ตายต่อพระเจ้า และบังเกิดใหม่ในพระเจ้า คืออะไร

ยอห์น บทที่ 3 พระเยซูเท่านั้นที่เปลี่ยนความตายให้กลับมามีชีวิตใหม่หรือบังเกิดใหม่ได้

ตายต่อพระเจ้า และบังเกิดใหม่ในพระเจ้า คืออะไร

วิญญาณ เป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานให้มนุษย์เพื่อ ติดต่อ-เชื่อมต่อ-สื่อสารกับพระองค์ เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นวิญญาณและติดต่อกับมนุษย์ได้ทางเดียวคือทางวิญญาณ

พระเจ้าทรงประทานวิญญาณให้อาดัม (ปฐก 2:7)

ตะเกียง ในพระคัมภีร์เล็งถึง วิญญาณ (สภษ 20:27)

เราติดต่อสื่อสารกับพระเจ้าได้ในวิญญาณเท่านั้น (ยอห์น 4:24)

วิญญาณอยู่ในที่ ที่ลึกที่สุดในมนุษย์ ด้านนอกคือร่างกายดิน ตรงกลางคือจิต และด้านในสุดคือวิญญาณ

วิญญาณตาย ก็คือวิญญาณตกอยู่ในสภาพที่ติดต่อ-เชื่อมต่อกับพระเจ้าเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว เหมือนคนพิการที่ทำอะไรไม่ได้ แต่เขาก็ยังมีชีวิตอยู่

เมื่อวิญญาณตาย มนุษย์ก็ตกต่ำ เสื่อมทราม กลายเป็นศัตรูของพระเจ้า และถูกสาปแช่ง จิตก็เป็นนายของชีวิต เนื่องจากว่าวิญญาณตาย

มนุษย์ต้องการการบังเกิดใหม่เพื่อกลับมาเชื่อมต่อ ต่อติด สื่อสารกับพระเจ้าและคืนดีกับพระองค์

การบังเกิดใหม่นี้ ภาษาอังกรีกเรียกว่า บังเกิดจากพระเจ้า บังเกิดจากสวรรค์ คำว่า "มนุษย์วิญญาณ" จึงเหมาะสำหรับผู้เชื่อทุกคน แต่ผู้เชื่อส่วนมากไม่รู้และไม่เข้าใจสุดท้ายกลายเป็นศาสนาคริสต์ ชีวิตส่วนตัวและชีวิตคริสตจักรจึงไม่ได้เชื่อมต่อ ต่อติดกับพระเยซูอย่างถูกต้อง

ขอบคุณพระเยซูที่พระคำของพระเจ้าสอนเราถึงสิ่งที่สำคัญที่สุด คือวิญญาณของเราซึ่งเมื่อก่อนตายแล้ว หมดสภาพ พิการ ติดต่อ ต่อติดเชื่อมต่อกับพระเจ้าไม่ได้ เราจึงกลายเป็นศัตรู เราจึงกลายเป็นเนื้อหนัง เราจึงกลายเป็นมนุษย์อาดัม

แต่โดยพระเยซูคริสต์ การสิ้นพระชนม์ของพระองค์ การไถ่บาปของพระองค์ การหลั่งไหลพระโลหิตของพระองค์ ทำให้พวกเรามีโอกาส มีความหวัง ได้กลับมาฟื้นคืนชีวิต มีชีวิตใหม่อีกครั้งหนึ่ง

วิญญาณของเรา คือสิ่งที่พระเจ้าให้ เป็นสิ่งที่พระเจ้าใช้ เพื่อติดต่อ สื่อสาร เชื่อมต่อ ต่อติด ติดต่อกับพระองค์ พระเจ้าไม่มีทางอื่นที่จะต่อติดกับมนุษย์นอกจากวิญญาณ ทางวิญญาณเท่านั้น 

เพราะฉะนั้นพระเยซูตรัสว่า พระเจ้าเป็นวิญญาณ ถ้าท่านจะนมัสการ จะสรรเสริญ จะยกย่อง จะพูดคุย จะติดต่อ จะอธิษฐาน ก็คือต้องนมัสการ ต้องติดต่อ ต้องพูดคุย ต้องสนิท ต้องบอกรัก ทุกสิ่งในวิญญาณ ยอห์น 4:24 ไม่ใช่นมัสการด้วยจิตวิญญาณและด้วยความจริง  แต่ภาษากรีกก็คือควรจะใช้คำว่า "ในวิญญาณและในความจริง"

