ขอถามนิดนึงครับ ผมเป็นคนชอบสนใจศึกษาอะไรลึกซึ้ง 5555 ^___^
จากปฐมกาลที่เรากำลังศึกษา...
1.ก่อนหน้าที่พระเจ้าสร้างมนุษย์ พระเจ้าสร้างสิ่งต่างๆ มา 4-5 ยุค (ดูจากชั้นหิน) แล้วใช่ไหมครับ
แล้วพระเจ้าทำลาย
ก่อนสร้างสิ่งต่างๆและมนุษย์ แล้วเห็นว่าดี
เช่น พวกไดโนเสาร์ต่างๆ
2. สิ่งนึงที่ยังสงสัย
คือ พระเจ้าทำไมไม่สร้างมาดีเลิศเสร็จสรรพทีเดียวเลย (เพราะพระเจ้าเป็นพระเจ้าที่ดีเลิศ) ทำไมถึงต้องสร้างหลายที แล้วทำลาย
อาจเป็นเพราะพระเจ้าต้องการทดสอบสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างก่อนหรือป่าวครับ
ขอพี่น้องที่มีความรู้บอกหน่อยนะครับ(>_<)
ตอบ.
ถามว่าทำไมพระเจ้าไม่สร้างทุกสิ่งให้ดีเลิศประเสริฐ คำตอบก็คือ สรรพสิ่ง ทั้งปวง ที่เป็นฝ่ายร่างกาย ตอนนั้นยังใหม่สำหรับพระเจ้า เนื่องจากว่าพระเจ้าทรงเป็นวิญญาณ พระเจ้าทรงทราบ ทุกสิ่ง ที่เป็นฝ่ายวิญญาณ ทรงทราบจิตใจของมนุษย์ จึงทรงเลือกเราไว้ก่อนที่จะสร้างฝ่ายร่างกาย เนื้อหนัง เรารู้ได้ว่า พระเจ้า ไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับฝ่ายร่างกาย เพราะว่ามันเป็นสิ่งใหม่สำหรับพระเจ้า ใช่ พระเจ้าเป็นพระเจ้า สัพพัญญู ทรงสติปัญญา มากกว่าใครในจักรวาล แต่เรื่องฝ่ายร่างกาย เป็นเรื่องที่ใหม่มาก เลยทีเดียว เพราะฉะนั้น จึงต้องมีการทดลอง และเมื่อพระเจ้าสร้าง สิ่งที่มีชีวิต 4 หรือ 5 ยุค ก่อนหน้าพวกเรา พระองค์ทรงเห็นว่าไม่ดี ใช้ไม่ได้ จึงทำลาย และสร้างใหม่ จนมาถึงยุคพวกเรา อะไรก็ดีไปหมด เราจะเห็นว่า ในแต่ละวัน ที่พระเจ้าทรงสร้าง แต่ละสิ่ง ข้อพระคัมภีร์ จบลงด้วยคำว่า พระเจ้าทรงเห็นว่าดี นี่คือเหตุผล ที่พระเจ้าไม่ทำลาย
ถาม.
เป็นไปได้หรือ ที่ฝ่ายร่างกายเป็นสิ่งใหม่สำหรับพระเจ้า พระเจ้าจะไม่มีประสบการณ์ เพราะคำว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่ก็ทรงเหนือคำบรรยายแล้ว พระเจ้าคงไม่ลองผิดลองถูกเหมือนนักวิทยาศาสตร์ ขนาดระบบในร่างกายมนุษย์วางไว้เเบบซับซ้อนอย่างนาอัศจรรย์องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสว่า “เราเป็นอัลฟาและโอเมกา เป็นปฐมและเป็นอวสาน ผู้ทรงเป็นอยู่เดี๋ยวนี้ ผู้ได้ทรงเป็นอยู่ในกาลก่อน ผู้จะเสด็จมานั้น และผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด”
ตอบ.
