ถาม.
ตอนเราเดินในวิญญาณใกล้ชิดสนิทกับพระองค์มากขึ้น ตอนนั้นพระเจ้าเร้าใจพูดคุยกับพระองค์มากขึ้นทุกวันๆ ไปทำงานก็พูดคุยกับพระองค์มากขึ้นทุกวัน พอมาตอนนี้ปัญหาก็มีขึ้นมากทุกวัน ขอบคุณพระเจ้าแม้ปัญหาจะเข้ามามากมายใหญ่มาก ยิ่งใหญ่มากขึ้นทุกวัน ขอบคุณพระเจ้าที่พระเจ้าทำงานผ่านชีวิตใหม่นี้ ทำให้เราแบบว่าสิ่งที่มันเคยเสียดายเคยรัก แต่ตอนนี้ก็ขอบคุณพระเจ้าที่พระเจ้าคิดแทนทำแทนแล้วก็อดทนนานแทนทำให้ปัญหาที่เข้ามา คือสิ่งที่เราเคยเสียดายสิ่งที่เราเคยคิดว่ารักมาก แต่ตอนนี้เฉยๆ
ตอบ.
อย่าลืมนะครับเมื่อเราฝึกเดินมากเท่าไหร่ เมื่อเรารับการเปิดตามากเท่าไหร่ ปัญหาก็มีมากขึ้น การทดลองก็มีมากขึ้น คือพระเจ้าต้องการหล่อหลอมก่อเราขึ้น ถ้าปราศจากปัญหา ก็เป็นไปไม่ได้
เพราะฉะนั้นขอให้เราเข้าใจ แสงแดดเป็นสิ่งที่ต้นไม้ต้องการฉันใด ปัญหาก็เป็นสิ่งที่เราจะต้องเจอฉันนั้น เพื่อการเติบโต
แต่อย่าลืมนะครับพระเยซูอยู่ด้วย อย่าลืมนะครับพระเยซูปลอบประโลม อย่าลืมนะครับพระเยซูเป็นพลัง อย่าลืมนะครับพระเยซูเป็นสันติสุข
พระเยซูไม่เคยห่างเราไปไหนเลย ขอให้เราคิดถึงสิ่งนี้นะครับ เพราะว่าตอนที่เราเจอปัญหาส่วนมากเรามักจะลืมพระองค์ และคิดว่าพระองค์ไม่ใส่ใจ พระองค์ไม่แคร์ พระองค์ไม่ดูแล พระองค์ไม่อยู่ใกล้ แต่แท้ที่จริงแล้วพระองค์อยู่ใกล้เรามากๆ ขอเพียงแค่เราสังเกต เชื่อ แล้วเราจะได้เห็นและได้สัมผัสพระองค์ เอเมน
...
ถาม.
อยากทราบว่าเมื่อเราเห็นคนทำผิดกฎหมาย เราได้รับผลกระทบทั้งโดยตรงและทางอ้อม เราจะแจ้งความดีไหมหรือว่าเราจะปล่อยผ่านเฉยๆ ไป แล้วก็อธิษฐานแค่นั้น
ตอบ.
เราต้องดูที่ว่าเหตุการณ์นั้นๆ ร้ายแรงแค่ไหน ร้ายแรงมากก็อธิษฐานมาก แล้วก็ขอพระวิญญาณนำเรา ถ้าเกิดมีอาการร้อนรนร้อนใจ หรืออะไรบางอย่างที่เตือนเราที่บอกเราว่าจะทำยังไงดี สำหรับคริสเตียนที่เข้าใกล้พระเจ้ามากๆ แล้วก็จะสัมผัสได้บ่อยได้เยอะได้มาก
แต่ถ้าหากว่าเราที่ฝึกใหม่ๆ แล้วยังไม่ได้รับการสัมผัสจากพระวิญญาณมากเท่าไหร่ หรือไม่ได้รับคำตอบจากพระเจ้าเมื่ออธิษฐาน
ต้องดูเหตุการณ์ว่ามันร้ายแรงมากเท่าไหร่มากแค่ไหน ถ้าปล่อยได้ก็ปล่อย ถ้าไม่เกี่ยวอะไรกับเรามากเกินไปก็โอเค แต่ถ้ามันเกี่ยวข้องเป็นเรื่องใหญ่ ก็คือทางกฎหมายก็จำเป็นนะครับ
...
ถาม.
เพราะว่าอย่างในกรณีที่แบบว่าเขาเสพยาอยู่ในบริเวณบ้าน มันก็ส่งกลิ่นเข้ามาในบ้านเรา แล้วเราก็บอกหลายครั้งแล้ว เขาก็เงียบไป 2-3 วัน ก็เป็นอีก เราเห็นเรารู้ เราจะเฉยๆ ดีไหมหรือว่าเราจะขอความช่วยเหลือจากตำรวจไหม
ตอบ.
ข้อแรกเราอธิษฐาน ข้อที่สองก็คือให้ตำรวจช่วยเราถ้าเป็นได้ คือสำหรับบางที่บางแห่งถ้าไปแจ้งความ แล้วคนที่เขารู้ว่าเราไปแจ้งความก็จะเอาเรื่องเราก็จะมาทำร้ายเรา ตรงนี้นะครับก็ใช้พระคัมภีร์ที่พระเยซูสอนนะครับ คือฉลาดเหมือนงู
สำหรับบางที่บางแห่งก็คือโทรไปบอก แล้วไม่ต้องบอกว่าเราเป็นใคร ว่ามีคนร้ายมีคนที่ทำไม่ดีไม่ร้ายอยู่แถวๆ บ้านเราครับ
...
การช่วยเหลือของพระเจ้าย่อมจะเกิดผลสิ่งที่ดีตามมาภายหลัง ถ้าหากเราแก้ไขเองก็ดีอยู่ แต่ไม่ 100% อาจจะมีผลร้ายหรืออาจจะดี แต่สำหรับพระเจ้ายื่นมือเข้ามาช่วยแน่นอนที่สุดครับ มีแต่สิ่งที่ดีเกิดขึ้นเท่านั้น และการที่จะให้พระเจ้าเข้ามาช่วยก็ต้องเรียนรู้ในการวางใจในพระองค์ ต้องวางใจ และรอคอย บางครั้งพระเจ้าอาจจะช้านิดนึง พระเจ้ามีเหตุผลว่าต้องช้าต้องถึงเวลาของพระองค์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพอพระเจ้าช่วยเราทุกสิ่งก็ดี เอเมน
...
ถาม.
ในกรณีที่ว่า สมมุติว่าเราอยู่คนเดียวแล้วโจรมาบุกรุกประชิดถึงตัว แน่นอนเรามีปืนเรายิงแน่นอน ถ้าเราไม่ยิงเขา เขาก็ยิงเรา ช่วยอธิบายหน่อยถ้าเกิดไปฆ่ามันเราผิดบาปไหม
ตอบ.
30 กว่าปีที่ผมเป็นคริสเตียน อยู่ในสังคมศาสนา แม้แต่ คริสเตียนศาสนาก็เจอเหตุการณ์แบบนี้ หลายคนเป็นพยานนะครับ เมื่อเราเจอเหตุการณ์แบบนี้เราอธิษฐานเราขอพระเจ้าช่วยเรา เชื่อนะครับการอัศจรรย์เกิดขึ้น คนที่ใจแข็งกระด้างคนที่ใจโหดร้ายที่จะฆ่าใครได้ อยู่ดีๆก็ใจอ่อน อยู่ดีๆก็ยอม เราเห็นกันบ่อยใช่ไหม เพราะฉะนั้นพระเจ้ายิ่งใหญ่ อย่าลืมนะครับพระเจ้ายิ่งใหญ่และพระเจ้าช่วยเราได้
เราที่มีพระเยซู เราไม่ต้องกลัวเหตุการณ์อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นกับเรา เมื่อเราขอ วิงวอน อ้อนวอน ทูลขอ ขอความเมตตาขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า เราจำกันได้ใช่ไหมผมพูดบ่อยมาก หนักก็จะกลายเป็นเบา ยากก็จะกลายเป็นง่าย สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ก็จะเป็นไปได้สำหรับพระเจ้า
เพราะฉันไม่ต้องกลัวนะครับเหตุการณ์ตอนนั้นที่เกิดกับเรา ก็คือหลับตาอธิษฐานนึกในใจเร็วๆ พระเยซูเมตตาด้วย และสำหรับพระเจ้าคำตอบก็มาเร็วเมื่อถึงเวลาที่กะทันหัน
...
