1. เหตุผลสองประการที่พวกยิวรับข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอดหรือพระคริสต์ไม่ได้ คือ 1. พระเยซูนำพระสัญญาของอับราฮัมมาสู่พวกเขา และ 2. พระเยซูเป็นขึ้นมาจากความตาย สองสิ่งนี้จะได้รับการเปิดเผยเปิดตาก็ต่อเมื่อเขาเปิดใจ คริสเตียนคือผู้ที่พระเจ้าเลือกเพราะพวกเขาเปิดใจ ยิวจึงรับไม่ได้และทั้งกลับมาทำร้ายทำลายฆ่าประหารพระองค์ทั้งสาวกทั้งหลายด้วย
2. การเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับท่านทั้งเป็นพยานเรื่องชีวิตการรับใช้ของท่านและการประกาศ คือหน้าที่หลักของเปาโล ผู้เชื่ออยู่เพื่อ 1. การประกาศ 2. การรับใช้ และ 3. การเป็นพยานเรื่องชีวิตที่ได้พบพระเจ้า
3. เป็นการยากที่เจ้าจะถีบประตัก – คือเป็นการยากที่จะหนีหรือไม่รับทำการงานที่พระเจ้ามอบหมายให้ ... โยนาห์เมื่อหลีกหนีไม่ยอมร่วมงานกับพระเจ้าไปเตือนชาวเมืองนีนะเวห์ท่านก็ถูกโยนลงไปในทะเลอยู่ในท้องปลาสามวัน
* เมื่อพระเจ้าทรงเรียกและเลือกเรา เราคือบุคคลที่พิเศษสำหรับพระองค์ พระองค์ยกขึ้นและให้เกียรติเรา เป็นการงานที่ดีที่สุดเพื่อจะรับอาณาจักรและเข้าสู่ประสบการณ์แห่งพระพรทุกประการ แต่ถ้าหากเราไม่อยากทำก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ จะหนีก็ไม่ได้ จะไม่ทำเลยก็ไม่ได้ เพราะว่าพระเจ้าจะรบกวนเราและนำเราเข้าสู่ความยากลำบากของชีวิตการงานปัญหา สุขภาพ ฯลฯ เราควรยอมจำนนและให้พระเจ้านำเราเข้าสู่กระบวนการทั้งหลายเพื่อถูกก่อขึ้นและเป็นสาวกที่ดีพร้อมเพื่อเมื่อพระองค์เสด็จกลับมา อาณาจักรก็เป็นของเรา
4. เจ้าข่มเหงเราทำไม คือพระเยซูตรัสในฐานะของพระคริสต์ที่สถิตอยู่ในผู้เชื่อทั้งหลายที่ถูกข่มเหง คริสเตียนมักจะมองข้ามไปว่า พระคริสต์ทรงสถิตอยู่ในผู้เชื่อทุกคนและถ้าหากเราทำดีหรือไม่ดีต่อพี่น้องผู้เชื่อเราก็จะได้รับผลตอบแทนจากพระเจ้าเพราะว่าเราก็ได้กระทำต่อพระเยซูที่อยู่ในเขาด้วย (มธ 25:35-36) 25:35 เพราะว่าเราหิว และพวกท่านได้จัดหาอาหารให้แก่เรา เรากระหายน้ำ และพวกท่านได้ให้เราดื่ม เราเป็นคนแปลกหน้า และพวกท่านได้ต้อนรับเราไว้
25:36 เปลือยกาย และพวกท่านได้ให้เสื้อผ้าเรานุ่งห่ม เราเจ็บป่วย และพวกท่านได้มาเยี่ยมเรา เราอยู่ในคุก และพวกท่านได้มาหาเรา’ ขอให้ระมัดระวังในสิ่งนี้ เมื่อพี่น้องทำผิด เราอย่าไปตัดสินเขา ถ้าไม่ใช่พระเจ้านำเราหรือใช้เราไปตัดสินหรือถ้าไม่ใช้หน้าที่ของเราในคริสตจักรนั้นๆ
5. 1. เปิดตา 2. หันจากความมืดมาสู่ความสว่าง 3. จากอำนาจของซาตานมาถึงพระเจ้า คือสิ่งที่พระเจ้าทำกับผู้เชื่อทุกคน แต่ผู้เชื่อมากมายได้รับการเปิดตาไม่ครบหรือไม่มากพอพวกเขาจึงมาไม่ถึงข้อลึกลับแห่งอาณาจักรและข้อลึกลับที่ลึกลับที่สุดคือพระคริสต์อยู่ในเรา
ขอบพระคุณองค์ผู้สูงสุด องค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกเรา และขอบพระคุณที่พระองค์เป็นชีวิต เป็นอาหาร เป็นบิดา เป็นสหาย เป็นน้ำแห่งชีวิต เป็นลมหายใจ เป็นทุกสิ่งของพวกเราที่ต้องการเพื่อการดำเนินชีวิตที่ครบบริบูรณ์ในชีวิตนี้และชีวิตหน้า เอเมน
ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะบูชา ขอให้อาณาจักรของพระองค์ลงมาตั้งอยู่ และขอให้น้ำพระทัยของพระองค์สำเร็จในทุกสิ่ง
สำหรับพี่น้องที่ยังไม่ได้เข้าใจเรื่อง ถามว่าทำไมคริสตจักรทุกวันนี้กลายเป็นที่อยู่ของซาตาน และซาตานเป็นผู้ครอบครองซาตานเป็นเจ้าของซาตานเป็นผู้บังคับเป็นหัวหน้า คำตอบก็คือ ใช้ตัวเก่า ใช้รูปแนวศาสนา ไม่เน้นที่การติดสนิทแต่เน้นที่การกระทำ ไม่ถูกเปิดตา และใช้ประเพณีใช้ทุกสิ่งที่อยู่ในฝ่ายโลกเข้ามามีส่วนในคริสตจักร
เราขอบพระคุณพระเจ้าที่ทุกวันนี้ตาเรามองเห็น ซึ่งเมื่อก่อนเราไม่เห็นไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจ อยู่ในคริสตจักรเราก็เข้ามามีส่วนในพระกายมีส่วนในพี่น้องผู้เชื่อมีส่วนในการเป็นสมาชิกโบสถ์ เขาพาเรานำพาเราทำอะไรเราก็ทำ แต่เมื่อได้รับการเปิดตาเข้าสู่ความสว่าง เราจะเห็นว่าสิ่งที่พระเจ้ากำหนดให้เราดำเนินชีวิตในความเชื่อมันแตกต่างกันกับฟ้ากับดิน ซึ่งแต่ก่อนเราทำด้วยเนื้อหนังด้วยตัวเก่า เพราะว่าเราไม่รู้ เราไม่รู้ซะด้วยซ้ำว่าเราตายกับพระเยซู เป็นขึ้นมากับพระเยซู และพระเยซูอยู่ในเรา เราไม่รู้ เราก็ดำเนินชีวิตแบบคริสเตียนศาสนาทั่วไป
แต่วันนี้ขอบคุณพระเจ้า คริสตจักรของพวกเราไม่ได้ถูกซาตานเป็นเจ้าของเป็นผู้ครอบครองเป็นหัวหน้าเป็นพ่อเป็นผู้กำหนดชีวิตของพระกาย เพราะว่าเราเป็นตัวใหม่เอเมน เราเป็นมนุษย์วิญญาณเอเมน เรานมัสการพระเจ้าในวิญญาณและในความจริง ไม่อาศัยอารมณ์ความรู้สึก ใจดีใจไม่ดี อารมณ์ดีอารมณ์ไม่ดี มองไปที่พี่น้อง แต่เรามองไปที่พระเยซู เรารักทุกคน เรามองบวก เรานำสิ่งที่เป็นขึ้นมาจากความตายผ่านกางเขนแล้วมาถวายแด่พระเจ้า และนมัสการพระเจ้าในวิญญาณก็คือไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับอารมณ์ความรู้สึกร่างกายฝ่ายเนื้อหนังเลย เรามองไปที่ในวิญญาณ สรรเสริญพระเยซู เพราะฉะนั้นซาตานจึงแตะไม่ได้ซาตานเป็นหัวหน้าไม่ได้ครอบครองไม่ได้ทำอะไรเราไม่ได้ เอเมนพระเยซู
เราขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับวันนี้ที่พระองค์นำเรามาสู่เรื่องของชีวิตเปาโล ที่เมื่อก่อนเป็นคนที่เคร่งศาสนาอยู่ในพวกฟาริสี เป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่สุดท้ายก็ยอมจำนนต่อพระเยซู กลับใจเพราะว่าพระเยซูเสด็จมาเอง พระองค์มาเองเพื่อตั้งเปาโลให้เป็นผู้ที่จะประกาศข่าวประเสริฐ เป็นพยานเรื่องชีวิตของท่านที่ได้พบพระเยซูในเดี๋ยวนี้วันนี้ และเป็นพยานถึงเรื่องที่ท่านจะได้รับอีกมากมายในเวลาต่อไป เป็นคำพูดของพระเยซูเอง 1. เจ้าจะประกาศข่าวประเสริฐ 2. เจ้าจะเป็นพยานเรื่องของเรา และอีกมากมายที่เราจะสำแดงแก่เจ้า
อันนี้ก็คือเป็นสิ่งที่หนุนใจพวกเรานะครับ 1. เราประกาศข่าวประเสริฐ 2. เราเป็นพยานเรื่องที่พระเจ้านำเรามา เรากลับใจ เราเชื่อได้ยังไง แล้วก็สิ่งอัศจรรย์ สิ่งแปลกๆ สิ่งมหัศจรรย์ทั้งหลายที่พระเจ้าทำกับเรา คืออะไรบ้าง ซึ่งเน้นที่เรื่องการฝ่ายวิญญาณ ไม่เน้นที่เรื่องพระพร พระเจ้าให้รถ พระเจ้าให้บ้าน พระเจ้าให้ทรัพย์สินอะไร ไม่นะครับ อันนั้นเราขอบพระคุณเล็กน้อย
แต่เรื่องใหญ่ที่พระเจ้าต้องการให้เราทำก็คือ 1. ประกาศข่าวประเสริฐเรื่องความรอด 2. เป็นพยานว่าเราเชื่อได้ยังไง เหมือนเปาโลในวันนี้ และ 3. ก็คือเป็นพยานถึงการกระทำของพระเจ้าที่ช่วยเราในฝ่ายวิญญาณ ชีวิตฝ่ายวิญญาณ การเติบโตในฝ่ายวิญญาณ เพื่อพี่น้องจะได้รับผลกับสิ่งที่เราแบ่งปัน
มีอยู่ประมาณ 5 เรื่องสำหรับวันนี้ที่ผมจะย่อเข้ามาจะสรุปให้ฟังนะครับ
