1. สะบาโตเก่าของยิว และใหม่ของคริสเตียน
2. เชื่อเท่านั้นก็ได้บังเกิดใหม่ และรอด. ส่วนบัพติศมานั้นได้เห็นและเข้าไปในอาณาจักร.
3. คริสเตียนบุตรพระเจ้า ไม่ดูดวง - โชคชะตาราศี ชีวิตเราคือพระเจ้าลิขิต
เอเมนพระเยซู ขอบคุณในความรัก ขอบคุณในพระคุณพระเจ้าของพระองค์ที่นำเรามาถึงชีวิตที่เบาสบาย กางเขนเบา แอกเบา ภาระเบา ทุกสิ่งเบาหมด และการอยู่ในพระคริสต์ คือการอยู่ในสะบาโตใหม่ของพระเยซู
สรรเสริญพระเจ้าที่พระองค์นำเรามาถึง “การพักผ่อน” ในแต่ละวัน ให้พบสันติสุขทุกวันเวลา ก็คือพระองค์เองที่เป็นแม่น้ำแห่งชีวิตที่อยู่ภายในเรา
วันนี้เราร่วมกันขอบพระคุณ สรรเสริญ และเราถวายความรักอันบริสุทธิ์ในภายในหัวใจของพวกเราแด่พระองค์ เอเมน
สำหรับสะบาโตใหม่ของพระเยซู คือสะบาโตเก่าก็คือชาวยิวถูกห้ามไม่ให้ออกไปจากหมู่บ้าน อาจจะไปข้างบ้านได้นะครับหน้าบ้านหลังบ้านข้างบ้านไปได้ แต่ออกจากบริเวณหมู่บ้าน ก็คือไม่ได้ ก็คือละเมิดสะบาโต สำหรับยิวก็คือได้พักผ่อนตอนหกโมงเย็นของวันศุกร์จนถึงหกโมงเย็นของวันเสาร์ ได้พักผ่อนจริงๆ ก็คือพักผ่อนร่างกาย พักผ่อนจิตใจบ้าง
แต่สำหรับเราที่ถือสะบาโตฝ่ายวิญญาณ เราถูกห้ามออกไปจากบริเวณที่พระเจ้ากำหนดไว้ ก็คือ “ชีวิตในพระคริสต์” ถ้าเราออกไปไกลกว่านั้น ก็คือไปสู่อาดัม ชีวิตของเราก็จะถูกเรียกว่าละเมิดสะบาโตใหม่ของพระเยซู
การใช้ชีวิตอยู่ในอาดัม การอยู่ในกิเลสตัณหาโลภโกรธหลงทั้งหลาย กระวนกระวาย เป็นทุกข์ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม เรียกว่าละเมิดสะบาโตใหม่ของพระเยซู
เพราะฉะนั้นการอยู่ในพระคริสต์ การสนิท การบอกรัก การพูดคุย การสนทนา การอยู่ในความผูกพันที่ดีกับพระเยซู เรียกว่าอยู่ในสะบาโตของพระองค์ และแน่นอนที่สุด สันติสุขที่พระองค์เป็นแม่น้ำแห่งชีวิตก็จะทำกิจทำงานในเราเคลื่อนไหวในเรา ทำให้เราไม่กระวนกระวาย ทำให้เราปล่อยวางได้ทุกสิ่ง ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับสะบาโตใหม่นี้
สำหรับเรื่องที่ 2 ที่พี่น้องพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องการดูดวงเรื่องเชื่อเรื่องโชคชะตาราศี โลกนี้นะครับเป็นของซาตานเมื่ออาดัมไม่เชื่อฟัง เมื่อมนุษย์ตกต่ำ และถูกสาปแช่ง โลกนี้ซาตานก็ยึดเป็นเจ้าของครอบครอง
เราเคยได้ยินข่าวไหมครับว่า ถ้าผีอยู่ที่ประเทศนึงบ้านเมืองนึง มันจะเดินทางไปสู่อีกประเทศนึงหรือบ้านเมืองนึง มันต้องขอวีซ่า ก็มีส่วนเป็นไปได้เพราะว่า ในพระคัมภีร์นะครับ ก็คือการครอบครองของมารซาตาน มันจะแบ่งเขต แบ่งอาณาจักร แบ่งบ้านเมือง ประเทศ อาณาจักรนะครับ เพื่อครอบครองเพื่อปกครอง ผีจีนเป็นลักษณะอีกแบบนึง ผีอินเดียก็อีกแบบนึง ผีไทยผีลาวผีพม่า ผีอะไรก็แล้วแต่ ผีฝรั่ง เราจะเห็นว่ามันมีการปกครอง และครอบครอง และมีการหลอกหลอน หลอกล่อ ให้หลงทาง เป็นคนละแบบกัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็คือซาตานมันแบ่งเขตเพื่อปกครองบ้านเมืองในโลกนี้ ปกครองมนุษย์ และมันอยู่ที่ไหนมันก็สร้างศาสนาขึ้นมา เพื่อทำให้มนุษย์หลงทาง ไม่เจอพระคริสต์ ไม่พบพระเจ้า
แต่เราขอบพระคุณพระบิดาที่พระองค์นำเรามาสู่พระเจ้าผู้สูงสุดแล้ว แล้วเราขอบพระคุณพระเจ้าที่ทุกวันนี้ โชคชะตาราศี ฝ่ามือของเราที่เราเห็นเป็นเส้นๆ มันไม่มีผลอะไรสำหรับชีวิตของเราอีกต่อไปแล้ว เพราะว่าตั้งแต่วันที่เราเชื่อนะครับ
