10:1 ยิ่งกว่านั้น พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่อยากให้พวกท่านขาดความรู้ ว่าบรรพบุรุษทุกคนของพวกเราได้อยู่ใต้เมฆนั้น และได้ผ่านเข้าไปในทะเลนั้นทุกคน
** ขาดความรู้ ความรู้คือสิ่งที่สำคัญ เมื่อรู้ถูกก็เห็นความสว่างและเดินในความสว่างได้ และถ้าหากไม่รู้พระคำแห่งความจริงก็กลายเป็นคริสเตียนที่อยู่ในความมืด ตาบอดและเดินในความสว่างไม่ได้
** อยู่ใต้เมฆนั้น คือการอยู่ภายใต้การดูแลช่วยเหลือของพระเจ้า ส่วนเมฆในยุคนี้คือพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทำงานเพื่อดูแลช่วยเหลือผู้เชื่ออยู่
** ได้ผ่านเข้าไปในทะเลนั้น สำหรับคริสเตียนคือผ่านความตายไปสู่ชีวิต
10:2 และทุกคนได้รับบัพติศมาเข้าส่วนกับโมเสสในเมฆนั้นและในทะเลนั้น
** ได้รับบัพติศมา คือการบังเกิดใหม่ในน้ำและในพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว
10:3 และทุกคนได้รับประทานอาหารฝ่ายวิญญาณอันเดียวกัน
10:4 และทุกคนได้ดื่มน้ำฝ่ายวิญญาณอันเดียวกัน เพราะว่าพวกเขาได้ดื่มจากศิลาฝ่ายวิญญาณที่ติดตามพวกเขามา และศิลานั้นคือพระคริสต์
** อาหาร spiritual food น้ำ spiritual drink และ ศิลา spiritual rock ฝ่ายวิญญาณคือพระคริสต์ ที่เป็นอาหารและน้ำดื่มเพื่อเรารับการเต็มล้นด้วยชีวิตพลังและสันติสุข ด้วยการหายใจเข้าออก อ่าน และอธิษฐาน ผู้เชื่อควรแสวงหาเพื่อกินดื่มจากพระคริสต์เท่านั้น เราจะรู้ได้ว่าอาหารมาจากพระคริสต์วิญญาณของเราจะตอบสนองด้วยการชื่มชมยินดีอยู่ภายใน ความกระหายมีมากขึ้น และตอบคำถามที่คาใจเราได้ ไม่เหมือนอาหารของจิต soul food ซึ่งเราอาจดีใจ ร้องให้ รู้สึกอิ่ม พอใจ แต่ก็ไม่ทำให้กระหายอย่างมากมายและเป็นคำตอบให้หายคาใจไม่ได้
10:5 แต่สำหรับหลายคนในพวกเขา พระเจ้าไม่พอพระทัย ด้วยว่าพวกเขาถูกคว่ำเสียในถิ่นทุรกันดาร
10:6 บัดนี้สิ่งเหล่านี้ได้เป็นตัวอย่างต่าง ๆ สำหรับพวกเรา เพื่อที่พวกเราจะไม่โลภอยากได้สิ่งต่าง ๆ ที่ชั่วร้าย เหมือนพวกเขาได้โลภด้วย
10:7 และพวกท่านอย่าเป็นคนไหว้รูปเคารพ เหมือนอย่างบางคนในพวกเขาเป็น ตามที่มีเขียนไว้แล้วว่า ‘ประชากรก็นั่งลงกินและดื่ม และลุกขึ้นเล่นสนุกกัน’
** ปัญหาของชาวยิวในสมัยก่อนขณะที่เดินทางเข้าดินแดนคานาอัน คือ 1. โลภ 2. กราบไหว้รูปเคารพ และ 3. นั่งลงกินและดื่ม (คือการใช้ชีวิตตามที่เขาปรารถนาที่ไม่ใช่น้ำพระทัยของพระเจ้า)
10:8 และอย่าให้พวกเรากระทำล่วงประเวณี เหมือนอย่างบางคนในพวกเขาได้กระทำ และล้มตายในวันเดียวเป็นจำนวนสองหมื่นสามพันคน
** การล่วงประเวณี ในข้อนี้ คือฝ่ายร่างกาย แต่มีการกราบไห้ผีหรือพระเจ้าอื่นมาเกี่ยวข้อง ในลักษณะของการทำพิธีต่างๆ
10:9 และอย่าให้พวกเราลองดีพระคริสต์ เหมือนอย่างบางคนในพวกเขาได้ลองดีเช่นกัน และถูกทำลายด้วยบรรดางูร้าย
** ขอให้เราเชื่อมั่นว่าพระเยซูคือพระคริสต์ พระเจ้าผู้เสด็จลงมาเพื่อตายไถ่บาปมนุษย์ อย่าทดลองทดสอบพิสูจน์ในลักษณะที่หมิ่นประมาทหรือท้าทายพระองค์ซึ่งผลที่จะได้รับคือการตีสอนอย่างหนักและอาจถึงตายได้
10:10 และอย่าให้พวกท่านบ่น เหมือนอย่างบางคนในพวกเขาได้บ่นด้วย และถูกทำลายด้วยองค์เพชฌฆาต
