9:24 ท่านไม่รู้หรือว่าคนเหล่านั้นที่วิ่งแข่งกัน ก็วิ่งด้วยกันทุกคน แต่คนที่ได้รับรางวัลมีคนเดียว เหตุฉะนั้นจงวิ่งเพื่อชิงรางวัลให้ได้
** สำหรับคริสเตียนศาสนา พวกเขาคิดแค่เพียงว่าเขาเป็นสมาชิกโบสถ์ แต่สำหรับพระเจ้า ผู้เชื่อเป็นชาวนา คนต้นเรือน สาวก คนงานในสวนองุ่น ปุโลหิตหลวง และในข้อนี้ผู้เชื่อเป็นนักกีฬาหรือนักวิ่งแข่งเพื่อแข่งขันเข้าเส้นชัย
** วิ่งด้วยกันทุกคน แต่คนที่ได้รับรางวัลมีคนเดียว คือผู้เชื่อทุกคนแข่งกันเดินในพระวิญญาณ เดินด้วยคนใหม่และให้พระคริสต์ดำเนินชีวิตแทนเราเพื่อเกิดผลของพระวิญญาณในเราแทนเราผ่านเรา ผู้ที่ได้รับชัยชนะได้รับรางวัลก็คือพระคริสต์ในเราทุกคนที่เป็นผู้ชนะ เราไม่มีใครที่ได้ชัยชนะแต่พระคริสต์ต่างหาก หน้าที่ของเราคือถวายตัวเป็นอวัยวะเพื่อให้พระคริสต์วิ่งแทนทำแทนทุกสิ่งทุกเรื่อง
9:25 ฝ่ายนักกีฬาทุกคนก็เคร่งครัดในระเบียบทุกอย่าง แล้วเขากระทำอย่างนั้นเพื่อจะได้มงกุฎใบไม้ซึ่งร่วงโรยได้ แต่เรากระทำเพื่อจะได้มงกุฎที่ไม่มีวันร่วงโรยเลย
** เคร่งครัด คือผู้เชื่อที่สุกงอม เติบโตเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณแล้ว จึงเลิกทำบาปและชีวิตติดสนิทในพระคริสต์ในแต่ละวัน ไม่ใช่เราเองที่เคร่งครัดด้วยฝืนใจบังคับใจ เมื่อเราสนิทมากอาการเคร่งครัดของพระคริสต์ก็เกิดมีขึ้นภายในเรา
** นักกีฬาฝ่ายโลกนี้ได้รับรางวัลที่มีวันร่วงโรย แต่นักกีฬาของพระคริสต์จะได้รับตำแหน่งเพื่อเป็นบำเหน็จของพวกเราเพื่อที่จะมีส่วนครอบครองกับพระองค์ไปจนชั่วนิรันดร์
9:26 ดังนั้นส่วนข้าพเจ้าวิ่งแข่งอย่างนี้โดยมีเป้าหมาย ข้าพเจ้าได้ต่อสู้อย่างนี้ ไม่ใช่อย่างนักมวยที่ชกลม
** คริสเตียนศาสนาเมื่อมีใจ ขยัน ไม่พบปัญหา ก็ทำ แต่พอเจอะเจอปัญหาและอุปสรรคมากมายก็หนีหรือไม่เดินไปกับพระเจ้าหรือละทิ้งพระเจ้า ไม่ถือว่าการเดินในความเชื่อและการรับใช้คือสิ่งที่ต้องใส่ใจและเป็นสิ่งที่พระเจ้านำเรามาสู่พระคริสต์ ผู้เชื่อฝ่ายวิญญาณจะยึดหลักในการดำเนินชีวิตและการรับใช้ การฝึกเดินในแต่ละวันเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นสำหรับพวกเรา เราจึงควรใส่ใจจริงจังกับชีวิตในพระคริสต์การฝึกเดิน การวิ่งแข่งและการสนิทในพระองค์
9:27 แต่ข้าพเจ้าระงับความปรารถนาฝ่ายเนื้อหนังให้อยู่ใต้บังคับ เพราะเกรงว่าโดยทางหนึ่งทางใดเมื่อข้าพเจ้าได้ประกาศแก่คนอื่นแล้ว ตัวข้าพเจ้าเองจะเป็นคนที่ใช้การไม่ได้
** เปาโลเดินในพระวิญญาณ ท่านสนิทในพระคริสต์จนสามารถทำให้เนื้อหนังและตัวบาปอ่อนกำลังและอยู่ใต้บังคับของท่าน ทั้งนี้ทั้งนั้นนี่คือผลของพระวิญญาณที่กระทำกิจในท่าน ผู้ที่ประกาศมานาหรือประกาศ (ตัวตน-ชีวิตของ) พระคริสต์จึงเป็นผู้ที่สำแดงชีวิตพระคริสต์ เกิดผลพระวิญญาณได้ไม่มากก็น้อย ถ้าไม่มีผลอะไรเลยที่เป็นของคนใหม่และพระคริสต์ทำแทนก็เท่ากับใช้การไม่ได้
**คำถาม**
1. มงกุฎที่ไม่มีวันร่วงโรย คือบำเหน็จรางวัลที่จะได้รับในยุคหน้าและสืบไปชั่วนิรันดร์ใช่หรือไม่ครับ?