คือหมอดูของแท้ก็มีนะครับ ในพระคัมภีร์สำหรับวันนี้เปิดเผยใช่ไหมว่าหมอดูของแท้ ก็คือวิญญาณแห่งการดูดวง มีนะครับ ถ้าเจอหมอดูของแท้มันก็จะเกิดขึ้น มันดูหมอมันบอกเราว่าอะไรจะเกิดขึ้น มันก็จะไปทำให้เกิด แล้วเราก็จะเจออุบัติเหตุ เจอมรสุม เจอสิ่งที่มันบอก
และหมอเดา ก็มีเยอะ เพราะฉะนั้นสงสารนะครับ สงสารชาวโลกคนที่ไม่เชื่อ และสงสารคริสเตียนที่ยังไปดูหมออยู่ ซึ่งอาจจะเจอหมอดูของแท้บ้าง เจอหมอเดาบ้าง สูญเสียทรัพย์สินไปมากมาย ใช่ไหม มันหลอกล่อให้เราทำนู่นทำนี่ ก็คือสูญเสียนะครับ
แต่ทุกวันนี้ผมอยากจะขอย้ำว่า เราไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรกับหมอดู วิญญาณหมอดู หรือหมอเดา อีกต่อไป
แต่ชีวิตเราทุกวันนี้ ไม่ได้อยู่ที่พรหมลิขิตอีกต่อไปแล้ว แต่ชีวิตของเราอยู่ที่พระเจ้าเป็นคนลิขิต เรียกว่าพระเจ้าลิขิต เอเมน
หากมีเพื่อนหรือใครนะครับมาบอกเราว่า ชวนไปดูหมอ หรือไปหาหมอดังๆ หมออะไรก็ตาม ซึ่งถ้าเป็นวิญญาณ วิญญาณที่ดูหมอได้ มันก็จะทำให้เกิด แล้วก็กำหนดชีวิตของเรา เพราะฉะนั้นเราไม่ยุ่งเกี่ยว เราไม่ยุ่งเกี่ยว เราไม่ไปเกี่ยวข้อง ไม่ไปใกล้
และสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากที่เราพบในวันนี้ ก็คือพี่น้องหญิงที่ชื่อลิเดีย ซึ่งพอเขาต้อนรับพระเยซู เขาเชื่อเขากลับใจ ทันทีที่เขากลับใจแน่นอน การบังเกิดใหม่ก็ตามมา การได้กลายเป็นบุตรพระเจ้าก็ตามมา และความรอดก็เป็นของเขา และครอบครัวด้วย ซึ่งทั้งครอบครัวก็มีความเชื่อก็ต้อนรับพระเยซูไปด้วยกัน
และอีกต่อมาก็คือเขาบัพติศมา การบัพติศมา คือการเริ่มต้นเข้าสู่อาณาจักร ได้เห็นอาณาจักรของพระเจ้า
เพราะฉะนั้นการเข้าอาณาจักรของพระเจ้านะครับ จะต้องพบความชอบธรรมของพระคริสต์ก่อน ก็คือมีพระคริสต์เป็นผู้ดำเนินชีวิตแทนเรา คือการรักนะครับ ทำทุกสิ่งด้วยความรัก ดูแล ช่วยเหลือ อธิษฐานเผื่อโดยเฉพาะพี่น้องในพระกายของคุณ
ถ้าคุณเข้ามาร่วมในพระกายฝ่ายวิญญาณ คุณได้พบพระกายที่เป็นพระกายที่พิเศษ เป็นพระกายที่พระเจ้าเลือก เป็นพระกายที่พระองค์ให้บังเกิดเป็นมนุษย์วิญญาณทุกคน ได้ถูกเปิดตาทุกคน นี่คือสิ่งที่สำคัญมาก เราจะต้องรัก เราจะต้องดูแล เราจะต้องช่วยเหลือ และอธิษฐานเผื่อพี่น้องเหล่านี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคริสเตียนและชีวิตคริสตจักร
พระคริสต์เป็นผู้ดำเนินชีวิตแทนเรา เราจะทำทุกสิ่งด้วย “ความรัก” อย่ามองข้าม อย่าทำให้พี่น้องที่ยังไม่เติบโต ยังเป็นเด็กอยู่ ที่เข้ามาใหม่ สะดุด เพราะฉะนั้นอย่าเลือกใคร เลือกรักเลือกชังใคร เราบอกทุกคนสำคัญ เรามองทุกคนเท่าเทียม เรามองทุกคนมีค่า เรามองทุกคนด้วยความรัก
ถ้าหากใครยังเกิดมีอาการที่ไม่ชอบพอใคร หรือไม่พอใจใคร เราต้องเข้าใจนะครับว่าความเชื่อของเราไม่เท่ากัน คำพูดอาจจะสะดุดอาจจะมาทิ่มแทงเราบ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขอให้เชื่อว่า ทุกสิ่งเกิดขึ้นเพราะว่าพระเจ้าอนุญาตให้เกิดเพื่อเราจะฝึกเดิน เอเมน
และเพื่อพระเจ้าให้เราทำการบ้าน ก็คือ ช่วยเหลือกันและกัน รักกันและกัน ดูแลอธิษฐานเผื่อกันและกัน
สิ่งที่สำคัญเมื่อเราเจอพี่น้องที่มาทิ่มแทงเรา พูดไม่ดีใส่เรา หรือทำในสิ่งที่เราไม่พอใจ ก็คืออธิษฐานเผื่อ และคุยกันด้วยความรัก นี่คือทางสายใหม่ นี่คือกฎบัญญัติใหม่ของพระเยซูคริสต์ที่ประทานให้แก่เรา