ถาม.
แสดงว่าพระเจ้าก็ไม่ให้เราไปฆ่าเขาเหมือนกันแหละพระเจ้าก็บังคับช่วยเราก่อน
ตอบ.
เรื่องการฆ่าคนแน่นอนที่สุดครับ เป็นสิ่งที่พระเจ้าไม่ต้องการให้เราทำนะครับ ขอให้จำสิ่งหนึ่งนะครับคือพระเจ้ามีทางออกสำหรับเราทุกๆ คน และเมื่อถึงเวลาที่พระเจ้าจะช่วยยื่นมือเข้ามาช่วย ก็คือเวลาที่เราทางตันแล้ว ไม่มีทางออกแล้ว หมดทางแล้ว
...
ถาม.
ขอถามครับพอดีว่าผมต้องทำงานกับชาวโลก ที่นี้มันเกิดมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องอารมณ์ แล้วบางทีผมก็แบบอารมณ์ไม่คอยจอยกับเพื่อนร่วมงานเพราะเขาเรื่องมาก (ผมก็เลยขอพระเจ้าขอให้เพื่อนร่วมงานคนนั้นไม่สบายไป 3 วัน เพราะว่าลูกไม่ชอบหน้าเขาเลยเขาพูดไม่ดี) แล้วปรากฏว่าเขาไม่สบายไป 3 วันเลยอยู่ดีๆ เขาก็ไม่สบายกะทันหันไป 3 วัน อันนี้คือ ได้มาจากพระเจ้าไหมครับหรือว่ามาจากซาตาน
ตอบ.
น่าจะเป็นเพราะว่าพระเจ้าสงสารเรา ที่เรามีความอดทนน้อย ก็เป็นไปได้ พระเจ้ารักลูกของพระองค์มากกว่าคนอื่นก็เป็นไปได้ แต่คราวหน้าคราวหลังนะครับขอให้เห็นใจเขา ถ้าเขาไม่มาทำงาน 3 วันก็คือจะขาดรายได้ใช่ไหมอาจจะถูกตัดเงินเดือนบ้าง
ขอให้เราที่เป็นบุตรพระเจ้าอย่าเห็นแก่ตัว อย่าให้พระเจ้าทำในสิ่งที่เราอยากให้เป็น แต่ด้วยว่าพระเจ้าเข้าใจบางคนที่อ่อนแอ บางคนที่ยังเด็กอยู่ บางคนบางครั้งนะครับโตแล้วก็ยังหลุดเหมือนลักษณะนี้ พระเจ้าก็ตอบนะครับพระเจ้าก็ตอบลูกของพระองค์
แต่ถ้าเรามีใจเมตตามากๆ แล้ว ก็ขอให้เห็นใจเขา
ถ้าเป็นผมนะครับ ก็คือ
ขอพระเยซูให้จิตใจของพระองค์ ให้ใจพระเยซู คือทำกิจมากขึ้นในข้าพระองค์ เพื่อจะเบาสบาย เพื่อจะอภัยให้เขาได้ เพื่อจะไม่รำคาญใคร ขอให้หูนี้เป็นหูพระเยซู ตาพระเยซู
ถ้าใครทำอะไรต่อหน้าก็คือรับได้ทั้งหมด ไม่สะทกสะท้านอะไร ไม่กระทบกระเทือนเราเลย มันจะดีกว่านะครับ ขอพระเจ้าเปลี่ยนเรา แทนที่จะให้พระเจ้าเอาปัญหาหนีไปไกลๆ เรา ถูกไหมครับ
อย่าลืมนะครับปัญหาไม่ได้อยู่ที่ใครนะครับ มันอยู่ที่คุณ ปัญหาอยู่ที่คุณ ถ้าใจคุณดีทุกสิ่งมันก็ดีไปหมด จำได้ไหม
ถาม.
