สมควรได้รับเกียรติเป็นสองเท่า ความหมายคืออะไร

สมควรได้รับเกียรติเป็นสองเท่า ความหมายคืออะไร

ถาม.

ใน 1 ทธ 5:17...จงถือว่าผู้ปกครองที่ปกครองดีนั้นสมควรได้รับเกียรติสองเท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ปกครองที่ทำงานหนักในการเทศนาและสั่งสอน

คำว่า "สมควรได้รับเกียรติเป็นสองเท่า" แสดงออกอย่างไรบ้างครับ ถึงจะแตกต่างจาก คต.ศาสนาที่มักอ้าง BB ข้อนี้ ว่า พระเจ้าสอนยกย่อง+ให้เกียรติผู้นำเหนือสมาชิก

ตอบ.

คือเคารพ รัก สนับสนุน อยู่เบื้องหลัง ปกป้อง ช่วยเหลือเท่าที่ช่วยได้ และผู้ปกครองคนนั้นยอมถ่อมใจ และน่านับถือน่ารักมากครับ

ปกครองดี คืออย่างไรบ้างครับ

ถาม.

ขอถามต่อเลยนะครับ "ปกครองดี" คืออย่างไรบ้างครับ

ตอบ.

คำว่า "จงเลี้ยง" ในที่นี้ คือเลี้ยงดูดูแลเป็นอย่างดี เหมือนคนเลี้ยงแกะที่ถูกจ้างมาให้ดูแลแกะของเจ้านาย ไม่ให้แกะหลงทาง ให้แกะกินดีอยู่ดี ไม่ทำร้าย ไม่ทำลาย ไม่ทำให้แกะเจ็บ เข้าใจจุดอ่อนของแกะ ไม่กักขังแกะให้อยู่ในคอก แต่ให้แกะออกทางประตูก็คือพระเยซูคริสต์เพื่อให้ได้พบทุ่งหญ้าอันเขียวงามก็คือมานาจากสวรรค์ แกะร้อนแกะหนาวแกะถูกน้ำฝนเปียก แกะจะตกลงไปในเหวลึก เขาจะทำหน้าที่ที่ดีที่สุดเพื่อช่วยแกะเหล่านั้น

...

ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สิ่งของอันเป็นมลทิน

ก็คือ การเห็นแก่ได้ หวังผลประโยชน์ ดูแลพี่น้องเพราะเห็นแก่ทรัพย์สินสิ่งของ เงินทองซึ่งปกติไม่ดีและไม่ชั่ว แต่ถ้าหากเราคิดไม่ดีต่อทรัพย์สิ่งของของพระเจ้า ทรัพย์เหล่านั้นก็จะกลายเป็นมลทิน และทำร้ายเราทำลายเราเอง

และเรื่องทรัพย์สิ่งของทรัพย์สินเงินทองของพระเจ้าเป็นสิ่งที่ผู้เลี้ยงต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เราต้องชัดเจนเราต้องไม่เห็นแก่ได้ เราต้องซื่อสัตย์ และเราทำทุกสิ่งในที่เปิดเผย ซึ่งแม้แต่คริสตจักรศาสนาก็ทำกันแบบนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพวกเขาก็ยังมีช่องทางที่จะทำให้ทรัพย์สิ่งของของพระเจ้ากลายเป็นมลทินได้

สำหรับพวกเราผู้เชื่อฝ่ายวิญญาณ ขอพระเยซูชำระให้เราอยู่ในความคิดที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ซึ่งจะต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าไม่ใช่ทุกคนที่คิดเหมือนเรา และไม่ใช่เราคิดเหมือนทุกคน เนื่องจากว่าขนาดของความเชื่อของแต่ละคนไม่เท่ากัน

...

ไม่ใช่เป็นเหมือนนาย

ก็คือไม่ทำตัวให้เหมือน ให้เป็นเหมือนผู้นำอยู่ตลอดเวลา ยกตนข่มท่านมองผู้อื่นว่าไม่รู้ไม่ฉลาดไม่มีค่า ไม่เข้าใจอะไร เราฉลาด เรารู้ เราดี เราเข้าใจทุกสิ่ง ถ้าไม่มีเราคนอื่นก็ทำไม่ได้ และเราควรจะเป็นผู้นำไม่ใช่คนอื่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถ้าหากเราไม่มีของประทาน และเราไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้ดูแลผู้ปกครองเราก็ควร ที่จะคลุมศีรษะ ตลอดเวลา

ผมขอย้ำนะครับว่า "คลุมศีรษะ" คือไม่มีตัวตน ทุกวันนี้มีผู้เชื่อมากมาย ที่คิดว่าเขาสำคัญ และคิดว่าถ้าเขาไม่ทำการงานก็ไม่สำเร็จ และไม่มีคุณภาพเพียงพอ ซึ่งถ้าหากเรามีอาการแบบนี้ ขอพระเยซูชำระเราเนื่องจากว่าเนื้อหนัง และซาตานจะครอบงำเราได้

- ถ้าหากไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะไปเตือนคนอื่นก็ไม่ต้องเตือน

- ถ้าหากไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะตำหนิใครก็ไม่ต้องตำหนิ

- และถ้าหากไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะสอนใครก็ไม่ควรสอน

เราทำใจอธิษฐานเผื่อ และคุยกับผู้ปกครอง คุยกับผู้นำถึงปัญหาที่เราได้รู้ ได้เห็น ได้ยินมา เพราะว่าสิ่งเหล่านี้คือภาระหน้าที่ของ "ผู้ปกครอง" ครับ