เพราะฉะนั้นเราจะทำในลักษณะของการเป็นคริสเตียนศาสนาในเมื่อก่อนไม่ได้ เราตัดสินใครไม่ได้อีกแล้ว เราถูกยกชีวิตความคิดที่เป็นด้านลบไปหมดแล้วนะครับ เพราะว่าโรม 12:2 จงเปลี่ยนความคิดใหม่ เปลี่ยนความคิดใหม่ทั้งหมด ซึ่งอะไรที่เป็นความคิดในลักษณะของศาสนา การตัดสินพี่น้อง การมองลบ การมองเนื้อหนัง การมองในสิ่งที่ไม่ดีเห็นแต่จุดที่ไม่ดีของเขา จุดบกพร่อง ก็คือเราทิ้งสิ่งเหล่านี้ไป เพื่ออะไร? เพื่อแลกกับอาณาจักร เอเมน
อาณาจักรเป็นสิ่งที่มีค่ามากนะครับ สิ่งเหล่านี้เราทำ เราไม่พอใจ เราพูดทิ่มแทงใคร มันเป็นสิ่งที่เป็น “เงา” แล้วอีกไม่นานมันก็จะสูญหายไปพร้อมกับโลกเก่าใบนี้ แต่สิ่งที่หลงเหลืออยู่ก็คือ “ความรัก” และเอาไปแลกกับอาณาจักรที่กำลังจะมา
เราขาดพระกายไม่ได้ พระกายก็ขาดเราไม่ได้ สิ่งที่เราทำก็คือเอาความรักให้พระกาย เอาการดูแล ช่วยเหลือ ใส่ใจ อธิษฐานเผื่อกันและกัน เรามีครอบครัวใหม่ ครอบครัวในพระคริสต์เป็นครอบครัวพิเศษที่พระเจ้านำเรามา อันนี้ไม่ใช่บังเอิญนะครับ เพราะฉะนั้นอย่าทำให้พี่น้องสะดุด แล้วก็เอาความรักเป็นใหญ่ เอาความรักเป็นหลัก และเอาความรักเป็นสิ่งนำหน้าของพวกเรา เอเมน
ตอนที่ผมยังเป็นคริสเตียนศาสนา ก็พอมารับมานาฯ ได้ไม่นานนะครับ ช่วงแรกๆ ช่วงที่เริ่มเปลี่ยนความเชื่อ เปลี่ยนความคิด ซึ่งก็จะมีพี่น้องนะครับ ก็จะมีพี่น้องหรือเพื่อนฝูง หรือเพื่อนในที่ทำงาน ที่อาจจะไม่ชอบ อาจจะไม่พอใจ อาจจะฟ้องทำให้ผมตกงาน อาจจะทำลายสิ่งนะครับ ซึ่งตอนแรกผมก็เกิดไม่พอใจ แล้วก็โกรธ แล้วก็คิดในใจ อืมอยากให้เขาเจอในสิ่งที่ไม่ดีอะไรประมาณนั้นนะครับ
แต่พอหลังๆ มา ก็ขอบคุณพระเจ้า เมื่อรับมานาฯ ได้เต็มที่ ทุกสิ่งก็ปล่อยวาง ยกโทษ อภัย ไม่คิดจะแก้แค้น ไม่คิดจะต่อสู้ เพราะว่าผมได้รู้นะครับว่าศัตรู ที่แท้จริงของผม และของพวกเรา คือมาร คือซาตาน
มนุษย์ทุกคนนะครับเป็นสิ่งที่ซาตานใช้เพื่อมาทำร้าย ทำลาย ทำให้เราเกิดไม่พอใจ หรือเสียใจ หรือสูญเสียอะไรไปบางอย่าง ใช่ไหม สุดท้ายพอได้รู้ความจริงว่าไม่ใช่มนุษย์ มนุษย์คือน่ารัก มนุษย์คือเป็นผู้ที่เราควรจะรัก มนุษย์นะครับเป็นสิ่งที่ซาตานใช้เพื่อ มาทำร้ายเรา
เมื่อเราเข้าใจรับการเปลี่ยนแปลงความคิดในตรงนี้ พระเจ้าจัดการทั้งหมดนะครับ คือเราไม่ต้องทำอะไร แทบไม่ได้ทำอะไรเลย ถ้าเราคิดจะไปแก้แค้น คิดจะเกลียดชังใคร ก็คือเขาอาจจะลืมไปแล้วใช่ไหม แต่เรายังโกรธยังโมโห ยังจดจำความผิดเขาอยู่ ความสุขมันไม่มีอยู่ในเรา มีแต่ความทุกข์นะครับ ซึ่งการแก้แค้นในพระคัมภีร์ก็บอกชัดเจนว่า พระเจ้าจะเป็นผู้แก้แค้นแทนเรา และใครที่ทำอะไรก็ได้รับผลตอบแทนอันนั้น
เพราะฉะนั้น เราขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์นำการเปลี่ยนแปลงความคิดมาสู่พวกเรา ทุกวันนี้เราขอบคุณพระเจ้าที่เราได้พักผ่อนในพระคริสต์ สะบาโตของพระเยซู สะบาโตใหม่ ก็คือปล่อยวาง ยกโทษ อภัย มองทุกคน มองทุกสิ่งใหม่หมด ในพระคริสต์มีแต่สิ่งใหม่ๆ นี่คือการอยู่ในสะบาโตใหม่ของพระเยซู
และขอบพระคุณพระเจ้า ทันทีที่เราเชื่อนะครับ เราได้รอดแน่นอน และจะไม่สูญเสียความรอดไปอีกเลย เพียงแต่ว่าถ้าหากเรายังทำบาปอยู่ เราก็อาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นและได้เข้าไปในอาณาจักร ซึ่งการได้เห็นและได้เข้าไปในอาณาจักร ก็คือการ รัก ดูแล ช่วยเหลือ อธิษฐานเผื่อพี่น้องของเรา ซึ่งเป็นพระกายฝ่ายวิญญาณ
และสุดท้ายก็คือเราไม่เกี่ยวกับวิญญาณทั้งหลาย ที่เกี่ยวกับวิญญาณดูดวง หมอดูหรือหมอเดาก็ตาม และชีวิตของเราจะปลอดภัย หรือเป็นอะไรก็ตามนะครับ พระเจ้าเป็นคนกำหนด พระเจ้าเป็นคนให้เกิด เพื่อเราจะเติบโตสู้ชีวิตผู้ชนะ
ถาม.