• สิ่งแรก ก็คือเราเห็นว่าในบทนี้ เหตุผลสองประการที่พวกยิวรับข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอดหรือเป็นพระคริสต์ไม่ได้ มีเหตุผลสองประการเขารับไม่ได้ 1. ก็คือพระเยซูนำพระสัญญาของอับราฮัมมาสู่พวกเขา อันนี้เขารับไม่ได้ 2. ก็คือพระเยซูเป็นขึ้นมาจากความตาย การเป็นขึ้นมาจากความตายในสมัยก่อนไม่มีใครยอมรับและยอมรับไม่ได้เพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้ เป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่ยอมรับ เขาจึงเห็นว่าเรื่องพระเยซูคริสต์เป็นเรื่องที่มันไม่น่าจะเป็นไปได้ ไม่น่าจะใช่ทางที่มาจากพระเจ้า เขาจึงไม่ยอมรับ
เหตุผลจริงๆ เหตุผลแท้จริง ก็คือการไม่ได้ถูกเปิดตานั่นเอง ไม่ว่าจะมีเหตุผลร้อยพันประการ แต่การไม่ได้ถูกเปิดตาทำให้เขารับไม่ได้ สรุปก็คือ 2 สิ่งทำให้พวกเขารับไม่ได้ 1. ก็คือพระเยซูอ้างว่าพระองค์นำพระสัญญาของอับราฮัมมาสู่พวกเขา 2. พระเยซูเป็นขึ้นมาจากความตาย ทำให้พวกเขามองว่าเปาโลเป็นบุคคลผู้สอนเทียมเท็จ นี่คือสาเหตุที่ทำให้ยิวกลับมาทำร้ายทำลาย ฆ่า ประหารพระเยซูและสาวกของพระองค์ด้วย
• เรื่องที่ 2 ก็คือการเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับท่าน คือเปาโล ทั้งเป็นพยานเรื่องชีวิตการรับใช้ของท่าน และการประกาศคือหน้าที่หลักของเปาโล ผู้เชื่อนะครับเราอยู่เพื่อ 1. ประกาศข่าวประเสริฐ 2. การรับใช้ และการเป็นพยานถึงเรื่องชีวิตที่ได้พบพระเจ้า และสิ่งที่พระเจ้ากระทำกับเรา เราเน้นที่เรื่องฝ่ายวิญญาณ การเติบโตฝ่ายวิญญาณ ชีวิตฝ่ายวิญญาณ พระเจ้าทำอะไรกับเราในความเชื่อที่ได้รับผลจากการเชื่อในพระองค์
• และสิ่งที่ 3 เรื่องที่ 3 ที่ผมอยากจะสรุปก็คือ เป็นการยากที่เจ้าจะถีบประตัก คือเป็นการยากที่เราจะหนีหรือไม่รับทำการงานที่พระเจ้ามอบหมายให้
โยนาห์เมื่อหลีกหนีไม่ยอมร่วมงานกับพระเจ้า ไม่ไปเตือนชาวเมืองนีนะเวห์ท่านก็ถูกโยนลงไปในทะเลอยู่ในท้องปลาสามวัน
เมื่อพระเจ้าทรงเรียกและเลือกเรา เราคือบุคคลที่พิเศษ เราเป็นบุคคลที่พิเศษสำหรับพระเจ้า พระเจ้ายกเราขึ้น พระเจ้าให้เกียรติเรานะ ที่เราได้มีโอกาสเป็นสาวกของพระเยซู เราได้มีโอกาสรับของประทาน และเราได้มีโอกาสขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้เข้ามาพบพระคำล้ำลึก ได้รับการเปิดตา เป็นคริสเตียนที่พิเศษมากๆ คือการให้เกียรติเรา เป็นการงานที่ดีที่สุดเพื่อการรับอาณาจักร และเข้าสู่ประสบการณ์แห่งพระพรทุกประการ
ซึ่งทุกวันนี้คริสเตียนมากมายไม่ได้มาถึงอาณาจักร คริสเตียนมากมายทุกวันนี้ไม่ได้มาถึงพระพรทุกประการ เขาอาจจะได้รับบ้างเล็กๆ น้อยๆ บางส่วน แต่พระพรทุกประการยังไม่ได้มาถึงพวกเขา แต่สรรเสริญพระเยซูวันนี้พระพรทุกประการสันติสุขทุกวันเวลาเราได้รับแล้ว เอเมน การอยู่ในการปกป้องคุ้มครองปกปักรักษา ดูแลช่วยเหลือเลี้ยงดู พระเยซูเป็นผู้เลี้ยงที่ดีมันเกิดขึ้นกับชีวิตของเรา เมื่อเรามาถึงชีวิตผู้ชนะ เมื่อเรามาถึงการเปิดตา และดำเนินชีวิตอยู่ในการสนิท สนิท สนิท สนิท สนิท สนิทในพระองค์ในแต่ละวัน เราก็จะเข้าสู่ชีวิตที่มีประสบการณ์ในเรื่องพระพรฝ่ายวิญญาณทุกประการแล้ว เอเมนฮาเลลูยา
