มัทธิว 5:20 เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าความชอบธรรมของท่านไม่ยิ่งกว่าความชอบธรรมของพวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสี ท่านจะไม่มีวันได้เข้าใน อาณาจักรแห่งสวรรค์
...
พี่น้องคริสเตียนมากมายไม่เข้าใจบางท่านบอกว่า ความชอบธรรมที่เหนือกว่าฟาริสีและธรรมาจารย์ ก็คือเราอาศัยความชอบธรรมของพระเยซูคริสต์ที่มาเป็นความชอบธรรมของเรา
แท้ที่จริงแล้วความชอบธรรมที่เหนือกว่าฟาริสีและธรรมาจารย์ ไม่ใช่พระเยซูที่มาปกปิดเราเพื่อให้เราเป็นคนชอบธรรมต่อพระพักตร์พระบิดาและพระบิดายอมรับว่าเราเป็นคนชอบธรรม 24 ชั่วโมง 7 วัน
ความชอบธรรมในมัทธิวบทที่ 5 นี้ที่พระเยซูตรัสถึง ถ้าหากผู้ใดความชอบธรรมของเขาไม่เหนือกว่าฟาริสีและธรรมาจารย์ ก็จะไม่มีโอกาสได้เข้าไปในราชอาณาจักรสวรรค์เป็นอันขาด
ความชอบธรรมในที่นี่ ก็คือการดำเนินชีวิตใหม่เปลี่ยนจิตใจใหม่ คือการเปลี่ยนจิตใจใหม่แล้ว อย่าลืมน่ะครับว่ามัทธิวบทที่ 5 บทที่ 6 บทที่ 7 เป็นกฎหมายใหม่เป็นรัฐธรรมนูญใหม่ เป็นข้อกฎเกณฑ์บังคับใหม่ของพระเยซูที่ก่อตั้งขึ้นมา เพื่อให้คริสเตียนดำเนินชีวิตอยู่อย่างผู้ชนะ ถ้าหากใครทำได้ ถ้าหากใครมีจิตใจใหม่ มีชีวิตใหม่ปรากฏออกมาแล้ว ก็คือความชอบธรรมที่เหนือกว่าฟาริสีและธรรมาจารย์นี่เองครับ
เพราะฉะนั้นการได้รับพระเยซูคริสต์เป็นความชอบธรรมของเรา อันนี้เราเป็นคนชอบธรรมเฉพาะต่อพระพักตร์พระบิดาเท่านั้น
แต่ความชอบธรรมในที่นี้ คือความชอบธรรมที่เหนือกว่าฟาริสีและธรรมอาจารย์ คือความชอบธรรมที่อยู่ต่อหน้ามนุษย์ ในครอบครัว ให้ครอบครัวเราเห็น ให้ตัวเราเองเห็นว่าเราเป็นคนใหม่ ให้เราได้สัมผัสชีวิตจิตใจใหม่นี้ และให้ทุกคนในที่ทำงาน ให้คริสตจักร ให้ทุกที่เห็นเราเป็นคนที่อยู่ในสภาพใหม่ เป็นการได้สวมเสื้อที่เหมาะสมกับงานสมรส ที่เหมาะกับงานสมรส เพื่อเราจะได้เข้าไปในราชอาณาจักร
...
** มีทางเดียวเท่านั้นที่จะกลายเป็นคนชอบธรรมเหนือกว่าฟาริสีและธรรมมาจารย์ และนั่นก็คือ ให้พระเยซูดำเนินชีวิตแทนเรา
(กาลาเทีย 2:20 ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว แต่ข้าพเจ้าก็ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่ข้าพเจ้าเองมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า และชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ ข้าพเจ้าดำเนินอยู่โดยความเชื่อของพระบุตรของพระเจ้า ผู้ได้ทรงรักข้าพเจ้า และได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า)