คำตอบ:
- คือตำแหน่งของคนที่รักและอยู่ใกล้พระเยซูมากที่สุด สนิทมากที่สุดในชีวิตนี้ เขาจะได้รับสิทธิอำนาจมากน้อยตามการได้สนิทในพระคริสต์บอกรักพระคริสต์ ตำแหน่งนี้จะเป็นของเขาในยุคพันปีและแผ่นดินโลกใหม่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงครับ
**คำถาม**
2. นักกีฬาก็ต้องเคร่งครัดในการฝึกเพื่อจะประสบผลสำเร็จในกีฬาของเขาฉะนั้นสมัยเป็นคริสเตียนศาสนาผู้เชื่อเราก็เคร่งครัดในการฝึกเดินในเรื่องของฝ่ายวิญญาณคือพยายามรับใช้พยายามทำดีเชื่อฟังพยายามเลิกบาปและพยายามใส่ใจการติดสนิทแต่ทำด้วยตัวเก่าเพราะไม่รู้เรื่องการทำด้วยตัวใหม่ แต่ไม่มีคำว่าให้พระคริสต์ทำผ่านตัวใหม่เหมือนผู้เชื่อที่ได้รับการเปิดตาแล้ว
คำถามคืออะไรคือความแตกต่างหรือข้อแตกต่างของคำว่าเคร่งครัดระหว่างคริสเตียนศาสนากับคริสเตียนฝ่ายวิญญาณครับ?
คำตอบ:
- เคร่งครัด ในที่นี้ คือพระคริสต์เคร่งครัดในเรา บังคับตนก็คือพระคริสต์เป็นคนทำในเรา เป็นผลที่ได้มาจากการสนิทฝึกเดินในพระวิญญาณ
- นางมารีย์ไม่ได้พยายาม ขยันทำอาหาร กังวลว่าจะไม่พอกิน แต่นางนั่งนิ่งใกล้พระบาทของพระเยซู แต่ต่อมานางเป็นผู้ที่เกิดผลมากด้วยคนใหม่ที่มีพระคริสต์รักษาชีวิตให้เคร่งครัดและกระทำกิจทุกด้านในชีวิตของนาง
**คำถาม**
3. คริสเตียนฝ่ายวิญญาณเราต้องเคร่งครัดอย่างไรบ้างครับ?
คำตอบ:
- เราปล่อย วาง ไม่ต้องเคร่ง แต่เน้นที่การฝึกสนิท บอกรัก และเดินด้วยความเชื่อที่เป็นความจริงของพระเจ้าที่ทำสำเร็จแล้วในพระคริสต์ อาการเคร่งครัดของพระคริสต์ก็จะเกิดขึ้นภายในเราโดยเรารู้สึกว่าเราบังคับตนได้ง่ายมากๆ
9:26 ดังนั้นส่วนข้าพเจ้าวิ่งแข่งอย่างนี้โดยมีเป้าหมาย ข้าพเจ้าได้ต่อสู้อย่างนี้ ไม่ใช่อย่างนักมวยที่ชกลม
** เป้าหมายของผู้ชนะ คืออาณาจักร คริสเตียนศาสนาไม่เคยรู้ว่าเขาเป็นนักมวยหรือนักกีฬาที่ต้องวิ่งแข่ง เขาไม่พบอาณาจักร และคิดว่าไปสวรรค์คือเป้าหมายของเขา ทั้งบางครั้งก็กลัวว่าจะไม่รอด เขาจึงเป็นเหมือนนักมวยที่ชกลม
**คำถาม**
4. เป้าหมายของเปาโลในการวิ่งแข่ง ก็คือการเป็นผู้ชนะหรือการมีชีวิตที่พระคริสต์ทำแทนในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่และเพื่อเข้าไปในอาณาจักรสวรรค์เพื่อไปรับรางวัลในยุคหน้าใช่ไหมครับ?
คำตอบ:
- ใช่ครับ
**คำถาม**
5. การต่อสู้และการวิ่งแข่งของเปาโล ในที่นี้ คือการฝึกเดินในวิญญาณตามแบบที่ท่านได้สอนไว้ใช่หรือไม่ครับ
คำตอบ:
- ใช่ครับ
9:27 แต่ข้าพเจ้าระงับความปรารถนาฝ่ายเนื้อหนังให้อยู่ใต้บังคับ เพราะเกรงว่าโดยทางหนึ่งทางใดเมื่อข้าพเจ้าได้ประกาศแก่คนอื่นแล้ว ตัวข้าพเจ้าเองจะเป็นคนที่ใช้การไม่ได้
**คำถาม**
6. ผมเชื่อว่าคริสเตียนศาสนาเขาก็พยายามวิ่งแข่งเหมือนกัน ส่วนคริสเตียนฝ่ายวิญญาณเราต้องทำอย่างไรเพื่อจะไม่เหมือนการวิ่งแข่งเหมือนกับคริสเตียนศาสนาครับ
ขอบเขตของการวิ่งแข่งของคริสเตียนฝ่ายวิญญาณเราควรทำอย่างไรในเชิงปฏิบัติเพื่อจะไม่เป็นแบบคริสเตียนศาสนาครับ?
คำตอบ:
- คริสเตียนศาสนาชกลมไม่ได้ชกให้โดนหน้าคู่ต่อสู้ เขาพลาดเป้าในการดำเนินชีวิตในความเชื่อเพราะว่าเขาตาบอดฝ่ายวิญญาณ หลงทาง เขาจึงเดินด้วยตัวเก่า ใช้กำลังของอาดัม หวังเพียงว่าจะได้รอดไปสวรรค์ เกลียดชังพี่น้อง ไม่ได้รักและสนิทในพระคริสต์อย่างแท้จริง
- ส่วนคริสเตียนฝ่ายวิญญาณ เราชกโดนหน้าคู่ต่อสู้ เพราะว่าเป้าหมายของเราคืออาณาจักร เราได้พบอาณาจักรแล้ว เรารู้ว่าพระคริสต์อยู่ในเราและรู้วิธีการสริทในพระคริสต์เป็นอย่างดี เราเดินด้วยเอารักเป็นหลักเป็นที่หนึ่งและพระคริสต์เป็นผู้ดำเนินชีวิตแทนเรา เราต่ำถ่อมยอมเสียเปรียบได้จริงๆ ในโลกที่เป็นเงาหรือชั่วคราวใบนี้
พลาดเป้า
เข้าเป้า
เราขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับความรอด (จากบึงไฟ) ซึ่งเราได้รับโดยพระคุณพระเจ้าทางความเชื่อของเรา
ความรอดดังกล่าวเป็นของขัวญที่พระเจ้าประทานให้เราฟรีโดยไม่คิดค่าอะไร เพื่อที่จะไม่มีใครอวดได้
เนื่องจากว่าเป็นผลที่มาจากการกระทำของพระคริสต์เพื่อไถ่หนี้บาปเรา
จากนั้นของแถมก็ยังตามมาคือสันติสุขที่เป็นเหมือนแม่น้ำแห่งชีวิตซึ่งเราจะไม่กระหายอีกเลยถ้าหากเรารู้วิธีดื่มกิน สิ่งนี้เรียกว่าพระคุณพระเจ้า
แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่พระเจ้าประทานให้เราทั้งหลาย นั่นก็คือมงกุฎ หรือตำแหน่งในยุคหน้าและแผ่นดินโลกใหม่
มงกุฎหรือตำแหน่งของเราขึ้นอยู่กับการทำงานของเราอย่างสัตย์ซื่อ ขยัน อดทน เคร่งครัด รู้จักบังคับตน รักพระเจ้า รักเพื่อนบ้าน รักศัตรู กระทำคุณให้ เป็นเหมือนเด็กเล็กๆ ที่ไม่ช่างจดจำความผิด อภัยเจ็ดสิบคูณเจ็ดได้
มธ 19:21-26
