ขอบพระคุณพระเยซูสำหรับชีวิตใหม่อีกวันหนึ่ง ขอบพระคุณสำหรับชีวิตที่เดินไปวันต่อวัน ขอบพระคุณในความรักพระคุณพระเมตตา ขอบพระคุณที่พวกเราได้พบพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ขอบพระคุณที่พระองค์เป็นทุกสิ่งสำหรับพวกเรา ขอบพระคุณที่พระองค์เป็นเจ้านายเป็นกษัตริย์เป็นพระบิดาของพวกเรา พระเยซูวันนี้เรานำชีวิตใหม่อวัยวะใหม่เพื่อถวายแด่พระองค์ และพวกเรานำเครื่องบูชาอันหอมหวลที่สุดก็คือความรักมาถวายแด่พระองค์ พระเยซูพวกเรารักพระองค์ รักพระองค์ รักพระองค์
ทุกวันเวลาเราได้อยู่ใกล้ชิดพระองค์ ทุกวันเวลาอยู่ในความรักของพระองค์ ทุกวันเวลาเราอยากสรรเสริญพระองค์ ทุกวันเวลาเราขอบพระคุณพระองค์แด่พระเจ้าผู้สูงสุดผู้สมควรสรรเสริญ เอเมน
ผมอยากจะขอเสริมสักนิดนึงเกี่ยวกับเรื่องการอธิษฐาน การพูดเอเมน คือเท่าที่ผ่านมาผมเห็นพี่น้อง การใช้คำพูดการพูดคือเราไม่รอคือไม่ให้ช่องว่าง ให้การพูดคือให้มีช่องว่างนะครับ คือเราพูดไปสักประโยคหนึ่งตอนที่อธิษฐาน หรือการพูดก็คือเราพูดสักประโยคหนึ่ง แล้วจากนั้นพี่น้องก็พร้อมที่จะรอที่จะพูดว่าเอเมน นี่คือการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเกี่ยวกับเรื่องการอธิษฐาน การเผยพระวจนะ เพราะว่าบางคนผมจะเห็นว่าเราจะพูดยาวไป อธิษฐานก็ยาวไป แล้วพี่น้องที่รอจะพูดว่าเอเมนก็คือต้องรอให้พูดจบทั้งเรื่องเลย สิ่งที่เราควรทำนะครับก็คือเราพูดไปสักประโยคหนึ่งแล้วก็หยุดนะครับ แล้วพี่น้องจะเอเมนกับเรา นี่คือการแสดงการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันนะครับ
แล้วก็เรื่องประเด็นเรื่องการล้างเท้า สำหรับเรื่องการล้างเท้า เราเห็นนะครับว่าจุดอ่อนของคริสเตียนศาสนาเขาไม่รู้ความหมายฝ่ายวิญญาณ ในหนังสือยอห์นเป็นเรื่องความหมายฝ่ายวิญญาณมากกว่าฝ่ายร่างกาย เพราะฉะนั้นการแปลจึงต้องมี และโดยพึ่งพาพระวิญญาณบริสุทธิ์
เราเห็นพระเยซูตรัสนะครับว่าล้างเท้า ไม่ใช่เพื่อให้เท้าสะอาด หรือไม่ใช่เพื่อแสดงการถ่อมใจ ไม่ใช่นะครับ
การล้างเท้าก็เพื่อให้เราได้มีส่วนในพระคริสต์ การที่จะมีส่วนในพระคริสต์ ถ้าใครดูหนังฟังเพลงดูซีรี่ย์หรือคิดถึงเรื่องฝ่ายเนื้อหนังฝ่ายร่างกายเราก็จะหลุดออกมาจากพระคริสต์
การที่จะเข้าส่วนในพระคริสต์ต้องมีจิตใจที่สนิทในพระองค์ บอกรักพระองค์ คิดถึงพระคำพระเจ้า อยู่ในฝ่ายวิญญาณ พูดง่ายๆ เดินในฝ่ายวิญญาณ ลืมสิ่งที่เป็นหนังเพลงซีรี่ย์หรืออะไรที่เป็นฝ่ายโลกนี้ เพราะฉะนั้นเราเห็นว่ายอห์นบทที่ 13:8 คือคำตอบของเรื่องการล้างเท้า เอเมน
พี่น้องนะครับจึงมีบทบาทที่สำคัญมาก เพื่อติดต่อหาเรา เพื่อเตือนใจกันและกัน ว่าวันนี้เรามาพูดถึงเรื่องพระคำพระเจ้าบทนี้ดีไหม เรามาพูดถึงเรื่องพระคำล้ำลึกตอนนี้ดีไหม พี่น้องที่ดูหนังอยู่ฟังเพลงอยู่ดูซีรี่ย์อยู่นะครับก็จะรู้ว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ต้องการที่จะนำเรากลับมา อย่าคิดว่าเขาเป็นคนพี่น้องเป็นคนเรียกเราแต่พระวิญญาณบริสุทธิ์ดลใจแต่ละคนเพื่อล้างเท้ากันและกัน เอเมน
ถาม.
ขอถามเกี่ยวกับมหาสนิทครับ คำว่าพิธีมหาสนิท คำว่าพิธีกับไม่ใช่พิธีนี้ อาจารย์ช่วยอธิบายเพิ่มเติมหน่อยครับ คำว่าพิธีหมายถึงว่านำขนมปังแล้วก็นำน้ำองุ่นมาวางไว้ตรงหน้าเคาน์เตอร์ตอนที่ประชุมร่วมกัน แล้วก็จะมีผู้นำที่เป็นศิษยาภิบาลศาสนาจารย์ที่ใส่ชุดยาวๆ เท่านั้นที่จะทำได้ สิ่งเหล่านี้ใช่มั้ยครับที่เป็นพิธีกรรม แล้วก็รวมไปถึงทำเดือนละครั้ง อย่างนี้ใช่มั้ยครับที่เรียกว่าพิธีกรรม
ตอบ.
