ถาม.
อยากจะถาม กจ 8 ข้อที่ 14 -15 ครับ ก็คือกรุงเยรูซาเล็มอยู่ทางตอนใต้ใช่ไหมครับ สะมาเรียแล้วก็อยู่ตรงกลาง
แต่ว่าในข้อที่ 15 บอกว่า เมื่อท่านทั้งสองลงไปถึงก็อธิษฐานเผื่อพวกเขา คือควรจะพูดว่าขึ้นไปหรือเปล่าครับ หรือว่าลงไปครับ เอเมน
ตอบ.
ในข้อที่ 14 บัดนี้ เมื่อพวกอัครทูตซึ่งอยู่ที่กรุงเยรูซาเล็มได้ยินว่า ชาวสะมาเรียได้รับพระวจนะของพระเจ้าแล้ว พวกท่านก็ส่งเปโตรกับยอห์นไปหาพวกเขา
ขณะที่อัครสาวกอยู่กรุงเยรูซาเล็มได้ยินว่าชาวสะมาเรียที่อยู่ทางเหนือได้รับพระวจนะของพระเจ้าแล้ว พวกท่านก็ส่งเปโตรกับยอห์นไปหาพวกเขา
ข้อที่ 15 ผู้ซึ่งท่านทั้งสองลงไปถึงแล้ว นะครับ ลงไป เยรูซาเล็มอยู่ทางใต้ แต่สะมาเรียอยู่ทางเหนือนะครับ
ทีนี้พระวิหารคืออยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม และเป็นที่ที่ชาวยิวนับและถือและยกขึ้นให้เป็นที่เหนือทุกที่ทุกแห่งทุกหน เป็นที่ที่สูงที่สุดในโลก เพราะว่าเป็นที่ที่พระเจ้าลงมาประทับอยู่ ไม่ว่าใครในโลกถ้าหากจะไปกรุงเยรูซาเล็ม ก็จะเรียกว่าขึ้นไป ถ้าหากเขาออกจากกรุงเยรูซาเล็มเขาจะเรียกว่าลงไปครับผม เอเมน
เมื่อพระวิหารเป็นที่ประทับของพระเจ้านะครับ กรุงเยรูซาเล็ม ก็คือถูกเรียกว่าเป็นจุดใจกลาง เป็นเมืองหลวงของโลกนี้ครับ สำหรับชาวยิวนะครับ ยังไม่พอน่ะสำหรับคริสเตียนทั่วโลกทุกวันนี้เขาก็ยังเชื่อเหมือนกันในลักษณะนี้ และเขายังถือว่านาฬิกาของโลก ทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นที่จะเป็นไปการเวลาทั้งหลาย ขึ้นอยู่กับนาฬิกาที่อยู่ในกรุงเยรูซาเล็มครับ
เพราะฉะนั้นเยรูซาเล็มพระวิหารจึงเป็นนาฬิกาของโลกครับ อะไรจะเกิดขึ้น จะเป็นไปได้ยังไง เราดูที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเยรูซาเล็ม สงครามโลก มีอะไรมากมายจะเกิดจะตามมา พระคริสต์เทียมเท็จจะมา ผู้เผยพระวจนะเท็จจะมา มีหลายสิ่งหลายอย่างนะครับที่จะเกี่ยวข้องกับเยรูซาเร็มเกี่ยวกับประเทศอิสราเอล ก็คือเป็นนาฬิกาของโลกครับ
ถาม.
ขอถามเรื่องบัพติศมาอีกครั้งครับ การบัพติศมาจะทำถูกต้องเมื่อไหร่ครับ เหล่าสาวกทำถูกตั้งแต่เมื่อไหร่ พอดีต่อไปก็จะเห็นว่าฟีลิปประกาศกับขันที แล้วก็บัพติศมาให้ด้วย ไม่รู้ว่าที่ฟีลิปจะบัพติศมาให้กับขันที เป็นบัพติศมาที่ถูกต้องแล้วหรือยังครับ หรือว่าจะต้องให้อธิษฐานเผื่อ เพื่อรับพระวิญญาณต่อครับ อยากทราบว่าบัพติศมา ที่ถูกตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือว่าเราให้ อ. เปาโลมาแนะนำครับ
ตอบ.
ก่อนอื่นนะครับเราต้องเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับการบัพติศมาในน้ำมี 2 แบบ
แบบที่ 1.
ก็คือของยอห์นผู้ให้บัพติศมา ซึ่งการจุ่มน้ำเพื่อรับพระเยซู เพื่อติดตามพระเยซู เพื่อเป็นสาวกของพระเยซู เพื่อการกลับใจใหม่ เพื่อการได้บังเกิดใหม่ และได้รับพระวิญญาณทั้งสามของพระเจ้าเข้ามาอยู่ในเขา
แต่การรับพระวิญญาณภายนอกยังไม่มา ถามว่าทำไม เพราะว่าเขาไม่ได้เอ่ยถึงพระนามของพระเจ้าทั้งสามพระภาค พระเยซูสอนใช่ไหมว่า ให้ประกาศ เป็นพยานไปทั่วโลก สร้างสาวกทั้งหลายและให้เขารับบัพติศมาในพระนามพระบิดาพระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์ (มธ 28:19) ซึ่งก็คือการรับบัพติศมาในพระนามพระเยซูนั่นเอง
แต่เนื่องจากว่าฟีลิปนะครับเขาอาจจะเป็นสาวกหนึ่งในสิบสองคน เขายังไม่เข้าใจนะครับ พอเขาจุ่มทุกคนลงไปในน้ำแล้วก็ชวนให้ทุกคนกลับใจ ต้อนรับพระเยซู เชื่อในพระเยซู แต่เมื่อเขาจุ่มผู้เชื่อทั้งหลายลงไปในน้ำ เขาไม่ได้พูด “เราบัพติศมาเจ้าในพระนามพระบิดาพระบุตรพระวิญญาณบริสุทธิ์” ไม่มีนะครับ ก็จุ่มลงไปซึ่งการบัพติศมาในที่นี้เรียกว่าบัพติศมาของยอห์นในกิจการบทที่ 19
แบบที่ 2.