แต่นะครับ แต่ถ้าหากเราไม่อยากทำ หรือหลีกเลี่ยงเราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ จะหนีไปไหนก็หนีไม่ได้ จะไม่ทำเลยก็ทำไม่ได้ เพราะว่าพระเจ้าจะรบกวนเรา และนำเราเข้าสู่ความยากลำบากของชีวิต การงาน ปัญหา สุขภาพ เพื่อเราจะกลับใจ เราจะยอมจำนน และให้พระเจ้านำเราเข้าสู่กระบวนการทั้งหลายเพื่อก่อขึ้น และเป็นสาวกที่ดีพร้อม เพื่อพระองค์จะเสด็จกลับมา และอาณาจักรก็เป็นของเรา เมื่อเรายอมจำนนและยอมร่วมมือกับพระองค์เป็นอย่างดี
• สำหรับเรื่องที่ 4 ที่ผมจะพูดถึง ก็คือคำว่าเจ้าข่มเหงเราทำไม คือพระเยซูตรัสต่างหน้าผู้เชื่อทั้งหลาย คือพระองค์ตรัสในฐานะของพระคริสต์ที่สถิตอยู่ในผู้เชื่อทุกคนที่ถูกข่มเหง
คริสเตียนมักจะมองข้ามเรื่องนี้ คือเขาไม่คิดนะครับว่าพระคริสต์ทรงสถิตอยู่ในผู้เชื่อทุกคน และถ้าหากเราทำดีหรือทำไม่ดีต่อพี่น้องผู้เชื่อ เราก็จะได้รับผลตอบแทนทั้งสิ่งดีและสิ่งไม่ดีจากพระเจ้า เพราะว่าเราก็ได้กระทำต่อพระเยซูที่อยู่ในเขาด้วย
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราต้องระมัดระวังนะครับ ก่อนที่จะไปตัดสินพี่น้อง จะพูดใส่พี่น้อง จะประชดพี่น้อง จะทำร้ายน้ำใจหัวใจจิตใจพี่น้อง ขอให้เราจดจำสิ่งนี้ก็คือ พระคริสต์อยู่ในเขา ถ้าหากว่าเราทำไปด้วยความโกรธโมโห ถ้าเราทำไปคำพูดของเราคิดที่จะประชดเขาประชันเขา พูดใส่เขาให้เขาเจ็บใจ ขอให้เรานึกตรงนี้ โอ้พระเยซูอยู่ในเขา พระเยซูก็จะเจ็บด้วยพระเยซูก็จะโดนด้วย เราไม่ได้ด่าเขานะเราไม่ได้พูดใส่เขาแต่เราก็ได้ทำกับพระเยซูด้วย อันนี้นะครับผลตอบแทนมันไม่ดีเลย
เพราะฉะนั้นถ้าหลีกเลี่ยงได้ ก็หลีกเลี่ยง ขอให้คำอวยพรไปแทนที่คำด่าคำประชดประชันคำพูดใส่คำทำร้าย ขอให้ความรักไปแทนที่ความเกลียดชัง แล้วพักผ่อนบำเหน็จก็จะเป็นของเราเอเมน
มีพี่น้องบางคนจะส่งข้อความมาเป็นระยะ คนนี้พูดใส่ คนนั้นพูดประชด เนี่ยเขาตั้งใจพูดใส่หนูนะเนี่ยหนูรู้เลย เขาพูดใส่หนู ไม่ได้ออกชื่อแต่มันใช่เลย ทำไมต้องเป็นแบบนี้ทำไมต้องทำแบบนี้ คริสเตียนโตๆ กันแล้วทำไมต้องทำแบบนี้ พบมานาที่ซ่อนไว้แล้ว อยู่ในกลุ่มพระคำล้ำลึกแล้ว ทำไมต้องทำแบบนี้ คือมีแต่ว่าทำไม ทำไม ทำไม คำนี้มันอยู่ในหัวในความคิดของเขา
แต่จริงๆ แล้วปัญหาไม่ใช่พี่น้องที่พูดใส่ อย่าลืมนะครับอาทิตย์ที่แล้วเราคุยกันถึงเรื่อง..
คนไม่ดีมาหาเรา เพื่อเราจะฝึกทำดีกับเขา
คนที่ข่มเหงเรามาทำไม่ดีกับเรา เพื่อเราจะรักเขาและอภัยให้เขา
คนที่ทำร้ายเราเกลียดชังเรามาหาเรา เพื่อเราจะได้รักเขา
การฝึกรัก การฝึกถ่อมใจ การฝึกยอมจำนน เป็นคนที่ไม่ต่อสู้ สร้างสันติ เราฝึกไม่ได้นะครับ ถ้าไม่มีคนที่เป็นนิสัยแบบเหล่านั้นมาหาเรา ใช่ไหม ถ้าเรือมันจอดอยู่แล้วไม่มีพายุ ไม่มีคลื่น ไม่มีมรสุม เข้ามา เรือเราจะรู้ได้ยังไงว่าเรือนั้นมันเข้มแข็ง มันทนทาน มันดีจริงๆ เราจะรู้ได้ยังไงว่าเราเข้มแข็งในพระเจ้า ว่าเราเดินในฝ่ายวิญญาณจริงๆ ก็ต่อเมื่อมีคนที่ไม่ดีเข้ามาหาเรา มีคนที่เกลียดชังเราเข้ามาหาเรา มีคนที่ข่มเหงเราเข้ามาหาเรา เมื่อสิ่งเหล่านี้เมื่อคนเหล่านี้เข้ามาหาเรา เราจะตอบแทนอะไรครับ ด้วยความดีด้วยความรักด้วยความถ่อมใจ ต่ำ ถ่อม ยอมเสียเปรียบ
เราอยู่ในโลกนี้ ใช้ชีวิตที่แตกต่างตรงข้ามจากมนุษย์จากชาวโลกทั้งหลาย ทุกคนอยากชนะแต่เราอยากเป็นผู้แพ้ ทุกคนอยากเอาเปรียบแต่เรายอมเสียเปรียบ ทุกคนอยากตบแก้มเรา เราต้องตบกลับไหม ไม่ เราหันอีกแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาตบ นี่คือสิ่งที่พระเยซูสั่งเราไว้ แล้วเมื่อพระเยซูสั่งแล้วเราทำได้ อาณาจักรก็จะเป็นของเรา