สำหรับพิธีนะครับ คำว่าพิธี ก็คือเป็นเรื่องของศาสนา เป็นเรื่องของการก่อตั้งกฎเกณฑ์ พิธี พิธีกรรมอะไรทั้งหลาย พิธีบัพติศมาบ้าง พิธีล้างเท้า แล้วก็พิธีมหาสนิท
แต่เราดูในพระคัมภีร์นะครับคำว่าพิธีมหาสนิทเนี่ยไม่มี ภาษาอังกฤษและภาษากรีกเรียกว่า the Lord’s table หรือ the lord’s supper ก็คือโต๊ะของพระคริสต์ ก็คืออาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซูที่ทานรับประทานกับสาวกทั้งหลาย
การทำมหาสนิทเราไม่ทำเป็นพิธี เราหลีกเลี่ยงเรื่องการทำเป็นพิธีนะครับคือทำให้มันดูมีอะไรที่ศักดิ์สิทธิ์
แต่พี่น้องก็คือผู้ดูแลผู้ปกครองคริสตจักรเนี่ยก็เตรียม เตรียมเป็นขนมปังเป็นแผ่นนะครับ แล้วก็อาจจะใช้น้ำองุ่นก็ได้ หรือใช้อะไรก็ได้เพราะว่าทุกวันนี้ก็ไม่ใช้เหล้าองุ่นอยู่แล้ว แต่ถ้าจะใช้เหล้าองุ่นก็ใช้ได้ไม่ผิดนะครับ เพื่อเล็งถึงพระกายและพระโลหิตของพระเยซู
หรือถ้าไม่มีจริงๆ ก็นำอาหารที่อาจจะเป็นข้าวก็ได้ เอามา แล้วก็เพื่อเล็งถึงพระกาย ขอให้ทุกคนในคริสตจักรเข้าใจว่าเล็งถึงพระกาย และน้ำดื่มหรือน้ำอะไรก็แล้วแต่ที่เราเอามาทำ เพื่อเล็งถึงพระโลหิต แค่นั้นเองขอให้พี่น้องเข้าใจด้วยกันก็พอ
จากนั้นจะไม่มีการประกาศนะครับจะไม่มีการทำพิธีอะไรร้องเพลงอะไรทั้งนั้น ก็คือผู้ดูแลเนี่ยขึ้นมาแล้วก็จะหักขนมปัง แล้วก็แจกพี่น้องทุกคน
แล้วก็ถ้าใครรู้สึกว่าเอ๊ะยังไม่ได้สารภาพก่อนที่จะออกจากบ้าน จำกันได้ไหมว่าก่อนที่เราจะมาถึงคริสตจักรนะครับ เราตื่นนอนตอนเช้าในวันอาทิตย์ ก็เหมือนทุกๆ วันนั่นแหละ เราสารภาพก่อนว่าเราได้ทำอะไรคิดอะไรพูดอะไรที่ผิดต่อน้ำพระทัยพระเจ้าบ้างซึ่งเป็นการผิดบาป เราก็สารภาพ แล้วจากนั้นมาที่คริสตจักรเราก็ดื่มได้กินได้ และให้จดจำว่าสิ่งนี้ก็คือเปรียบเสมือนพระกายและพระโลหิตของพระเยซู เรากินเข้าไปเพื่อการจดจำว่าพระเยซูอยู่ในเรา พระเยซูอยู่กับเรา และพระเยซูอยู่ท่ามกลางคริสตจักรของพวกเรา
ไม่เหมือนแต่ก่อนใช่ไหมที่เราเห็นว่าพระเยซูมาเยี่ยมบางครั้งหรือพระเยซูอยู่บนสวรรค์กับพระบิดาเพื่อรับการนมัสการการยกย่องสรรเสริญจากพวกเรา แต่จริงๆ แล้วมัทธิวบทที่ 18:20 สองคนหรือมีมากกว่าสองคนอยู่ที่ไหนในนามของเรา เราก็อยู่ที่นั่น อยู่ที่นั่นแล้วนะครับ ไม่ใช่ว่าจะมา ก็คือเมื่อมีสองคนปุ๊บพระเยซูก็อยู่ตรงนั้นแล้ว เอเมน
อีกครั้งขอย้ำ การทำบัพติศมา การทำมหาสนิท การทำอะไรทั้งหลายแหล่ เราจะหลีกเลี่ยงคำว่าพิธี เพราะว่ามันเป็นเรื่องของรูปแนวศาสนา
สรุปนะครับพิธีคือรูปแนวศาสนา เรานะครับทำในรูปแนวชีวิต เมื่อจะบัพติศมาใคร เราก็ถามเขาพร้อมหรือยัง เข้าใจหรือยังว่าพระเยซูเป็นพระเจ้า พระเยซูเสด็จลงมาเพื่อตายไถ่บาปเราทั้งหลาย ถ้าเชื่อถ้ายอมรับก็พร้อมที่จะรับบัพติศมาได้ ไม่ต้องมีพิธีไม่ต้องรอวันดีคืนดีรอถึงวันอาทิตย์แล้วก็ต้องให้มีคนมาร้องเพลงหรือเรียนจบหลักสูตรอะไรก่อน ไม่จำเป็นนะครับเอเมน
ถาม.
แล้วจะกินตอนไหนได้ครับ ก่อนนมัสการหรือว่าหลังนมัสการครับ
ตอบ.
คือสำหรับพระกายหรือคริสตจักรต้องคุยกันว่าเราจะกินตอนไหนดี จะกินเริ่มแรกก็ได้ จะกินตอนไหนก็ได้นะครับ แต่เท่าที่ผ่านมาผมเห็นพี่น้องพวกเราก็คือร้องเพลงก่อน เน้นที่การนมัสการพระบิดาก่อน อธิษฐานสรรเสริญพระเจ้ายกย่องพระเจ้าขอบพระคุณพระเจ้าก่อน สิ่งอื่นมาทีหลังนะครับ แล้วหลังจากนั้นค่อยทำ หรือจะทำตอนหลังตอนตรงกลางของเวลาที่นมัสการพระเจ้าก็ไม่เป็นไร คือเราไม่จำกัดว่าต้องทำตอนไหนตอนไหน ไม่มีนะครับ เนื่องจากว่าเมื่อพระเยซูอยู่กับสาวกทั้งหลาย รับประทานอาหารเขาก็คุยกันไป แต่มีอยู่ตอนหนึ่งที่พระเยซูหักขนมปังแล้วแจกทุกคน เอเมน
ถาม.
เอเมนค่ะขออนุญาตถามค่ะ ทำไมคริสเตียนที่ต้อนรับพระเยซูเป็นพระเจ้าเป็นพระผู้ช่วยให้รอดแล้ว แต่ยังไม่ได้รับบัพติศมาในน้ำ ไม่สามารถทำมหาสนิทได้ค่ะ
ตอบ.
เนื่องจากว่าการรับบัพติศมาในน้ำ แล้วก็พระเยซูจะเสด็จมา เมื่อพระเยซูเสด็จมาก็รับบัพติศมาเขาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ การรับบัพติศมาผู้เชื่อในพระวิญญาณบริสุทธิ์นะครับเพื่อนำเราเข้าไปอยู่ในพระคริสต์ เพื่อนำเราเข้าไปอยู่ในอาณาจักรของพระองค์ เพื่อนำเราเข้าไปอยู่ในโลกใหม่ฝ่ายวิญญาณ เพราะฉะนั้นการรับบัพติศมาในน้ำจึงสำคัญจึงต้องมาก่อน และจากนั้นการรับบัพติศมาในพระวิญญาณก็ตามมา แล้วหลังจากนั้นจึงให้มีส่วนในพระกายได้
คนที่ไม่รับบัพติศมาในน้ำและไม่มีโอกาสได้รับบัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ จะเข้าร่วมในฝ่ายวิญญาณได้ยังไงใช่ไหม
ถาม.
ถ้าคริสตจักรให้โดยที่ขาดความเข้าใจจะมีการตีสอนไหมค่ะ
ตอบ.
สำหรับผู้เชื่อทุกวันนี้ คริสตจักรศาสนาทุกวันนี้เขาสะสมการตีสอนสะสมการลงโทษของพระเจ้า เนื่องจากว่าเขาทำไม่เป็นเขาไม่รู้วิธีทำ แล้วก็เขาทำอย่างไม่สมควรนะครับคือใช้ตัวเก่าทำ แล้วก็มีการแบ่งแยกแตกแยก รักคนโน้นไม่รักคนนี้ แล้วก็การกระทำที่ไม่ได้จดจำว่าพระเยซูอยู่ในเขา เพราะว่าเขาไม่รู้ว่าพระเยซูอยู่ในเขา เขาคิดว่าพระเยซูเนี่ยเสด็จมาเยี่ยมหรือพระเยซูอยู่กับพระบิดาบนสวรรค์รอรับการนมัสการยกย่องสรรเสริญ และอีกอย่างหนึ่งก็คือการทำมหาสนิทก็คือเพื่อการประกาศการตายเพื่อไถ่บาปของพระเยซู ก็คือเมื่อเราออกไปนะครับ เราประกาศข่าวประเสริฐจนกว่าจะถึงวันที่พระเยซูเสด็จมา
สรุปเรื่องการล้างเท้า เป้าหมายของการล้างเท้า ก็เพื่อให้เรามีส่วนในพระคริสต์ ออกจากซีรี่ย์ออกจากฝ่ายโลกออกจากความต้องการฝ่ายเนื้อหนังฝ่ายร่างกาย กลับมาอยู่ในพระคริสต์ เพื่อมีส่วนในพระคริสต์ รับสันติสุข รับการหล่อเลี้ยงจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
แต่สำหรับเรื่องการทำมหาสนิท มีมากกว่านั้นนะครับก็คือ 1. เพื่อจดจำว่าพระเยซูอยู่ในเราตลอดเวลา เราอย่าลืมพระเจ้าเมื่อเราทำอะไร ไปไหน อยู่กับใคร พูดฟังมอง ทุกสิ่ง พระเยซูอยู่กับเรา ขณะนั้นต้องนับตลอดเวลา นี่คือเป้าหมายของมหาสนิท
อันที่ 2. ก็คือเพื่อประกาศการวายพระชนม์ ก็คือเพื่อออกไปประกาศว่าพระเยซูตายเพื่อไถ่บาปคุณ พระเยซูตายเพื่อไถ่บาปคุณ พระเยซูตายเพื่อไถ่บาปคุณ เห็นใครพระเจ้าดลใจก็ประกาศเรื่องนี้นะครับ เรื่องการตายของพระเยซูต่อผู้คนเพื่อเขาจะมีความหวังและได้รับความรอด เอเมน
สรุปนะครับมหาสนิทไม่ใช่พิธี แต่คือการร่วมดื่มกินเพื่อจดจำว่าพระคริสต์อยู่ในเรา และอยู่ท่ามกลางพระกายทุกครั้งที่เราร่วมสามัคคีธรรม ปัญหาก็คือคริสตจักรส่วนมากไม่เห็นพระเยซูอยู่ท่ามกลางพวกเขา ความคิดจะอยู่ที่เพลงนมัสการใช่ไหม ความคิดจะอยู่ที่คำเทศนา ความคิดจะมองลบ สแกน สแกนพี่น้องแต่ละคน คนนี้ทำผิดอะไร คนนี้มีปัญหาอะไร คนนี้ชอบพูดมาก คนนี้ชอบอะไรมากมาย คนนี้บ้านไม่สะอาด คือจะมีสิ่งที่เขาสแกน อันนี้คือการที่ไม่เหมาะสมสำหรับการรับมหาสนิทนะครับ
การทำมหาสนิทไม่ใช่เพื่อจดจำคิดถึงการตายของพระเยซูเพื่อไถ่บาปเรานะครับ แต่เพื่อประกาศการตายของพระองค์เพื่อไถ่บาปเรา เข้าใจนะครับ อีกครั้ง..การทำมหาสนิทไม่ใช่เพื่อที่เราจะกลับไปย้อนไปที่ 2,000 ปีก่อนแล้วเห็นพระเยซูตายบนกางเขน ไม่ต้องจดจำสิ่งนั้น พระเยซูตรัสผ่านเปาโลว่าไม่ต้องจดจำพระเยซูที่เป็นเนื้อหนัง มันจบไปแล้ว การไถ่ของพระเจ้าสำเร็จแล้ว งานของพระองค์จบแล้ว แต่ตอนนี้สำคัญมากก็คือจดจำว่าพระเยซูเป็นพระคริสต์เป็นพระวิญญาณที่อยู่ในเราอยู่ท่ามกลางเราท่ามกลางพระกาย เอเมน
ถาม.
ขอถามข้อนี้ครับอาจารย์ การทำมหาสนิทไม่ใช่เพื่อจดจำการตายของพระเยซูที่กางเขนเพื่อไถ่บาปเรา แต่เพื่อการประกาศการตายที่กางเขนของพระองค์เพื่อไถ่บาปเรา การประกาศในที่นี้ไม่ใช่ว่าทุกวันอาทิตย์ที่เรามาหักขนมปังต้องประกาศในที่ประชุมใช่มั้ยครับ
ตอบ.