19:21 พระเยซูตรัสแก่เขาว่า “ถ้าท่านปรารถนาจะเป็นคนดีพร้อม จงไปและขายบรรดาสิ่งของซึ่งท่านมีอยู่ และแจกจ่ายให้คนยากจน และท่านจะมีทรัพย์สมบัติในสวรรค์ และจงมาและตามเราไป”
19:22 แต่เมื่อคนหนุ่มนั้นได้ยินถ้อยคำนั้น เขาก็จากไปเป็นทุกข์ เพราะเขามีทรัพย์สิ่งของเป็นอันมาก
19:23 แล้วพระเยซูตรัสกับพวกสาวกของพระองค์ว่า “เรากล่าวความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนมั่งมีจะเข้าในอาณาจักรแห่งสวรรค์ด้วยความยากลำบาก
19:24 และอีกครั้ง เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายว่า ตัวอูฐจะลอดรูเข็มก็ง่ายกว่าคนมั่งมีจะเข้าในอาณาจักรของพระเจ้า”
19:25 เมื่อพวกสาวกของพระองค์ได้ยินดังนั้น พวกเขาก็ประหลาดใจยิ่งนัก โดยทูลว่า “ถ้าอย่างนั้นใครจะรอดได้”
19:26 แต่พระเยซูทอดพระเนตรดูพวกเขา และตรัสกับพวกเขาว่า “สำหรับมนุษย์สิ่งนี้เป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับพระเจ้าสิ่งสารพัดก็เป็นไปได้”
ในหนังสือมัทธิวพระเยซูประทานพระบัญญัติ แต่ในหนังสือยอห์น พระเยซูประทานพระวิญญาณของพระองค์เองเป็นตัวแทนพระเจ้าทั้งสาม เป็นผู้ดำเนินชีวิตแทนเรา (the life liver )
- พระบัญญัติใหม่ของพระเยซูไม่อนุญาตให้ตัวเก่ามารักษา
- พระบัญญัติใหม่ คือพระบิดาให้พระคริสต์ต้องทำแทน เรียกว่าอยู่ใต้พระคุณ
- คริสเตียนมากมายอยู่ใต้พระบัญญัติเพราะว่าเขาไม่รู้ว่าเดินด้วยตัวใหม่แบบไหนอย่างไร พอเชื่อก็ดีใจตื่นเต้นอยากรับใช้ทั้งที่ไม่ได้เรียนรู้เรื่องคนใหม่คนเก่า อยู่ใต้พระบัญญัติและใต้พระคุณคืออะไรทำอย่างไร
- เมื่อเขาอยู่ใต้พระบัญญัติ เสื้อเก่าก็ขาดกว้างกว่าเดิม ถุงหนังก็ขาด
- เราพบว่าผู้ที่เชื่อยังหน้าซื่อใจคดมากกว่าคนที่ไม่เชื่อเสียอีก
- คนที่เชื่อหย่าร้างมากกว่าคนที่ไม่เชื่อ
- คนที่เชื่อเกลียดชัง อิจฉากันชอบนินทากัน มากกว่าคนที่ไม่เชื่อเสียอีก
- ทันทีที่เราได้เข้าสู่พระคำแห่งความจริง เราจึงมีพระคริสต์ก่อร่างขึ้นภายในเราและเปลี่ยนเราได้ จากชีวิตที่แบกภาระหนักแอกหนักกางเขนหนักการงานหนักกลายเป็นแอกเบากางเขนเบาภาระเบา อยู่ในการพักผ่อน
การเคร่งครัด การร้อนรน วิ่งแข่งเข้าอาณาจักร คือการกระทำของพระเจ้าในเรา กท 5:22-23 / ฟป 2:13 เพราะว่าพระเจ้าเป็นผู้ทรงกระทำกิจอยู่ภายในท่าน ทั้งให้ท่านมีใจปรารถนาและให้ประพฤติตามชอบพระทัยของพระองค์ (For it is God which worketh in you both to will and to do of his good pleasure.)