และการบัพติศมาที่ถูกต้องนะครับ คือปัจจุบันนี้นะครับ ในปัจจุบันนี้ ใครก็ตามที่เชื่อต้อนรับพระเยซูกลับใจใหม่ เรียกว่ากลับใจใหม่จากความเชื่อเดิม มาถึงเข้าอยู่ในพระเยซู คนนั้นก็ได้บังเกิดใหม่และได้รับพระวิญญาณทันทีเข้ามาอยู่ในเขา อันนี้เข้าใจตรงกันนะครับ
อันแรกทุกคนที่เชื่อกลับใจ วางใจในพระเยซู ต้อนรับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเขา พระเจ้าทั้งสามพระภาคก็จะเข้ามา และพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะดลบันดาลให้วิญญาณของเขาได้บังเกิดใหม่ เอเมนนะครับอันนี้ครั้งแรก
จากนั้นนะครับเขาต้องรับบัพติศมาในน้ำ เพื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จมาบนเขาอยู่เหนือเขา เรียกว่าอยู่ภายนอก อันนี้คือการรับพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้านนอก เพื่อที่พระวิญญาณบริสุทธิ์จะนำผู้เชื่อคนนั้นนะครับ 1. เข้าไปมีส่วนในร่างกายใหม่ ร่างกายวิญญาณของพระเยซู 2. และเข้าส่วนในอาณาจักรของพระเจ้า และมีส่วนในทุ่งหญ้าอันเขียวสดของพระเจ้าที่พระเจ้าจะเลี้ยงดูดูแล เปิดตา นำพา ทำให้ชีวิตของเขาเติบโต อยู่ในคริสตจักรของพระเจ้า
เพราะฉะนั้นทุกวันนี้ถ้าหากมีใครเชื่อกลับใจ เราชวนเขาเชื่อ ทันทีนะครับเราควรจะชักชวนเขาให้รับบัพติศมาในน้ำเดี๋ยวนั้นเลย
...
ถาม.
ที่เขาทำผิดก็เพราะว่าแต่ก่อนเขาเคยรู้จักแต่การบัพติศมาของยอห์น เพราะว่าก่อนหน้านั้นยอห์นเป็นผู้ให้บัพติศมา แล้วก็มีคนกลับใจมากมาย แล้วก็กลับใจแล้วก็บัพติศมา แต่ว่าภายหลังก็คือว่าพระเยซูบอกว่า ประกาศกับชนทุกชาติแล้วก็รับบัพติศมาในพระนามพระบิดาพระบุตรพระวิญญาณบริสุทธิ์ ถึงจะเป็นการรับที่ครบถ้วนใช่ไหมครับ เอเมน
ตอบ.
ถูกแล้วครับ ขณะที่ผู้ให้บัพติศมาในน้ำนะครับ คือตอนนั้นมีพระเจ้าเป็นพยาน มีพระเจ้ารับรู้ พระบิดาทรงรับทราบ และพระวิญญาณบริสุทธิ์พร้อมที่จะเสด็จมาอยู่เหนือเขา พูดง่ายๆ เราเห็นตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือ พระเยซูคริสต์ ตอนที่พระเยซูคริสต์รับบัพติศมา พระบิดายอมรับพระบิดายืนยันพระบิดาตรัสว่า “คนคนนี้เป็นบุตรที่รักของเรา” และมีใครอีกคนหนึ่งที่มาครับ ที่เหนือพระเยซูอยู่บนพระเยซู ก็คือพระวิญญาณบริสุทธิ์
ขณะที่ผู้เชื่อทั้งหลายนะครับ เราเชื่อต้อนรับพระเยซู เราได้บังเกิดใหม่ พระเจ้าสามพระภาคเข้ามาอยู่ในเราแล้วเรียบร้อย แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องการทำก็คือ รับบัพติศมาในน้ำ เพื่อพระบิดาจะยืนยันว่าผู้ชาย “คนนี้เป็นบุตรที่รักของเรา” ทุกครั้งที่ผู้เชื่อรับบัพติศมาในน้ำ พระบิดาจะตรัสต่อจักรวาลต่อทูตสวรรค์ต่อทุกคนว่า “คนคนนี้เป็นบุตรที่รักของเรา” และต่อมาก็คือพระวิญญาณบริสุทธิ์จะมาอยู่เหนือเขา เพื่อรับเขาเข้าส่วนในพระกาย รับเขาเข้าไปอยู่ในอาณาจักรของพระเจ้า รับเขาเข้าไปอยู่ในพระคริสต์ ซึ่งเป็นโลกใหม่โลกฝ่ายวิญญาณของเรา
เปาโลเดินทางไปเจอคนที่เชื่อในพระเยซู แล้วยอห์นเป็นคนบัพติศมาให้ แต่เขายังไม่ได้รับบัพติศมาในพระนามของพระเจ้าทั้งสามพระภาค และในพระนามของพระเยซู เพราะฉะนั้นพวกเหล่านี้นะครับถามว่าได้บังเกิดใหม่หรือยัง? แน่นอนครับความเชื่อทำให้ผู้เชื่อได้บังเกิดใหม่และได้รับพระเจ้าเข้ามาอยู่ข้างใน
แต่ยังไม่มีโอกาสนะครับได้รับบัพติศมาในน้ำ เขาจึงไม่มีพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่เหนือเขา และยังไม่ได้ถูกนับเข้าส่วนในพระกาย นับเข้าส่วนในพระคริสต์ นับเข้าส่วนในอาณาจักรของพระเจ้าอย่างเป็นทางการ
ถามว่าจะอยู่ภายใต้การดูแลของพระเจ้าไหม? ในเมื่อเขาไม่รู้ เขาไม่เข้าใจ และไม่มีคนพูดเรื่องการบัพติศมาที่ถูกต้อง พระเจ้าก็ดูแลครับ ทุกคนที่เกิดจากพระเจ้าก็เป็นลูกของพระเจ้าใช่ไหม
แต่สิ่งที่เราควรทำ ก็คือทำให้ถูกต้อง การทำให้ถูกต้องเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ทุกวันนี้ถามว่าการทำไม่ถูกต้อง คือเดินด้วยเนื้อหนังถูกต้องไหม? พระเจ้าพอพระทัยไหม? คำตอบคือไม่.
การรับใช้ที่ใช้ตัวเก่าทำ พระเจ้าพอพระทัยไหม? คำตอบคือไม่.
เพราะฉะนั้นทุกสิ่งที่เล็กน้อยสำหรับพระเจ้าเป็นเรื่องใหญ่ ถามว่าเป็นเรื่องใหญ่ทำไม ทำไมพระเจ้าใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ คือมันเป็นสิ่งที่ไม่ได้ยากใช่ไหม ที่จะเรียนรู้ แสวงหา ขอเพียงแค่เราถ่อมใจเปิดใจเท่านั้นแหละ ทุกสิ่งพระเจ้าจะยกมาให้เรา เอเมน
สิ่งเดียวที่พระเจ้าต้องการจากเรา ก็คือความถ่อมใจ การเปิดใจเท่านั้นเอง พระเจ้าพร้อมที่จะยกมาทั้งคลังของพระเจ้า เต็มไปหมด ความรู้ การเปิดตา การเติบโต การอะไรทั้งหลาย ข้อลึกลับทั้งหลายในพระคำพระเจ้า คืออุดมสมบูรณ์มั่งคั่งมาก เราตกลงมาอยู่ในทุ่งหญ้าอันเขียวสดของพระเจ้า สรรเสริญพระเยซูเอเมน
...
