มธ บทที่ 14-20 ความหวังของชาวยิวที่รับพระเยซูได้ และความผิดหวังของผู้นำศาสนาที่รับพระเยซูไม่ได้เพราะว่าอยากเห็นความยิ่งใหญ่ของพระเยซู //พระเยซูสั่งสอนและช่วยผู้ที่เชื่อวางใจพระองค์ต่อไป และเตือนให้ระมัดระวังพวกผู้นำที่น่ากลัว
14:1 ครั้งนั้นเฮโรดเจ้าเมืองได้ยินกิตติศัพท์ของพระเยซู
14:2 จึงกล่าวแก่พวกคนใช้ของท่านว่า "ผู้นี้แหละเป็นยอห์นผู้ให้รับบัพติศมา ท่านได้เป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว เหตุฉะนั้นท่านจึงกระทำการอิทธิฤทธิ์ได้"
14:3 ด้วยว่าเฮโรดได้จับยอห์นมัดแล้วขังคุกไว้ เพราะเห็นแก่นางเฮโรเดียสภรรยาของฟีลิปน้องชายของตน
14:4 เพราะยอห์นเคยทูลท่านว่า "ท่านผิดพระราชบัญญัติที่รับนางมาเป็นภรรยา"
14:5 ถึงเฮโรดอยากจะฆ่ายอห์นก็กลัวประชาชน ด้วยว่าเขาทั้งหลายนับถือยอห์นว่าเป็นศาสดาพยากรณ์
14:6 แต่เมื่อวันฉลองวันกำเนิดของเฮโรดมาถึง บุตรสาวนางเฮโรเดียสก็เต้นรำต่อหน้าเขาทั้งหลาย ทำให้เฮโรดชอบใจ
14:7 เฮโรดจึงสัญญาโดยปฏิญาณว่า เธอจะขอสิ่งใดๆ ก็จะให้สิ่งนั้น
14:8 บุตรสาวก็ทูลตามที่มารดาได้สั่งไว้แล้วว่า "ขอศีรษะยอห์นผู้ให้รับบัพติศมาใส่ถาดมาให้หม่อมฉันที่นี่เพคะ"
14:9 ฝ่ายกษัตริย์เฮโรดก็เศร้าใจ แต่เพราะเหตุที่ได้ปฏิญาณไว้และเพราะเห็นแก่พวกที่เอนกายลงรับประทานด้วยกันกับท่าน จึงออกคำสั่งอนุญาตให้
14:10 แล้วก็ใช้คนไปตัดศีรษะยอห์นในคุก
14:11 เขาจึงเอาศีรษะของยอห์นใส่ถาดมาให้หญิงสาวนั้น หญิงสาวนั้นก็เอาไปให้มารดา
14:12 ฝ่ายพวกสาวกของยอห์นก็มารับเอาศพไปฝังไว้ แล้วก็มาทูลพระเยซูให้ทรงทราบ
14:13 เมื่อพระเยซูได้ทรงทราบแล้ว พระองค์จึงลงเรือเสด็จไปจากที่นั่น ไปยังที่เปลี่ยวแต่ลำพังพระองค์ เมื่อประชาชนทั้งปวงทราบ เขาก็ออกจากเมืองต่างๆเดินตามพระองค์ไป
14:14 ครั้นพระเยซูเสด็จขึ้นจากเรือแล้ว ก็ทอดพระเนตรเห็นประชาชนหมู่ใหญ่ พระองค์ทรงสงสารเขา จึงได้ทรงรักษาคนป่วยของเขาให้หาย
14:15 ครั้นเวลาเย็นแล้วพวกสาวกของพระองค์มาทูลพระองค์ว่า "ที่นี่กันดารอาหารนัก และบัดนี้ก็เย็นลงมากแล้ว ขอพระองค์ทรงให้ประชาชนไปเสียเถิด เพื่อเขาจะได้ไปซื้ออาหารตามหมู่บ้าน"
14:16 ฝ่ายพระเยซูตรัสกับพวกสาวกว่า "เขาไม่จำเป็นต้องไปจากที่นี่ พวกท่านจงเลี้ยงเขาเถิด"
14:17 พวกสาวกจึงทูลพระองค์ว่า "ที่นี่พวกข้าพระองค์มีแต่ขนมปังเพียงห้าก้อนกับปลาสองตัวเท่านั้น"
14:18 พระองค์จึงตรัสว่า "เอาอาหารนั้นมาให้เราที่นี่เถิด"