พระเยซูตรัสในข้อที่ 26 เรากลับไปอ่านดูนะครับ (เพราะว่าพวกท่านกินขนมปังนี้และดื่มจากถ้วยนี้บ่อยเท่าใด พวกท่านก็ประกาศการวายพระชนม์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า จนกว่าพระองค์จะเสด็จมา) เห็นนะครับก็คือเมื่อเราทำมหาสนิทร่วมกัน สิ่ง 1 ที่เราจะต้องจดจำก็คือพระคริสต์อยู่ในเรา และสิ่งที่ 2 เมื่อเราออกไป พบผู้คน พระวิญญาณบริสุทธิ์ดลใจ เราก็ประกาศเรื่องการวายพระชนม์ของพระเยซู “คุณรู้ไหมพระเยซูตายเพื่อไถ่บาปคุณนะเมื่อ 2,000 ปีก่อน พระเจ้าเสด็จลงมาเป็นมนุษย์และตายเพื่อไถ่บาปมนุษย์” เอเมน
เราดูใน 2 โครินธ์บทที่ 5:16-17 ว่าเราอย่าจดจำสิ่งที่เป็นมนุษย์ของพระเยซูอีกต่อไปเพราะว่าการงานของพระองค์ในฐานะมนุษย์จบลงไปแล้ว มันจบแล้ว
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในวันนี้ก็คือพระคริสต์อยู่ในเรา แต่คริสเตียนส่วนมากคิดถึงพระเยซูตอนที่ตายบนกางเขน แต่เขาไม่เคยคิดและไม่รู้ด้วยว่าพระเยซูตอนนี้กำลังอยู่ในเรา อันนี้สำคัญกว่าใช่ไหม
แต่สำหรับคนที่ไม่เชื่อสิ่งที่สำคัญมากที่สุดสำหรับพวกเขาก็คืออะไร ก็คือการตายบนกางเขนของพระเยซูเพื่อไถ่บาปเขา เป็นสิ่งที่เราจะต้องประกาศให้เขา
ถาม.
แล้วก็คำพูดที่ว่าไม่จำเป็นต้องพูดว่านี่คือร่างกายและโลหิตของเราเหมือนตอนที่พระเยซูตรัสกับสาวก แต่ทุกคนได้รับการเรียนรู้มาเป็นอย่างดีแล้ว ก็คือตอนที่เราทำมหาสนิทคือไม่ต้องพูดคำนี้แล้ว ก็คือเราจะแค่จดจำเราทำร่วมกัน เรารู้ทุกคนแล้วใช่มั้ยครับก็คือไม่ต้องพูด เราเข้าใจกันใช่มั้ยครับ
ตอบ.
การเข้าส่วนในพระกายการเข้ามาอยู่ในพระกายของพระคริสต์ ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในกลุ่มมานาฯ ก็ตามเข้ามาอยู่ในกลุ่มไลน์ พี่น้องก็เขียนมาบ้าง ส่งมาเรื่องอะไรที่สำคัญๆ นะครับ สิ่งที่เราต้องทำเป็นประจำ การล้างเท้าบ้าง การทำมหาสนิทบ้าง การนมัสการพระเจ้าที่ถูกต้องบ้าง คือในวิญญาณและในความจริง อะไรบ้าง
แล้วก็เราแนะนำหนุนใจพี่น้องที่เข้ามาใหม่นะครับว่าเมื่อเราทำมหาสนิทร่วมกัน เราไม่จำเป็นต้องทำเพราะว่าพระเยซูทำเพื่อให้เป็นแบบอย่างเป็นตัวอย่างให้เราได้รู้ว่านี่คือพระกายของพระองค์ก็คือขนมปัง และนี่คือพระโลหิตของพระองค์ก็คือเหล้าองุ่น
เพราะฉะนั้นเมื่อทุกคนเข้ามาร่วมกัน คือเรารู้ดีใช่ไหมว่านี่คือพระกายของพระเยซู เราต้องพูดไหมต้องบอกไหมไม่จำเป็น และนี่คือเหล้าองุ่นก็คือเล็งถึงพระโลหิตของพระเยซู เราต้องพูดไหม คือไม่จำเป็นเรารู้แล้วเรารู้ดีนะครับ
และสำหรับพี่น้องที่ร่วมกันนมัสการพระเจ้า อธิษฐานตอนเริ่มแรก ผมเห็นว่าหลายคนยังพูดนะครับพวกเรานำเอาตัวใหม่มาถวายแด่พระองค์ เราจะพูดก็ได้หรือไม่พูดก็ได้นะครับ เรารู้ตัวดีว่าเราตอนนี้กำลังนมัสการพระเจ้าในตัวใหม่ในคนใหม่ เอเมน. อันไหนที่เราเห็นว่าเรารู้ดี เกี่ยวกับชีวิตภายในจิตใจของเราเรารู้ดีเข้าใจดี เราไม่จำเป็นต้องพูดก็ได้นะครับ
การทำมหาสนิทเป็นสิ่งที่สำคัญมากนะครับ ทุกวันอาทิตย์เรามาร่วมกัน ถึงแม้ว่าทุกครั้งเราอยู่ห่างกัน อยู่ในออนไลน์ แต่เราก็ไม่มีโอกาสได้ทำมหาสนิท สิ่งที่เราทำได้นะครับก็คือ 2 สิ่ง ก็คือจดจำว่าพระคริสต์อยู่ในเรา และอีกอย่างหนึ่งก็คือพระคริสต์อยู่ท่ามกลางพวกเราตอนนี้ และอีกอย่างก็คือการประกาศการวายพระชนม์ พระเจ้าใช้เรา เราออกไปพบเจอผู้คน เราก็พูดถึงเรื่องพระเยซูตายเพื่อไถ่บาปเขา
อีกครั้งนะครับสรุปในข้อที่ 2. ก็คือการทำมหาสนิท ไม่ใช่เรื่องการจดจำความคิดหรือคิดถึงการตายของพระเยซูเพื่อไถ่บาปเราที่กางเขน แต่เพื่อประกาศการตายเพื่อไถ่บาปเรา ต่อคนที่ไม่เชื่อ เนื่องจากว่าคริสตจักรศาสนามากมายมีความคิดที่เป็นรูปแนวศาสนาที่เขาไม่รู้ว่าเข้ามาด้วยคนใหม่และพระคริสต์อยู่ในเรา เขาจึงคิดถึงพระเยซูเป็นบางเวลา ถูกไหมครับ
หลายคริสตจักรต้องอันเชิญพระเยซูและพระวิญญาณเสด็จมา แต่เราเห็นว่าในมัทธิวบทที่ 18:20 พระเยซูตรัสว่า ด้วยว่าสองคนหรือมากกว่าสองคนประชุมกันอยู่ที่ใดในนามของเราเราก็อยู่ท่ามกลางพวกเขาที่นั่น ไม่ต้องอัญเชิญนะครับพระเยซูอยู่ที่นั่นแล้ว