ถาม.
ในคำอธิบายของ กจ 8 ข้อ 12 บอกว่า การให้บัพติศมาของฟีลิป ไม่ใช่บัพติศมาของพระเยซู แต่เป็นของยอห์น
แต่ว่าในข้อที่ 16 บอกว่าพวกเขาได้รับบัพติศมาในพระนามพระเยซูแล้ว
เอเมน อธิบายเพิ่มเติมหน่อยครับ
ตอบ.
อาจจะเป็นเพราะภาษาไทยที่ไม่ชัดเจน หรืออาจจะเป็นเพราะน้องชายอ่านแล้วอาจจะสับสนก็เป็นได้ ถ้าเราจะกลับไปอ่านดูให้ดีๆ นะครับ จากข้อที่ 12 และ 16
เราจะกลับไปอ่านในข้อที่ 12 ก่อนจากนั้นก็ 16 นะครับ
แต่เมื่อพวกเขาเชื่อ ฟีลิปที่ประกาศสิ่งเหล่านั้น ก็คือประกาศข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์ เกี่ยวกับอาณาจักรของพระเจ้านะครับ และพระนามของพระเยซูคริสต์แล้ว คือฟีลิปประกาศข่าวประเสริฐเป็นพยานเรื่องพระเยซู และเขาก็รับเรียบร้อย พวกเขาก็รับบัพติศมาในน้ำนะครับทั้งชายและหญิง
ทีนี้เราไปดูข้อที่ 16 ด้วยกัน แต่ต้องอ่านข้อที่ 15 ก่อนนะครับ เมื่อท่านทั้งสอง ก็คือเปโตรกับยอห์น เมื่อเปโตรกับยอห์นนะครับซึ่งอยู่ที่กรุงเยรูซาเล็มได้ยินว่าชาวสะมาเรียได้รับพระวจนะของพระเจ้าจากฟีลิปแล้ว พวกท่านก็ส่งเปโตรกับยอห์นไปหาพวกเขา เมื่อเปโตรกับยอห์นลงไปถึงแล้วก็อธิษฐานเผื่อพวกเขา เพื่อที่พวกเขาจะได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์
คำอธิบายอยู่ตรงนี้นะครับข้อที่ 16 (ด้วยว่าพระองค์ยังไม่ได้เสด็จลงมาสถิตบนผู้ใดในพวกเขา พวกเขาได้รับบัพติศมาในพระนามของพระเยซูเจ้าเท่านั้น)
ด้วยว่าพระองค์ยังไม่เสด็จมา ไม่เสด็จลงมาสถิตอยู่บนผู้ใดในพวกเขา พวกเขาได้รับบัพติศมาในพระนามพระเยซูเจ้าเท่านั้น เข้าใจนะครับ คือคนที่จะได้รับการเสด็จลงมาของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ของพระเยซูคริสต์ที่เป็นพระวิญญาณจะลงมาอยู่บนผู้ใด ผู้นั้นก็ต้องรับบัพติศมาในพระนามพระเยซูเท่านั้น ชัดหรือยังครับ
เพราะฉะนั้นจากข้อที่ 12 ถึงข้อที่ 16 เราพบว่าชาวสะมาเรียยังไม่ได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ เนื่องจากว่าเขาได้รับบัพติศมาที่ไม่ใช่พระนามพระเยซู
แต่ข้อที่ 16 อธิบายนะครับว่า คนที่พระเจ้าจะเสด็จลงมาอยู่บนเขา ก็คืออยู่นอกเขาอยู่เหนือเขา เขาต้องได้รับบัพติศมาในพระนามพระเยซูก่อน
สรุปก็คือในข้อที่ 12 ชาวสะมาเรียรับบัพติศมาในน้ำเท่านั้น แต่ไม่ได้รับในพระนามพระเยซู ชัดหรือยังครับ
ซึ่งภาษาไทยตรงนี้นะครับอาจจะเป็นฉบับคิงส์เจมส์หรือหลายฉบับที่แปลแล้วทำให้ผู้อ่านสับสนหรืองงนะครับ แต่ถ้าหากเราจะดูภาษาอังกฤษและภาษากรีกร่วมกัน เราจะเห็นว่า จะมีคำว่า “จนกว่า” คือพระคริสต์ยังไม่เสด็จลงมาสถิตอยู่บนผู้ใด “จนกว่า” เขาจะได้รับบัพติศมาในพระนามของพระเยซูเท่านั้น
ทีนี้เรามาดูในคำพูดของพระเยซูที่สนทนากับนิโคเดมัส ถามว่าทุกคนที่บัพติศมาในน้ำแล้ว จะได้สัมผัสได้เห็นพระวิญญาณได้ยินเสียงของพระบิดาที่ตรัสว่า “ท่านผู้นี้เป็นบุตรที่รักของเรา เราพอใจเขามาก” ถามว่าได้ยินไหม? ไม่ได้ยินนะครับ อันนี้เป็นเรื่องฝ่ายวิญญาณ พระเยซูตรัสว่ายังไงครับ ลมจะพัดไปทางไหน ลมจะพัดไปทางไหน เราไม่เห็นลม แต่เราจะเห็นผล ผลนะครับก็คือผลที่เกิดขึ้นตามมา
บุคคลผู้ใดที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ ได้บังเกิดใหม่ในพระวิญญาณ และได้รับบัพติศมาในน้ำ เขาจะเกิดมีอาการบางอย่าง คือจะมีการเปลี่ยนแปลง จะมีการสัมผัสพระเจ้า ได้ฝัน ได้เห็นนิมิต ได้เห็นปรากฏการณ์ ได้เห็นการอัศจรรย์ คือโลกของพระเจ้าจะเริ่มเข้ามาสู่ชีวิตของเขา
เหมือนเราที่ผ่านมาใช่ไหมเมื่อเราเป็นคริสเตียนมีหลายสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราใช่ไหมครับ เรียกว่าเราอาจจะไม่ต้องได้ยินเสียงของพระเจ้าหรือพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาอยู่เหนือเราตอนบัพติศมานะครับ แต่เราจะเห็นว่ามีฝันมีนิมิตมีการอัศจรรย์มีเสียงของพระเจ้าตรัสกับเราบางครั้ง หรือบางสิ่งบางอย่างเป็นเครื่องหมายที่พระเจ้าให้เรารู้ว่า ขอบคุณพระเยซูพระเจ้ามีจริง ทุกวันนี้เราเชื่ออย่างตายใจใช่ไหมว่าพระเจ้ามีจริง เนื่องจากการทำกิจในเรา เอเมน
