- 1 ยอห์น 5:13 กล่าวว่า "เชื่อในพระบุตรของพระเจ้า หรือเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์
- กจ 13:39 "และโดยพระองค์นั้น ทุกคนที่เชื่อจะพ้นโทษได้ทุกอย่างซึ่งจะพ้นไม่ได้โดยพระราชบัญญัติของโมเสส"
- โรม 5:1 เหตุฉะนั้นเมื่อเราได้เป็นคนชอบธรรมเพราะความเชื่อแล้ว เราจึงมีสันติสุขกับพระเจ้าทางพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
- อฟ 2:8-9 ด้วยว่าซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้นก็รอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อและมิใช่โดยตัวท่านทั้งหลายเอง แต่พระเจ้าทรงประทานให้ความรอดนั้น จะเนื่องด้วยการกระทำก็หามิได้เพื่อมิให้คนหนึ่งคนใดอวดได้
- โรม 11:6 แต่ถ้าเป็นไปตามพระคุณก็หาได้มาจากการประพฤติไม่ มิฉะนั้นพระคุณก็จะไม่เป็นพระคุณอีกต่อไป
- พระคัมภีร์ใหม่ได้พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับ "ความรอด" นี้ว่า "เมื่อเราเชื่อเราจะได้รับชีวิตนิรันดร์" ถึงร้อยห้าสิบกว่าครั้งด้วยกัน
- เราจะมีชีวิต และจะไม่ถูกลงโทษอีก แต่จะได้รับความรอด
- พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน เพื่อไถ่ความผิดบาปของเรา และพระโลหิตของพระองค์หลั่งไหลเพื่อชำระความบาปของเราทั้งหมด
- ทุกคนที่เชื่อในพระองค์ก็จะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์
- ปัญหาความบาปทุกเรื่อง ได้รับการแก้ไขทางพระเยซูคริสต์แล้ว
- วันนี้ข้าพเจ้าขอบอกท่านว่า ทุกคนที่เชื่อพระเยซูก็มีชีวิตนิรันดร์ หรือได้รับความรอดแล้วอย่างแน่นอนที่สุด
- บางคนพูดว่า หลังจากที่เราเชื่อแล้ว เราต้องเลิกทำบาป ถ้าไม่อย่างนั้นเราจะสูญเสียความรอดไป ความเชื่อนี้ไม่ถูกต้องตามพระวจนะของพระเจ้าและการบริหารงานของพระเจ้าในยุคพระคุณนี้
- การที่เราจะได้รับความรอดนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับการทำดีในอดีต ในปัจจุบัน หรืออนาคต แต่ขึ้นอยู่กับการเชื่อในพระเยซูว่า พระองค์ทรงรับแบกบาปของเรา และทรงตายแทนเราเท่านั้น
- ไม่ว่าความบาปของเรามีมากมายสักเพียงไรก็ตาม ความบาปเหล่านั้นได้ตกอยู่ที่พระเยซูหมดแล้ว ตราบใดที่เราเชื่อในพระเยซู เราก็จะรอดแน่นอน
- เราไม่ได้รับความรอดด้วยกำลังของเราเอง และเราก็ไม่สามารถที่จะช่วยเราเองให้รอดได้ แต่พระเยซูต่างหากที่ทรงไถ่เราให้รอด