ถ้าหากมีคนมาทำอะไรกับเรา มีคนมาทำร้ายทำลายเราผ่านทางคำพูด ถ้าหากเราไม่ใส่ใจแต่คิดบวก และมองว่าในพระคริสต์มีแต่สิ่งใหม่ๆ เราจะได้สันติสุขครอบครอง และเป็นเราที่จะค่อยๆ ดำเนินขึ้นในพระคุณและความรักของพระเจ้าใช่ไหมค่ะ
ตอบ.
อันนี้เป็นสัญญาของพระเยซูนะครับ ไม่ใช่ของผมหรือของใคร พระเยซูสัญญาเองบอกว่า ถ้าหากเรายกโทษให้พี่น้อง และมองเขาเป็นคนใหม่ มองแต่สิ่งใหม่ๆ และคิดบวก สันติสุขก็จะครอบครองจิตใจของเราครับ เอเมน
ถาม.
อยากให้อาจารย์อธิบายคำว่า ไร้ตัวตน ค่ะ ซึ่งเราเป็นมนุษย์วิญญาณ คำว่าไร้ตัวตนคือ ช่วยอธิบายด้วยค่ะ
ตอบ.
การที่เราจะเป็นคนที่ ไร้ตัวตน นะครับ เป็นความหมายเดียวกันกับ ถ่อมจนถึงดิน เข้าใจนะครับ ถ่อมจนถึงดิน
ดิน เป็นสิ่งที่ ต่ำต้อย
ดิน เป็นสิ่งที่ ผู้คนเหยียบไปมา ก็คือ ไม่มีค่า
สำหรับเราที่เป็นคริสเตียนนะครับ เราดูพระเยซูเป็นแบบอย่างเป็นตัวอย่าง เปาโลก็เหมือนกัน เปาโลนะครับถูกเรียกว่าผู้เล็กน้อย เล็กน้อยคือเล็กน้อยมาก คือไม่มีค่าอะไร ไม่มีความหมายอะไร ไม่มีตัวตนจริงๆ เล็กน้อยมากๆ
ไม่ใช่เล็กน้อยแบบเด็กเล็กๆ นะครับ ก็คือเม็ดฝุ่นเม็ดนึง พูดง่ายๆ
พระเยซูพอไปรักษาโรค ไปไล่ผี ไปทำความดี ไปประกาศข่าวประเสริฐ พอทำประโยชน์กับผู้คน พระพระเยซูตรัสบ่อยๆ ใช่ไหมว่า อย่าไปบอกใคร นี่นะครับคือความหมายของการถ่อมใจ ถ่อมถึงดิน การทำตนของพระองค์ เป็นผู้ที่ไร้ตัวตน
เราก็เหมือนกันนะครับ อย่าแสวงหาชื่อเสียง อย่าให้ใครยกย่องเรา อย่าให้ใครสรรเสริญเรา หรือมองเราเป็นอาจารย์ เป็นผู้ยิ่งใหญ่ เป็นผู้ที่มีบุญคุณกับเขา ซึ่งเขาอาจจะเอ่ยถึงก็เล็กน้อย ก็เอเมนก็ไม่เป็นไร และถ้าหากเขาพูดถึงเราบ่อยนะครับ เราก็ห้ามเขา แม้แต่ทูตสวรรค์เองก็ยังห้ามมนุษย์นะครับ ว่าไม่ให้ยกย่องสรรเสริญเรา แต่จงยกย่องสรรเสริญพระเจ้าผู้เดียว
เราก็เหมือนกันนะครับ เราอย่าทำตัวให้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ เป็นผู้ที่มีเกียรติชื่อเสียงโด่งดัง เราทำตัวเหมือนผู้เล็กน้อยคนที่ไม่มีค่าคนหนึ่ง เอเมน
ถ้ามีคนเริ่มพูดถึงเราบ่อยๆ พูดถึงเราประจำ ยกย่องเรามากขึ้น แสดงว่าเรามีปัญหาแล้ว เราต้องรีบแก้ไข ก็คือบอกเขานะครับว่าอย่าเอ่ยถึงฉัน ไม่ต้องพูดถึงอะไร เพราะว่าผู้ที่ได้รับเกียรติรับการยกย่องก็คือมีผู้เดียวเท่านั้น คือพระเยซูคริสต์
เราขอบคุณพระเจ้าสำหรับพี่น้อง ที่พระเจ้าใช้นะครับ ที่พระเจ้าเลือกเพื่อที่จะให้เผยพระวจนะหลักเป็นประจำ แต่พี่น้อง ไม่ได้สนใจเรื่องใครจะเรียกอาจารย์ หรือไม่เรียกอาจารย์ ใครจะเรียกอะไรหรือไม่เรียกอะไร คือเราทำหน้าที่ปุโรหิตหลวง อย่างซื่อสัตย์ โดยถ่อมใจ โดยคิดว่าเราไม่มีค่าอะไร นี่นะครับก็คือบำเหน็จมากมายที่พระองค์จะเตรียมไว้ แล้วก็พระเจ้าจะเป็นคนยกเราขึ้นเอง เอเมน
ถาม.