และฝ่ายวิญญาณนะครับ สำหรับฝ่ายวิญญาณเรามั่นใจได้ ทุกคนที่เชื่อและรับบัพติศมาในพระนามของพระเจ้าสามพระภาค แน่นอนครับ พระบิดาตรัสกับทูตสวรรค์ทั้งหลาย เราอาจจะไม่ได้ยินนะครับ ทุกคนที่รับบัพติศมาก็จะมีเสียงพูด “พอใจเขามาก” ถามว่าทำไม เพราะว่าพระเจ้าพอใจพระเยซู และเราทุกคนทุกวันนี้อยู่ในพระเยซู เราทุกคนนี้เป็นบุตรของพระเจ้า ผ่านพระเยซูคริสต์ เอเมน
เป็นโชคดีของเราใช่ไหมที่เราอยู่ดีๆ เป็นมนุษย์ดินเป็นคนบาปเป็นคนที่ไม่เหมาะสมที่จะเป็นลูกของพระเจ้า แต่วันนี้เราเป็นบุตรที่รักของพระเจ้า พระเจ้าประกาศต่อหน้าทูตสวรรค์ทั้งหลาย สรรเสริญพระเยซู เราวันนี้เป็นผู้ชอบธรรม เป็นผู้บริสุทธิ์ เป็นบุตรที่รักของพระเจ้าแล้ว
และคนที่รับเชื่อเขาได้บังเกิดใหม่ได้รับพระวิญญาณเข้ามาภายในด้านใน
ส่วนการบัพติศมาในน้ำ ก็คือพระวิญญาณบริสุทธิ์จะมาอยู่บนเขาเหนือเขา เพื่อรับเราเข้าส่วนในพระกายใหม่ของพระเยซู คือพระกายวิญญาณ ซึ่งพระเยซูเป็นศีรษะ และรับเราเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้า เข้าสู่ทุ่งหญ้าอันเขียวสดของพระองค์ เพื่อการดูแลปกปักรักษาเลี้ยงดูให้เราเติบโต ให้กินพระเยซูในประจำวัน และมีสันติสุขทุกวันทุกเวลาได้
เพราะฉะนั้นพูดง่ายๆ การกลับใจใหม่ ก็คือการรับพระวิญญาณภายในเพื่อได้บังเกิดใหม่
การรับบัพติศมา ก็คือการได้รับพระวิญญาณด้านนอก เพื่อการยืนยันของพระเจ้าให้เราเข้าส่วนในพระกาย อาณาจักร พระคริสต์ ในทุ่งหญ้าของพระเจ้า เอเมน
...
ถาม.
ขอถามเกี่ยวกับบัพติศมาค่ะ เมื่อก่อนตอนเชื่อได้ 1 ปีแล้วก็เรียน 6 เดือน พอรับบัพติศมา แต่ว่าไม่มีอาการเหมือนที่อาจารย์พูดเมื่อกี้ค่ะ คือไม่ฝัน ไม่เห็นนิมิต ไม่ได้สัมผัสพระเจ้า ไม่ได้ยินเสียงพระเจ้าอะไรเลยค่ะ แต่ว่าหนูแบบรักพระเจ้าอยากแสวงหาอยากรู้จักอยากอ่านพระคัมภีร์ อยากค้นมีหนังสือที่ไหนเกี่ยวกับพระเจ้าจะหาอ่านหมด อันนี้เป็นการบ่งบอกอย่างหนึ่งใช่ไหมค่ะ หรือว่าหนูต้องกลับไปรับบัพติศมาใหม่
ตอบ.
เมื่อเราไม่ได้ยินเสียงของพระเจ้า เมื่อเราไม่รู้สึกสัมผัสพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่บนเรา อยู่รอบข้างเรา ทำให้เราแบบขนลุก หรือมีการสัมผัสของพระบิดาที่หลายคนได้สัมผัสใช่ไหม พระบิดาแตะที่ศีรษะบ้าง ที่ไหลบ้าง คือรู้สึกว่ามีอะไรที่โอบกอดเรา เราไม่เห็นทุกสิ่ง
แต่มีสิ่งหนึ่งที่เราได้เห็นมันเกิดขึ้นอยู่ภายในเรา ก็คือการหิวกระหาย เด็กที่มันเกิดใหม่มันหิวไหม? หิวครับ นี่คืออาการของน้องสาวที่พูดเมื่อกี้นะครับ ก็คือเราหิวกระหาย เราอยากรู้ อยากเรียน อยากเข้าสู่พระคำพระเจ้า อยากเรียนรู้ อยากเติบโต นี่คือสิ่งหนึ่งนะครับที่บ่งบอกว่าเราได้บังเกิดใหม่แล้ว เอเมน
สำหรับคริสเตียนที่ไม่ใช่คริสเตียนแท้ที่ไม่ได้บังเกิดใหม่ ก็คือคริสเตียนที่ไปโบสถ์ไปได้ยินข่าวประเสริฐ เขาชวนเชื่อรับเชื่อก็อธิษฐานกับเขารับเชื่อ แต่กลับมาบ้านไม่รู้สึกอะไร ไม่สนใจอะไร ไม่แคร์อะไร ไม่ต้องการเรียนรู้เรื่องพระเยซู ไม่อยากรู้เรื่องพระเยซู ก็แค่แบบเป็นลักษณะของศาสนาคริสต์ ศาสนาใหม่ศาสนาหนึ่งที่เขารับมา แล้วก็นานๆ ก็ไปโบสถ์ทีหนึ่ง อาจจะเหตุผลเหงา หรืออยากไปเพื่ออะไรบางอย่างก็เท่านั้น
แต่คนที่ได้บังเกิดใหม่จริงๆ มันจะมีอาการฝ่ายวิญญาณ พูดง่ายๆ ก็คืออาการฝ่ายวิญญาณจะเกิดขึ้นครับ
...
ถาม.
พอดีว่าคุณพ่อของดิฉันนะคะรับเชื่อแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้รับบัพติศมาในน้ำ ซึ่งดิฉันก็อยากทำให้อยากจะรับให้แต่ว่ายังไม่มั่นใจ วันนี้ก็ขอบคุณพระเจ้าที่หนุนใจ แล้วก็ให้ดิฉันมีใจที่อยากจะบัพติศมาให้คุณพ่อ คำถามนะคะก็คือว่าตอนนี้คุณพ่อติดเตียงนะคะ แล้วก็ดิฉันแค่คนเดียวดิฉันไม่สามารถที่จะยกคุณพ่อลงในน้ำได้ ทีนี้ถ้าเกิดว่าดิฉันมีถังน้ำแล้วก็ให้คุณพ่อเข้าไปอยู่ข้างใน แล้วตักน้ำใส่แล้วก็จุ่มคุณพ่ออย่างนี้จะได้ไหมค่ะ
ตอบ.
