ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป (เราไม่ถกเถียงใคร)

ถาม.

การทุ่มเถียง อย่างเราสอนลูกเราสอนอย่างชาวโลกคือเขายังไม่ได้เชื่อพระเจ้าแต่ลูกก็เถียงมาเรื่อยๆ อย่างงี้ ถ้าเราพูดไปเรื่อยเขาก็ไม่หยุด เราหยุดอย่างงี้คือถ้าเราไม่หยุดก็ให้ลูกหยุด แล้วเราไม่หยุดอย่างงี้บาปไหมคะอาจารย์

ตอบ.

ถามว่าบาปไหม คือเราต้องดูอยู่ที่ความเชื่อของเราที่เป็นพ่อแม่ ถ้าหากความเชื่อเรายังไม่โต ยังไม่เป็นหนุ่มหรือเป็นผู้ใหญ่ ถ้าจะพูดแล้วก็คือบาป.

แต่ว่าพระเจ้าเข้าใจแล้วก็การดูแลลูกสำหรับคริสเตียน เราดูแลลูก พูดกับลูกไม่เหมือนชาวโลกที่ทำกันอยู่อันนี้เป็นเรื่องที่ยากเพราะว่าลูกบางทีเขาไม่เชื่อหรือบางทีเขาเชื่ออยู่แต่เขาไม่ได้สนใจเรื่องฝ่ายวิญญาณเพราะว่าเขายังเด็กอยู่

เพราะฉะนั้นการพูดกับลูกก็คือ เราอะลุ่มอล่วยบ้างเราไม่เคร่งกับเขาคือให้โอกาสเขาบ้างเหมือนที่พระเจ้าให้โอกาสเราใช่ไหม แล้วก็คือเราค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป

อันนี้สำหรับผมแล้วก็ขอหนุนใจพี่น้องที่มีความเชื่อที่ยังพอจะทนไม่ไหว ก็คือต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ให้โอกาสเขาบ้างไม่เคร่งเกินไปแล้วก็ไม่ยานเกินไป

...

ถาม.

ค่ะอาจารย์ก็คือก็หนีไปไม่อยากฟังมันไม่จบ ไม่ฟังเรื่องลูกเขาพูดทางโลกเยอะ เราหนีอย่างนี้ไม่ฟังลูก  เอเมนค่ะ

ตอบ.

สำหรับเรื่องการถกเถียง อันนี้รวมถึงครอบครัวด้วยน่ะครับ คนในครอบครัว เราไม่ถกเถียงคนที่พูดคุยกับเราที่เป็นคริสเตียนด้วยกันที่คุยเรื่องพระคัมภีร์ และเราไม่ถกเถียงกับมนุษย์ชาวโลกที่คุยกันเรื่องอื่น แล้วก็เราจะไม่ถกเถียงคนในครอบครัวที่เขาไม่ยอมเรา เราหยุดก่อน แล้วก็เราใช้โอกาสใหม่เวลาอื่นยังมี แล้วใช้โอกาสใหม่ รอ เรารอ แล้วหลังจากนั้นเราก็คุยกับเขา ค่อยๆ คุย ค่อยๆ พูดกัน ในลักษณะของคริสเตียนที่เป็นบุตรพระเจ้าน่ะครับ

ตอนทะเลาะกันก็คืออารมณ์เสีย ก็คือเนื้อหนังออกมาแล้ว หลังจากนั้นสารภาพแล้วก็กลับมา แล้วค่อยๆ พูดกับลูกในวิธีใหม่ วิธีการพูดของคริสเตียนไม่เหมือนวิธีชาวโลก เราไม่ใช้อารมณ์ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายน่ะครับ ต้องใช้เวลาครับผม

ใช้เวลาฝึกค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป แล้วพระเยซูเข้าใจ พระเยซูรู้ดี เราทราบกันไหมว่าเรื่องภายในครอบครัวเป็นเรื่องที่ยากที่สุด คนอื่นก็คืออยู่คนละบ้านอยู่คนละที่กัน แต่ในครอบครัว คือเขารู้ไส้รู้พุงเราหมด เขารู้ดีว่าเราเป็นใครเขาเป็นใคร รู้กันดี แล้วสิ่งสำคัญคนในบ้านเขาจะไม่ฟังเสียงของเรา ไม่มีใครฟังเสียง เขาดูที่การกระทำครับ

เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องยากมาก เราจะบอกเขาว่าเชื่อพระเยซูสิ ทำนู่นทำนี่สิ แล้วเขาจะบอกเรานะว่า เอ่อ แล้วเธอเชื่อแล้วการเปลี่ยนแปลงของเธอก็ไม่มี เธอได้แต่พูด อันนี้เราตอบเขาไม่ได้ใช่ไหมเพราะฉะนั้นค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปครับผม