ถาม.
เมื่อก่อนผมเป็นคริสเตียนศาสนา สมัยก่อนคือเวลาประกาศเขาก็จะมีการติดตามผลไปเยี่ยมคนนู้นคนนี้ เหมือนกับเปาโลไปเยี่ยมคริสตจักรต่างๆอะไรแบบนี้ แต่พอดีมารับมานาที่ซ่อนไว้ คือ เรามีกลุ่มเฉพาะในเฟซในไลน์เนอะ คือติดตามผู้เชื่อเราไม่ค่อยได้ทำแบบคริสเตียนศาสนา คือเขาพยายามไปติดตามผลไปพูดคุยไปหนุนใจผู้เชื่อ มันเป็นจุดหนึ่งไหมครับที่จะทำ ผู้เชื่อหลายคนที่เขาไม่รับการติดตามผลตรงนี้ แล้วก็หลงหายไปหลุดออกจากนานาไป คือส่วนของเรา เราควรจะทำขนาดไหนครับ
ตอบ.
จริงๆ แล้วหน้าที่ของเราที่เป็นผู้เลี้ยงเป็นผู้ประกาศให้เขา เราติดตาม แต่เราไม่ทำเหมือนศาสนา ก็คือไม่เอามาอวดเป็นการงานผลงานของเราต่อคริสตจักร คือเราติดตามแล้วเราอธิษฐานเผื่อเขาอยู่เสมอ เราไม่ทิ้งเขาครับ
ถ้ามีทีมงาน เราทำ เราร่วมกันเป็นทีมงาน แล้วก็ติดตามพี่น้องที่เราประกาศกับเขา เราสอนเขา แล้วก็ติดตามพี่น้องที่อยู่ในกลุ่มของพวกเราด้วย อธิษฐานเผื่อ เพียงแต่ว่าสิ่งที่แตกต่างก็คือเราไม่ทำเพื่ออวดผู้อื่น เราไม่ทำเพื่ออวดคริสตจักร เราไม่ทำเป็นคือสร้างผลงาน
...
ถาม.
คือเมื่อก่อน เคยเป็นคริสเตียนศาสนาทั่วไปค่ะแล้วพออยู่มาหลายปีก็มาพบมานาเราได้พบมานานแล้วมันมีสันติสุข แล้วก็การที่เราพูดคุยกับพระเจ้าเราก็มีความสุขแล้วเรายิ้ม เรายิ้มแล้วมีสันติสุขภายในลึกๆภายในก็มีสันติสุข แต่ว่าคริสเตียนศาสนาที่เราเคยเป็นน้องเลี้ยงเขา เขาเป็นพี่เลี้ยง เขาหาว่าเราเป็นบ้าคนบ้าก็มียิ้มได้เขาว่างี้ คนบ้าก็ยิ้มคนเดียวได้แล้วก็ไม่ได้เป็นความสุขหรอกเขาว่าอย่างงี้ คืออะไรค่ะ
ตอบ.
เป็นเรื่องปกติครับ สำหรับเราที่พบมานาที่ซ่อนไว้ เราพบพระคำที่ล้ำลึก พบความจริงของพระเจ้า พระเจ้าให้เราเกิดมีความสงบสุขนี้ขึ้นภายในจิตใจ แล้วเรามีสันติสุขได้ทั้งๆที่มีปัญหาเข้ามา คริสเตียนศาสนาจะไม่เข้าใจสิ่งนี้ เพราะว่าคริสเตียนเตียนศาสนาเขามีความสุขได้เมื่อเขาสมหวังใช่มั้ย แล้วถ้าเกิดปัญหามีมรสุมชีวิตเข้ามาใครจะไปมีความสุขได้อันนี้เป็นกฎของโลกเป็นหลักการของโลก
แต่หลักการของคริสเตียนมันแตกต่างอย่างสิ้นเชิง พระเยซูยังพูดเองนะครับว่า แม่น้ำแห่งชีวิตที่เราให้แก่เจ้า ถ้าเจ้าได้ดื่มเจ้าจะไม่กระหายอีกเลย ความหมายก็คือ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ ก็ไม่กระหายก็มีความสงบสุข มีสันติสุขอยู่ภายในจิตใจได้ อันนี้คริสเตียนศาสนาจะเข้าใจยาก เราก็อธิษฐานเผื่อเขา เราทำได้เท่านั้นครับ เราเคยได้ยินกันบ้างไหมว่าพี่น้องคริสเตียนศาสนาเขาจะสงสารเราเขาบอกว่าเราน่าสงสาร เราเชื่อผิด แต่จริงๆ แล้วคนที่น่าสงสารคือเขา
...
ถาม.
ตอนนี้ดิฉันก็สามัคคีธรรมกับเพื่อนนะคะ จะเป็นตามบ้านอย่างอาทิตย์นี้ไปบ้านเพื่อนคนนี้ อาทิตย์นี้ไปบ้านเพื่อนคนนี้ในกลุ่มก็จะมีประมาณซัก 6-7 คน นะคะ แต่ที่นี้ว่าเขาจะพูดภาษาแปลกๆ แต่ดิฉันไม่พูดนะคะ เขาจะพูดกันในกลุ่มอย่างนี้ ดิฉันควรจะอยู่ในกลุ่มนี้ต่อไปไหมคะ
ตอบ.
