู่ใต้พระคุณก็คือ ให้พระเจ้าเป็นคนทำ ไม่ใช่เราทำ
พระคุณของพระเจ้าก็คือ พระเจ้าทำให้เรา
พระบัญญัติก็คือ เราทำเพื่อพระเจ้า
แต่พระคุณ พระเจ้าทำเพื่อเรา
อีกสิ่งหนึ่งนะครับที่ผมอยากจะพูด ก็คือการยอมจำนน คือการปล่อยวาง จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราเห็นการสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าเพื่อเราบนกางเขน และจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราเชื่อนะครับ
เราหยุดพยายามทำดีทันทีนะครับ ทันทีที่เราเชื่อ เราก็ได้รับความรอดแน่นอนครับ ในทำนองเดียวกันเมื่อเราเห็นว่าพระเจ้าทรงนำเรามาที่กางเขน และตรึงเราไว้ที่นั่น เราก็จะหยุดต่อสู้ และหยุดพัฒนาตนเอง เมื่อเราเชื่อว่าพระเจ้าทรงสถิตอยู่ภายในเรา และทรงเอาชนะเพื่อเรา เราจะหยุดงานของเราเอง และปล่อยให้พระองค์เป็นผู้ทำ
เราจะบอกว่า “พระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์จะไม่พัฒนา ข้าพระองค์จะไม่ตั้งใจ ข้าพระองค์จะไม่ทำอะไรอีกต่อไปเพื่อพระองค์ เพื่อเลิกทำบาป เพื่อทำในสิ่งที่ถวายเกียรติแด่พระองค์ ขอพระองค์เป็นคนทำเถิด ใช้เถิดอวัยวะนี้ ร่างกายนี้ ชีวิตนี้ ใช้เถิด” นี่คือการถวายตัวที่แท้จริง ในโรมบทที่ 6:11
แน่นอนครับเมื่อเราถวายตัว แล้วเราจำว่า ถวายไปแล้ว ให้ไปแล้ว เราไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาคืนมา เมื่อเราตั้งอารมณ์ความรู้สึกแบบนี้ในความจริงนี้ พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะเป็นคนทำ
ถาม.
แล้วการที่เราอดอาหารนี้ เราต้องพูดว่า ขอถวายตัวใหม่ในการอดอาหาร หรือเปล่าค่ะ
ตอบ.
เรารู้อยู่แก่ใจนะครับ แล้วพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็รู้ดี พระเจ้าอ่านความคิดของเราได้ เราไม่ต้องพูดออกมาก็ได้ไม่ต้องบอกก็ได้ ตอนนี้ก็คือเราขอบพระคุณพระองค์ เราถวายตัวแด่พระเจ้าเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เช้านะครับ แล้วจากนั้นเราทำทุกสิ่งในวันนี้ด้วยตัวใหม่ ด้วยคนใหม่ เมื่อเราอดอาหารแน่นอนครับ เราก็อดด้วยคนใหม่ เราเพียงแต่นึกนะครับ พระเจ้าก็รู้พระเจ้าเข้าใจ เอเมน
ถาม.
และในการอดอาหารนี้เราต้องตั้งเกณฑ์มั้ยค่ะว่า ปัญหาหมดไปแล้วเราถึงจะยุติการอดอาหาร
ตอบ.
การอดอาหารเพื่อขอการช่วยเหลือจากพระเจ้านะครับ เมื่อปัญหาหมดไป ไม่จำเป็นต้องอดต่อ เอเมน
กรณีที่เราอดอาหาร เพื่อขอคำตอบจากพระเจ้า ขอการช่วยเหลือจากพระเจ้า ปรากฏว่าเราตั้งใจที่จะทำ 3 ชั่วโมง 6 ชั่วโมง แต่ชั่วโมงที่ 1 ผ่านไป ได้รับคำตอบจากพระเจ้า เราหยุดครับผม
คือพระเจ้าตอบคำอธิษฐานของเรา เมื่อเราได้ข่าวว่าสิ่งที่เราขอการช่วยเหลือจากพระเจ้า พระเจ้าตอบแล้ว เราได้รับคำตอบแล้ว ทุกอย่างมันดีขึ้นแล้ว เราก็หยุด เอเมน
ถ้าปัญหายังอยู่นะครับ ก็อดอาหารให้ถึงเวลาที่กำหนด สำหรับการอดอาหารของเรานะครับ คือทำ 3 ชั่วโมงก็ได้ 6 ชั่วโมงก็ได้ ทั้งวันก็ได้ แล้วแต่ร่างกายของเราจะรับได้รับไหว อย่าหักโหมเกินไปนะครับ คือเกินขนาดของความเชื่อ เกินกำลังของเราที่จะทำได้ คือบางคนอดจนมันเกิดร้ายแรงต่อสุขภาพมาก ก็คือไม่ควรทำนะครับ
เราทำตามขนาดของความเชื่อ เราตั้งเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ถ้าไหวกว่าก็ 6 ชั่วโมง ถ้าได้มากกว่านั้นก็คือทั้งวัน เราทำ
แต่เมื่อได้รับคำตอบจากพระเจ้า เราก็หยุด แต่ถ้าหากยังไม่ได้รับคำตอบจากพระเจ้า เราก็ทำต่อครับ หรือถ้าหากว่าเราทำไปแล้วไม่ไหว รู้สึกว่า โอ้ มันไม่ไหวแล้ว หิวมาก ก็ขอบคุณพระเยซู “ข้าพระองค์ทำได้แค่นี้ เอเมน” แล้วก็หยุดไปกินข้าว
ถาม.
ปกติเป็นคนที่ชอบกินมากค่ะ แต่ทีนี้ลองทำดูแล้วก็ได้ค่ะ อดได้ แต่ขอดื่มน้ำเปล่าประมาณ 1 แก้วตอนเช้าแค่นั้นค่ะได้มั้ยค่ะ
ตอบ.
สำหรับการอดอาหาร เน้นที่เราไม่กินอะไรที่มันเป็นลักษณะของแป้ง หรือสิ่งที่ทำให้กินแล้วมันสบายท้องมันอิ่ม สำหรับน้ำดื่มเมื่อเราไม่ไหวจริงๆ ก็ดื่มน้ำได้นะครับ เฉพาะน้ำ น้ำเปล่า
การอดอาหารเป็นสิ่งที่ดีนะครับ คือทำให้ร่างกายของเราสุขภาพของเราดีขึ้น เป็นระยะๆ ถ้าเราอดได้ก็ดี
แล้วถ้าหากพี่น้องรู้สึกว่าอยากจะอดอาหาร และฉวยโอกาสเพื่อขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า อธิษฐานเผื่อพี่น้อง อธิษฐานเผื่อปัญหา หรืออดเพื่ออย่าใกล้ชิดพระเจ้า อยากขอการชำระ ให้พระเจ้าช่วยเราในการฝึกเดินเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า ร่วมกับพระเจ้า และสนิทในพระเจ้าสามัคคีธรรมกับพระองค์ ขอการชำระ ขอการช่วยเหลือนะครับ เราอดเป็นระยะๆ ยิ่งดีครับ เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า เอเมน
และอย่าลืมบำเหน็จมีมากมายสำหรับคนที่อดอาหาร แต่อย่าบอกใครนะครับ อย่าไปบอกใครว่าเราอด เอเมน