- ผู้เชื่อมากมายคิดว่าตนอาจไม่รอด เพราะเขาไม่เข้าใจหลักการแห่งการได้รับความรอด พวกเขาคิดว่าการประพฤติผิดในอดีด พระเยซูทรงรับไปแล้ว แต่การประพฤติผิดหลังจากที่เชื่อแล้วนั้น เขาอาจจะพินาศ ความเชื่อนี้เป็นหลักการเชื่อถือแบบยุคพระคัมภีร์เดิม หรือพันธสัญญาเดิมนั่นเอง
- ในพันธสัญญาใหม่ หรือพระคัมภีร์ใหม่ ผู้เชื่อได้รับตำแหน่งใหม่ โดยทางความเชื่อ เราได้รับชีวิตใหม่ และเราสามารถเข้ามาหาพระเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจของเราโดยทางความเชื่อเช่นเดียวกัน
- เราไม่ได้เข้ามาหาพระเจ้าทางการกระทำดี แต่เรามาหาพระเจ้าได้ทางตำแหน่งใหม่ และสภาพใหม่ (new position and new condition) ที่เราได้รับจากพระเจ้าโดยทางความเชื่อ สภาพชีวิตใหม่และตำแหน่งใหม่นี้เราไม่อาจสูญเสียไปได้โดยเด็ดขาด
- ทุกวันนี้ผู้เชื่อมากมายไม่มีความชื่นชมยินดีแห่งความรอด เพราะเขาพยายามรักษาความรอดด้วยการพยายามทำดีในแต่ละวัน
แต่ความรอดดังกล่าว ไม่ไช่ได้มาด้วยการทำดีในแต่ละวัน การทำดีจะไม่ช่วยให้เราได้รอด แต่ความเชื่อต่างหากที่ช่วยให้เราได้รับความรอด ถ้าเราจะถามคนที่ได้รับความรอดแล้วว่า เขารอดได้อย่างไร คนที่เข้าใจเขาก็จะตอบว่า พระเยซูเป็นผู้ช่วยข้าพเจ้าให้รอด ไม่ใช่การกระทำดีของข้าพเจ้าที่ช่วยข้าพเจ้าให้รอด ข้าพเจ้าไม่มีความสามารถอะไรที่จะช่วยให้ตนเองได้รับความรอดโดยเด็ดขาด แต่พระเจ้าเป็นผู้ทำหรือช่วยให้ข้าพเจ้าได้รับความรอด คนที่มาถึงความเชื่อนี้จะได้รับความชื่นชมยินดีในชีวิตประจำวันของเขา
- คริสเตียนแท้ คือผู้ที่ รู้ เข้าใจ และรับเอาองค์พระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเขาอย่างแท้จริง
- คริสเตียนแท้ คือผู้ที่ถูกทรงสร้างขึ้นใหม่แล้ว เมื่อเรารับพระเยซู เราก็ได้รับการเปลี่ยนในวิญญานให้ใหม่หมดจด (2 คร 5:17) "คนที่อยู่ในพระคริสต์ก็ได้ถูก สร้างขึ้นใหม่แล้ว..." ฉะนั้น เราคือผู้ที่เกิดใหม่แล้ว
- เราได้รับการชำระให้กลายเป็นคนชอบธรรม บริสุทธิ์ และดีพร้อมสำหรับพระเจ้าแล้ว (2 คร 5:17)
- พระเจ้าได้ทรงซื้อเราแล้ว (1 คร 6:20)
- พระเจ้าได้เอาเราเข้าในพระคริสต์แล้ว (1 คร 1:30)
- ตัวเก่าของเราได้ถูกตรึงให้ตายแล้ว (กท 2:20)
- พระเจ้าได้ทรงประทานวิญญานใหม่ให้แก่เราแล้ว (โรม 6:3-6)
- พระเยซูคริสต์ในสภาพของพระวิญญาณได้เสด็จเข้ามาอยู่ในวิญญาณของเรา เพื่อให้วิญญาณดั่งกล่าวเป็นบ้านของพระองค์อย่างถาวรแล้ว
- เราจึงรอดแน่นอนชั่วนิรันดร์แล้ว