สิ่งที่สำคัญคือ ขอย้ำว่า พระเจ้าเป็นสัพพัญญูก็จริง ซึ่งพระเจ้ามีเข้าใจมีความรู้ มีสติปัญญาที่ไม่มีใครสามารถที่จะเท่าเทียมกับพระเจ้าได้ แล้วก็พระเจ้าเป็นผู้เดียวเป็นแหล่ง เป็นจุดกำเนิดที่มาของสติปัญญาทั้งหลาย เพราะฉะนั้นในเรื่องของฝ่ายวิญญาณพระเจ้าทรงทราบดี เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นวิญญาณ และจิตของมนุษย์ จิตหรือว่าอะไรก็ตามที่เป็นฝ่ายวิญญาณคือพระเจ้ารับรู้ได้ พระเจ้ารู้ได้ พระเจ้าเข้าใจ พระเจ้าคำนวนถูกทั้งหมดเลย ไม่มีผิดพลาด
และเมื่อมาถึงการทรงสร้างฝ่ายเนื้อหนัง ฝ่ายโลกนี้ หรือสิ่งที่ตามองเห็นนี้ เราจะพูดได้เลย เราสามารถพูดได้เลยน่ะว่ามันเป็นสิ่งที่ใหม่ เป็นสิ่งที่ใหม่สำหรับพระเจ้าจริงๆ เพราะฉะนั้นถ้าเป็นสิ่งที่ใหม่ คือพระเจ้าเป็นสัพพัญญู ใช่ พระเจ้ามีสติปัญญา ใช่ อันนั้นเป็นเรื่องของฝ่ายวิญญาณ และฝ่ายจิต เป็นสิ่งที่พระเจ้ามองเห็น พระเจ้ารู้ พระเจ้าคำนวนถูกทั้งหมด
แต่ถ้าจะพูดถึงเนื้อหนังฝ่ายร่างกายนี้ พระเจ้าไม่เคยสร้างดอกไม้ พระเจ้าไม้เคยสร้างต้นไม้ พระเจ้าไม่เคยสร้างสัตว์ พระเจ้าไม่เคยสร้างอะไรเลย เพราะฉะนั้นก็ต้องมีการลองผิดลองถูก สร้างขนาดใหญ่หรือเล็กแค่ไหน สร้างแบบไหนลักษณะไหน แบบไหนให้มันดูดีกว่าเดิม อันนี้เป็นสิ่งที่พระเจ้าต้องทำ ต้องดูว่าสิ่งไหนที่ไม่ดีก็ทำลายไป แล้วก็สร้างใหม่ เมื่อเห็นว่าไม่ดีก็ทำลายไป
เราจะสังเกตเห็นได้ตรงนี้ก็คือ วันแรกที่พระเจ้าสร้าง พอสร้างเสร็จพระคำภีร์ก็บอกว่า ทรงเห็นว่าดี ก็รักษาใว้ วันที่สองพระเจ้าก็สร้างอีก วันที่สาม วันที่สี่ วันที่ห้าพระเจ้าสร้าง ห้าหกสิ่งนี้ และในพระคำภีร์แต่ละข้อในแต่ละข้อก็จะบอกว่า ก็จะจบลงด้วยคำว่าพระเจ้าทรงเห็นว่าดี เพราะทรงเห็นว่าดี แล้วก็พระเจ้าก็ทรงเก็บใว้รักษาไว้ ไม่ทำลาย ตรงนี้เป็นที่ที่เราสามารถรถยืนยันได้ว่าพระเจ้าเคยสร้างสิ่งที่เป็นอยู่ก่อนหน้านี้ และพระเจ้าทรงเห็นว่าไม่ดี แต่พอมาสร้างถึงยุคเรา เห็นว่าดีก็ทรงเก็บรักษาไว้
หลังจากที่พระเจ้าได้ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งหมด พระเจ้าทรงเห็นว่าดี เห็นว่าดี เห็นว่าดี
สุดท้ายพระเจ้าก็สรุปว่า
"พระเจ้าทอดพระเนตรเห็นบรรดาสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้างเเละดูเถิด เป็นสิ่งที่ดียิ่งนัก"
คือพระเจ้าไม่เคยเห็นว่ามันดีถึงขนาดนี้ พระคัมภีร์ก็บอกว่า พระเจ้าทรงเห็นว่าดี
ซึ่งเรารู้น่ะว่าดินแต่ละชั้นในยุคก่อนๆหน้านี้ พระเจ้าสร้างหลายสิ่ง ไดโนเสาร์มันอาจจะใหญ่เกินไป พระเจ้าก็เลยทำลายเพราะว่าพระเจ้าทรงเห็นว่าไม่ดี
