ถาม.
อจ.คะเราจำเป็นต้องเรียนชีวิตสาวกไหมคะ
ตอบ.
การเรียนชีวิตสาวกก็คือการเรียนรู้มานาก็ได้น่ะครับ เราเรียนรู้พระคำพระเจ้า เราเรียนรู้คำสั่งสอนของพระเยซู หนังสือมัทธิว ยอห์น ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราเป็นสาวกที่ดีของพระเยซูได้ เราไม่ต้องไปเข้าคอร์สน่ะครับ ไปเข้าคอร์สเรียนสาวกเป็นยังไง ทำยังไง ทำอะไร คือสาวกก็คือผู้เชื่อทุกคน
เราทุกคนที่เกิดมาในฝ่ายวิญญาณเราบังเกิดใหม่ พระเจ้านับเราทุกคนเป็นสาวก ไม่ใช่ว่าเป็นราษฎรของอาณาจักรสวรรค์ ขอย้ำน่ะครับเราทุกคนที่เชื่อพระเยซูเป็นสาวกแล้ว เป็นแล้วน่ะครับ ไม่มีใครสักคนเดียวที่ได้บังเกิดใหม่แล้วไม่ได้ถูกเรียกว่าเป็นสาวก พระเยซูเรียกเราทุกคนว่าเป็นสาวกของพระเยซู
แล้วสาวกเราต้องทำอะไร? ก็ฝึกเดิน ฝึกเดินในความเชื่อ ฝึกรับใช้ให้ถูกวิธี ฝึกปรนนิบัติพระเจ้าให้ถูกต้องตามน้ำพระทัย เพื่อให้พระเจ้าพอพระทัยในการปรนนิบัติพระเจ้าของเราครับ การฝึกเดินนี้แหละการรับใช้นี่แหละ ก็คือการฝึกเป็นสาวกครับ ไม่ต้องไปเข้าคอร์สน่ะครับ ถ้าจะไปเข้าคอร์สก็คือการเข้าสู่ศาสนาคริสต์ ก็คือการเป็นคริสเตียนศาสนา เขาจะสอนเราว่าต้องอดกลั้นต้องอธิษฐาน ต้องเฝ้าเดี่ยว ต้องตื่นแต่เช้ามืด ต้องทำนู่น ต้องทำนี่ อันนี้ไม่ใช่สาวกแล้ว อันนี้คือศาสนาคริสต์ครับ
สำหรับเรา เราเรียกคอร์สนี้ว่าคอร์สแห่งพระวิญญาณ พระวิญญาณจะเป็นคนสอนเรา เราก็อ่านมานาพระวิญญาณเปิดเผยให้เรา ได้เรียนรู้ ได้เข้าใจ ถึงการใช้ชีวิตของสาวกที่ถูกต้องตามน้ำพระทัยของพระบิดาครับ
...
เมื่อก่อนสมัยที่ผมอยู่อเมริกาผมเข้าไปเข้ามหาลัยในระยะ 5 ปี ที่อยู่ในนั้นก็คือมีการเรียนรู้เรื่องวิธีการ เคล็ดลับในการเทศนา สั่งสอน แบ่งปันพระคำ เผยพระวจนะ การประกาศข่าวประเสริฐ มีกลไกมีวิธีการมีระบบมีอะไรมากมาย ซึ่งผมมาสรุปดูแล้วน่ะครับว่าสิ่งเหล่านี้เป็นวิธีที่มนุษย์คิดขึ้นมา
เนื่องจากว่าหลายสิ่งไม่ได้อยู่ในคำสอนของพระเยซู อย่างเช่นการพยายามชักชวนให้พี่น้องคริสเตียนถวายโดยที่ไม่คำนึงถึงว่าฐานะของเขายากจนยังไง เขามีมากมีน้อยแค่ไหน และเรื่องวิธีการที่จะบังคับให้พี่น้องคริสเตียนในคริสตจักรเขาพยายามเลิกทำบาป ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ไม่มีกิเลสตัณหาโลภโกรธหลง บังคับเขาอันนี้ก็เป็นเกี่ยวกับเรื่องศาสนามากกว่าน่ะครับ และอีกหลายๆเรื่อง เรื่องการประกาศบอกว่าถ้าเราไม่ประกาศใครไม่ออกไปประกาศก็คือจะวิบัติจะเป็นเหมือนเปาโลที่จะต้องวิบัติเมื่อไม่ออกไปประกาศรับใช้ เพราะฉะนั้นมีการข่มขู่การบังคับแบบทางอ้อมน่ะครับ มีหลายสิ่งที่คริสตจักรมากมายทำกันอยู่ ซึ่งเราเห็นน่ะครับว่ามันเป็นเรื่องของศาสนา เป็นเรื่องของฝ่ายเนื้อหนัง เป็นเรื่องของศาสนาคริสต์มากกว่าเรื่องฝ่ายวิญญาณ
เพราะฉะนั้นการรับใช้พระเจ้าเราเรียนรู้เราเข้าใจรู้ว่าทุกวันนี้คนที่ทำงาน คนที่ทำกิจในเราคนเดียวคือพระวิญญาณ
คนที่สอนเรา คือพระวิญญาณ
คนที่ดำเนินชีวิตของเรา คือพระวิญญาณ
คนที่ทำทุกสิ่งในเรา คือพระวิญญาณ
คอร์สของเราที่จะเรียนรู้ ก็คือเรียนกับพระวิญญาณ เเล้วใครที่มีของประทานที่จะให้พระวิญญาณพูดแทนเขาก็ไปเรียนกับเขาครับ
...
ถาม.
เรื่องการไม่ประกาศแล้วจะวิบัติมีคริสเตียนหลายคนที่มาคุยด้วยแล้วก็เอาข้อนี้มาอ้าง คือเราจะอธิบายให้เขาเข้าใจได้อย่างไรว่าอันนี้พระเจ้าพูดกับเปาโล และเปาโลพูดเองกับตัวเองไม่ใช่ว่าบอกคริสเตียนให้ต้องประกาศถ้าไม่ประกาศจะวิบัติ อันนี้คือต้องการว่าเราจะอธิบายเขาว่าอย่างไรคะให้เขาเข้าใจคะ
ตอบ.
1. ยกข้อพระคัมภีร์ที่เปาโลพูดเองเลยว่าเมื่อข้าพเจ้าไม่ประกาศข้าพเจ้าจะวิบัติ ในนั้นน่ะครับคือข้าพเจ้าก็คือเป็นเอกพจน์ เปาโลไม่ได้พูดว่าพวกเรา ถ้าไม่ประกาศพวกเราคริสเตียนก็จะวิบัติ
2. ไปเอาข้อพระคัมภีร์ที่เกี่ยวกับเรื่องของประทานให้เขาอ่านและบอกว่าหน้าที่ของแต่ละคนมีแตกต่างกัน ไม่ใช่ทุกคนต้องประกาศ ไม่ใช่ทุกคนต้องวางมือรักษาโรค ไม่ใช่ทุกคนต้องไล่ผี ไม่ใช่ทุกคนต้องเป็นศิษยาภิบาล บอกเขา ถ้าเขารับไม่ได้ก็เอเมน ถ้าเขารับได้ก็ขอบคุณพระเยซู อย่าไปหวังน่ะครับว่าเขาจะรับได้หรือเข้าใจเหมือนเรา ถึงเวลาของใครของมันน่ะครับ