อยากแลกไหมครับแลกกับอาณาจักร กับความได้เปรียบ กับความหยิ่งผยองพองตัว ความเก่ง ความอยากต่อสู้เขา ถ้าอยากก็ต้องมาแลกกับอาณาจักร แล้วสิ่งเหล่านี้เราต้องปล่อยไป ไปตาย นิสัยเหล่านี้มันอยู่ในมนุษย์อาดัมไม่ได้อยู่ในมนุษย์วิญญาณ มนุษย์วิญญาณเราเป็นคนที่ต่ำถ่อมยอมเสียเปรียบ เพราะฉะนั้นไปตายนะครับ ผมก็ได้สั่งเขานะครับบอกว่าไปตาย ไปตายเถอะ แล้วเขาก็เข้าใจ ก็ได้เรียนบทเรียน สุดท้ายขอบคุณพระเยซู ก็ส่งข้อความมาบ่อยๆ ว่าขอบคุณพระเจ้าตื่นแล้ว ตาสว่างแล้ว เข้าใจแล้ว ต่อไปนี้ต้องตายให้มากขึ้น
พี่น้องที่รักครับ อย่าไปหวังว่ามนุษย์หรือแม้แต่พี่น้องคริสเตียนพวกเราเอง บางครั้งพระเจ้าให้โอกาสมาร บางครั้งมารเข้ามา เพื่อที่จะส่งคนที่ใช้คำพูดที่รุนแรงทำร้ายทำลายหัวใจจิตใจของเรา เพื่ออะไร เพื่อเราจะฝึกไง ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้เราจะฝึกได้ยังไง ใช่ไหม เอเมน
เพราะฉะนั้นเราทำดีกับใคร เราก็ได้ทำดีกับพระเยซูด้วย เมื่อเขาทำร้ายทำลายเราเขาก็ได้ทำร้ายทำลายพระเยซูที่อยู่ในเรา แล้วเมื่อเราตอบแทนไปด้วยความรัก ด้วยความถ่อมใจ การสร้างสันติ เราก็ได้ทำกับพระเยซูที่อยู่ในเขาด้วย เพราะฉะนั้นสิ่งที่เรารอรับก็คือผลตอบแทนจากพระเจ้า สง่าราศี บำเหน็จ และอาณาจักร ขอบคุณพระเจ้า
พระเยซูตรัสในมัทธิวบทที่ 25:35-36
ข้อที่ 35 กล่าวว่า เพราะว่าเราหิวและพวกท่านได้จัดอาหารให้แก่เรา เรากระหายน้ำพวกท่านได้ให้เราดื่ม เราเป็นคนแปลกหน้า และพวกท่านได้ต้อนรับเรา
ข้อที่ 36 เราเปลือยกายและพวกท่านได้ให้เสื้อผ้าเรานุ่งห่ม เราเจ็บป่วยและพวกท่านได้มาเยี่ยมเรา เราอยู่ในคุกและพวกท่านได้มาหาเรา
พระเยซูเคยอยู่ในคุกไหม พระเยซูถูกเขาเปลือยกายไหม ทำให้อับอายขายหน้า ไม่เคยนะครับ พระเยซูเคยเจ็บป่วยไหม 3 ปีกว่า 3 ปีครึ่งที่เดินทางไปกับสาวกทั้งหลาย ไม่มีวันไหนที่พระองค์เจ็บป่วยไม่สบาย แต่พระองค์พูดในถ้อยคำเหล่านี้ คือการถูกเปลือยกายไม่มีเสื้อผ้าใส่ เจ็บป่วยป่วยไข้ แล้วก็ติดคุกด้วย สิ่งเหล่านี้ก็คือพี่น้องคริสเตียนทั้งหลายที่ถูกเปลือยกาย ไม่มีเสื้อผ้าใส่ยากจน แล้วก็เจ็บป่วยไข้ไม่สบาย แล้วบางคนก็อยู่ในคุกติดคุก เพราะการประกาศข่าวประเสริฐและเห็นแก่ความชอบธรรม
สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นกับคริสเตียนไม่ใช่เกิดขึ้นกับพระเยซู แต่พระเยซูตรัสว่าเรา เรา เรา ก็เพราะว่าพระเยซูอยู่ในเรา ขอบคุณพระเยซูวันนี้พระเยซูอยู่ในเรา ใครที่ทำไม่ดีกับเราก็ได้ทำกับพระเยซู ใครที่ทำดีกับเราก็ได้ทำกับพระเยซูด้วย เอเมน
ขอให้เราตระหนักนะครับระมัดระวังในสิ่งนี้ ก่อนที่จะพูดอะไรกับใคร จะพูดดีหรือพูดร้าย โอ้พระเยซูอยู่ในเขา ระวังนะ ถ้าพูดไม่ดีเดี๋ยวโดน ถ้าพูดดีขอบคุณพระเยซูบำเหน็จก็จะเป็นของเรา เพราะฉะนั้นสิ่งนี้เป็นสิ่งที่คริสเตียนทั่วไปมักจะมองข้าม
แต่วันนี้ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์เตือนเรา หนุนใจเรา เพื่อให้เราระมัดระวังในการที่จะพูดกับพี่น้อง เราเน้นที่การล้างเท้า การเสริมสร้างกันและกัน เสริมสร้างฝ่ายวิญญาณ หนุนใจกัน แบ่งปันกัน ช่วยเหลือกัน เพื่อให้ทุกคนอวัยวะทุกส่วนเติบโตไปพร้อมๆ กัน แทนที่จะใช้คำพูดถ้อยคำที่ประชดประชัน ใส่ร้ายพูดนินทาลับหลัง สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่มารมันต้องการให้เราทำ แต่พระเยซูไม่ต้องการให้เราทำ เพราะว่าเราเป็นบุตรที่รักของพระเยซู เราเป็นคนที่น่ารักสำหรับพระเจ้า เอเมน
