ถาม.
อาเมนค่ะอาจารย์อย่างสมมุตินะคะ ที่ดิฉันอยู่ที่นี่คืออยากทราบว่าเป็นของประทานหรือเปล่า เพราะว่าเวลาที่เราพบเจอใคร ออกไปข้างนอก พอเราแนะนำครั้งแรกได้รู้จักกับเขานะคะ คือเหมือนไม่ทราบว่าเขาเห็นพระเยซูหรือเปล่า คือว่าตัวดิฉันเองไม่ใช่ว่าคนที่จะดีอะไร พอเวลาเขาเห็นเรา เขารู้สึกดีใจ แล้วเขารัก คือบางครั้งเขาอยากเข้ามากอดเลยนะคะ เราก็มีความรู้สึกว่าโอเคทำไมเขาเข้ามากอดเราเลย เข้ามากอดมาหอมทั้งที่เราเพิ่งจะรู้จักกันครั้งแรก
เวลาไปที่ไหนเหมือนกันเมื่อมีคนเห็นเขาจะยิ้มแย้ม แล้วก็รู้สึก ไม่รู้อ่ะค่ะเหมือนเขามีความสุข ทั้งๆ ที่บางครั้งเราเห็นเขามีความทุกข์ พอเขาเห็นเราแล้วรู้สึกว่าเขามีความสุข เราก็ขอบคุณพระเจ้าเพราะว่าเป็นพระเยซูไหมค่ะที่สำแดงผ่านเรานะคะอาจารย์
ตอบ.
อันนี้ไม่ต้องสงสัยนะครับ คนไหนที่ใกล้ชิด สนิท อธิษฐาน พูดคุยกับพระเยซูอยู่เป็นประจำ อย่างสม่ำเสมอ สง่าราศีของพระเจ้าก็อยู่กับเรา
เมื่อเราใกล้ชิดพระเยซูมากเท่าไหร่ คำพูดของเรา การกระทำ จิตใจ ความรัก ความเมตตา พระเยซูจะให้เต็มล้นในชีวิตของเรา
เราอาจจะนึกไม่ถึงจะมีคนหลายคนนะครับที่มองเห็นเรา เนี่ยก็คือเห็นสง่าราศีของพระเจ้า เห็นพระเยซูไม่ใช่เห็นเรา อยากจะโอบกอดเรา อยากจะเข้าใกล้ อยากจะพูดคุยด้วย อยากฟัง อยากได้ยิน อยากมอง อยากมาหา นี่คือสิ่งที่เราได้รับจากการที่เราสนิทในพระเยซู เอเมน
อันนี้ก็มีพี่น้องคริสเตียนหลายคนที่เติบโต แล้วก็ใช้ชีวิตสนิทในพระเยซู พอไปที่ไหนเขาก็บอกว่า เออ ทำไมดูคุณเนี่ยดูทุกครั้งก็นึกถึงพระเยซู ดูคุณก็เหมือนกับเห็นพระเยซู แล้วคำพูดของเรานะครับคือมันมีเมตตา ความรักเนี่ย คือผู้คนหรือพี่น้องคริสเตียนจะได้สัมผัส เหมือนกับได้ยินเสียงของทูตสวรรค์หรือของพระเยซู แต่แท้ที่จริงก็คือของพระเยซูนั่นแหละ เอเมน
อันนี้ก็ขอบคุณพระเจ้า สำหรับผมไม่เคยอวดนะครับ แต่สิ่งที่อวดได้ก็คืออวดพระเยซู ขอบคุณพระเจ้าที่เมตตาชีวิตของผมที่เป็นคนที่ไม่มีค่าอะไร แล้วก็เมื่อก่อนก็พูดไม่เป็นพูดไม่เก่ง แล้วถ้าจะพูดก็คืออาจจะพูดพอให้คนฟังได้สักระยะหนึ่งไม่ถึง 1-2 นาที แต่ขอบคุณพระเจ้าที่เมตตาให้มีโอกาสได้รับใช้พระองค์ พอไปพูดนะครับ แปดโมงเช้าเก้าโมงเช้าจนถึงตี 1 ตี 2 ตี 3 ก็มี ก็เกิดขึ้นมาบ่อยครั้งมาก และบางครั้งเราก็เห็นนะครับว่าคลิปแต่ละคลิปก็คือพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นคนพูดเพราะว่าผมขอให้พระองค์เป็นคนตรัส ถ้าไม่พูดไม่ตรัสผมก็จะไม่อัด