เพราะฉะนั้นทุกสิ่งพระเจ้าทำ พระเจ้าสื่อสาร พระเจ้าตรัส พระเจ้าทำงาน ทำกิจโดยผ่านวิญญาณของเรา 

ฉะนั้นวิญญาณเป็นสิ่งแรกที่จะต้องรับรู้เรื่องต่างๆ และสิ่งต่างๆ ที่เป็นมาจากสวรรค์และจากพระเจ้า

ตอนที่มนุษย์ทำบาป เราตาย เราไม่มีชีวิตในพระเจ้า ไม่มีชีวิตของพระเจ้า เพราะฉะนั้นเราจึงทำอะไรไม่ได้ การกระทำของเรามันเป็น ไม้ ฟาง หญ้าแห้ง ความดีของเราก็ใช้ไม่ได้ ทุกสิ่งใช้ไม่ได้ 

ฉะนั้นเราต้องการ การบังเกิดใหม่และการบังเกิดใหม่นี้ ภาษากรีก ใช้คำว่า "ใหม่" หรือจากคำว่า "จากสวรรค์" หรือคำว่า "จากพระเจ้า"  เราไม่ได้บังเกิดจากเนื้อหนังบังเกิดจากมนุษย์ หรือบังเกิดจากใคร แต่เราบังเกิดจากพระเจ้าเป็นบุตรพระเจ้าร้อยเปอร์เซ็นต์

เมื่อเรามีชีวิตใหม่ ปัญหาก็คือผู้เชื่อมากมายทุกวันนี้ ไม่รู้จักใช้ ใช้ไม่เป็น บางคนไม่รู้ซะด้วยซ้ำไปว่า เราเป็นมนุษย์วิญญาณ มนุษย์วิญญาณคนนี้ ก็คือคนที่สามารถใช้ชีวิตของเขา โดยชีวิตที่เป็นขึ้นมาจากความตาย และมีพระคริสต์สถิตอยู่ข้างใน และมีพระเจ้าสถิตอยู่ด้วย เราเป็น "เรือน" หลังใหม่ของพระบิดา

พระเยซูตรัสว่าใน "เรือน" ของพระบิดามีอยู่หลายหลัง (ยน 14:2-3) ไม่ใช่คฤหาสน์อยู่บนสวรรค์ แต่ยอห์นบทที่ 14 พระเยซูตรัสว่า "เรือน" หลายๆ หลัง

ก็คือเราผู้เชื่อทั้งหลายซึ่งพระเยซูไปจัดเตรียมก็คือ ไปตายบนกางเขน แล้วฟื้นขึ้นมาจากความตาย หลังจากถูกฝัง 3 วัน นี่คือการไปจัดเตรียมของพระองค์

ถ้าหากพระเยซูไม่ตาย ไม่ถูกฝัง ไม่ฟื้นขึ้นมา แสดงว่า "เรือน" ของพระเจ้า ก็คือวิญญาณของเรา จะสร้างไม่สำเร็จ จะรับการชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ไม่ได้ 

เพราะฉะนั้นเราขอบคุณพระเยซูเมื่อพระเยซูตาย เมื่อพระเยซูถูกฝังและฟื้นขึ้นมาจากความตาย เราได้มีชีวิตใหม่ วิญญาณของเราถูกชุบขึ้นมาใหม่ แล้วพระเจ้าก็ออกจากพระวิหารทันที หลังจากที่พระเยซูสิ้นพระชนม์ พระองค์บอกว่าสำเร็จแล้ว ผ้าม่านที่พระวิหารก็ขาดตั้งแต่บนสุดจนถึงล่างสุด 

แล้วพระเจ้าก็เตรียมที่จะย้ายเข้ามาอยู่ในพวกเรา เพราะว่าพระเยซูจัดเตรียม "เรือน" ของพระบิดาหลายหลังไว้สำเร็จแล้ว

ตอนนี้พระบิดามีเรือนมีบ้านที่อยู่อาศัยเต็มโลก ทุกคนที่เชื่อพระเจ้าก็เป็น "เรือน" ของพระองค์ 1 คร 6:19-20 บอกว่าเราทั้งหลายเป็น "เรือน" ของพระเจ้า ภาษาไทยก็คือใช้คำว่า วิหาร แต่จริงๆภาษาอังกฤษและภาษากรีกคือ House "เรือน" คือ "บ้าน" คือที่อยู่อาศัย 

สรรเสริญพระเยซูตอนนี้เราเชื่อมต่อ ต่อติดกับพระเยซูได้แล้ว เรานมัสการในวิญญาณ เราอธิษฐานในวิญญาณ เราดำเนินชีวิตในวิญญาณ เราทำทุกสิ่งในวิญญาณ