สรุปก็คือการทำมหาสนิทเป้าหมายสองประการ อีกครั้งขอย้ำ 1. เพื่อจดจำ นับอยู่เสมอ ว่าพระคริสต์อยู่ในเรา เอเมน 2. ก็คือเพื่อประกาศข่าวประเสริฐเรื่องการตายบนกางเขนเพื่อไถ่บาปทุกคนจนถึงวันที่พระเยซูจะเสด็จกลับมา ก็คืออยู่ในข้อที่ 26
ข้อ 3. สิ่งที่ 3 ถ้าหากไม่เป็นหนึ่งเดียวกันกับพี่น้อง ยังแตกแยก รักคนโน้น ไม่รักคนนี้ เราจะทำอะไรมันก็ผิดไปหมดสำหรับพระเจ้า อย่าลืมนะครับสิ่งที่พระเจ้าต้องการมากที่สุด ความอะไร? “ความรัก” เอเมน
เราที่เห็นกันต่อหน้าต่อตายังรักกันไม่ได้ แล้วเราจะรักพระเจ้าที่เรามองไม่เห็นได้ยังไง ใช่ไหม เพราะฉะนั้นความรักเป็นสิ่งที่สำคัญ การเป็นคริสเตียนนะครับคือเราขอพระเจ้าให้มีความรัก รักต่อพระเจ้า รักต่อเพื่อนบ้าน รักพี่น้อง รักสุดท้ายก็รักศัตรู เราขอพระเจ้าทุกวันนะครับสิ่งนี้ และไม่นานพระคริสต์ทำแทนก็จะเกิดขึ้นในเรา ความรักก็จะมีมากมายในเรา เราจะรักคนโดยไม่มีเหตุผล ไม่มีข้อแม้ ไม่มีขีดจำกัด เพราะว่าพระคริสต์รักแทนเราแล้ว เอเมน
และอีกประการหนึ่งเข้ามาในคริสตจักรหรือร่วมนมัสการพระเจ้าสามัคคีธรรมร่วมกัน เรามองดูจิตใจของเราว่าเรายังรักคนนี้ แต่อีกคนเรายังไม่รัก เรามีปัญหากับพระเจ้านะครับ ไม่ใช่มีปัญหากับมนุษย์นะ มีปัญหากับพระเจ้า เราต้องปรับต้องแก้ความคิดของเราก่อน “พระเยซูข้าพระองค์รักคนโน้น พระเยซูข้าพระองค์รักคนนี้ อ๋อคนนี้ที่เป็นศัตรูที่ไม่เคยรัก พระเยซูข้าพระองค์รักเขา” พูดไปเลยแล้วสุดท้ายความรักอากาเปจะเข้ามาแทนที่ แล้วมันจะเกิดขึ้นก็คือได้รักเขาจริงๆ
แล้วอย่าลืมว่าในตอนนี้คือมี 4 กลุ่มในคริสตจักรเมืองโครินธ์ มี 4 กลุ่ม ก็คือกลุ่มพระคริสต์ กลุ่มเคฟาสหรือกลุ่มเปโตร และกลุ่มเปาโล แล้วก็กลุ่มอปอลโล 4 กลุ่ม ซึ่งผู้นำเหล่านี้ หรือพระคริสต์เองไม่มีส่วนรู้เห็นกับพวกเขา เพราะเขาตั้งชื่อเอง แล้วก็แย่งชิงกันเป็นใหญ่ ขัดแย้งแตกแยก ซุบซิบนินทา พูดในสิ่งที่เป็นลบต่อกัน นี่คือปัญหาใหญ่ของคริสตจักรเมืองโครินธ์ แล้วไม่ใช่เพียงแต่เท่านั้นนะครับ ก็คือปัญหาใหญ่ในท่ามกลางคริสตจักรศาสนาทุกวันนี้ทั่วไป
ทุกวันนี้คริสตจักรไม่ได้เป็นหนึ่งนะครับ เราเห็นกันใช่ไหม แล้วก็คริสตจักรทุกวันนี้ไม่มีความรักแท้ รักได้บางคน รักคนที่เขารักเรา แต่คนที่เขาไม่รักเรา หรือไม่มีประโยชน์ต่อเรา เราก็ไม่รักเขา อันนี้เป็นปัญหาของคริสตจักรทั่วไป
เพราะฉะนั้นเราที่เป็นพระกายฝ่ายวิญญาณ เรามาถึงพระคำล้ำลึกแล้ว เรามาถึงพระเยซูจนอยู่ในพระองค์ พระองค์อยู่ในเราเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว เราขอความรักของพระเจ้าครอบครองจิตใจของเรา เอเมน
และสิ่งที่ 5. สิ่งที่สำคัญการทำมหาสนิท สิ่งที่ตามมานะครับเราควรนำอาหารมาเพื่อรับประทานร่วมกันกับพี่น้องในพระกาย การรับประทานอาหารร่วมกันเนี่ยเป็นสิ่งหนึ่งที่นำความผูกพันนำความสนิทคุ้นเคย พี่น้องว่าจริงไหม คือมาเยี่ยมกัน พูดคุยกันเฉยๆ มันก็ไม่เท่าไหร่ใช่ไหม แต่พอเจ้าของบ้านชวนกินข้าว ทานข้าวด้วยกันไหม หลังจากทานข้าวนะครับก็คือความสนิทสนมมันจะมีมากกว่ามีมากขึ้น ถูกไหมครับ
เพราะฉะนั้นสิ่งนี้พระเจ้าต้องการให้เราทำก็คือ นำอาหารมาร่วมกัน เปาโลแนะนำตักเตือนพี่น้องว่าจงนำอาหารมา แต่ใครที่หิว หิวมากรอไม่ได้ ไม่รู้ว่าการนมัสการจะยาวไปถึงกี่ชั่วโมงก็ทานที่บ้านก่อนแล้วค่อยมา แล้วทานพร้อมกันเป็นสิ่งที่สมควรนะครับ เอเมน
และในข้อที่ 6. ก็คือการที่เราไม่พิจารณาว่าเราได้พูดได้ทำได้คิดอะไรที่ผิดต่อพระเจ้าแล้วไม่สารภาพ การกินดื่มการร่วมมหาสนิทก็คือจะถูกตีสอน จะมีการตีสอนมาเรื่อยๆ นะครับ
และข้อที่ 7. การลงโทษผู้เชื่อในบึงไฟไม่มีนะครับ ถ้าหากเราที่เชื่อในพระเยซูแล้ว ต้อนรับพระเยซูแล้ว รับบัพติศมาในน้ำแล้ว แล้วก็เข้าสู่การรับบัพติศมาในพระวิญญาณที่พระเยซูมาหาเราไม่เห็น นี่คือการได้รับความรอดนะครับ พระเจ้าประทับตราเรา พระเจ้าจับจองชีวิตของเรา เราจะยังทำบาป เราจะยังมีกิเลสตัณหาโลภโกรธหลงก็ตาม เราได้รอดแล้วแน่นอน คุณจะไม่สูญเสียความรอดของคุณอีกต่อไป เอเมนสรรเสริญพระเจ้า
ถามว่าทำไมคุณได้รอดทั้งๆ ที่คุณยังทำบาปอยู่ เพราะว่าความรอดเป็นของขวัญที่พระเจ้าประทานให้ (อฟ 2:8-9) ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องการปฏิบัติ เรื่องการทำชั่ว เรื่องการทำบาป เรื่องการใช้ชีวิตที่อยู่ในโลกนี้ตามกิเลสตัณหาโลภโกรธหลงของเรา แต่เป็นของขวัญที่พระเจ้าประทานให้โดยพระคุณพระเจ้าความรักเมตตาของพระเจ้าที่มีต่อเราอย่างมากมายเอเมน. เราจะไม่ไปที่บึงไฟหรือนรกนะครับ แต่เราจะถูกตีสอนเมื่อเราทำผิดทำบาปอยู่ การตีสอนก็มีก็ตามมา แต่ถ้าต้องการอยากให้ความผิดบาปของเราเบาลง ร้ายกลายเป็นดี หนักกลายเป็นเบา ยากกลายเป็นง่าย ก็คือสารภาพบาปขอโทษพระเจ้าแล้วขอการชำระจากพระองค์ เอเมน
อีกครั้งสิ่งที่สำคัญที่ผมอยากจะขอย้ำ การทำมหาสนิทร่วมกับพี่น้อง หรือการมาร่วมนมัสการกับพี่น้องในพระกายทุกๆ ครั้ง คุณจะต้องมี 1. ก็คือการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับพี่น้อง อย่าคิดเรื่องการแตกแยก อย่าชวนคนโน้นมาแบ่งกลุ่ม อย่าชวนคนนู้นมาเข้ากลุ่มนี้ แล้วก็คิดไม่ดีคิดลบกับพี่น้องกลุ่มอื่น แล้วสิ่งที่ 2. ก็คือเพื่อประกาศการวายพระชนม์ของพระเยซู
ถามว่าทำบ่อยไหมทำกี่ครั้งต่อเดือนต่อสัปดาห์ คือการทำมหาสนิทแล้วแต่ความสะดวกของเรานะครับ สมัยก่อนก็คือคริสตจักรทำกันทุกวัน ทำทุกวันเขาร่วมสามัคคีธรรมทุกวัน แต่ต่อมาไม่นานเขาก็เริ่มทำเป็นสัปดาห์ละครั้ง มาร่วมนมัสการสัปดาห์ละครั้งเท่านั้นก็คือวันอาทิตย์
แล้วคริสตจักรทุกวันนี้ทำเดือนละครั้ง ก็แล้วแต่นะครับ แล้วแต่ความสะดวก อยากจะทำทุกสัปดาห์ก็ได้ก็แล้วแต่ หรือถ้าเราไม่มีโอกาสคือมันจำเป็นจริงๆ นมัสการออนไลน์ เราก็ไม่ทำ แต่สิ่งที่สำคัญก็คือจดจำว่าพระคริสต์อยู่ในเรา แล้วเมื่อเราออกไปมีโอกาสก็ประกาศข่าวประเสริฐ เอเมน
ถาม.
เอเมนค่ะ คือเราอยู่บ้านก็มี 2 คน กับลูกชาย เวลาเราหักขนมปัง ก็คือใครทำก็ได้ใช่ไหมหรือว่าต้องให้ผู้ชายทำ หรือว่ายังไงค่ะ
ตอบ.
สำหรับกรณีที่มีแค่สองคนเป็นสมาชิกที่อยู่ในบ้านนะครับ ถ้าเป็นพี่น้องชายที่มีอายุมากกว่า หรือเข้าใจพระคำพระเจ้ามากกว่า มีคุณวุฒิที่เหนือกว่าพี่น้องหญิงนะครับก็ทำได้
ส่วนสำหรับพี่น้องหญิง สมมุติว่าถ้าเป็นแม่นะครับ ก็คือเราก็ทำได้ ไม่มีปัญหา เนื่องจากความจำเป็นที่ไม่มีพี่น้องชายที่เป็นผู้อาวุโสกว่าหรือมีคุณวุฒิที่มากกว่า ก็เราทำได้นะครับ
และถ้าหากสมมุติว่าไม่มีขนมปัง ไม่สะดวกที่จะออกไปซื้ออากาศมันหนาวมากหิมะตกหนัก ก็ไม่ออกไปนะครับ เรานำอาหารมาแล้วคิดถึงว่า “ขอบคุณพระเยซูที่พระกายของพระองค์แตกหักเพื่อให้ข้าพระองค์กับลูกชาย กับพี่น้องในพระกายในมานาที่ซ่อนไว้ เป็นหนึ่งเดียวกันเป็นพระกายเดียวกัน ขอบพระคุณพระเยซู และขอบพระคุณพระเยซูที่พระโลหิตของพระองค์หลั่งไหลเพื่อไถ่บาปข้าพระองค์และลูกชาย และทุกคนที่เชื่อในพระองค์ เอเมน” ประมาณนี้ก็ได้ครับ
คือเราอย่ามองที่วัตถุ อย่ามองสิ่งที่เราจับต้องได้ แต่สิ่งที่สำคัญเราต้องมองที่เป้าหมาย เป้าหมายที่พระเยซูทำมหาสนิทเพื่ออะไร แล้วเป้าหมายที่พระเยซูล้างเท้าเพื่ออะไร ทุกสิ่งมันมีเป้าหมายนะครับและสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ขณะที่คริสเตียนศาสนาเขาจะมองไปที่ว่าต้องใช้ขนมปัง ต้องใช้ขนมปังที่ไร้เชื้อ ต้องใช้ขนมปังทำแบบเป็นก้อนเดียวแล้วไปหักตอนที่อยู่ในคริสตจักร คือมันจะมีพิธีรีตองจะมีแบบคือต้องเป็นกฎเกณฑ์อะไรที่มากมาย อันนี้เราไม่เน้น พี่น้องทราบไหมเขาเน้นแบบนั้นเขาให้ความสำคัญกับสิ่งนั้น แต่การเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเขาไม่สนใจ การมีความรักต่อกันและกันเขาไม่สนใจ การประกาศเรื่องการวายพระชนม์เขาไม่สนใจ พี่น้องเห็นภาพไหมครับ
ถาม.
