ถาม.
ที่ผ่านมาเรามักจะคิดแบบนี้ใช่มั๊ยครับ คนนี้พูดจาดีมาก คนนี้แบ่งปัน คนนี้อธิษฐานดี เราก็คิดว่าเค้าเข้มแข็ง แต่พอวันนึงเราห็นข้อบกพร่องของเขาเราก็รับไม่ได้
ตอบ.
ไม่โฟกัสที่พระเยซู ก็เหมือนเปโตรที่กำลังจมน้ำ
เมื่ออาดัมมองผู้อื่นจะเห็นแต่จุดบกพร่องของเขา
แต่มนุษญ์วิญญาณมองผู้อื่นจะเห็นคำเดียว “ใหม่หมดแล้ว” (2 คร 5:17)
เบื้องหลัง ก็คือพระเจ้านำเราทุกคนไปอยู่ในพระคริสต์แล้ว (1 คร 1:30)
พระองค์จึงนับว่าเราใหม่ (ทั้งที่ยังเก่าอยู่ในอาดัม) ที่ใหม่ก็เพราะว่าพระเยซูปกปิดซ่อนเราไว้จากพระบิดา จึงนับว่าเราใหม่ และพระองค์ให้เรามองผู้เชื่อทุกคนว่าใหม่ เราต้องยอมรับความจริงของพระเจ้า และมองเหมือนพระเจ้ามอง
สำหรับพระเจ้า หรือความจริงของพระเจ้า ...
1. โลกอาดัม หรือโลกเก่า หรือฝ่ายเนื้อหนังจบแล้วที่กางเขน อะไรที่เรียกว่า “เก่า” ก็ผ่านกางเขน หรือความตายของพระเยซูไปไม่ได้ ตอนนี้มันคือเงา เป็นแค่เงา
2. โลกพระคริสต์ หรือโลกใหม่ หรือฝ่ายวิญญาณเริ่มขึ้นแล้วที่อุโมงค์ของพระเยซู
ทุกสิ่งที่เรียกว่าใหม่ก็ออกมากับพระองค์ด้วย ซึ่งก็คือผู้เชื่อทุกคน ออกมาพร้อมกับพระสัญญาใหม่ คือได้เป็นคนบริสุทธิ์ ชอบธธรม และรับพระพรฝ่ายวิญญาณแล้ว ทุกสิ่งในพระคริสต์มีแต่สิ่งใหม่ๆ มีความรัก ชอบธรรม บริสุทธิ์ โดยการเชื่อ และรับว่าพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด และเป็นพระเจ้าของเขา
สรุปก็คือพระเจ้าสร้างเราขึ้นมาใหม่ครั้งนี้ก็เพื่อให้เรารักพระองค์ และรักเพื่อบ้านทั้งศัตรูของเราด้วย ถ้าหากเราไม่รักเพื่อนบ้านรักพี่น้องผู้เชื่อ เราก็ไม่ได้เดินอยู่ในความสว่าง หรือในพระคริสต์
ถ้าหากเราปักใจในฝ่ายวิญญาณ หรือในพระคริสต์สนิทในพระองค์ สิ่งที่ได้รับ และมีประสบการณ์ ก็คือชีวิต และสันติสุข (โรม 8:5-7)
ชีวิต ในที่นี้ คือชีวิตพระเจ้าที่ทรงพลังยิ่งกว่าระเบิดระเบิดไดนาไมต์ที่มีรักอากาเป และทำได้ทุกสิ่ง (เราเชื่อมากก็ยิ่งได้เห็นมาก)
สันติสุข ในที่นี้ คือใจเย็นสบาย เบา ปล่อยวางได้ ไม่เดือดร้อนอะไร
ขอบพระคุณพระเยซู ทุกครั้งที่เรานับว่าอยู่ในพระคริสต์เราก็มีสองสิ่งดังกล่าวเพื่อการดำเนินชีวิตในโลกนี้