- ถ้าคริสเตียนจะต้องสูญเสียความรอดไปในวันหนึ่ง การกระทำของพระเจ้าผ่านทางพระเยซูเพื่อไถ่เราก็ต้องถูกยกเลิก หรือกลับไปเริ่มต้นใหม่ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้โดยเด็ดขาด
- พระโลหิตของพระเยซูได้หลั่งไหลเพื่อเป็นค่าไถ่บาปของเราก็จะไม่มีคุณค่าและ ความหมายอะไรเลย เพราะเราทุกคนได้รับการชำระให้เป็นผู้ชอบธรรม และบริสุทธิ์โดยทางพระโลหิตของพระองค์
สรุป. คริสเตียนแท้...จะไม่สูญเสียความรอดอย่างแน่นอน เพราะว่าการที่เรารอดก็เพราะพระคุณของพระเจ้าทางความเชื่อของเราอย่างเดียว และไม่เกี่ยวกับการกระทำ (อฟ 2:8-9) พระคุณของพระเจ้าเป็นของขวัญสำหรับเราที่เชื่อ ไม่ไช่ได้มาด้วยการทำงานเพื่อรับของขวัญดั่งกล่าว
- พระโลหิตได้หลั่งไหลเพื่อเราแล้ว พระเจ้าได้ทรงซื้อเราแล้ว และเป็นเจ้าของชีวิตของเราแล้ว พระเจ้าได้ทรงประทานชีวิตใหม่ให้แก่เราแล้ว และพระองค์ได้ทรงประกาศแก่จักรวาลแล้วว่า เราชอบธรรม บริสุทธิ์ และดีพร้อมต่อสายพระเนตรของพระองค์แล้ว พระเจ้าไม่อาจสามารถเปลี่ยนพระทัย หรือถอนคำพูดอย่างแน่นอน
ถาม.
แต่ ไม่ใช่ว่า ทุกคนรอดแล้วจะรอดเลย !!! เราสูญเสียความรอดได้ไหม?
ฮีบรู 6:4 เพราะว่าคนเหล่านั้นที่ได้รับความสว่างมาครั้งหนึ่งแล้ว และได้รู้รสของประทานจากสวรรค์ ได้มีส่วนในพระวิญญาณบริสุทธิ์
6:5 และได้ชิมความดีงามแห่งพระวจนะของพระเจ้า และฤทธิ์เดชแห่งยุคที่จะมานั้น
6:6 ถ้าเขาเหล่านั้นจะหลงอยู่อย่างนี้ ก็เหลือวิสัยที่จะให้เขากลับใจเสียใหม่อีกได้ เพราะตัวเขาเองได้ตรึงพระบุตรของพระเจ้าเสียอีกแล้ว และได้ทำให้พระองค์ขายหน้าต่อธารกำนัล
ตอบ.
- หนังสือฮีบรู เขียนเพื่อคนยิวที่ได้ฟังข่าวประเสริฐ และต้อนรับพระเยซู เขาเป็นคริสเตียนแล้ว แต่ไม่นานต่อมา เขาลังเลใจ เพราะว่าเมื่อก่อน หลักการแห่งความรอดของยิว คือจะต้องรักษาพระบัญญัติ แต่เมื่อรับเชื่อ หลักการแห่งความรอด ก็เปลี่ยนไปคือเชื่อเท่านั้น ก็รอดแล้ว
- คริสเตียนยิวเหล่านี้ มีความกังวล กลัวว่า การเชื่อพระเยซู และรับความรอด โดยที่ไม่พึ่งพระบัญญัติ จะเป็นสิ่งที่ผิดเพี้ยน หรือไม่ถูกต้อง ดูเหมือนจะง่ายไป เขาจึงคิดอยากกลับไป นับถือศาสนายิวเหมือนเดิม
- เปาโล จึงเขียนจดหมายมาเตือนพวกเขาว่า ท่านได้รับพระเยซู คือพบความจริงแล้ว ถ้ากลับไปอยู่ในระบบเดิม ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะว่าพระเจ้าจะไม่รับการกระทำแบบระบบเดิม พระเจ้าไม่รับเครื่องถวายบูชาไถ่บาปของยิวอีกแล้ว (ฮบ 10:26)