ถ้าทำได้นะครับ ถ้าทำได้ก็ไม่อยู่ดีกว่า เนื่องจากว่าในหนังสือกาลาเทียบทที่ 6:7-8 บอกว่าเราจะร่วมกับคจ. ศาสนา ฝ่ายวิญญาณร่วมกับฝ่ายเนื้อหนังไม่ได้เพราะว่าสิ่งที่เขาหว่าน เขาหว่านในสิ่งที่เป็นเนื้อหนัง เราหว่านในสิ่งที่เป็นพระวิญญาณ สิ่งที่เรารับ กับสิ่งที่เขารับมันแตกต่างกัน สุดท้ายเราจะอยู่ยาก เพราะเราตอนนี้เข้าใจแล้วใช่ไหมครับว่าการพูดภาษาแปลกๆ ที่เขาทำอยู่มันไม่มีในพระคัมภีร์ เเล้วก็ซาตานเป็นคนหลัก เป็นคนสนับสนุนให้เขาทำอยู่
มีเพื่อนผมที่เป็นผู้รับใช้เป็นอาจารย์หลายคนที่อยู่อเมริกา ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกแล้ว เนื่องจากว่ามีการพูดขึ้นมาเยอะเกี่ยวกับพระคัมภีร์ภาษากรีก ที่อธิบายในภาษาลาว ภาษาไทยมันเป็นภาษาแปลกๆ ใช่ไหม แต่ปรากฏว่าในภาษาอังกฤษและในภาษากรีกพูดว่า ลิ้นต่างๆ ลิ้นหรือภาษาต่างๆ มันไม่มีคำว่าแปลกๆ เลย แล้วหลายคนเริ่มถ่อมใจ แล้วก็เขาพยายามหยุดแต่เมื่อคณะนิกายของเพนเทคอสไม่อนุญาตให้หยุดเพราะว่าเขาเชื่อว่าการพูดภาษาแปลกๆ เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพวกเขา เพราะฉะนั้นอาจารย์เหล่านี้ผู้นำเหล่านี้ก็ตัดสินใจออกลาออกก็มีเยอะครับ เมื่อก่อนผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบพูด แล้วก็สอนคนอื่นให้พูดด้วย แต่สุดท้ายก็ขอบพระคุณพระเยซูที่ให้ผมถ่อมใจแล้วก็เปลี่ยนผม
...
ถาม.
คนที่พบมานาแล้ว แล้วทิ้งมานาไปเขาจะมีโอกาสกลับมาพบมานาอีกไหมคะ
ตอบ.
เป็นไปได้ครับ เนื่องจากว่าเขายังรับการเปิดตาไม่ครบ ไม่เห็นชัด ไม่เข้าใจพระคัมภีร์มากพอ เขารับส่วนใดส่วนหนึ่งของมานาเท่านั้น จากนั้นก็สงสัย แล้วก็ได้มีหลายคนกล่าวหาว่ามานาสอนผิด เขาก็เลยสับสนแล้วก็กลับไป แต่สุดท้ายพระเจ้าก็นำเขามาอีก พบมานากลับมารับมานาเพิ่ม แล้วก็หายสงสัย อันนี้มีผมเห็นมาเยอะครับ
...
ถาม.
ในบทเรียนที่ล้ำค่า ไข่มุกที่ได้มาจากพระเจ้า หากเรายอมทิ้งสิ่งที่เรารับมาจากมานาที่ซ่อนไว้ ก็ไม่มียาทาตาให้เราอีกแล้ว ตรงนี้ค่ะ ขอช่วยขยายความนิดนึงค่ะ
ตอบ.
เราจะเห็นในหนังสือวิวรณ์ บทที่ 2:4-7 บอกว่าจะทำให้คันประทีปล้มลงไม่ให้ตั้งอยู่ได้ ความหมายก็คือ เมื่อเรารับมานาแล้วเราทิ้งมานาหรือเราไม่เคยรับมานาเลย เราก็ไม่ยอมรับเอามานา พระเจ้าจะไม่ให้เราได้พบความจริงเลย เพราะเราเป็นคนที่แข็งกระด้าง เป็นคนที่ไม่ถ่อมใจ ไม่เปิดใจ คนเหล่านี้พระเจ้าใช้ไม่ได้ แล้วก็ให้เกิดผลกับการงานของพระเจ้าไม่ได้ สุดท้ายพระเจ้าก็ไม่ให้รับ ชีวิตก็จะหนัก ภาระก็หนัก กางเขนก็หนัก แอกก็หนัก คือพระเจ้ารู้ว่าใครที่จะรับหรือไม่รับ รับมากรับน้อย รับแล้วทิ้ง พระเจ้ารู้ แล้วพระเจ้าจึงตัดสินใจว่าถ้าคนนี้ไม่รับก็จะไม่ให้รับเลยไม่ต้องรับเลย
...
ถาม.
เหมือนประมาณว่าจะร้อนก็ร้อนไปเลยไม่เอาเย็นๆไม่เอาอุ่นๆใช่ไหมคะ
ตอบ.
ใช่ครับถูกครับ คือจะเย็นก็คือออกไปเลย จะร้อนก็คือกระตือรือร้นร้อนรนกับพระเจ้า ไม่ควรจะอยู่แบบอย่างลักษณะอุ่นๆ คำว่าอุ่นๆ ก็คือไม่ดีครับ มีบางคนบอกว่าพระคัมภีร์ข้อนี้น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับน้ำดื่ม ที่อุ่นๆ ก็คือดื่มแล้วมันก็ดี หรือว่าน้ำเย็น ก็คือ เย็น ชื่นใจ เวลาเราดื่มน้ำ แต่จริงๆ แล้วเป็นเรื่องของจิตใจครับ ร้อน เย็น อุ่นๆ อันนี้เป็นเรื่องของจิตใจ