คือตอนนั้นก็ใช้หลักสูตรเดียวกันก็คือ พระเยซูไม่ทำ พระเยซูไม่สั่ง เราไม่ทำ พระวิญญาณไม่นำ เราไม่ทำ ก็คือพระเยซูไม่ตรัส เราจะไม่อัด ก็สุดท้ายเห็นว่าพระเจ้าทำให้เกิดผลจริงๆ สิ่งที่พี่น้องได้ยินไม่ใช่ผม แต่เป็นเสียงของพระวิญญาณเป็นคนตรัส
เราสนิทในพระเยซูมากเท่าไหร่ เราอยู่กับพระเยซูมากเท่าไหร่ ผู้คนจะได้ยิน จะเห็น จะสัมผัส จะมาหา แต่คนที่เขามาหามาเห็นมาสัมผัสมาได้ยินเนี่ยก็คือเป็นพระเยซู เอเมนสรรเสริญพระเจ้า
มีผู้ชายคนหนึ่งที่ฝึกเดินในวิญญาณ แล้วก็เขาท่อง “ข้าพเจ้าถูกตรึงแล้ว ข้าพเจ้าจึงไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่มีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า กท 2:20” แล้วเขาก็ฝึกเดินแบบนี้ก็คือให้พระเยซูดำเนินชีวิตแทนเขาในแต่ละวัน จนคุณแม่ของเขานะครับท้วงว่าลูกชายฉันเนี่ยไม่น่าจะใช่คนนี้ เหมือนกับเขาเป็นคนอื่น เหมือนกับว่าลูกชายตายแล้วแต่คนนี้เป็นคนไม่รู้มาจากไหน ก็ขอบคุณพระเจ้าที่คุณแม่เขาเห็นพระเยซู ไม่ได้เห็นเขาอีกแล้ว ซึ่งนิสัยเขาเมื่อก่อนไม่ได้เป็นแบบนี้ เป็นคนละคนเลย
นี่คือผลที่เราได้รับจากการดำเนินชีวิตที่ให้พระเยซูทำแทน เดินแทน ไปมาแทน รับแทน เมตตาแทน พูดแทน ทุกสิ่งคนที่อยู่รอบข้างจะได้สัมผัสพระเยซูได้เห็นพระเยซู ไม่ใช่เห็นตัวเขาอีกต่อไป เอเมน
เราจะประสบความสำเร็จก็ต่อเมื่อคนที่อยู่รอบข้างเห็นพระเยซู
แต่เมื่อไหร่ที่ทุกคนที่อยู่รอบข้างเรา คนในบ้าน ยังเห็นตัวเก่าของเราอยู่ นิสัยเดิม คำพูดเดิม ทุกอย่างเดิมหมด แสดงว่าเรายังต้องฝึกอีกนาน เอเมน ไม่เป็นไรนะครับเราไม่ต้องท้อ ถ้าเรายังไม่เห็น เราจะสู้ไปด้วยกัน เราจะฝึกไปด้วยกัน ความหวังอยู่แค่เอื้อม ขอบคุณพระเจ้าที่พระเจ้าเปิดเผยว่าทุกสิ่งสำเร็จแล้วในพระคริสต์
เพราะฉะนั้นคนที่จะเป็นผู้ชนะต้องใช้ชีวิตอยู่ในพระคริสต์ให้มาก ให้นาน ให้สม่ำเสมอในแต่ละวัน สุดท้ายสง่าราศีของพระเจ้าจะครอบคลุมเรา และทุกคนที่มองเราจะมองเห็นพระเยซู