สำหรับพี่น้องคริสเตียนที่ไม่สะดวกในการรับบัพติศมา มี 2 กรณีนะครับ
อันแรก ก็คือทำแบบที่พี่น้องพูดเมื่อกี้นี้ ก็คือให้เขาอยู่ในถังน้ำ แล้วก็ใส่น้ำลงไปให้เต็มนะครับ แล้วก็จุ่มแป๊บนึงขึ้นมาเดี๋ยวเดียวนะครับ เพื่อความสะดวกเพื่อความปลอดภัย
กรณีที่สอง ที่ไม่อยากให้เขายุ่งยากหรืออาจจะลำบากจนเกินไป ถ้าเขา คือพลังใจของเขา ความต้องการของเขาอาจจะไม่มากพอ เราทำสิ่งนี้ก็ได้ครับ เราอธิษฐานในพระนามพระเยซู เนื่องจากความเจ็บไข้อาการป่วยไม่สบายหรือไม่สะดวก ที่จิตใจเราอยากกระทำแต่ร่างกายเราไม่พร้อม ก็คือเราอธิษฐานเผื่อเขาพระเจ้าก็รับครับผม ไม่เป็นไรครับ
แต่อันนี้กรณีของคนที่ต้องบัพติศมาในน้ำ ก็คือคนที่ร่างกายพร้อมนะครับ และเขาสะดวก
แต่ถ้าเขามีความต้องการและเมื่อเราอธิบายให้เขาเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการบัพติศมาในน้ำที่จำเป็น และเขาก็มีใจที่อยากทำ เราใช้ถังน้ำครับผม
เรื่องความปลอดภัยนะครับ แต่ต้องระวัง คือจุ่มแป๊บเดียวแล้วก็เอาขึ้นมา
ก็มีพี่น้องหลายคนที่เมื่อได้ยินข่าวประเสริฐ เมื่อเราประกาศ แล้วพี่น้องเหล่านั้นนะครับหลายคนที่ไม่สบายไม่สะดวกที่จะลงน้ำ เราก็ทำแบบเดียวกันนะครับก็คือใส่ถัง แล้วก็ให้เขาจุ่ม แต่การจุ่มก็คือปุ๊บปั๊บรีบมากเร็วมากครับ
สิ่งที่สำคัญนะครับเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้บัพติศมาของพระเยซูคริสต์ กลายเป็นบัพติศมาของยอห์น ก็คือเราเสนอเขานะครับว่า เราจะบัพติศมาให้ในพระนามพระบิดาพระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์ เอเมนไหม เขาตอบว่าเอเมน เราก็จุ่มเขาครับ จากนั้นพอเขาขึ้นมาจากน้ำ ก็คือเราอธิษฐาน เราขอบพระคุณพระเจ้าที่พระเจ้าพระบิดารับเขาไว้แล้วในอาณาจักรในพระเยซูในพระกายของพระองค์ เพื่อการเลี้ยงดูดูแล
สำหรับพี่น้องหลายคนผมเห็นนะครับ คือเมื่อเจ็บป่วยไข้ พอรับบัพติศมา การรักษาการเยียวยาการช่วยเหลือของพระเจ้าที่เกินคาดหวังนะครับ จะเกิดขึ้นได้ เราขอบคุณพระเยซูล่วงหน้าครับผม เอเมน
คือขอให้เราเข้าใจตรงนี้ เมื่อก่อนสมัยที่เราเป็นคริสเตียนศาสนา เราคิดว่าการบัพติศมาในน้ำ การจุ่ม หรือการเชื่อในพระเยซูคริสต์ เป็นการยอมรับพระเจ้าหรือยอมรับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเรา การจุ่มน้ำก็คือการทำพิธีบัพติศมาใช่ไหม
แต่จริงๆ แล้วนะครับ
สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของการฝ่ายวิญญาณ เป็นเรื่องที่พระเจ้าเอาจริง พระเจ้ากระทำบางสิ่งบางอย่างกับชีวิตของเรา
ให้เรามาดูภาษากรีกด้วยกัน คำว่า บัพติศมาในพระนามพระเยซูคริสต์ บัพติศมาในพระนามพระบิดาพระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์
บัพติศมาใน ใน ใน ใน คำว่า ใน ภาษาอังกฤษก็คือ in หรือ into แต่ภาษาอังกรีก ก็คือเข้าไป เข้าไป มันแตกต่างกันยังไง
ไม่ใช่เพียงแต่คำพูด ไม่ใช่เพียงแต่การยอมรับ คือการเชื่อว่าบัพติศมาในพระนามพระเยซู ก็คือได้เข้าไปในตัวตนไปมีส่วนในตัวตนในร่างกายของพระเยซู โอ้ สรรเสริญพระเจ้าสำหรับภาษากรีก ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ลึกกว่าที่เราเคยรู้ที่ผ่านมา
เพราะฉะนั้นการเชื่อในพระเยซู เราจะเห็นว่าภาษากรีกใช้คำว่า เชื่อเข้าใน ก็คือเราเอาชีวิตของทั้งชีวิตเข้าไปอยู่ในพระเยซู เข้าไปอยู่ในโลกของพระเจ้า
การรับบัพติศมาในพระเยซูคริสต์ ก็คือ เอาการจุ่มของเรารับความจริงของพระเจ้า ก็คือเราจุ่มเข้าไปมีส่วนในความตายของพระเยซูเมื่อสองพันปีก่อน
และลุกขึ้นมาจากน้ำ ก็คือการเชื่อว่ามันเป็นความจริงที่เกิดแล้ว ก็คือเราได้ชุบให้เป็นขึ้นมาจากความตายร่วมกับพระเยซูเมื่อสองพันปีก่อน
และทุกวันนี้พระเยซูเป็นศีรษะของร่างกายที่กำลังฟอร์มตัวขึ้นมา ก่อตัวขึ้นมา แล้วเราทุกวันนี้เมื่อเรารับบัพติศมา ก็คือการที่เราเอาตัวตน เอาชีวิต เอาวิญญาณ เอาทุกส่วนในร่างกายในอวัยวะของเรา เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะของร่างกายฝ่ายวิญญาณของพระเยซูคริสต์
ขอบคุณพระเจ้าทุกวันนี้เราเอาชีวิตทั้งชีวิตของเราเข้าไปมีส่วนในพระเจ้า สรรเสริญพระเยซู ตำแหน่งใหม่ ชีวิตใหม่ คนใหม่ ทุกสิ่งที่ใหม่อยู่ในพระเจ้าแล้ว เอเมน
...
ถาม.
ก็คือสมมุติว่าถ้าเราอยู่นอกบ้าน แล้วก็มีใครบางคนดึงเข้ามาดึงเข้าไปในบ้านใช่ไหมครับ คือเราเชื่อเรารับบัพติศมา พระวิญญาณก็นำเราเข้าสู่ในฝ่ายวิญญาณ แบบนี้ใช่ไหมครับเอเมน
ตอบ.