จริงๆ แล้วพวกเราที่รับมานาที่ซ่อนไว้ เรารู้ว่าเราเป็นปุโรหิตหลวงและคนต้นเรือนของพระเจ้าใช่ไหมคะ
ตอบ.
ทุกคนที่เชื่อนะครับ ทุกคนที่เชื่อ พระเจ้าตั้งให้ตำแหน่งให้หน้าที่กับพวกเรา แน่นอนเราจะเลือกหรือไม่เลือกก็แล้วแต่ เขาจะทำหรือไม่ทำ แต่สำหรับพระเจ้านะครับ
1. ทุกคนเป็นสาวกของพระเยซู เอเมน
2. ก็คือทุกคนเป็นปุโรหิตหลวงของพระเจ้า เราต้องแสวงหาต้องค้นหาของประทาน ความสามารถที่พระเจ้าให้เรา และนำมาใช้ให้เกิดผล เราต้องทำนะครับ เพราะว่าวันที่พระเยซูเสด็จมาพระองค์จะนำบำเหน็จ หรือนำการตีสอน มาสู่เรานะครับ
เพราะฉะนั้น ค้นหาของประทาน ค้นหาความสามารถพิเศษ ที่พระเจ้าประทานให้เรา แล้วนำมาใช้ให้เกิดผล อย่าลืมนะครับเราทุกคน ทุกคน คุณทุกคนเป็นสาวกของพระเยซูแน่นอน และเป็นปุโรหิตหลวงของพระเจ้า
เพราะฉะนั้น ถ้าหากเรายังไม่กล้าพูดอะไร ก็ขอพระองค์ชำระ และให้พระองค์นำเราในการที่จะพูด ได้ดีขึ้นได้มากขึ้น แล้วมีส่วนในการที่จะเอเมนกับพี่น้อง มีส่วนในการที่จะเผยพระวจนะ หรือถามเผื่อพี่น้องถ้าหากพระวิญญาณบริสุทธิ์เร้าใจเรา ทำอะไรบางอย่างนะครับเพื่อเราจะไม่ขาดบำเหน็จ
และสิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่สำคัญ ก็คือหน้าที่หลักของเรา ก็คือเอาความรักมาสู่พี่น้อง นำความรักมาให้พี่น้อง อันนี้สำคัญมาก
จำได้ไหมเปาโลบอกว่า ถ้าหากท่านถวายทุกสิ่งแด่พระเจ้า ประกาศข่าวประเสริฐ รับใช้ตั้งแต่เช้าจนค่ำ ทำทุกสิ่ง สละชีวิต สละสมบัติ แต่ไม่มีความรัก ก็ไม่มีค่าอะไร (1 คร 13:1-3)
ถาม.
มีพี่น้องท่านนึงที่รับมานาที่ซ่อนไว้มานานแล้ว เขาได้พูดว่า เขาไม่เข้าประชุมในห้องออนไลน์มานาที่ซ่อนไว้กันแล้ว เขาบอกว่ามันไม่สำคัญอะไรเลย ไม่ทราบว่าเราจะไปหนุนใจเขายังไงดีคะ
ตอบ.
สิ่งที่เราทำได้นะครับ
อันแรก ก็คืออธิษฐานเผื่อ
อันที่สอง ก็คือบอกเขาไปตรงๆ เลยนะครับว่า ไม่ใช่บังเอิญที่พระเจ้า ก่อตั้งกลุ่มไลน์ของพวกเรา และไม่ใช่บังเอิญที่พระเจ้านำเรามาสู่พระกาย เราขาดพี่น้องไม่ได้ และพี่น้องก็ขาดเราไม่ได้ อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
เราจะบอกว่า ไม่สำคัญอะไร อันนี้ผิดนะครับ คือสำคัญมากๆ ถ้าหากเราถ่อมใจ เราถ่อมถึงดิน เราเข้ามาสู่พี่น้อง และฟังพี่น้องนะครับ เราจะได้ยินเสียงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไม่ใช่เสียงของใคร และคนที่ลงบทความข้อความทั้งหลายนะครับพระเจ้าเป็นผู้นำพาและดลใจเขา ถ้าหากเราคิดได้ในลักษณะนี้ เราก็จะเข้าสู่การเติบโต และเข้าสู่สันติสุขทุกวันเวลาได้แน่นอน เอเมน
ซึ่งถ้าหากใครมีความคิดที่เป็นเนื้อหนัง ความคิดอาดัม คิดว่า เออ ไม่สำคัญหรอก ฉันไปร่วมกับที่อื่นก็ได้ ไปคริสตจักรอื่นก็ได้ หรือไม่ร่วมกับใครก็ได้