- และถ้าหลงไป และกลับมายืนในความเชื่อใหม่ ก็ไม่จำเป็นต้องกลับใจต้อนรับพระเยซูเป็นครั้งที่สองอีก มีแต่จะสารภาพผิด แล้วเดินในความเชื่อต่อไป (ฮบ 6:6 แปลกรีก)
- สำหรับคนยิว ถ้าหากไม่เชื่อพระเยซู ก็จะถูกนับเข้ากับคนที่ประหารพระองค์ที่กางเขนในเวลานั้น เกี่ยวกับเรื่องการละทิ้งความเชื่อ ใครที่เชื่อ และบังเกิดใหม่ เขาอาจจะสงสัย ลังเลใจ หนีไป แต่พระเจ้า จะรักษาเขาไว้ให้ถึงความรอดนิรันดร์ และถ้าใครได้รู้ถึงความจริงเรื่องพระเยซู แต่ไม่ได้เชื่อจริงๆ และไม่เคยบังเกิดใหม่ เขาจะไม่รอด เขาจะหนีไป และไม่กลับมาอีกเลย เขาไม่ได้ถูกนับว่าเป็นคริสเตียนแท้
- เราพบว่า จดหมายของเปาโล ถ้าเขียนเตือนครั้งแรกแล้วไม่ฟัง ท่านจะเขียน และส่งฉบับที่ 2 มาอีก แต่เชื่อว่า คริสเตียนยิวมากมายเหล่านี้ เชื่อฟังคำเตือนของท่าน จึงไม่มีหนังสือฮีบรู ฉบับที่ 2 อาจมีบางคนที่ไม่ได้บังเกิดใหม่และไม่กลับมา
- สำหรับคริสเตียน ทันทีที่เราเชื่อพระเยซู เราก็ได้รับความรอดนิรันดร์ พระวิญญาณบริสุทธิ์จะประทับตราให้ถึงความรอด (อฟ 4:30) พระเยซูจะรักษาเรา ไม่ให้ถึงความพินาศอีกเลย (ยน 10:14, 18)
อย่าลืมว่า พระเจ้าได้ซื้อท่านแล้ว พระเจ้าจะไม่ขายท่านให้ใครอีกเป็นอันขาด (1 คร 6:19-20 เพราะว่า ตั้งแต่วันที่ ท่านเชื่อ ท่านได้กลายเป็นบุตรพระเจ้า ซึ่งไม่มีใครที่จะเปลี่ยนแปลง แย่งชิงฐานะบุตรนิรันดร์ของท่านไปได้ แม้แต่ตัวท่านเอง)
ถาม.
เชื่อแล้วได้รับความรอดฟรีนั้นจริง แต่การรักษาความรอดไว้นั้นต้องอยู่ที่การกระทำด้วย
ความเชื่อจะสำเร็จได้ด้วยการกระทำ และในวิวรณ์บทที่ 3:5 พูดชัดถึงการรักษาชีวิตเพื่อให้ชื่อไม่ถูกลบจากหนังสือแห่งชีวิต เราต้องระวัง!!!!!!เดี๋ยวจะเป็นคริสเตียนแห่งพระคุณที่ปล่อยตัวนะ?
ตอบ.
1. วิวรณ์ บทที่ 2 และ 3 พระเยซูทรงกล่าวเตือนคริสเตียน 7 คริสตจักร
2. พระเยซูทรงกล่าวเตือนคริสเตียนเหล่านั้นให้มาถึงชีวิตผู้ชนะให้ได้
3. ถ้าชนะไม่ได้ พระเยซูจะไม่รับรองเขาต่อหน้าพระบิดา และต่อหน้าทูตสวรรค์เพื่อเข้าอาณาจักรยุคพันปี (มธ 7:21-27 / 1 คร 3:12-15; 5:5 / วว 3:5)
4. ในการพิพากษาครั้งแรก พระเยซูจะปฏิเสธคริสเตียนที่ไม่ชนะ และพระองค์จะไม่รับเขาต่อหน้าพระบิดา นี่คือการลบชื่อเขาออกชั่วคราวใน (วว 3:5) เพื่อรับการตีสอนอยู่ข้างนอกจนครบกำหนด เนื่องจากเขาเป็นคริสเตียนแต่ไม่เป็นคริสเตียน