คือการที่เรายังไม่เชื่อในพระเยซูเรายืนอยู่ในอาดัม ยืนอยู่นอกบ้านใช่ครับ
และเมื่อเราเชื่อในพระเยซู คำว่าเชื่อปุ๊บเนี่ย ก็คือเข้าใน ก็คือพระเจ้าจะดึงเราเข้าไปอยู่ในพระเยซู ก็คือเข้าไปอยู่ในบ้าน และเมื่อเรารับบัพติศมานะครับ ก็คือการยอมรับความจริงว่าเราถูกดึงเข้าไปในพระเยซู เข้าไปในความตายของพระองค์ เข้าไปในการเป็นขึ้นมาจากตายของพระองค์ เข้าไปในการเป็นพระกายใหม่ที่ฟอร์มตัวที่ก่อตัวขึ้นอยู่ทุกวันนี้ของพระองค์ เข้าไปอยู่ในอาณาจักรของพระเจ้าที่เป็นเรือนบ้านหลังนั้นของพระเจ้า ทุ่งหญ้าเขียวสดก็อยู่ในบ้านหลังนั้นของพระเจ้า ทุกสิ่งใหม่หมด ทุกสิ่งที่เป็นฝ่ายวิญญาณที่อยู่ในพระคริสต์ที่สำเร็จแล้วก็อยู่ในบ้านหลังนั้น เรากระโดดเข้าไปครับผม นี่คือคำว่า บัพติศมาเข้าใน และเชื่อเข้าใน ครับ
สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับทุกวันนี้ ก็คือคริสเตียนมากมายทุกวันนี้เชื่อในพระเยซู แต่ชีวิตของเขายังไม่ได้เข้าไปอยู่ในพระเยซู เขายังไม่ได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น และเขารับบัพติศมา ก็คือเขายังไม่ได้ถูกจุ่มเข้าไปในความจริงของพระเจ้า ก็คือตายกับพระเยซูเมื่อสองพันปีก่อน และก็เป็นขึ้นมากับพระเยซูเมื่อสองพันปีก่อน
เราจะเห็นนะครับว่าเมื่อเรายังไม่ได้รับมานาฯ เรายังไม่ถูกเปิดตา เราไม่รู้เลยใช่ไหมว่าเราตายกับพระเยซู เราตายแล้วเราไม่รู้นะครับ
ผมเคยยกตัวอย่าง เรื่องภาพยนตร์มีหนังเรื่องหนึ่งที่ทำรายได้สูงสุดในอเมริกา ชื่อเรื่องก็คือ SIXTH SENSE คือผู้ชายคนนี้ตายแล้ว ตั้งแต่หนังเริ่มแรกเลย จนหนังจบ จนเรื่องจบ เขาเพิ่งมารู้ว่าเขาตาย จากเด็กคนนั้นที่บอกเขา คือทั้งเรื่องไม่รู้ตัวว่าเขาตาย
แล้วมาดูมันไม่ใช่เรื่องที่น่าขำหรือน่าตลก เพราะว่ามันเกิดขึ้นกับชีวิตของคริสเตียนทุกวันนี้ พอเรามาเชื่อปุ๊บ เราตาย ตายกับพระเยซูเมื่อสองพันปีก่อนแต่เราไม่รู้ตัว จนมาถึงวันหนึ่งที่มีคนมาบอกว่า โอ้ เราตายแล้วน่ะ ตายกับพระเยซูเมื่อสองพันปีก่อน จากคลิปมานาที่ซ่อนไว้
เราขอบคุณพระเจ้า ที่ชีวิตของเราทุกวันนี้เราได้เข้าส่วนเข้าไปเข้าใน ภาษาอังกฤษก็คือ into ภาษากรีกก็คือคำว่า Eis (ไอส์) εἰς หรือ En (เอน) ἐν / Eis (ไอส์) εἰς หรือ En (เอน) ἐν ก็คือการเข้าไป เข้าไปใน เข้าไปมีส่วน ไม่ใช่เชื่อเฉยๆ ไม่ใช่เชื่อแบบศาสนาคริสต์ที่เขาทำกันอยู่ทุกวันนี้ แต่เข้าไปจริงๆ เข้าไปอยู่ในนั้นจริงๆ เข้าไปดำเนินชีวิตอยู่ในนั้นจริงๆ มีประสบการณ์ในนั้นจริงๆ
ขอบคุณพระเยซูที่ทุกวันนี้เรามีประสบการณ์การตายมากขึ้น และขอบคุณพระเยซูที่เรามีประสบการณ์การมีชีวิตใหม่ในพระคริสต์ พระเยซูทำแทนมากขึ้น เพราะว่าเราได้เชื่อเข้าในแล้ว เราได้บัพติศมาเข้าในแล้ว เอเมน
...
ถาม.
ขอถามเกี่ยวกับพวกเราที่อยู่ทางนี้นะคะ คือบางคนรับบัพติศมาในน้ำแล้วค่ะ แต่ว่าอย่างพวกเรานะคะเราจะทราบว่าเรามีของประทานอะไรแล้ว แต่ว่าจะมีบางคนนะคะที่แบบว่ารับบัพติศมาถูกต้องแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่ามีของประทานอะไร เราต้องทำยังไงต่อไปค่ะ เอเมนค่ะ
ตอบ.