เราจะพบว่าพระเยซู มีข้อลึกลับอันหนึ่ง ที่หลายคนมาไม่ถึง ข้อลึกลับของพระเยซูคริสต์ ก็คือ คริสตจักร พระองค์รักคริสตจักรมาก พระองค์รักพระกายของพระองค์มาก ถ้าคุณคิดว่าพระกายไม่สำคัญ พลาดนะครับ พลาดอาณาจักรนะครับ
เราอ่านหนังสือเอเฟซัส และก็ขอการเปิดเผย ขอการเปิดตาให้มาก มากกว่าเดิม เพราะว่าหนังสือเอเฟซัสจะเปิดเผยว่า พระคริสต์รักคริสตจักรของพระองค์มาก มากเหมือนกับสามีรักภรรยา
แล้วพระเยซูเป็นผู้ก่อตั้งคริสตจักรของพระองค์ แล้วคริสตจักรรู้ไหมครับ ถ้าหากไม่มีคริสตจักร หัวหรือศีรษะที่เป็นพระคริสต์ จะไปเกาะที่ไหน ถ้าเรียกฝ่ายวิญญาณ ก็คือเป็นผีกระสือฝ่ายวิญญาณ ใช่ไหม ไม่มีตัวตนไม่มีร่างกายให้เกาะ เข้าใจกันไหมครับ
พระเยซูต้องการร่างกาย ก็คือพวกเรา อวัยวะทุกส่วน ก็คือพวกเรา เราคือพระกาย พระกายสำคัญมากสำหรับพระคริสต์ ถ้าหากพระคริสต์ไม่มีพระกาย พระองค์ก็ไม่มีร่างกายในโลกนี้
แล้วทุกวันนี้คริสตจักรทั้งหลายก็ล้มเหลวที่จะเป็นพระกายของพระเยซู คริสตจักรทุกวันนี้เป็นพระกายอาดัม เป็นพระกายคือเป็นโบสถ์ ไม่ใช่พระกายเที่ยงแท้ ไม่ใช่พระกายฝ่ายวิญญาณ เขาไปโบสถ์เขามองว่าเขาเป็นอาดัม เขามองว่าเขาเป็นคนบาป เขามองว่าเขายังไม่เพอร์เฟค ยังไม่มาถึงชีวิตที่ใหม่หมด
แต่สำหรับพวกเรา พวกเรามาถึงชีวิตที่ใหม่หมด บริสุทธิ์ ชอบธรรม โดยพระคริสต์ ไม่ใช่เรานะครับ โดยพระคริสต์และในพระคริสต์ เพราะฉะนั้นเราจึงเป็นพระกายเที่ยงแท้ เราจึงเป็นพระกายวิญญาณ เราจึงเป็นพระกายที่พระองค์สวมใส่ และให้ทุกคนเป็นอวัยวะของพระองค์แล้ว สรรเสริญพระเจ้า
พอจะเห็นภาพแล้วใช่ไหมครับว่า คริสตจักรสำคัญแค่ไหน
ถาม.
ขออนุญาตถามอาจารย์ใน โรม 12:19 การแก้แค้นเป็นของพระเจ้า ตอนนั้นที่อ่านก็คือเป็นคริสเตียนศาสนาอยู่ค่ะก็มีความเข้าใจตามมุมมองของคนที่บอกเรามาว่า เวลามีใครมากดขี่ข่มเหงเรา หรือว่าทำให้เราโกรธแค้น ก็ไม่ต้องไปโต้ตอบเขา แต่ว่าให้พระเยซูตอบแทนเขา ก็คือแก้แค้นแทนเรา
แต่พอมาในมานาฯ ก็คือ จะถูกสอนว่า เราต้องยกโทษให้คนที่เป็นศัตรู
สรุปให้พระเยซูแก้แค้น หรือว่าให้พระเยซูรับแทนค่ะ
ตอบ.
ความหมายของคำว่า แก้แค้น ในพระคัมภีร์ใหม่ ที่พระเจ้าเป็นคนแก้แค้น ถ้าจะพูดตามความหมายฝ่ายวิญญาณ ก็คือ พระเจ้าจะเป็นผู้ตีสอนเขาเอง เป็นคนตีสอนเขาเอง ไม่เรียกว่าแก้แค้นเหมือนมนุษย์ที่เราเข้าใจหรือคิดกันว่า พระเจ้าต้องไปรบไปต่อสู้เขา ไม่ใช่นะครับ ก็คือพระเจ้าตีสอนเขานะครับ
เชื่อไหมสำหรับผม คือตั้งแต่ตอนที่เป็นคริสเตียน แล้วก็พบมานาฯ แล้วก็มาจนถึงทุกวันนี้ คือมีหลายเหตุการณ์ที่ผมได้มีประสบการณ์นะครับ และรู้ว่าพระเจ้าเป็นผู้ที่ตอบแทนสำหรับหลายคนที่ทำอะไรกับผม ซึ่งสำหรับผมก็คือยกโทษไปแล้ว ไม่ได้คิดอะไร