ขอถามข้อที่ 28-29 ครับ "แต่จงให้คนหนึ่งคนใดสำรวจตนเอง และจงให้คนนั้นกินขนมปังนั้นและดื่มจากถ้วยนั้น เพราะว่าคนที่กินและดื่มอย่างไม่สมควร ก็กินและดื่มเพื่อนำพระอาชญามาสู่ตนเอง โดยไม่ได้พินิจดูพระกายขององค์พระผู้เป็นเจ้า" คำว่าสำรวจตนเองก็คือสารภาพบาปใช่มั้ยครับ แล้วก็คำว่ากินดื่มอย่างไม่สมควรก็คือการไม่สารภาพบาป ฉะนั้นเราจะเห็นว่าข้อนี้ก็โยงถึงพี่น้องที่บอกว่าเราไม่ต้องสารภาพบาป ก็จะมีพระอาชญามาสู่เขาด้วยใช่มั้ยครับ
ตอบ.
ขณะที่พี่น้องคริสเตียนที่มาในคริสตจักรนะครับ แล้วอันนี้ก็คือเปาโลเตือนโดยพระวิญญาณเตือนว่า ถ้าสมมุติว่าตื่นนอนตอนเช้า หรือก่อนที่จะมาร่วมกับพี่น้องในพระกายเนี่ยก็คือยังมีความบาปที่ซ่อนอยู่ ยังไม่สารภาพต่อพระเจ้า ก็คือสำรวจ เมื่อสำรวจเสร็จเรารู้ว่า อ๋อ ตรงนี้ ตรงนี้ ก็คือพระวิญญาณบริสุทธิ์จะดลใจให้เรารู้ให้เราจำได้สำนึกได้ว่าเราทำผิดอะไร จากนั้นก็สารภาพทันที ก่อนที่จะกินและดื่มนะครับต้องสารภาพก่อน เอเมน
สำหรับคริสเตียนที่ทำผิดร้ายแรงมากในสมัยนั้นในสมัยสาวก ก็คือความตายมาถึงเขาได้นะครับ เนื่องจากว่าการกินและดื่มของเขาเนี่ยก็กลับไปอยู่ในการใช้ชีวิตที่เต็มด้วยกิเลสตัณหาโลภโกรธหลง ความบาปเต็มในชีวิตของเขา ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี คนอื่นเขามองเห็นว่าคนนี้เป็นคริสเตียน คนนี้มาร่วมกับคริสตจักรในเมืองโครินธ์ แต่ไปใช้ชีวิตเหมือนกับชาวโลก ดื่มจนมึนเมา คือใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสมนะครับ อันนี้พระเจ้าอาจจะเอาชีวิตเขาไปเพื่อเขาจะไม่ต้องใช้ชีวิตที่ไม่ถวายเกียรติแด่พระเจ้าอีกต่อไป
ถาม.
แล้วอย่างที่อยู่คนเดียวนี่ต้องกินไหมค่ะมหาสนิท ขนมปังกับน้ำองุ่นนะคะ
ตอบ.
การอยู่คนเดียวไม่จำเป็นต้องทำครับ เราไม่ทำครับเพราะว่าเป็นเรื่องของพระกายนะครับ
เราเข้าใจกันนะครับว่าการทำมหาสนิท พระกายของพระเยซูที่พระองค์หยิบขนมปังขึ้นมาที่เป็นก้อนเดียว หลังจากนั้นพระองค์ก็หัก ขนมปังในที่นี้ไม่เหมือนขนมปังที่เราเห็นตามท้องตลาดนะครับ ก็คือมันจะเป็นแผ่นแป้ง แป้งไร้เชื้อที่เป็นแผ่น ชาวยิวเขาจะทำให้มันแห้งๆ แล้วมันจะหักได้ง่าย หรือฉีกแล้วก็แจกให้ผู้คนสมาชิกในครอบครัว หรือเพื่อนที่มาเยี่ยม รับประทานอาหารร่วมกัน อาจจะกินกับเนื้อแกะบ้างเนื้อวัวบ้างอะไรบ้าง
ไม่เหมือนกับขนมปังที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ คือ Breadไม่ใช่นะครับ แต่เป็นแผ่น เราเห็นชาวอาหรับชาวตะวันออกกลางที่เขากินกันอยู่ใช่ไหม เป็นแผ่น เขาปิ้งให้มันใกล้จะกรอบๆ หรือให้ข้างในอาจจะเป็นเนื้อที่นุ่มบ้าง แต่ที่สำคัญมันจะเป็นแผ่นครับ
สำหรับวันนี้ก็คือพระองค์ให้เราได้เรียนรู้ว่าการล้างเท้า ก็คือ เพื่อให้มีส่วนในพระคริสต์ในฝ่ายวิญญาณ แต่สำหรับการทำมหาสนิทก็คือ เพื่อให้จดจำว่าพระเยซูอยู่ในเราอยู่กับเราตลอดเวลา ไม่ใช่ระลึกถึงการตายที่กางเขนของพระเยซูเมื่อสองพันปีก่อน ไม่ใช่นะครับ แต่เพื่อประกาศการวายพระชนม์ เพื่อประกาศข่าวประเสริฐว่าพระเยซูเสด็จลงมาเป็นมนุษย์และตายเพื่อไถ่บาปเราทุกคน ให้เขามีโอกาสได้รับความรอดเหมือนกับพวกเรา เอเมน
สำหรับเรื่องการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สำหรับการล้างเท้ากันและกัน เมื่อเราร่วมสามัคคีธรรมกันวันไหน สมมุติว่าวันนี้เป็นวันอาทิตย์นะครับ วันนี้ทั้งวันเราส่วนมากแล้วก็พี่น้องคริสเตียนฝ่ายวิญญาณทั่วไปเขาจะพูดถึงแต่เรื่องนี้คือจะนำมากินต่อ ก็คือพูดถึงเรื่องว่า อ๋อ มหาสนิทเป็นแบบนี้นะ อ๋อเข้าใจชัดเจนตรงนี้ แต่ยังไม่เข้าใจข้อนี้ ก็คือคุยกันสามัคคีธรรมกันในกลุ่มไลน์พวกเรา พรุ่งนี้ก็พูดถึงมะรืนนี้ก็พูดถึงนะครับ แล้วก็กินอาหารที่พี่น้องแบ่งปันเข้ามาบ้าง แล้วน้องชายกันก็ส่งก็ทำหน้าที่ เราก็กินนะครับ น้องวิส่งมาเราก็กินนะครับ แล้วเรื่องที่สำคัญเราย้ำเตือนพี่น้องว่าวันอาทิตย์วันนี้เราคุยกันเรื่องอะไร เรากินพระคำพระเจ้าเรื่องอะไร เพื่อเตือนใจกันและกัน การที่จะพูดถึงบ่อยๆ ก็คือทำให้เราจดจำ ทำให้เราเข้าใจมากขึ้น เอเมน