ทีนี้อะไรจะตามมา ก็คือ มรดก พระสัญญา สันติสุข อยู่ในร่มพระคุณ อยู่ในความรัก อยู่ในการปกป้อง ปกปักรักษาดูแลคุ้มครอง นำพา นำทาง ทุกสิ่งที่มาจากสวรรค์เป็นของเราแล้ว เราเป็นมนุษย์สวรรค์ของพระเจ้าที่ดำเนินชีวิตอยู่ในโลกนี้

ขอบคุณพระเจ้าที่นิโคเดมัสออกมาแล้วมีการบันทึกเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้ ซึ่งผู้ที่บังเกิดใหม่ในน้ำและในพระวิญญาณเท่านั้นที่จะได้เห็นและได้เข้าไปในอาณาจักร

ขอบพระคุณพระเจ้าเรามีโอกาสได้เข้าไปในอาณาจักร ขอบพระคุณพระเจ้าเราได้กลับกลายเป็นบุตรพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเมื่อก่อนเราหลุดไป หายไปจากทางของพระเจ้า 

แต่ตอนนี้เรากลับมาอยู่ในพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง กลับคืนดีกับพระเจ้า เป็นบุตรพระเจ้า เอเมน สรรเสริญพระเยซู

...

ถาม.

คือความจริงทุกอย่างที่กล่าวมาคือเราเชื่อเอาใช่ไหมคะ

ตอบ.

สำหรับเรื่องของฝ่ายวิญญาณเป็นเรื่องที่ตามองไม่เห็น สิ่งสำคัญสิ่งเดียวที่จะถึงโลกวิญญาณได้ คือ "เชื่อ" เราจะรอดู รอให้เห็นก่อนไม่ได้ คือเชื่อก่อนจึงจะได้เห็น มรดก พระสัญญา สันติสุข พลังที่มาจากพระเจ้า พระพร มรดกทุกสิ่ง การเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทุกสิ่ง เราจะได้รับด้วยความเชื่อ

แล้วคำว่า "เชื่อ" ก็เป็นสิ่งเดียวที่สำคัญมากๆ คือในยุคพระคุณนี้ พระเจ้าให้กุญแจสำหรับทุกคนและกุญแจนี้ก็คือ "ความเชื่อ" อยากได้อะไรเชื่อเอา 

อยากรอดเชื่อพระเยซูรับพระเยซู 

อยากได้พระพรเชื่อเอาว่ามีอยู่ในนี้แล้ว 

อยากมีพลังยิ่งใหญ่ของพระเจ้าปลุกเราให้ตื่นให้ลุกขึ้นมาให้เข้มแข็งขึ้นให้ร้อนรนขึ้นมา  "เชื่อ"  "เชื่อ"

เราจำกันได้นะตอนสมัยที่เราอยู่คริสตจักรเดิม เราตื่นแต่เช้าตี 4 ตี 5 บางคนก็ตี 3 ตื่นแต่เช้าไปขอพระวิญญาณ ขอการเจิม ขอพระพร ขอนู่นนี่นั่นขอไปหมด แต่เขาไม่รู้น่ะครับว่าสิ่งที่เขาขอ มีอยู่ในผู้ชายคนเดียว ก็คือพระบุตร พระเจ้าโยนพระบุตรให้เราคนเดียว ได้รับคำตอบทุกสิ่งทุกอย่างไม่ต้องขออะไร ไม่ต้องขอความรัก ไม่ต้องขอพระพร ไม่ต้องขอร่มพระคุณ ไม่ต้องขอการดูแลปกปักรักษา 

คือพระเจ้าจะไม่โยนสิ่งเหล่านี้ให้ พระเจ้าโยนพระเยซูให้ เอาไป พระบุตรของเรา พระบุตรคือคำตอบสำหรับทุกสิ่งที่ท่านขอ

อย่าลืม โรม 1:17 เราผู้ชอบธรรม เริ่มต้นก็ด้วยความเชื่อและจบลงก็ด้วยความเชื่อ และคริสเตียนดำเนินชีวิตอยู่โดยการเชื่อเอา ไม่ใช่การมองเห็น 

ฮีบรู 11:1 บัดนี้ความเชื่อคือความแน่ใจในสิ่งที่เราหวังไว้เป็นหลักฐานมั่นใจว่าสิ่งที่ยังไม่ได้เห็นนั้นมีจริง