เรื่องนี้พระเจ้าเปิดตาผมตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ได้รับมานาฯ ก็คือผมถูกสอน จำไม่ได้ว่าใครเป็นคนเทศนา ก็เคยฟังในคริสตจักร หรืออ่านพระคัมภีร์ก็ไม่แน่ใจ เพราะตอนที่ผมอายุประมาณ 15-16 นะครับ ไปทำอะไรผิดก็ติดคุกอยู่น่าจะวันหนึ่ง ประมาณวันหนึ่ง แล้วก็มีเพื่อน 2 คนที่โดนจับ ก็เข้ามาอยู่ในคุก
แล้วก็คือเขาจะมีเกณฑ์นักโทษนะครับออกไปทำความสะอาด ไปเก็บขยะตามถนน ซึ่งเพื่อนคนหนึ่งบอกว่าไม่มีเสื้อไม่มีกางเกงใส่ ตอนนี้ก็ถูกเรียกออกไปเก็บขยะ แล้วเขาก็ขอยืมเพื่อนอีกคนหนึ่งที่มีกางเกง แล้วก็เสื้อที่มันดูดีหน่อย เพื่อนคนนั้นก็ยอมให้ยืมเพราะว่าเขาเป็นเพื่อนรักกัน ปรากฏว่าพอออกไปแล้ว คือตอนเย็นก็ไม่เห็นกลับเข้ามา แล้วมีทางเจ้าหน้าที่รายงานว่า เขาหนีไปแล้ว เขาหนีไปไหนไม่รู้นะครับ แล้วเจ้าหน้าที่ก็ตามจับอยู่
ซึ่งเพื่อนอีกคนหนึ่งที่อยู่ในคุก ที่นั่งใกล้ๆ ผม เขาโกรธมาก เขาโกรธมากเขาบอกว่า ถ้าเจออีกจะฆ่าทิ้ง คือโมโหมากเลยสาปแช่งไปด้วย ผมก็เลยมีโอกาส ตอนนั้นก็คือเป็นคริสเตียนน่าจะประมาณไม่กี่เดือนนะครับ ผมก็เลยถามเขาว่า อยากได้กางเกงอยากได้เสื้อคืนมามั้ย เขาก็มองหน้าผม แล้วก็โกรธนะครับ ว่าจะได้คืนมายังไง ก็เขาขโมยไปแล้ว ผมก็เลยบอกว่า ลองยกโทษให้เขาสิ แล้วก็อธิษฐานพระเยซูช่วยได้ ผมก็พูดแบบนี้
ก็เลยคุยไปคุยมาก็ชวนเขาเขาก็ยอมนะครับ สุดท้ายเขาก็ยอม ก็อธิษฐานขอให้ยกโทษให้ผู้ชายคนนั้น พอดีอธิษฐานเสร็จอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เจ้าหน้าที่ก็จับคนนั้นได้ แล้วก็นำเขามาทุบตีเขาใหญ่เลยนะครับ แต่สุดท้ายก็ถอดกางเกงถอดเสื้อคืนให้
คือการยกโทษ มันเป็นอะไรที่พระเจ้าต้องการให้เราทำ แล้วพระเจ้าจะตีสอนเขาเองที่ทำผิดกับเรา หน้าที่ของเราไม่ใช่โกรธแค้น ไม่ใช่โมโห ไม่ใช่วางแผนเพื่อจะไปแก้แค้นไปล้างแค้น
หน้าที่ของเราที่ดีที่สุดที่ควรจะทำ เพื่อให้ได้สิ่งที่เราสูญเสียไปกลับคืนมา แล้วกลับคืนมาได้หลายเท่าด้วย ก็คือการยกโทษ นี่คือทางออกสำหรับพระเจ้านะครับ สำหรับมนุษย์เราก็คือการแก้แค้น ตอบแทนก็ด้วยการแก้แค้น ใช่ไหม พระคัมภีร์เดิมพระบัญญัติเดิมชาวยิว ก็คือต้องแก้แค้น แต่สำหรับพระเยซูคริสต์ อย่าแก้แค้น แต่จงยกโทษให้เขา
ถาม.
ถ้าในกรณีสมมุติว่าคือเราแค้นเขามากๆ เรามีความแค้นเขามากๆ แล้วเราก็มีความโกรธ ก็เลยมาบ่นกับพระเจ้าบอกว่า เกลียดมากอะไรอย่างเงี้ย เกลียดไม่สามารถที่จะทำใจได้ ไม่รู้จะทำยังไง คือก็ระบายความรู้สึก แล้วก็บอกพระเจ้าว่า อย่าให้เป็นตามใจเรา ให้เป็นตามน้ำพระทัยของพระองค์ แต่ที่เราระบายที่เราโกรธไปแล้วนะคะอาจารย์ บางทีเราไม่สามารถที่จะลืมมันได้นะคะ เราผิดไหมค่ะ
ตอบ.