10:11 บัดนี้สิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้นได้บังเกิดแก่พวกเขาเพื่อเป็นตัวอย่างต่าง ๆ และสิ่งเหล่านี้ได้ถูกบันทึกไว้เพื่อเตือนสติพวกเรา ผู้ซึ่งบรรดายุคสุดท้ายของโลกกำลังมาถึง
** ยุคสุดท้ายของโลกกำลังจะมาถึงคือยุคพันปี ยุคดังกล่าวมาใกล้แล้วดูจากคำทำนายทั้งหลายในพระคัมภีร์เดิมและใหม่
10:12 เหตุฉะนั้นคนที่คิดว่าตัวเองมั่นคงดีแล้ว ก็จงระวังให้ดี กลัวว่าจะล้มลง
** ล้มลง คือการพ่ายแพ้ต่อการทดลอง ปัญหา ที่เข้ามา คริสเตียนไม่ควรประมาท คิดว่าเรามีพระเจ้า จึงหยิ่งผยองพองตัว อวดฉลาด อวดความชอบธรรมว่าตนเป็นคนดีและเชื่อฟัง จะไม่ล้มลงเป็นอันขาด ผู้เชื่อที่เดินในฝ่ายวิญญาณจะถ่อมใจและอวดพระคริสต์เพียงแต่ผู้เดียวเท่านั้น ผู้ชนะ ผู้ชอบธรรม และผู้บริสุทธิ์ที่แท้จริงคือพระคริสต์ในเรา เราไม่เคยคิดว่าเราเป็นผู้ชนะ (ด้วยกำลังและสติปัญญาของเราเอง)
** ล้มลง ของคริสเตียนมาจาก 1. เดินด้วยเนื้อหนังตัวเก่าและอวดตนเองว่าเก่งดีชอบธรรมจะไม่ล้มแน่นอน, 2. กินดื่มมหาสนิทอย่างไม่สมควร ผลของการล้มลงคือการถูกตีสอนในชีวิตนี้ และการที่จะหลุดพ้นจากการ ล้มลง ในชีวิตเป็นระยะก็คือการได้พบมานาฯ และฝึกเดินในพระวิญญาณ
10:13 ไม่มีการทดลองใดๆ เกิดขึ้นกับท่าน นอกเหนือจากการทดลองซึ่งเคยเกิดกับมนุษย์ทั้งหลาย แต่พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ พระองค์จะไม่ทรงให้ท่านต้องถูกทดลองเกินกว่าที่ท่านจะทนได้ แต่เมื่อท่านถูกทดลองนั้น พระองค์จะทรงโปรดให้ท่านมีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้ด้วย เพื่อท่านจะมีกำลังทนได้
** การทดลองที่เกิดกับผู้เชื่อคือ 1. ไม่มีอะไรใหม่และเคยเกิดขึ้นแล้วท่ามกลางผู้เชื่อทั้งหลาย, 2. ไม่หนักเกินที่จะทนได้, 3. พระเจ้าให้เรามีทางออกเสมอ, 4. ไม่นานจนเกินไป, 5. พระเจ้าทรงอยู่ด้วยและปลอบประโลมเรา
10:14 เหตุฉะนั้น พวกที่รักอย่างยิ่งของข้าพเจ้า จงหนีไปจากการไหว้รูปเคารพ
** พระวิญญาณตรัสผ่านเปาโลเพื่อเตือนผู้เชื่อเพราะว่าเรื่อง การกราบไหวรูปเคารพ และกินของไหว้เป็นความผิดที่ใหญ่มากสำหรับพระเจ้า เพราะว่ามันคือการเล่นชู้หรือนอกใจพระเจ้านั่นเอง
10:15 ข้าพเจ้าพูดเหมือนอย่างพูดกับพวกคนที่มีปัญญา พวกท่านจงพิจารณาสิ่งที่ข้าพเจ้าพูดนั้นเถิด
** เปาโลเชื่อว่าชาวเมืองนี้ฉลาดพอที่จะเข้าใจเพราะว่าการกินของไหว้และการกราบไหว้รูปเคารพมันไม่ใช่เรื่องยากหรือซับซ้อนอะไร
10:16 ถ้วยแห่งพระพรซึ่งพวกเราขอพระพรนั้น ถ้วยนั้นเป็นการมีส่วนร่วมในพระโลหิตของพระคริสต์มิใช่หรือ ขนมปังซึ่งพวกเราหักนั้น ขนมปังนั้นเป็นการมีส่วนร่วมในพระกายของพระคริสต์มิใช่หรือ
** เหล้าองุ่นซึ่งเล็งถึงพระโลหิตที่พวกเราดื่มจากถ้วยเดียวนั้น และขนมปังก้อนเดียวซึ่งเล็งถึงพระกายของพระเยซูที่พวกเรากินนั้น คือการเข้าไปมีส่วนกับพระคริสต์และพระกายของพระองค์ คือผู้เชื่อทุกคนมีส่วนในพระคริสต์และมีส่วนในกันและกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
10:17 ด้วยว่าพวกเราซึ่งเป็นหลายคน ก็เป็นขนมปังก้อนเดียว และเป็นร่างกายเดียว เพราะว่าพวกเราทุกคนเป็นผู้เข้าส่วนในขนมปังก้อนเดียวนั้น
** ความหมายของการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระเยซู และผู้เชื่อเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในสภาพของพระกายมีความหมายที่ลึกซึ้งมาก คือเป็นหนึ่งเดียวไม่มีสอง ติดสนิทผูกพัน รักกันฉันพี่น้องและอวัยวะภายในร่างกายเดียวกัน เราจึงต้องรัก อภัย ใส่ใจ ดูแล ช่วยเหลือ และเสริมสร้างกันและกันขึ้น
** เราเป็นในสิ่งที่เรากิน you are what you eat สำหรับพระเจ้า เมื่อเรากินดื่มพระเยซู เราก็มีส่วนในพระองค์ เป็นพระองค์ในชีวิตและนิสัยในความรัก ความจริง ความบริสุทธิ์และความชอบธรรม พระคริสต์จะแพร่กระจายและแทนที่ชีวิตของเราในร่างกายและจิตใจของเรา ดังนั้นการกินดื่มพระองค์ในแต่ละวันจึงสำคัญมาก ยอห์น 6:56-57 กล่าวว่า ผู้ที่กินเนื้อหนังของเรา และดื่มโลหิตของเรา ก็ดำรงอยู่ในเรา และเราอยู่ในเขา พระบิดาผู้ทรงพระชนม์อยู่ได้ทรงส่งเรามา และเราดำรงชีวิตอยู่โดยทางพระบิดานั้นฉันใด ผู้ที่กินเรา ผู้นั้นก็จะมีชีวิตโดยทางเรา (live by me) ฉันนั้น
10:18 จงดูพวกอิสราเอลตามเนื้อหนังเถิด พวกเขาซึ่งรับประทานของที่บูชาแล้วนั้น ก็เป็นผู้เข้าส่วนในแท่นบูชานั้นมิใช่หรือ
** อิสราเอล (ตระกูลเลวีและผู้ที่นำเครื่องบูชามาถวาย) ในสมัยก่อนกินอาหารที่ถวายเป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้า เมื่อเสร็จสิ้นการถวายพวกเขาก็จะทานด้วยกันก่อนกลับบ้าน
10:19 ถ้าอย่างนั้นแล้วข้าพเจ้าจะว่าอะไร รูปเคารพนั้นศักดิ์สิทธิ์หรือ หรือสิ่งซึ่งถวายบูชาแก่รูปเคารพต่างๆ นั้นเป็นของศักดิ์สิทธิ์หรือ
** เป็นที่รู้กันดีว่าสิ่งที่นำมาถวายก็ไม่สำคัญเท่ารูปเคารพนั้นศักดิ์สิทธิ์
10:20 แต่ข้าพเจ้ากล่าวว่า สิ่งเหล่านั้น ซึ่งพวกคนต่างชาติถวายบูชา พวกเขาก็ถวายบูชาแก่พวกผีปีศาจ และไม่ได้ถวายแด่พระเจ้า และข้าพเจ้าไม่ปรารถนาให้พวกท่านมีส่วนร่วมกับพวกผีปีศาจ
** นี่คือหลักฐานที่พระวิญญาณตรัสผ่านเปาโลว่าคนที่ไม่เชื่อเมื่อถวายพวกเขาก็ได้ถวายให้ผีมารซาตานโดยไม่รู้ตัว
10:21 พวกท่านจะดื่มจากถ้วยขององค์พระผู้เป็นเจ้าและจากถ้วยของพวกผีปีศาจไม่ได้ พวกท่านจะเป็นผู้เข้าส่วนของโต๊ะขององค์พระผู้เป็นเจ้าและที่โต๊ะของพวกผีปีศาจก็ไม่ได้
** ผู้เชื่อจึงควรหลีกเลี่ยงที่จะกินดื่มของไหว้หรือถวายให้พระอื่นเพื่อที่จะไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับผีมาร
10:22 พวกเราจะยั่วยุองค์พระผู้เป็นเจ้าให้ทรงหึงหวงหรือ พวกเรามีฤทธิ์มากกว่าพระองค์หรือ
** พระเจ้าของเราทรงรักและหวงแหนพวกเราที่เป็นบุตรและประชากรของพระองค์ เรากินดื่มพระเยซูด้วยการอ่าน อธิษฐาน และหายใจเข้าออกเพื่อรับพระวิญญาณในสภาพอาหารและน้ำดื่มเพื่อเป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูและกับพระกาย เราจึงถูกห้ามไม่ให้ไปกินดื่มสิ่งที่เป็นของไหว้พระอื่นเป็นอันขาด
<<< บทที่ 9