หรือต่อมาเราเห็นว่ามีซากสัตว์ซากกระดูกที่มันดูคล้ายๆ กับมนุษย์เราแต่ไม่ใช่ มันดูคล้ายๆ พระเจ้าก็ทำลายไป เพราะว่าทรงเห็นว่าไม่ดี แล้วก็ไม่ได้ใส่วิญญาณเข้าไปในชีวิตของสิ่งเหล่านั้นที่ทรงสร้าง แต่ขอบพระคุณพระเจ้าที่ทรงมาถึงยุคพวกเรา พระเจ้าสร้างอะไรก็ทรงเห็นว่าดีหมด เพราะว่าพระเจ้าทรงมีประสบการณ์แล้ว คือพระเจ้ารู้ว่า ต้นไม้เป็นแบบนี้ ดอกไม้เป็นแแบบนี้ สัตว์เป็นแบบนี้ คือทำมาดีหมดแล้ว ออกแบบมาดีหมดแล้ว แก้ไข ทำให้ขนาดมันพอดีพอดี ไม่ใหญ่เกินไป ไม่เล็กเกินไป และสุดท้ายพระเจ้าก็สรุปลงใน ปฐมกาล บทที่ 1:31 "พระเจ้าทอดพระเนตรเห็นบรรดาสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้างเเละดูเถิด เป็นสิ่งที่ดียิ่งนัก"
และเมื่อมาถึงยุคพวกเรา มาถึงยุคพวกเราพระเจ้าเกือบจะทำลายล้างโลกนี้ด้วยการให้น้ำท่วมโลกอีก เราจะเห็นในปฐมกาลบทที่ 6 ที่พระเจ้าให้น้ำท่วมโลก แต่ไม่ได้ทำลายมนุษย์ทั้งหมด คือก็ยังรักษาไว้ 8 คน ที่เป็นครอบครัวของโนอาห์ นี่คือสิ่งที่ยืนยันได้ว่าพระเจ้าให้น้ำท่วมโลก เมื่อสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างในยุคแรกไม่ดีพอ และยุคที่สองก็ไม่ดีพอ ยุคที่สามก็ไม่ดีพอ มาถึงยุคพวกเราสมัยโนอาห์ พระเจ้าก็เกือบจะทำลายล้างโลกด้วยการให้น้ำท่วมอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งถ้าเกิดขึ้น ถ้าเป็นไปได้พระเจ้าก็จะสร้างมนุษย์ในยุคต่อไปอีก จะสร้างและพัฒนาแบบไหน เราไม่ทราบ แต่ขอบพระคุณพระเจ้าที่ทรงเห็นว่ายังมีครอบครัวหนึ่งที่ดี ที่เดินตามพระเจ้าไป และขอบพระคุณพระเจ้า ที่พระเจ้าสร้างมนุษย์ยุคเราให้มีวิญญาณ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีวิญญาณและนี่จึงเป็นเหตุผลที่พระเจ้ารักษามนุษย์ยุคเราไว้
ถาม.
จากโนอาห์ถึงเราปัจจุบันนี้ คือประมาณ 6,000 ปี หรือเปล่า
นักวิทยาศาสตร์ คำนวนว่าโลกมนุษย์เรา มีอายุมากกว่า 6,000 ปี หรือหลายสิบล้านปีเลย
แสดงว่าที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์คำนวนเรื่องอายุของโลกเป็นล้านๆปีก็ถูกต้องใช่ไหม
ตอบ.
ใช่ วิทยาศาสตร์ คำนวนว่าโลกมนุษย์มีอายุมากกว่าหกพันปี คือหลายล้านปี แต่ถ้าเขาจะสรุปว่า 70ล้านปี 80 ล้านปี หรือ 100 ล้านปี อันนี้เราเชื่อไม่ได้ คือมันจะนับเป็นกี่ปี่ที่แน่นอนไม่ได้ แต่เรารู้ได้แน่นนอนว่ามันมีอายุมากว่า 6,000 ปี
ถาม.
หนึ่งวันของพระเจ้าขณะที่ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งหลายนั้นเท่ากับหนึ่งวันของปัจจุบันไหม
ตอบ.
คือหนึ่งวันของมนุษย์