จุดอ่อนของคริสตจักรทั่วไปก็คือ นมัสการพระเจ้า คำเทศนาพอฟังจบ ออกมาจากโบสถ์ก็คือลืมไปแล้ว นี่คือจุดอ่อนของคริสเตียน
แต่สำหรับพวกเรา เราจะกิน เราจะอ่าน เราจะกิน เราจะอ่าน จนถึงวันไหนก็แล้วแต่ แล้วแต่พระเจ้าจะอนุญาต เป็นสิ่งที่สำคัญมากเป็นสิ่งที่เราควรทำ เอเมน
สามัคคีธรรมจบ แต่พระคำพระเจ้ายังไม่จบ (กินต่อไป) https://youtu.be/pvIj3l5asOA
1. มหาสนิทไม่ใช่พิธี แต่คือการร่วมดื่มกินเพื่อจดจำว่าพระคริสต์อยู่ในเราและอยู่ท่ามกลางพระกายทุกครั้งที่เราร่วมสามัคคีธรรม
- ปัญหาคือ คริสตจักรส่วนมากไม่เห็นพระเยซูท่ามกลางพวกเขา ความคิดจะอยู่ที่เพลงนมัสการ คำเทศนา มองลบ
2. การทำมหาสนิทไม่ใช่เพื่อจดจำหรือคิดถึงการตายของพระเยซูเพื่อไถ่บาปเราที่กางเขน แต่เพื่อการประกาศการตายเพื่อไถ่บาปเรา
- เนื่องจากว่าคริสตจักรศาสนามีความคิดที่เป็นรูปแนวศาสนาที่ไม่รู้ว่าเข้ามาด้วยคนใหม่และพระคริสต์ในเรา เขาจึงคิดถึงพระเยซูเป็นบางเวลา
- หลายคริสตจักรต้องอันเชิญพระเยซูและพระวิญญาณเสด็จมา แต่ มธ 18:20 กล่าวว่า ด้วยว่าสองคนหรือสามคนประชุมกันที่ไหนๆ ในนามของเรา เราก็อยู่ท่ามกลางพวกเขาที่นั่น”
- สรุปคือ การทำมหาสนิทเพื่อเป้าหมายสองประการ 1. เพื่อจดจำ+นับอยู่เสมอว่าพระคริสต์อยู่ในเรา และ 2. เพื่อประกาศข่าวประเสริฐเรื่องการตายบนกางเขนเพื่อไถ่บาปทุกคนจนถึงวันที่พระองค์เสด็จกลับมา (1 คร 11 ข้อ 26)
3. การร่วมพระกาย ถ้าหากไม่เป็นหนึ่งเดียวกันกับพี่น้อง ยังแตกแยกรักคนโน้นไม่รักคนนี้ เราจะทำอะไรก็ผิดไปหมดสำหรับพระเจ้า
- เรามาร่วมกับพี่น้องก็ดี เรารักพระเจ้าก็ดี แต่จะให้ดีกว่าคือการนำคนใหม่เข้ามา คนใหม่ที่มีความรักต่อพี่น้อง ไม่แตกแยกแบ่งแยกแต่เป็นหนึ่งเดียวกันกับทุกคน
4. เมื่อพวกเขาตั้งชื่อกลุ่ม สาวกและพระคริสต์ไม่มีส่วนรู้เห็นกับพวกเขาเลย
5. การทำมหาสนิท เราควรนำอาหารเพื่อมาร่วมรับประทานกับพี่น้องพระกาย เรารอเพื่อกินพร้อมๆ กัน ถ้าหิวก็กินที่บ้านก่อน
6. เราต้องพิจารณาว่าเราได้ทำผิดอะไรบ้างต่อพระเจ้า จากนั้นก็สารภาพและกินดื่มได้ ถ้าไม่อย่างนั้นจะถูกตีสอน
7. การลงโทษผู้เชื่อในบึงไฟไม่มี แต่จะมีก็ตอนที่เรายังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้
- การเข้ามีส่วนร่วมกับพี่น้องในมหาสนิท เราต้องมีหัวใจที่เป็นหนึ่งเดียวกันกับทุกคนในพระกาย เรารักทุกคน เราช่วยล้างเท้ากันและกัน เรื่อง จดจำว่าพระคริสต์อยู่ในเราทุกเวลา ถ้าทำไม่ได้ก็สารภาพและขอการชำระเพื่อการเติบโต
* การพูด/อธิษฐาน และพี่น้องเอเมน ให้มีจังหวะ ประโยค เพื่อให้พี่น้องได้ร่วมเอเมนด้วย อย่าพูดยาวเกินไป
* คริสตจักรมากมายสะสมโทษ เนื่องจากว่าทำไม่ถูกและอย่างไม่สมควร
* ประเด็นเรื่อง การล้างเท้า "เพื่อจะมีส่วนในพระคริสต์" เราดูหนังฟังเพลงซีรี่ ต้องกลับมา พี่น้องจึงมีบทบาทที่สำคัญมากเพื่อติดต่อหาและเตือนใจกันและกัน
* การล้างเท้าเพื่อเข้ามีส่วนในพระคริสต์เยซู ส่วนการทำมหาสนิทเพื่อ 1. จดจำว่าพระคริสต์อยู่ในเรา 2. ประกาศข่าวประเสริฐเรื่องการตายของพระเยซูเพื่อไถ่บาปของทุกคน
* การงานของซาตานคือเมื่อเราออกจากพระคำพระเจ้าไปในวันนี้ มันจะนำเรื่องราวมากมายที่อยู่ล้อมรอบเรา ในมือถือของเรา เพื่อชักกนำเราออกจากการจดจำว่า พระคริสต์อยู่ในเราและลืมเรื่องประกาศข่าวประเสริฐของพระเยซู (แต่พระวิญญาณต้องการช่วยเราโดยให้พี่น้องสามัคคีธรรมและพูดถึงเพื่อล้างเท้ากันและกัน)