.....
เป็นชีวิตที่ครบบริบูรณ์ และชีวิตนิรันดร์
(ยอห์น 6:51-68)
6:51 เราเป็นอาหารที่ธำรงชีวิต ซึ่งลงมาจากสวรรค์ ถ้าผู้ใดกินอาหารนี้ ผู้นั้นจะมีชีวิตนิรันดร์ และอาหารที่เราจะให้เพื่อเป็นชีวิตของโลกนั้น ก็คือเนื้อของเรา”
6:52 แล้วพวกยิวก็ทุ่มเถียงกันว่า “ผู้นี้จะเอาเนื้อของเขาให้เรากินได้อย่างไร”
6:53 พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านไม่กินเนื้อและดื่มโลหิตของบุตรมนุษย์ ท่านก็ไม่มีชีวิตในตัวท่าน
กินเลือดกินเนื้อ ในที่นี้คืออ่าน และรับขณะที่หายใจเข้าออก ด้วยความเชื่อว่าได้รับชีวิตเข้าไป ทางการอ่านและการหายใจ
อาดัม (มนุษย์คนแรกที่พระเจ้าทรงสร้าง) พลาดโอกาส ไม่ได้กินพระเจ้าเข้าไป จึงไม่มีชีวิต แต่เรามีโอกาสรับชีวิตพระเจ้า ทางการกินพระคริสต์เยซู
ใครที่ไม่กิน ก็ไม่มีชีวิตพระเจ้าอยู่ในเขา (ข้อ 53)
.....
6:54 ผู้ที่กินเนื้อและดื่มโลหิตของเราก็มีชีวิตนิรันดร์ และเราจะให้ผู้นั้นฟื้นขึ้นมาในวันสุดท้าย
มีชีวิตนิรันดร์ ในที่นี้คือมีชีวิตของพระเจ้าที่ไม่ได้สร้าง คือมีอยู่แล้ว และเป็นสภาพอมตะ
การรับชีวิตพระเจ้า เมื่อรับชีวิตพระเจ้า เราจะรับ (ความรอด ความหวัง สันติสุขแท้จากภายใน พระพรทุกประการ และกลายเป็นบุตรพระเจ้า)
.....
6:55 เพราะว่าเนื้อของเราเป็นอาหารแท้ และโลหิตของเราก็เป็นของดื่มแท้
6:56 ผู้ที่กินเนื้อและดื่มโลหิตของเรา ผู้นั้นก็อยู่ในเรา และเราอยู่ในเขา
คือการรับพระเจ้าในแต่ละวันผ่านการอ่าน หายใจ และเชื่อว่ากินและดื่มพระคริสต์เยซู
ผู้นั้นก็อยู่ในเรา และเราอยู่ในเขา (คือการสนิทในพระเจ้า และพระเจ้าสนิทในเรา สองคนในร่างเดียวทุกวันเวลา)
.....
6:57 พระบิดาผู้ทรงดำรงพระชนม์ได้ทรงใช้เรามา และเรามีชีวิตเพราะพระบิดานั้นฉันใด ผู้ที่กินเรา ผู้นั้นก็จะมีชีวิตเพราะเราฉันนั้น
พระเจ้าให้โอกาสมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเมื่อก่อนอาดัมพลาดโอกาส
แท้ที่จริงแล้ว การรับผลไม้แห่งชีวิต คือรับชีวิตพระเจ้าในสวนเอเดน เพื่อจะเป็นสองคนในร่างเดียว พระเจ้าเข้ามาอยู่ในเรา และเราอยู่ในพระเจ้า
อาดัมกลับรับชีวิตซาตาน (การกินผลจากต้นไม้แห่งความรู้ดีชั่ว) เข้ามาในเขา และมันเข้าอยู่ในอาดัม ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
.....
6:58 นี่แหละเป็นอาหารซึ่งลงมาจากสวรรค์ ไม่เหมือนกับมานาที่พวกบรรพบุรุษของท่านได้กินและสิ้นชีวิต ผู้ที่กินอาหารนี้จะมีชีวิตนิรันดร์”
มานาที่พวกบรรพบุรุษรับ คือกินแล้วต้องหิวอีก และพรุ่งนี้ต้องไปเก็บมากินใหม่
พระเยซูเป็นมานาที่มาจากสวรรค์ หรือมานาที่ซ่อนอยู่ ซึ่งเมื่อผู้ใดได้พบและกินจะไม่กระหาย แต่มีชีวิตพระเจ้าอยู่ในเขาทุกวัน
.....
6:63 วิญญาณเป็นที่ให้มีชีวิต (โซเอ้ Zoe) ส่วนเนื้อหนังไม่มีประโยชน์อันใด ถ้อยคำซึ่งเราได้กล่าวกับท่านทั้งหลายนั้น เป็นวิญญาณและเป็นชีวิต
"วิญญาณเป็นที่ให้มีชีวิต" คือพระคริสต์ที่จะเป็นพระวิญญาณที่แบ่งชีวิตได้ เมื่อพระองค์ได้รับเกียรติจากพระบิดาแล้ว (ยอห์น 7:39; 20:22)
ส่วนเนื้อหนังไม่มีประโยชน์อันใด คือพระเยซูที่ยังเป็นมนุษย์ ไม่สามารถแบ่งชีวิตของพระองค์ให้ใครได้ จึงไม่มีประโยชน์ในด้านนี้
.....
6:65 และพระองค์ตรัสว่า “เหตุฉะนั้น เราจึงได้บอกท่านทั้งหลายว่า ‘ไม่มีผู้ใดจะมาถึงเราได้ นอกจากพระบิดาของเราจะทรงโปรดประทานให้ผู้นั้น’”
พระเจ้าจะมองดูส่วนลึกของหัวใจ ซึ่งแม้แต่เราเองก็ยังไม่รู้จิตใจที่แท้จริงของเรา และเมื่อทรงมองเห็นว่าเราจะเลือกพระเจ้า พระองค์ก็ทรงเลือกคนนั้น และนำมาถึงความรอด และบางคนถึงผู้ชนะ
.....
6:66 ตั้งแต่นั้นมา สาวกของพระองค์หลายคนก็ท้อถอย ไม่ติดตามพระองค์อีกต่อไป
สาวกในที่นี้ ไม่ใช่สาวกสิบสองคน แต่เป็นสาวกหลายร้อยคน ที่ติดตามพระเยซูในสมัยนั้น
....
6:68 ซีโมนเปโตรทูลตอบพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า พวกข้าพระองค์จะจากไปหาผู้ใดเล่า พระองค์มีถ้อยคำซึ่งให้มีชีวิตนิรันดร์
พระองค์มีถ้อยคำซึ่งให้มีชีวิตนิรันดร์ คือพระคำ หรือถ้อยคำ มีชีวิตของพระเจ้า (Zoe)
ผู้เชื่อที่ประกาศข่าวดีต่อคนที่ไม่เชื่อ และผู้ชนะที่เทศนาสั่งสอน จะมีถอยคำที่มีชีวิตพระเจ้านี้ เพื่อปลดปล่อย และให้ชีวิต และให้พระวิญญาณแก่คนที่ฟังได้ อาเมน.