มีพี่น้องหลายคนที่ยังสับสนนะครับ และยังไม่รู้ว่าตนเองมีของประทานอะไร
อย่าลืมนะครับสิ่งแรกที่เราต้องรู้ ก็คือพระเจ้าจะประทานของประทานให้ผู้เชื่อทุกคน ไม่มีใครสักคนเดียวที่อยู่ในพระคริสต์เป็นคริสเตียนโดยที่ไม่มีของประทานเลย ไม่มี
พระเจ้าจะประทานของประทานจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้อย่างน้อยนะครับ ถ้าไม่มีจริงๆ ก็มี 1 อย่าง 1 ของประทาน
แล้วถามว่ารู้ได้ยังไงเรามีของประทานอะไร
อันแรก ก็คืออธิษฐานถามพระเจ้า ดูสัญญาณ ดูเครื่องหมาย ดูที่พระเจ้าอาจจะให้นิมิต ให้ฝัน
อันที่สอง ก็คือเราลองทำ ผมเคยพูดใช่ไหม
อยากรู้ว่าเรามีของประทานไล่ผีไหม ก็ไปกับเขานะครับถ้ามีการไล่ผีอยู่ที่ไหน หรือเราได้ยินข่าว มีข่าวมาบ่อยๆ งานเข้า เรียกว่างานเข้า ถ้าพระเจ้าให้ของประทานในการไล่ผี พระเจ้าจะให้เราได้ยินเรื่องเกี่ยวกับผีเข้าคนนู้นคนนี้ ผีเข้าคนนู้นคนนี้บ่อยมาก และเราจะมีการสะดุ้ง มีอาการกระตือรือร้น มีอาการร้อนรน ร้อนใจ มันเหมือนมีไฟไหม้ในเรา และมีพลังบางอย่างที่ผลักเราให้ความคิดของเราอยากไปๆๆ พอเราไปนะครับและเราร่วมกับพี่น้องคริสเตียนและอธิษฐานวางมือให้เขา ก็คือผีออก และเราทำ 10 คน มี 7-8 คนที่ได้ผล อีก 2-3 คนอาจจะไม่ได้นะครับ อันนั้นเรียกว่าของประทาน
และถ้าอยากรู้ว่า ฉันมีของประทานในการรักษาโรคไหม เหมือนกับทุกวันนี้พระเจ้าให้หลายคนมีนะครับ เราก็ไปแล้วก็วางมือ มีงานเข้ามีคนบอกว่ามีคนป่วยไม่สบายได้ยินบ่อยมากเรื่องเกี่ยวกับความเจ็บไข้ได้ป่วย เราก็ไปแล้วก็บอกว่า พระเยซูช่วยคุณได้น่ะ ฉันจะวางมือให้ แล้วเราขอวางมือปุ๊บ ปรากฏว่า 7-8 คน ใน 10 คนที่หายดี นั่นคือเครื่องหมายที่บ่งบอกว่าเรามีของประทานในการรักษาโรค
และเมื่อเราประกาศข่าวประเสริฐ ประกาศกับใครก็ไม่มีใครเชื่อสักคนเดียว นานหลายปีก็ไม่มีใครเชื่อ แสดงว่าเราปลงได้แล้วนะครับ เราไม่มีของประทานในการประกาศข่าวประเสริฐ แต่เรามีของประทานด้านอื่น แน่นอนครับทุกคนจะมีของประทาน ขอย้ำนะครับทุกคนจะมีของประทานอย่างน้อย 1 อย่าง ถ้าไม่มีจริงๆ
แต่บางคนขอบคุณพระเจ้าที่พระเจ้าให้เขาเยอะ ก็คือมีของประทานมากมายหลายอย่าง
1. อธิษฐานถามพระเจ้า
2. ก็คือลองทำดู เอเมน
กรณีของพี่น้องที่มีของประทานนะครับบางคนอาจจะมีของประทานในการรักษาโรค ไม่ได้หมายความว่าเราต้องเดินไปหาคนที่ป่วยทุกที่ทุกแห่งทุกหนหรือไปโรงพยาบาล ไม่ใช่นะครับ จะมีงานเข้าเป็นระยะๆ โดยการดลบันดาลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ การแจ้งให้รู้ ให้ทราบโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ผ่านผู้คนทั้งหลายบอกว่าคนนี้ไม่สบายคนนั้นไม่สบาย
เมื่อพระเจ้าให้งานมอบหน้าที่การงานให้เรา ให้ของประทานแก่เรา ฤทธิ์เดช พระเจ้าจะต้องให้การงานเข้ามาเป็นระยะๆ
และสุดท้ายอย่าลืมนะครับว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงงานรอง เมื่อการรักษาโรคเกิดขึ้น การไล่ผีเกิดขึ้น ทุกสิ่งผ่านไปแล้ว อะไรครับคืองานหลักที่เราต้องทำ ประกาศข่าวประเสริฐ หรือกล่าวคำพยานเรื่องพระเยซูคริสต์เพื่อให้เขากลับใจใหม่ครับ
เมื่อวานมีผู้ชายคนหนึ่ง เดินไปตามทางตามถนน แล้วก็ไปเก็บขยะไปเก็บขวดพลาสติก แล้วผมก็ตามหลังเขามาแล้วก็ถือถุงผลไม้ แล้วก็ถามเขาว่าไปไหน เขาก็บอกว่าเก็บขวดไปขาย ผมก็เลยให้ถุงผลไม้กับเขานะครับ แล้วก็บอกว่า “คุณรู้จักพระเยซูไหม ถ้ารู้จักพระเยซูชีวิตจะเปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดีได้ จากที่ไม่มี พระเจ้าก็จะเลี้ยงดู พระเยซูจะช่วยเหลือชีวิตของคุณ ผมก็บอกว่าอธิษฐานไม่ได้ยากเลยอธิษฐานง่ายๆ ก็คือเรียกร้องออกพระนามพระเยซู เรียกหาพระเยซูเมื่อเราต้องการอะไรสักอย่างหนึ่ง หรือต้องการความช่วยเหลือ” ก็พูดง่ายๆ พูดสั้นๆ นะครับ เขาก็ขอบคุณ จากนั้นผมก็จากไปแล้วก็อธิษฐานเผื่อเขา
สำหรับเราที่มีของประทานในการประกาศข่าวประเสริฐ เราพูดสั้นๆ พูดง่ายๆ ในลักษณะนี้ครับ
หรือไล่ผีได้ เราไปไล่ผีไม่ต้องพูดยาวไม่ต้องไปถามไปใช้เวลากับมันมาก ไปถามชื่อนามสกุลอะไรมาจากไหน ไม่ต้องครับ หรือเป็นคนเจ็บไข้ได้ป่วย เราก็ไปวางมืออธิษฐาน จากนั้นคำพยานเรื่องพระเยซู ข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูต้องตามมาครับ
...
ถาม.
ถ้าเกิดการขับผี ถ้าเกิดเขายังไม่เชื่อในพระเยซูเราห้ามขับผีใช่ไหมคะ
ตอบ.
สำหรับคนที่ถูกผีเข้าและเขาไม่เชื่อนะครับ ก็คือคนที่ช่วยเขาได้ ก็คือญาติของเขาอาจจะเป็นพ่อ แม่ สามี ภรรยา ลูกทั้งหลาย คนที่เป็นญาตินะครับ ให้อนุญาต ขอร้องให้เราช่วยไล่ผีให้ คือเราเสนอเขาก่อนว่าพระเจ้าช่วยได้พระเจ้าไล่ออกได้ ต้องการให้พระเยซูช่วยไหม ถ้าญาติของเขารับปากยินยอมนะครับเราจึงทำครับผม
ส่วนคนที่ถูกผีเข้าเนี่ย เขาไม่รู้เรื่องแล้ว หรือตอนที่เขายังปกติดี เขาบอกว่าช่วยด้วยฉันมีปัญหามีผีเข้าเป็นบางครั้ง เราจึงช่วยเขาได้ครับผม
แต่กรณีมีหลายแบบนะครับก็คือ บางครั้งเราอธิษฐาน เรามีของประทานในการไล่ผี แต่ผีไม่ออก สิ่งที่สำคัญที่ต้องทำคืออะไรครับต่อมา อดอาหารครับ
...
ถาม.
ก่อนที่เราจะไปวางมืออธิษฐานรักษาโรคหรือว่าไล่ผี เราต้องอธิษฐานกับพระเจ้าขอไล่ผีมารซาตานที่ปิดหูบังตาเขาก่อนใช่ไหมคะ เอเมน
ตอบ.