• และข้อสุดท้ายข้อที่ 5 ก็คือ 3 สิ่งที่พระเจ้าจะให้ผู้เชื่อทั้งหลาย ก็คือ 1. การเปิดตา เพื่อเราจะพบพระเจ้า 2. ก็คือหันจากความมืดมาสู่ความสว่าง 3. ก็คือหลุดพ้นจากอำนาจของซาตานมาถึงพระเจ้า
ขอบคุณพระเจ้านะครับการเปิดตาให้ได้มาพบพระเจ้า คริสเตียนทั่วไปก็ได้รับ
แต่หันจากความมืดมาสู่ความสว่าง คริสเตียนมากมายยังมาไม่ถึงความสว่างที่ครบถ้วน
จากอำนาจของซาตานมาถึงพระเจ้า ก็ยังมาไม่ถึงอย่างครบถ้วน
คริสเตียนทุกวันนี้ คริสเตียนเนื้อหนังจึงถูกซาตานครอบครอง เป็นเจ้าของคริสตจักรทั้งหลาย และการออกมาจากความมืดสู่ความสว่างก็ยังมาไม่ถึง เพราะว่าเขาเน้นที่การรูปแนวศาสนา การทำๆๆๆๆ ตั้งแต่เช้าจนค่ำ ไม่มีเวลาที่จะสนิทในพระเยซู ไม่มีเวลาที่จะบอกรักพระเยซู ไม่มีเวลาที่จะสร้างความผูกพันที่ดีกับพระเยซู
ก่อนที่ผมจะได้รับมานาฯ ได้พบมานา ฯ ผมก็เคยได้ยินอาจารย์หลายๆ ท่านในยูทูปนะครับ ตอนที่อยู่อเมริกา เขาก็สอนว่าการเชื่อในพระเยซู พระเยซูไม่ใช่เรื่องของ religion เป็นเรื่องของ relationship ใครก็พูดได้ ใครก็สอนได้ พระเยซูไม่ใช่เรื่องของศาสนา แต่เป็นเรื่องของความผูกพันความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ ไม่ใช่เรื่องของการปฏิบัติเพื่อรับพระพรจากพระเจ้าจากพระผู้สร้าง เขาก็สอนแบบนี้ แต่ปัญหาก็คือเขาไม่ได้สอนว่าผูกพันยังไง ใช่ไหม เขาบอกว่าวันนึงอธิษฐาน 3 ครั้ง ถ้ามีเวลาเยอะก็อธิษฐานมากขึ้น ก็แค่นั้น
แต่คำสอนที่บอกว่า บอกรักพระเยซูมีไหมครับ ไม่มี คำสอนที่บอกว่า สนิทในพระเยซู พูดคุยกับพระเยซูอย่างสม่ำเสมอ (1 ธส 5:17 จงพูดคุยกับพระเยซูอย่างสม่ำเสมอ) อันนี้มีไหม ไม่มี
เพราะฉะนั้นขอบคุณพระเยซูสำหรับวันนี้ เป็นพระคุณอย่างยิ่งของพระเจ้าที่มาถึงพวกเราพี่น้องที่รับมานาฯ คือเราได้เข้าใจแล้ว (ยน 15:5 จงสนิทเลยเรา แล้วเราสนิทในเจ้า แล้วเจ้าก็จะเกิดผลมาก) ขอบคุณพระเจ้าสำหรับข้อนี้เราเห็นชัดเจนแล้ว
และขอบคุณพระเจ้า จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ ภาษากรีกก็คือจงพูดคุยสนทนากับพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ สม่ำเสมอคืออะไร ก็พูดคุยไปเรื่อยๆ อยากจะพูดอะไรคิดอะไรได้ก็พูดเลย เพราะว่าตอนนี้ก็คือเราไม่ได้อยู่โดดเดี่ยว พระเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกับเราแล้ว พระเจ้าร่วมกับเราแล้ว แล้วพระเจ้าต้องการให้เราสนิทในพระองค์ ทำสิครับเพื่อเราจะเกิดผลมาก เอเมน
พวกเราอธิษฐานเผื่อนะครับพี่น้องที่ยังไม่ได้ถูกเปิดตา ยังไม่ได้หันจากความมืดมาสู่ความสว่างที่แท้จริง เพื่อเข้าสู่พระคำล้ำลึก พระคำแห่งความจริง และหลุดพ้นจากอำนาจของซาตาน แล้วมาถึงพระเจ้าจริงๆ ได้ สิ่งเหล่านี้พี่น้องคริสเตียนมากมายยังประสบอยู่ ยังมาไม่ถึง แต่เราขอบพระคุณพระเจ้าที่เรามาถึงแล้ว แล้วเราเป็นห่วงอธิษฐานเผื่อพี่น้องเหล่านั้น
และขอบคุณพระเยซูสำหรับวันนี้ที่สอนพวกเรา เรื่องข่าวประเสริฐที่เราจะประกาศ เรื่องพระเยซู ด้วยความรอด แล้วยังไม่พอเราจะเป็นพยานว่า เราเชื่อได้ยังไง กลับใจได้ยังไง พบพระเยซูได้ยังไง แล้วพระเยซูทำอะไรบ้างกับชีวิตของเราในเรื่องการฝ่ายวิญญาณ ให้เราเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ เอเมน
แล้วสิ่งที่สำคัญ ก็คือการที่จะพูดกับใคร กระทำกับใครทั้งดีและไม่ดี เราก็ได้ทำกับพระเยซูด้วย ขอบคุณพระเยซูที่สอนเราวันนี้ และให้เราระมัดระวัง และให้เราตระหนักถึงสิ่งนี้ ท่องจำสิ่งนี้ นับสิ่งนี้ เพื่อเราจะไม่พลาดอาณาจักร และเข้าสู่พระพรฝ่ายวิญญาณทุกประการ อยู่ในการดูแลคุ้มครองปกปักรักษาเป็นบุตรที่รักของพระเยซู เอเมน
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับคำพยาน ทำให้เรามั่นใจได้รู้และได้หนุนใจพี่น้องว่าพระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ ทรงเที่ยงธรรม เมื่อพระองค์สัญญาว่าให้เราสนิท พระองค์ก็สนิทในเรา แล้วเราก็เกิดผลมาก พระองค์สัญญาเมื่อเราตั้งอารมณ์ตาย พระองค์ก็ให้การตายของเรามีประสบการณ์ในความอ่อนแอ ในการไม่อยากทำบาป ในการที่จะไม่ชอบชีวิตที่อยู่ในฝ่ายเนื้อหนัง แต่พระองค์ก็ยังให้เราเจริญขึ้น ในชีวิตของคนใหม่ ชีวิตที่เป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว ที่มีแต่พลังและสันติสุขมากมาย ขอบคุณพระเจ้าในการฝึกนะครับ
ส่วนเรื่องชีวิตฝ่ายร่างกายฝ่ายเนื้อหนัง พระเจ้าจะเป็นคนช่วยเรา ไม่ต้องห่วง พระองค์เป็นผู้เลี้ยงที่ดี แต่สิ่งสำคัญก็คือเราเน้นที่การฝึก การสนิท การบอกรัก การสร้างความผูกพันที่ดีกับพระเจ้า เอเมนสรรเสริญพระเยซูเอเมน
สำหรับเรื่องการตายต่อตัวเก่า การตายทุกวัน 1 คร 15:31 นับตาย ทำบัญชีตาย จดจำท่องจำ มองดูชีวิตของเราว่าตัวเก่าตายตลอดเวลา โรม 6:11 แล้วเราต้องสนิทในความตาย เพื่อเราจะสนิทในการเป็นขึ้นของพระองค์ ยิ่งเราสนิทในการตายมากเท่าไหร่ เราก็มีประสบการณ์ ตัวเก่าอ่อนแอ ตัวเก่าไม่มีกำลัง ตัวเก่าไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตของมันตามอำเภอใจได้ แล้วเราจะเห็นประสบการณ์ชีวิตที่สนิทในการเป็นขึ้นของพระองค์ ก็คือเข้าสู่สันติสุขทุกวันเวลา มีความเข้มแข็ง มีพลังในการที่จะเอาชนะบาปได้
1. ข้าพเจ้าตายทุกวัน 1 cor 15:31
2. จงนับตาย/ทำบัญชีตาย โรม 6:11
3. จงสนิทในความตายของพระองค์ เพื่อจะสนิทในการเป็นขึ้นของพระองค์ โรม 6:5
เพราะฉะนั้นอันนี้เป็นหลักการการดำเนินชีวิตของคริสเตียนในแต่ละวัน ข้าพเจ้าถูกตรึง ข้าพเจ้าตาย ข้าพเจ้านับตาย ข้าพเจ้าตายทุกวัน ข้าพเจ้าสนิทในความตายกับพระเยซู เมื่อเราทำแบบนี้ เราก็จะเห็นการดำเนินชีวิตการทำแทนของพระคริสต์ที่อยู่ในเรา เอเมน
เราขอบคุณพระเจ้าสำหรับพี่น้องที่ฝึก แล้วได้เห็นผล เราจะเจอะเจอเป็นระยะๆ จนการฝึกของเราสำเร็จ ก็คือความสงบ การนิ่งสงบ การยอมเขา ไม่ตอบโต้ไม่ต่อสู้ จนสุดท้ายพระเจ้าก็นำพระพร นำผลสิ่งที่ดีเกิดขึ้นกับเรา แทนที่จะเกลียดชังกัน สุดท้ายก็มาสั่งขนมเป็นประจำเป็นขาประจำ
การฝึกของเราอย่าลืมนะครับ ตราบใดเมื่อใดที่คนข้างบ้านของเรายอมรับเรา ซึ่งเมื่อก่อนเคยถกเถียง เคยทะเลาะ เคยหน้าบูดบึ้ง เคยแต่จะฆ่ากัน มองกันทีไรก็ไม่อยากมองหน้ากัน แล้วมันมีการเปลี่ยนแปลงโดยที่เรานะครับ เราเป็นคนยอม เป็นคนเสียเปรียบ เป็นคนสงบนิ่ง เป็นคนไม่ต่อสู้ เป็นคนยิ้มใส่เขา แทนที่จะทำสีหน้าบูดบึ้งเหมือนเมื่อก่อน แต่มันมีการเปลี่ยนแปลงไปโดยที่คนข้างบ้านยอมรับ แล้วคนที่รู้จักยอมรับ คนที่ตลาดที่ร้านที่ไหนที่เราเคยไป เขาเคยเกลียดชังเรา สุดท้ายก็ยอมรับ การฝึกของเราก็สำเร็จแล้ว สรรเสริญพระเยซู
อีกครั้ง..
คนที่ไม่ดีเข้ามาหาเราเพื่ออะไร เพื่อเราฝึก
คนที่เกลียดชังเราเข้ามาหาเราเพื่ออะไร เพื่อให้เราฝึก
คนที่มักจะเอาเปรียบเราเข้ามาหาเราเพื่อ เพื่ออะไร ก็เพื่อให้เราฝึก
ถ้าไม่มีคนเหล่านี้ การฝึกก็ไม่สำเร็จ เราก็จะไม่มาถึงชีวิตผู้ชนะสักที
เพราะฉะนั้นมันอาจเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบเท่าไหร่ มันขัดๆ หูเราเวลาที่เขาพูดคุยกับเรา หรือเขามองเราไม่ดี เขาเกลียดชังเรา เขาทำอะไร มันเป็นความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่อย่าลืมนะครับสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของการฝึกสำเร็จ ก็คือบำเหน็จ พระพร รางวัล ที่พระเยซูจะถือติดมือมาด้วยเมื่อพระองค์เสด็จกลับมา ขอบคุณพระเยซูสำหรับสิ่งนี้
แล้วสำหรับวินะครับ ลูกสาวที่รักในพระเยซู ก็คือเรามีโอกาสได้คุยกันเป็นระยะๆ เขาส่งคำถามมาเรื่อยๆ แล้วขอบคุณพระเจ้าสำหรับชีวิตของวิ ก็คือเราได้รู้จักกันมานานพอสมควร ผมก็ได้เจอ เจอะเจอได้พบในงานสัมมนาหลายๆ ครั้งที่กรุงเทพนะครับ ขอบคุณพระเยซูสำหรับบุตรสาวที่รักคนนี้ ซึ่งเขาเป็นคนที่ขยันในการส่งข้อความ เป็นพยาน เสริมสร้างพี่น้อง ทำไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่สนใจไม่มองใครไม่ได้คิดอะไร เขาก็ส่งไปเรื่อยๆ ผมก็เห็นนะครับเราก็เห็น ใช่ไหม ผมก็เลยอยากให้เขาพูดนะครับแต่เขาไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร ซึ่งเขาบอกว่า เวลาที่นับตาย การตั้งอารมณ์ตาย เขาจะรู้สึกเฉยๆ ไม่ทุกข์ร้อนไม่กระวนกระวาย แต่มีอาการวางใจแทนที่ เวลาคนมาพูดประชดประชันใส่ ก็รู้สึกสงสารเขาและไม่ถือสาเขา และอภัยให้เขาโดยพระคริสต์ในวิ นี่คือประสบการณ์ชีวิตของเด็กสาว ซึ่งอายุน่าจะไม่มากเท่าไหร่ใช่ไหม ก็ขอบพระคุณพระบิดาที่พระองค์ทำกิจในทุกๆ คนไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหน
เมื่อเราฝึก พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม พระองค์ก็ทำตามที่พระองค์สัญญา ถ้าเราสนิทเราก็เห็นผล ถ้าเราฝึกตายเราก็เห็นผล ถ้าเราฝึกในการใช้ความเชื่อทุกสิ่งเราก็จะเห็นผล เพราะว่าพระเจ้าไม่ใช่พระเจ้าที่มุสา พระองค์ทำตามสัญญาทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะฉะนั้นขอให้ฝึก ขอให้ทำ แล้วเราจะเห็นผลดีที่เกิดขึ้น เอเมน
และเคล็ดลับที่จะได้เงินคืนมา (พี่น้องที่มีกรณีเรื่องการฟ้องร้องศาล) สำหรับน้องสาวอันนี้เป็นสิ่งที่ท้าทาย ถ้าหากเราอยากได้ความยุติธรรมจากมนุษย์ ซึ่งพระเจ้าจะเป็นคนทวงให้ ไม่ใช่เขาทวงนะ พระเจ้าจะเป็นคนทวงให้ เรายกโทษให้เขา เราไม่คิดบาดหมาง เราไม่คิดโกรธแค้น เราไม่คิดแก้แค้น เราไม่คิดเกลียดชังเขา แต่เรายกโทษให้เขาสงสารเขา แล้วคนที่จะตอบแทนนะครับจะนำผลมาให้เรามากกว่าที่เราเสียไป เอเมนพระเยซู
ผมเคยเห็นกับตาผมเห็นกับตาที่พระเจ้าทำกับคนที่ไม่ยุติธรรมกับเรา และตอบแทนเราด้วยอย่างสาสม อย่างมากมาย การยกโทษการอภัยเป็นสิ่งที่เราต้องทำก่อน ก่อนที่พระเจ้าจะทำกิจ และพระเจ้าจะช่วยเรา ถ้าเราโกรธแค้น ถ้าเรามีจิตใจที่เคียดแค้นล้างแค้น ก็คือพระเจ้าจะไม่ทำงาน พระเจ้าทำงานกับคนที่มีจิตใจดี พระเจ้าทำงานกับคนที่ยอมต่ำถ่อมยอมเสียเปรียบ เสียไปเหอะเพื่อสำหรับมนุษย์ แต่พระเจ้าจะเป็นคนชดใช้ จะเป็นคนตอบแทน จะเป็นคนให้ยัดสั่นแน่นพูนล้น เอเมน
แล้ววันนี้เราอย่าลืมว่าบทเรียนสำหรับวันนี้ ก็คือกษัตริย์อากริปปาเขาก็ยังเป็นคนดีอยู่นะ คือเขาเรียนรู้หลักการ ธรรมเนียมของชาวยิว เพื่อที่จะปกครองชาวยิวได้เป็นอย่างดี และเมื่อมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น กษัตริย์อากริปปาให้โอกาสเปาโลที่จะพูดเพื่อแก้คดีของตัวเอง แล้วยังไม่พอ กษัตริย์อากริปปาก็ปล่อยเขาไป ขอบคุณพระเจ้าใช่ไหม ซึ่งเหมือนกับศาลกับทนาย กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับน้องสาว พระเจ้าจะเป็นคนที่ช่วย และให้คนอื่นพูดแทนเรา ช่วยแทนเรา แล้วก็ปลดปล่อยเราไป นี่คือสิ่งที่ดีที่พระเจ้าทำกับชีวิตของเรา เมื่อเราเดินในพระองค์ สนิทในพระองค์ตลอดเวลา สรรเสริญพระเยซูฮาเลลูยา