ถาม.
อยากถามว่าเปลวไฟแห่งพระวิญญานบริสุทธิ์ที่มาสวมทับเราจนรู้สึกได้ เป็นไฟร้อนหรือไฟเย็นครับ
ตอบ.
- เปลวไฟแห่งพระวิญญาณ ไม่ได้มาสวมทับเรา แต่เป็นพระวิญญาณเองครับที่มาสวมทับเรา บางครั้งจะรู้สึกร้อนบางครั้งเย็น
- ไฟแห่งพระวิญญาณมีหน้าที่เดียว คือเผาไหม้ในวิญญาณของเราเพื่อให้เราเกิดมีอาการร้อนรนกระตือรือล้น ขยัน ในการดำเนินชีวิต อธิษฐาน อ่าน ไปนมัสการ ประกาศและรับใช้พระเจ้าครับ (โรม 12:11)
...
ถาม.
ครับผมรู้สึกเหมือนเย็นวูบกลางหน้าอกในวันนั้นวันสุดท้ายที่ผมคิดว่าตัวเองต้องตายครับ
ตอบ.
เรายังรู้แน่นอนไม่ได้ว่ามาจากใคร จนก่วาผลปรากฏออกมาจะดีหรือไม่ ถวายเกียรติแด่พระบิดาหรือขายหน้าพระเจ้า อย่าคิดว่ามาจากพรพะเจ้าเมื่อเราร้องให้หรือรู้สึกมีความสุขเพราะมารก็ทำให้เรามีอาการนี้ชั่วคราวได้
- การทำงานของพระเจ้าทุกวันนี้มีมากมาย แต่มารยิ่งทำมากกว่า เพราะคริสเตียนส่วนมากอยู่ในเนื้อหนังและเป็น คต. ศาสนา
- การทำงานฝ่ายวิญญาณมาจากสองแหล่ง ถ้าเรายอมรับความจริงนี้ได้ เราจะมีโอกาสให้พระเจ้าได้ทำงานมากกว่ามารทำ เพราะว่าผู้เชื่อส่วนมากเข้าใจผิดคิดว่าการสัมผัสทุกครั้งมาจากพระเจ้า ไม่เคยสงสัยเลยว่าหลายๆ ครั้งมาจากมาร
...
ถาม.
ผมสารภาพบาปและขอเปลวไฟแห่งพระวิญญานบริสุทธิมาเผาไหม้ครับ
แล้วขอชีวิตบังเกิดใหม่ครับ
ตอบ.
คือการขอผิดครับ ...ทันทีที่เราเชื่อ เราก็บังเกิดใหม่ จะไม่ตายอีก เราเกิดใหม่ได้ครั้งเดียว
อย่าขอเปลวไฟมาเผาใหม้บาปนะครับ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของไฟ แต่เป็นหน้าที่ของพระโลหิต ไม่มีสักที่เดียวในพระคัมภีร์ที่กล่าวถึงไฟเผาไหม้บาป หรือเปลี่ยนเราให้เลิกทำบาปได้ เพราะการชำระความผิดบาปเป็นหน้าที่ของพระโลหิต (ฮบ 9:12) และการเลิกทำบาปคือการตายต่อตัวเก่าทุกวันด้วยการเชื่อว่าตายแล้ว และไม่อยู่ใต้พระบัญญัติแต่อยู่ใต้พระคุณ (พระเยซูทำแทน) (โรม 6:6, 14)
- พี่น้องมากมายไปรับไฟ ไปขอไฟเผาไหม้บาป สิบยี่สิบปี จนตาย ก็ไม่เปลี่ยนแปลง และยังไม่มีสันติสุขทุกเวลาได้ ยังใส่หน้ากาก (หน้าซื่อใจคต) อยู่เหมือนเดิม
เราเพียงแต่สารภาพบาป และเชื่อทันทีว่าพระเจ้ายกโทษให้เราแล้วเพราะเห็นแก่พระโลหิตของพระเยซู (1 ยน 1:9 / ฮบ 9:12)