คือสำหรับผมนะครับ สิ่งแรกที่เราควรทำ เราไม่ต้องพูดยาวครับ
“พระเยซูกิจการในวันนี้ การงานในวันนี้ การกระทำกิจในวันนี้เป็นของพระเจ้า เป็นของพระวิญญาณบริสุทธิ์ นำข้าพระองค์ไป เอเมน ขอให้น้ำพระทัยของพระองค์สำเร็จในพระหัตถ์ของพระองค์ผ่านมือของข้า เอเมน”
แค่นั้น ไม่จำเป็นนะครับที่จะต้องไปบอกว่าพระองค์ขอขับไล่วิญญาณชั่วร้าย ขอขับไล่ขอนู่นนี่นั่น ไม่จำเป็นครับ สั้นๆ ง่ายๆ คือเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าอยู่แล้วที่พระเจ้าจะต้องการปลดปล่อยใครสักคนหนึ่งผ่านมือของเราผ่านตัวเรา
เราแค่คอนเฟิร์มกับพระเจ้า “ขอให้น้ำพระทัยของพระองค์สำเร็จในวันนี้ การงาน กิจการทั้งหลายที่พระองค์จะกระทำผ่านข้าพระองค์ ขอให้เกิดขึ้น ขอช่วยให้ทุกสิ่งเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์” ก็แค่นั้นครับ
สำหรับผมคือเมื่อได้ถูกเปิดตา ขอบพระคุณพระเจ้าที่ไม่ได้เป็นเหมือนเมื่อก่อน เราสังเกตเราจำกันได้ไหมสมัยที่เป็นคริสเตียนศาสนา จะไล่ผีรักษาโรคหรือทำอะไรบางอย่างต้องร้องเพลงต้องอธิษฐานยาว ต้องคือมีหลายสิ่งที่ไม่เห็นว่าจำเป็นที่จะต้องทำนะครับ คือ..
“พระเจ้าต้องการที่จะทำอยู่แล้ว พระเจ้าก็รอที่จะทำอยู่แล้ว”
ไม่ต้องร้องเพลงก็ได้ไม่ต้องทำอะไรก็ได้ แค่ไปนะครับ พร้อมกายพร้อมใจ แล้วก็พร้อมที่จะให้พระเจ้าใช้อวัยวะของเรา
ถ้าพี่น้องเคยได้ยินผมเล่านะครับ มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกผู้ชายคนหนึ่งใช้เวทมนต์เสน่ห์ ปรากฏว่าผู้หญิงคนนี้คือติดงอมแงมเลย ติดแบบคือลืมหูลืมตาไม่ขึ้น เขามีสามีแล้วน่ะ แล้วปรากฏว่าสามีก็พยายามช่วยเขา ไปครบ 7 วัด มีคนแนะนำนะครับว่าให้ไป 7 วัด ไปสวดไปทำพิธีเพื่อจะได้หลุดพ้นจากเสน่ห์มนต์ขลังอะไรทั้งหลาย ก็ 7 วัดก็ไม่สำเร็จนะครับ
ก็มีคนบอกว่ามีผู้ชายคนหนึ่งช่วยได้น่ะ ไม่ต้องทำอะไรไม่ต้องเสียเงินไม่ต้องใช้ตังค์อะไรมากมาย ก็คือไปหาเขา ให้เขาอธิษฐานให้
เขาก็ติดต่อมานะครับก็ขับรถมาประมาณ 5-6 ชั่วโมง ก็คือมาถึงบ้านผมปุ๊บ ผมเห็นอาการเหมือนคนสะลึมสะลือเหมือนคนที่คือเบลอๆ ผมก็บอกว่าถามสามีเขาว่า จะให้ทำอะไร เขาก็เล่าให้ฟังว่าอาการเป็นแบบนี้แบบนั้น ผมก็ไม่ได้พูดอะไรยาวนะครับ ก็คือชวนเขานั่งลงอธิษฐานหลับตานะครับ
“แล้วก็ขอบคุณพระเยซูสำหรับทุกสิ่ง ขอให้น้ำพระทัยของพระองค์สำเร็จ กิจการนี้เกิดขึ้นโดยที่พระองค์เป็นคนนำเข้ามาเพื่อปลดปล่อยเขา”
จากนั้นเขาก็ลืมตาขึ้น เขาก็ถามว่าฉันอยู่ที่ไหนนี่เป็นบ้านของใคร ผู้หญิงที่ถูกเสน่ห์นะครับ แล้วหลังจากนั้นสามีเขาก็อธิบายแล้วก็ชวนกันกลับบ้าน เรากินข้าวด้วยกัน แล้วเขาก็กลับบ้านไป แล้วก็จากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเขาก็หายดี ก็ขอบคุณพระเจ้าเป็นการอธิษฐานที่สั้นๆ สั้นมากนะครับ
กรณีเดียวกันนะครับคนที่ถูกผีเข้าผมยังไม่ได้อธิษฐานด้วยซ้ำไป คือเดินลงไปในชั้นใต้ดินปรากฏว่าผู้หญิงคนนั้นเห็นก็กระโดดออกไปที่หน้าต่าง ที่หน้าต่างมันเป็นครึ่งหนึ่ง ชั้นใต้ดินจะมีครึ่งหนึ่งข้างบนด้านบนเป็นหน้าต่างคือเปิดหน้าต่างได้ แล้วหน้าต่างอีกครึ่งหนึ่งก็ถูกปิด ปรากฏว่าเขากระโดดออกไปนะครับ คือประตูมันแย้มออกประตูถูกเปิดออกเหมือนกับถูกลมซัด หรือมีอะไรบางอย่างที่ออกไปแต่ไม่เห็นนะครับ แต่ปรากฏว่าผู้หญิงคนนั้นพอกระโดดกลับมาบนที่นอนบนเตียง ก็คือเขาลืมตาขึ้นเขาถามว่าฉันอยู่ที่ไหนทำไมคนมาบ้านเราเยอะจัง ทั้งๆ ที่ผมยังไม่ได้อธิษฐานนะครับ
ถามว่าผมทำอะไรก่อน ก็คือ “พระเยซูข้าพระองค์พร้อมแล้ว” คือข่าวมาก็คืองานเข้า พระองค์เป็นคนใช้เป็นคนจัดการเป็นคนเตรียมแผนการทุกอย่าง เพียงแต่เรานะครับพร้อมที่จะให้พระองค์ใช้ เราก็ไป พอไปเนี่ยอาจจะยังไม่ได้อธิษฐานด้วยซ้ำไป หรืออธิษฐานเล็กๆ น้อยๆ ทุกสิ่งก็เกิดขึ้น เพราะว่าเดชฤทธิ์เดชของพรวิญญาณพร้อมที่จะทำงานอยู่แล้ว เอเมน