ถาม.
พระบัญญัติที่ว่าหนัก มันหนักต้องแบกหรือว่ามันหนักต้องลำบากหรือว่ายังไงครับ ไม่เข้าใจตรงนี้ครับ
ตอบ.
คำว่า พระบัญญัติหนัก เป็นภาระที่หนักมากสำหรับชาวยิว เนื่องจากว่าพระบัญญัติเป็นมาโดยพระวิญญาณ ในโรมบทที่ 7 เปาโลผู้โดยพระวิญญาณว่า พระบัญญัติเป็นมาโดยพระวิญญาณ (โรม 7:14)
เพราะฉะนั้นเราจะเห็นว่า จิตใจมนุษย์ตกต่ำแล้ว เราเสื่อมแล้ว เรามีกิเลส ตัณหา โลภ โกรธ หลง และนับวันยิ่งนานเข้า มนุษย์ในโลกนี้ก็จะเสื่อมทรามมากกว่าเดิม มากขึ้นไปเรื่อยๆ
ในที่นี้ผมอยากจะถามเรา ใครถวายสิบลดได้ไหม? สมัยตอนที่เราอยู่ในคริสตจักรศาสนา? การถวายสิบลดหนักไหม?
แล้วเมื่อใครมาทำผิดกับเรา เรายกโทษให้เขาได้ไหม? ถ้าครั้งหนึ่งสองสามครั้งก็พอจะโอเค แต่ถ้า 3-4-5-6 ครั้งและทำมากขึ้นกว่าเก่า หนักกว่าเก่ามันร้ายแรงกว่าเก่า คุณคิดว่าคุณอภัยได้ไหม?
ยากมากครับนี่คือคำว่า "ภาระหนัก" แล้วในพระคัมภีร์พระบัญญัติข้อแรกบอกว่า รักพระเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจของเจ้า ด้วยสุดกำลังสุดความคิด มีใครทำได้ไหม? แน่นอนไม่มีใครทำได้ รักศัตรูไปจนวันตายไหม? ไม่มีน่ะครับ
เพราะฉะนั้นเราจะเห็นว่าในพระบัญญัติ 10 ประการและพระบัญญัติ 200 กว่าข้อชาวยิวละเมิดพระบัญญัติบ่อยมาก แต่สิ่งที่ดีก็คือเขามีแกะมีสัตว์มีเครื่องถวายบูชาไถ่บาป ที่พระเจ้าอนุญาตให้เขามาสารภาพบาปที่พระวิหาร แล้วกลับไปเริ่มต้นใหม่ แต่เขาก็ทำอีกแหละ เขาทำหลายครั้งตลอดชีวิตของเขา
แล้วเราก็เหมือนกันใช่ไหมล่ะ เราเป็นคริสเตียน เราเชื่อพระเยซู เราทำบาปบ่อยครั้ง บ่อยมากตลอดชีวิต ชีวิตขึ้นลงๆ สุขทุกข์ดีบาป เป็นประจำจนตายใช่ไหมล่ะ อย่าคิดนะว่าอาจารย์ ศาสนาจารย์ ก็คือมีคนที่แอบทำบาปกันเยอะมากทุกวันนี้เพียงแต่ว่าเขาใส่หน้ากากเราไม่รู้แค่นั้นเอง
เพราะฉะนั้นทั้งนี้ทั้งนั้นเราทุกคนทำผิดทำบาป ผมก็ทำ คุณก็ทำ เพียงแต่เราไม่ใส่หน้ากากอีกแล้ว แล้วเราขอบพระคุณพระเยซูเราสนิทบอกรักเป็นประจำ เราสารภาพเมื่อเราทำผิด เราเปิดเผยน่ะครับว่าเราไม่ได้เพอร์เฟค นี่คือสิ่งที่พระเจ้าต้องการ แล้วพระเจ้าก็ทำกิจในเรา พระเจ้าก็ทำงานในคนที่ไม่โกหก พระเจ้าทำงานในคนที่ยอมรับความจริงอยู่ในความจริง
แอกของเราทุกวันนี้ก็จะเบา เนื่องจากว่าเรามีพระคริสต์ทำแทน หลายคนเป็นพยานว่าเมื่อก่อนรักศัตรูไม่ได้ แล้วตอนนี้ โอ๊ย สบายมาก แล้วเมื่อก่อนรักคนที่เกลียดเราไม่ได้ แต่ตอนนี้รักได้แล้ว
สำหรับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ พระเยซูตรัสเอง ฝ่ายมนุษย์ย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่พระเจ้าทรงกระทำให้เป็นไปได้ทุกสิ่ง (มาระโก 10:27 / มธ 19:16-25) เนื่องจากว่าสาวกคนหนึ่งมาถามพระเยซู ว่าถ้ายากแบบนี้ใครจะรอดได้ แต่พระเยซูตรัสว่า... พระเยซูไม่ได้พูดว่าพยายามทำนะ พยายามๆๆ ให้ได้ แต่พระเยซูบอกว่า สำหรับมนุษย์ทำไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับพระเจ้า (พระเจ้าให้พระเจ้ามาอยู่ในเรา) เราเข้าใจความหมายคำพูดของพระเยซูน่ะครับ สำหรับพระเจ้าทุกสิ่งก็เป็นไปได้ ความหมายก็คือว่าให้เราพึ่งพระเจ้า แล้วตอนนี้พระเจ้าก็ประทานพระคริสต์ให้มาอยู่ในเราแล้ว (คส 1:27) พึ่งพระองค์สิครับ
สำหรับโรมบทที่ 7 เราพบว่าเปาโลเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขา เขายอมรับว่าเขาเป็นคนที่ทำผิดเยอะมากทำบาปมากกว่าเพื่อน เขาร้องไห้เขาคร่ำครวญ เขาเคยใส่หน้ากากไม่มีใครรู้ เขาเป็นฟาริสีคนหนึ่ง แล้วสุดท้ายเขาก็ยอมรับว่าเขาทำผิดบ่อยมาก จนมาถึงชีวิตผู้ชนะที่พระเจ้าเปิดตาเขา และให้เขาฝึกเดินอย่างถูกต้อง สนิทในพระเยซู บอกรักพระเยซู จนสุดท้ายเขาเป็นผู้ชนะ
เราพบว่าเนื้อหนังไม่มีอะไรดี เนื้อหนังเป็นทาสของความบาป ถูกขายให้บาปแล้ว เพราะฉะนั้นคนที่จะช่วยเราได้ก็คือคนเดียวเท่านั้น เรามีพระเอกคนเดียวก็คือพระเยซู เราสรรเสริญพระเยซูเรายกย่องพระเยซูเอเมน