** ตรงนี้ ให้อ่านอีกรอบ 1. เรามีเท่านี้ (ข้อ 17)/ 2. เอามาให้เรา (ข้อ 18)
** นี่คือสิ่งที่เปโตรทำตอนที่พระเยซูถาม เจ้ารัก (อากะเป) เราหรือ?
เปโตรตอบว่า "ข้ารัก (ฟิเลโอ) พระองค์" คือทำได้แค่นี้ มีเท่านี้ให้พระเยซู
พระเยซูตอบเปโตรว่า "ไม่เป็นไร เอาฟิเลโอมา แล้วดูแล คริสตจักร เรานะ"
** พระเจ้าเป็นผู้ทำให้สิ่งเล็กน้อย มีขีดจำกัด เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกิดผลมากมายและไม่มีขีดจำกัดได้
** แต่มีสิ่งหนึ่งที่พระเยซูต้องทำกับเรา (อ่านข้อ 19)
14:19 แล้วพระองค์ทรงสั่งให้คนเหล่านั้นนั่งลงที่หญ้า เมื่อทรงรับขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวนั้นแล้ว ก็ทรงแหงนพระพักตร์ดูฟ้าสวรรค์ ทรงขอบพระคุณ และหักขนมปังส่งให้เหล่าสาวก เหล่าสาวกก็แจกให้คนทั้งปวง
** "นั่งลงที่หญ้า" คือ "รอ"
** "ทรงหัก" คือทำให้เราพร้อมด้วยการหักเรา (ทนทุกข์เจอปัญหาทุกสิ่งที่เป็นด้านลบ เพื่อให้เรายอมแพ้ และไม่หยิ่ง ไม่พองตัว ไม่ถือว่าตัวเองมีดีอะไรเลย)
14:20 เขาได้กินอิ่มทุกคน ส่วนเศษอาหารที่ยังเหลือนั้น เขาเก็บไว้ได้ถึงสิบสองกระบุงเต็ม
14:21 ฝ่ายคนที่ได้รับประทานอาหารนั้นมีผู้ชายประมาณห้าพันคน มิได้นับผู้หญิงและเด็ก
** นี่คือผลที่ได้รับ เราเกิดผล เป็นฝีมือของพระเจ้า
** การเริ่มให้พระเจ้าในสิ่งเล็กน้อย คือตรงนี้ จิตใจ การบอกรัก การสร้างสัมพันธ์
** เราบอกรักที่น้อยๆ จากใจเรา แต่พระเจ้าจะส่งพระวิญญาณเพิ่มมาให้เรา
1. เราบอกรัก 2. พระเจ้าเพิ่มให้ 3. เราบอกรักมากขึ้น 4. พระเจ้ายิ่งเพิ่มให้มากขึ้น 5. เราเกิดผล
14:22 ในทันใดนั้นพระเยซูได้ตรัสให้เหล่าสาวกของพระองค์ลงเรือข้ามฟากไปก่อน ส่วนพระองค์ทรงรอส่งประชาชนกลับบ้าน
14:23 และเมื่อให้ประชาชนเหล่านั้นไปหมดแล้ว พระองค์เสด็จขึ้นไปบนภูเขาโดยลำพังเพื่อจะอธิษฐาน เวลาก็ดึกลง พระองค์ยังทรงอยู่ที่นั่นแต่ผู้เดียว
14:24 แต่ขณะนั้นเรืออยู่กลางทะเลแล้ว และถูกคลื่นโคลงเพราะทวนลมอยู่
14:25 ครั้นเวลาสามยามเศษ พระเยซูจึงทรงดำเนินบนน้ำทะเลไปยังเหล่าสาวก