ถามว่าผิดไหม ผิดครับ แต่นี่คือขั้นตอนของการแก้ไขปัญหา ความโกรธของเราจะลดลง ในอนาคตนะครับ
อันแรก ก็คือเราระบายกับพระเจ้าได้ เราบอกพระเจ้า เราโกรธโมโหใส่พระเจ้าเลย ได้ไม่ผิดนะครับ พอเราโกรธเราโมโหเราระบายเราพูดกับพระเจ้า บอกว่าไม่พอใจคนนี้ โกรธมากตอนนี้ แค้นมาก เราพูดไปเลย
แล้วขั้นตอนที่สอง ข้อที่สอง อย่าลืมน่ะจดด้วยนะครับ ข้อที่สองก็คือ ขอพระองค์ยกโทษให้ข้าพระองค์ด้วย เพราะว่าไม่ใช่น้ำพระทัยของพระองค์ ที่จะโกรธ แต่เมื่อกี้ก็ได้ระบายไปแล้ว ก็รู้สึกดีขึ้น แต่สิ่งที่ตามมานะครับก็คือ สารภาพ สารภาพบาป ขอพระเจ้ายกโทษ
แล้วข้อสาม อันที่สาม สิ่งที่สำคัญมากๆ ก็คือ ขอพระองค์ทรงชำระข้าพระองค์ ให้ข้าพระองค์ไม่โกรธ ไม่มีอารมณ์ร้อน ไม่คิดจะแก้แค้นเขาในอนาคต ขอพระองค์ให้สันติสุข ให้ความสงบสุข ให้มีจิตใจที่มีการปล่อยปลงวางให้มีมากขึ้น ให้หัวใจของพระเยซูเข้ามาแทนที่หัวใจของข้าพระองค์ เอเมน
3 สิ่งนี้เราทำทุกครั้งที่เราโกรธ เรามาระบายกับพระเจ้า บอกพระเจ้า เปิดเผยกับพระเจ้าเลย พูดอะไรก็พูดไปเลย พระเจ้าเข้าใจ พระเจ้ารู้ดี เอเมน
แล้วอีกไม่นาน อีกไม่นานนะครับ ขอให้เชื่อ พอเราระบายเสร็จ เราสารภาพผิด ต่อมาก็คือขอพระเจ้าชำระ แล้วขอให้เชื่อด้วยว่า แน่นอนที่สุดอีกไม่นาน เราจะไม่เป็นแบบนี้ พระเจ้าจะชำระเรา ทุกครั้งในพระคัมภีร์ที่พระเจ้าสัญญาว่าจะชำระเรา จะชำระเรา ก็คือเป็นสิ่งที่พระเจ้าต้องการอยู่แล้ว เมื่อเราขอพระเจ้า เข้าทางพระเจ้าเลย ก็คือสุดท้ายพระเจ้าก็จะชำระเรา
เพราะว่าพระเจ้าต้องการที่จะให้เรายอมก่อน ขอพระเจ้าก่อน การช่วยเหลือก็จะตามมา ซึ่งกระบวนการการเปลี่ยนแปลงนี้นะครับ บางคนอาจจะได้เร็ว บางคนอาจจะได้ช้า อันนี้เราต้องเข้าใจ ไม่ใช่ว่ารอให้เห็นกับตา รอให้เห็นแบบคือฉับพลัน อันนี้เป็นไปไม่ได้ การเปลี่ยนแปลงของพระเจ้า การก่อขึ้นของพระเจ้าในชีวิตของเรา บางคนอาจจะใช้เวลา แต่เรามีความหวัง เอเมน
ถาม.
มีคำถามค่ะอาจารย์ อยากถามอาจารย์ว่ามีพี่น้องคนหนึ่ง เป็นพี่น้องคริสเตียน ศ.น. นะคะเขามีพฤติกรรมที่ไม่น่ารักเลย หลายๆ เรื่องนะคะ แล้วทีนี้เขาก็มาทำความรู้จักกับเพื่อนของเราที่สนิทสนมกัน แล้วเราก็เปิดเผยพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องของเขาหลายๆ เรื่องให้กับเพื่อนของเราให้รู้ให้ระวัง เป็นความผิดบาปไหมที่เราเอาพฤติกรรมของคนที่ไม่มี ความประพฤติที่ถูกต้องหลายๆ เรื่อง เรานำมาบอกเพื่อนเพื่อให้รู้ให้ระวัง อันนี้เป็นความผิดไหมค่ะ เพราะกลัวว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เอเมนค่ะ
ตอบ.
การเตือนพี่น้องนะครับ การเตือนพี่น้อง การตักเตือน การหนุนใจพี่น้องเกี่ยวกับบางคน ก็คือไม่ผิด
แต่สิ่งที่ผิดนะครับก็คือเราไม่ถามพระเจ้าก่อน ขอพระองค์นำพาเรานะครับ ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์กระตุ้นใจเรา เร้าใจเรา ให้ไปคุยไปบอกไปเตือนเขา
ซึ่งการเตือนของเราก็น่าจะใช้คำพูดที่ในลักษณะ ของการไม่พูดนินทา หรือไม่ใส่ร้ายเขามากจนเกินไป เราเอาแบบพอดีๆ ก็ได้ คือระมัดระวังพี่น้องคนนี้น่ะ คือเขาอาจจะเป็นแบบนี้แบบนั้น เล็กๆ น้อยๆ นะครับ ได้ครับผม
สำหรับการพูดถึงพี่น้องบางคนนะครับ อันนี้เป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน และเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังอย่างมาก ซึ่งเราทำอะไรก็ได้เพื่อไม่ให้เขาเสียหาย เสียหน้า หรือทำให้คนอื่นมองเขาเป็นคนที่อาจจะค่อนข้างน่ากลัวไป ก็เป็นได้นะครับ
เราพูดเพื่อเตือนพี่น้องบอกว่า ระมัดระวังหน่อย คนนี้อาจจะแบบนี้แบบนั้น เล็กๆ น้อยๆ ได้ครับผม แล้วก็ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์นำเราในการที่จะเตือนพี่น้อง
เราขอบคุณพระเยซูสำหรับวันนี้ที่พระองค์ นำเราเข้าสู่การที่จะคำนึงถึงความสำคัญของพระกาย ความสำคัญของพี่น้อง ซึ่งแท้ที่จริงก็คือข้อลึกลับของพระคริสต์ และนั่นก็คือคริสตจักร พระองค์รักคริสตจักรของพระองค์ พระองค์รักพี่น้องทุกคน
ทุกๆ คนเป็นส่วนหนึ่งของพระกาย เป็นอวัยวะที่สำคัญทุกชิ้นส่วน วันนี้เราขอบคุณพระเจ้า พระองค์ให้เรามองเห็นความรักต่อกันและกัน รักซึ่งกันและกัน อธิษฐานเผื่อ ดูแล ช่วยเหลือเมื่อมีโอกาส ขอบคุณพระเยซู เอเมน