- การพิพากษามีสองครั้ง ครั้งแรก คือ ก่อนยุคอาณาจักรพันปีเรียกว่าพระที่นั่งของพระคริสต์ (2 คร 5:10) และครั้งที่สอง คือพระบัลลังก์ใหญ่สีขาว (วว 20:11-15)
- การพิพากษาครั้งแรก ตัดสินคริสเตียนเท่านั้น เพื่ออยู่นอกและเข้าในอาณาจักร ครั้งที่สอง ตัดสินคนที่ไม่เชื่อเท่านั้น เพื่อส่งพวกเขาไปยังบึงไฟ
- เมื่อยุคพันปีผ่านไปแล้ว คริสเตียนทุกคนที่ถูกตีสอนลงโทษ จะพร้อมสำหรับความรอดในฟ้าสวรรค์ใหม่แผ่นดินโลกใหม่ ไม่ต้องถูกพิพากษาที่พระบัลลังก์ใหญ่สีขาว (ยน 3:16 เชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ-แต่มีชีวิตนิรันดร์)
- คริสเตียนเป็นบุตรพระเจ้าแล้ว เกิดแล้วก็เกิดเลย และรอดแล้วก็รอดเลย ซึ่งเราเป็นแกะของพระเยซูที่ถูกประทับตราไว้ให้ถึงความรอดในวันสุดท้าย (อฟ 4:30) ไม่มีใครจะมาแย่งชิงแกะของพระเยซูไปได้เป็นอันขาด (ยน 10:28)
- พระเจ้าให้กำเนิดบุตรทั้งหลายครั้งที่สอง (บังเกิดใหม่) พระเจ้าจะไม่ยอมให้ผู้เชื่อทำให้การงาน การไถ่ของพระองค์ล้มเหลวเป็นอันขาด และคนที่พระเจ้าทรงเลือกเอาไว้แล้ว จะไม่มีใครมาแย่งชิงไปจากพระเยซูได้โดยเด็ดขาด (ยน 10:28)
1 คร 3:12-15 และ 5:1-5 ถึงจะเป็นอย่างไรคริสเตียนก็จะรอด แต่บำเหน็จไม่มี
- ผู้เชื่อที่แท้จริง คือผู้ที่เชื่อด้วยใจรับด้วยปาก (โรม 10:8-9) จะนำไปสู่การบังเกิดใหม่ในพระวิญญาณ (ยน 3:3-5) เขาจะมีผลของชีวิตใหม่ไม่มากก็น้อย จากนั้นไป ถ้าหากชีวิตของเขาทำชั่วมากมายเหมือนชายที่อยู่ใน (1 คร 5:1-5) ชีวิตนี้จะล่มจม อาจถึงตาย และเมื่อพระเยซูกลับมา เขาจะถูกลงโทษพันปี จากนั้นจึงได้รอด
เราจะเห็นสองคำที่น่าสนใจในพระคัมภีร์ พระเยซูเป็นคนพูดสองคำนี้เอง
คือ…
1. เชื่อในพระบุตรแล้วจะได้ "รอด"
- คำว่า "รอด" คำนี้ คือ "รอดจากบึงไฟในวันสุดท้าย"
2. ถ้าความชอบธรรมของท่านไม่เหนือกว่าพวกฟาริสี และธรรรมาจารย์ จะไม่ได้ "เข้าไปในอาณาจักร"
- ในที่นี้พระเยซูไม่ใช้คำว่า “รอด” แต่ใช้คำว่า “เข้าไปใน”
- “รอด” คือ (การพิพากษาครั้งสุดท้าย รอดจากบึงไฟ)
- “เข้าไปในอาณาจักร” คือ (เข้าไปในงานเลี้ยงแต่งงานในยุคพันปี และได้ครอบครองร่วมกับพระเยซูชั่วนิรันดร์)
สรุป คือ
1. รอด (จากบึงไฟ เข้าสู่ฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่)
2. เข้าไปใน (อาณาจักร)
เรื่องสองรอดเป็นข้อลึกลับที่พระเจ้าเปิดเผยให้แต่ละคนตามเวลาของพระองค์ได้ทรงกำหนดไว้ (มธ 13:11, 13, 16-17)