14:26 เมื่อเหล่าสาวกเห็นพระองค์ทรงดำเนินมาบนทะเล เขาก็ตกใจนัก พูดกันว่า "เป็นผี" เขาจึงร้องอึงไปเพราะกลัว
14:27 ในทันใดนั้นพระเยซูตรัสกับเขาว่า "จงชื่นใจเถิด คือเราเอง อย่ากลัวเลย"
14:28 ฝ่ายเปโตรจึงทูลตอบพระองค์ว่า "พระองค์เจ้าข้า ถ้าเป็นพระองค์แน่แล้ว ขอทรงโปรดให้ข้าพระองค์เดินบนน้ำไปหาพระองค์"
14:29 พระองค์ตรัสว่า "มาเถิด" เมื่อเปโตรลงจากเรือแล้ว เขาก็เดินบนน้ำไปหาพระเยซู
14:30 แต่เมื่อเขาเห็นลมพัดแรงก็กลัว และเมื่อกำลังจะจมก็ร้องว่า "พระองค์เจ้าข้า ช่วยข้าพระองค์ด้วย"
14:31 ในทันใดนั้นพระเยซูทรงเอื้อมพระหัตถ์จับเขาไว้ แล้วตรัสกับเขาว่า "โอ คนมีความเชื่อน้อย เจ้าสงสัยทำไม"
14:32 เมื่อพระองค์กับเปโตรขึ้นเรือแล้ว ลมก็เงียบลง
14:33 เขาทั้งหลายที่อยู่ในเรือจึงมานมัสการพระองค์ทูลว่า "พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าจริงแล้ว"
14:34 ครั้นพวกเขาข้ามฟากไปแล้ว ก็มาถึงแขวงเยนเนซาเรท
14:35 เมื่อคนในสถานที่นั้นรู้จักพระองค์แล้วก็ใช้คนไปบอกกล่าวทั่วแคว้นนั้น ต่างก็พาบรรดาคนเจ็บป่วยมาเฝ้าพระองค์
14:36 เขาทูลอ้อนวอนขอพระองค์โปรดให้เขาได้แตะต้องแต่ชายฉลองพระองค์เท่านั้น และผู้ใดได้แตะต้องแล้วก็หายป่วยบริบูรณ์ดีทุกคน
เราเศร้าใจที่พี่น้องไม่ค่อยเป็นหนึ่งเดียวกัน !
เราไม่ใส่ใจเรื่องคนอื่น แต่ใส่ใจที่ฝึกความเชื่อเพื่อให้ได้เข้าในอาณาจักรสวรรค์ ถ้ามองการกระทำและคำพูดของผู้อื่น และปัญหา เราจะเป็นเหมือนเปรโตรที่จมน้ำ
ขอให้เชื่อวางใจในพระคริสต์และเดินไปกับพระองค์
- เรื่องการฝึก เรามองโลกนี้ คือห้องสอบ ปัญหาทุกสิ่งที่เข้ามา คือข้อสอบของเรา ถ้าเราคิดถึงแต่สิ่งที่เขาถูกผิดทำผิด ไม่ยุติธรรม ไม่ดี คนนั้นไม่ควรทำกับคนนี้ คนนี้ไม่เป็นอย่างที่เราคาดหวังไว้ เราจะจม
- เรื่องพี่น้องในพระคริสต์ เราอธิษฐานเผื่อและวางไว้ที่พระหัตถ์ของพระองค์ เศร้าได้เล็กน้อยแต่อย่าให้นานๆ จนเราต้องเป็นทุกข์และเกิดท้อ
บทความที่เกี่ยวข้อง : เปโตร..อย่ามอง อย่ามอง..เดี๋ยวจะจม น้ำ