เนื่องจากพี่น้องคริสเตียนเรา ไม่อ่านเนื้อหาในบทที่ 13 ตั้งแต่ข้อที่หนึ่ง จนถึงข้อสุดท้ายอย่างช้าๆ และขอการเปิดเผยจากพระวิญญาณ เราจึงเข้าใจผิดคิดว่า คำอุปมาเรื่องผู้หญิงกับเชื้อ เป็นเรื่องการแพร่ขยายของคริสตจักร แต่แท้ที่จริงแล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องดีเหมือนกับอีกหลายๆ เรื่อง ขอให้เราสังเกตคำว่า “เชื้อ” (ยีสต์) (มธ. 16:6) กับ “แป้ง” และ “ผู้หญิง” ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ไม่ดีในวิวรณ์ 2:22
...
พระองค์ยังตรัสคำอุปมาให้เขาฟังอีกข้อหนึ่งว่า “อาณาจักรแห่งสวรรค์เปรียบเหมือนเชื้อ ซึ่งผู้หญิงคนหนึ่งเอามาเจือลงในแป้งสามถัง จนแป้งนั้นฟูขึ้นทั้งหมด” (มธ. 13:33)
(1) อาณาจักรแห่งสวรรค์
อาณาจักรสวรรค์ในข้อ 33 นี้ คือคริสตจักร หรือผู้เชื่อทุกคน เรียกว่า “อาณาจักรสวรรค์ในยุคนี้” ใน ลก. 13:20–21 และโรม 14:17–19 เรียกว่า “อาณาจักรของพระเจ้า” ในยุคนี้ อาณาจักรสวรรค์อยู่ในฝ่ายวิญญาณ ตาเรามองไม่เห็น
พระเยซูเป็นกษัตริย์ครอบครองในเราผู้เชื่อ เราคือประชากรแห่งอาณาจักรสวรรค์ และเป็นอาณาจักร (วว. 5:10)
...
(2) เปรียบเหมือนเชื้อ
เชื้อ ในที่นี้มีสองประเภท คือ
(1) เชื้อของพวกฟาริสีและพวกสะดูสี (มธ. 16:6, 11–12; มก. 8:15; ลก. 12:1) เขาหน้าซื่อใจคด ใส่หน้ากากดูดี น่ารัก เข้มแข็ง รักพระเจ้าต่อหน้าผู้อื่น และอีกมากมาย และ
(2) เชื้อ คือคำสอน-ความเชื่อที่ได้มาจากการตีความหมายพระคำพระเจ้า ที่ผิดจากความหมายที่แท้จริง ทำให้ผู้เชื่อกินเข้าไปแล้วไม่โต
แน่นอนที่สุด พระคำพระเจ้าเป็นสิ่งดีประเสริฐเลิศล้ำ เป็นความจริง เป็นชีวิตและฤทธิ์เดช แต่ถ้าหากเราแปล หรือตีความหมายผิด พระคำดังกล่าวก็ไม่เป็นความจริง ไม่เป็นชีวิตและฤทธิ์เดช เราจะไม่โตสู่พระลักษณะของพระคริสต์แน่นอน
...
(3) ผู้หญิงคนหนึ่ง
ในบ้านหรือครอบครัวหนึ่ง จะมีแม่บ้านทำหน้าที่ทำกับข้าว หรือทำอาหารให้คนในบ้าน
หญิงคนนี้ คือผู้นำในคริสตจักร (ผู้สอนและผู้เทศนา) ซึ่งมีหน้าที่ปรุงแต่งอาหารฝ่ายวิญญาณ หรือป้อนเลี้ยงดูพี่น้องด้วยพระคำพระเจ้า เขาคือแม่บ้าน หรือผู้หญิงประจำบ้านหลังนั้น
หญิงคนนี้ เป็นคนเดียวกับหญิงใน วว. 2:22 ซึ่งเป็นผู้รับใช้ หรือผู้นำที่มีหน้าที่เลี้ยงดูผู้เชื่อ ที่เป็นอาณาจักรสวรรค์
...
(4) เอามาเจือลงในแป้งสามถัง
หญิงคนนี้นำชีวิตการกระทำแบบฟาริสี และสะดูสีเข้ามาในคริสตจักร ว่ากันว่า คริสตจักรคือโรงละครโรงใหญ่ ที่มีนักแสดงมากมายที่เป็นคริสเตียน เราผู้นำและผู้ตาม ต่างก็คุ้นเคยกับคำว่าหน้าซื่อใจคด (สวมหน้ากาก) เราไม่ดีจริงก็ว่าเราดีเข้มแข็ง เราดีหนึ่งก็ว่าดีห้าอย่าง เราดีห้าก็ว่าเราดีสิบอย่าง
หญิงคนนี้มักจะใช้คำว่า “ผมคิดว่า” “ผมเข้าใจว่า” “พระคำพระเจ้าน่าจะแปลว่าอย่างนี้อย่างนั้น” แต่ละคนจะมีความคิดเห็นที่ไม่เหมือนกัน เพราะจิตไม่เท่ากัน สุดท้ายทุกคนก็ผลิตเชื้อยีสต์ และนำมาผสมใส่พระคำพระเจ้าจนฟูขึ้นทั้งหมด
...
(5) จนแป้งนั้นฟูขึ้นทั้งหมด
ทุกวันนี้มีความรู้ การตีความหมายพระคัมภีร์มากมายหลายพันหลายหมื่นเล่ม และหลักคำสอนมากมาย แต่ส่วนมากจะนำมาใช้ไม่ได้ ช่วยชีวิตเราให้โตไม่ได้ เรารู้ได้ เพราะชีวิตผู้เชื่อในแต่ละคริสตจักร ที่ยังหนีไม่พ้นวนอยู่ในการขึ้นลงๆ สุขทุกข์ ดีบาป ชีวิตคริสเตียนที่ไม่ปกติ (ป่วย) ครอบครัวก็ป่วย คริสตจักรก็ป่วย เรามาไม่ถึงมาตรฐานชีวิตที่พระเยซูสั่งสอนไว้ใน มธ. บทที่ 5, 6 และ 7
...
(หมายเหตุ: ผมพูดในแง่การศึกษาและด้วยรัก ไม่ได้ตัดสินใครครับ)
ผลที่หญิงได้รับ คือนอนป่วยบนเตียงเป็นทุกข์ (วว. 2:22) และไม่ได้เข้าไปในอาณาจักร เมื่อพระเยซูกลับมาครอบครองโลกนี้และโลกใหม่ (มธ. 7:21–27)
ขอพระบิดาช่วยเราให้หลุดพ้นจากเชื้อแห่งฟาริสี/สะดูสี และพ้นจากคำสอนที่มาจากปัญญาของอาดัม เพื่อเราจะพบมานา และรับมากขึ้น เพื่อเราจะเติบโตสู่พระลักษณะของพระคริสต์ เพราะว่าอาณาจักรของพระคริสต์นั้นรับแต่เฉพาะผู้ที่มีชีวิตของพระคริสต์เท่านั้น อาเมน