คือผู้ชายแต่ว่าแต่งตัวเป็นผู้หญิง เขาเชื่อพระเยซู แล้วเขาก็เคยเข้ามานากับพวกเรา แต่ว่าเขาใส่กระโปรงไปเรียน เขาเคยเข้ากับเรามา 2-3 ครั้ง แล้วก็ไปโบสถ์เก่าของเขา อยากถามว่าเขาเป็นผู้ชาย แล้วเขาก็แต่งตัวเป็นผู้หญิง แล้ววันตัดสินมาถึงแล้วพระเจ้าตัดสินยังไงคะ
ตอบ.
เมื่อถึงเวลาที่ทุกคนไปอยู่กับพระเจ้า คือเรามีร่างกายแบบไหนเราก็จะเป็นแบบนั้น ขอให้เราเข้าใจนะครับ
ก็คือเราเห็นใจพวกเขาเหล่านั้น ผู้ชายแต่งตัวเป็นผู้หญิง ผู้หญิงแต่งตัวเป็นผู้ชาย ผู้หญิงชอบผู้หญิง ผู้ชายชอบผู้ชาย อันนี้ต้องขอพูดตามความจริงแล้วก็ต้องขอพี่น้องอย่าน้อยใจนะครับสำหรับใครที่มีอาการแบบนี้อยู่
นี่คืออาการที่ไม่ปกติของมนุษย์ของอาดัม เนื่องจากว่ามนุษย์ตกต่ำ อาดัมตกต่ำแล้ว จึงเกิดมีสภาพแบบนี้ ก็คือชายรักชาย หญิงรักหญิง ชายเป็นกระเทยเป็นเกย์เป็นอะไรบ้าง ผู้หญิงเป็นทอมเป็นอะไรบ้าง สำหรับเรา เราเห็นใจพี่น้องเหล่านี้เรารักเขาทุกคน
และแต่ถ้าจะพูดตามความจริงในพระคัมภีร์ ก็คือนี่คืออาการที่ผิดปกติของมนุษย์อาดัมอาการตกต่ำ และเมื่อถึงเวลาที่ไปอยู่กับพระเจ้า ก็คือใครที่เป็นชายพระเจ้าจะเลือกให้เป็นชาย ใครที่เป็นผู้หญิงก็จะกลับมาเป็นผู้หญิง ไม่มีเพศที่ 3 หรือที่ 4 โลกนี้สำหรับพระเจ้า โลกของพระเจ้าก็คือมีแค่ชายหญิงเท่านั้น
อย่าไปใส่ใจนะครับในโลกวิญญาณในฟ้าสวรรค์ใหม่แผ่นดินโลกใหม่หรือในยุคอาณาจักร ก็คือมันจะไม่มีชายหญิงแล้ว จะมีเป็นมนุษย์วิญญาณเท่านั้น เราจะไม่เน้นจะไม่ใส่ใจพูดถึงเรื่องชายหญิงอีกต่อไป ทุกคนจะเป็นบุตรของพระเจ้า แล้วทุกคนแม้ชายก็ตามหญิงก็ตาม จะเรียกว่าบุตรของพระเจ้าทั้งนั้น ในพระคัมภีร์ภาษาอังกฤษเรียกว่า The Son ก็คือบุตรชาย
เราทั้งหลายเป็นเหล่าบุตรของพระเจ้า ไม่มีชายไม่มีหญิงไม่มีกระเทยไม่มีอะไรทั้งนั้นเลย จะเป็นบุตรทุกคนของพระเจ้า และรักกันไม่ได้ด้วยนะ รักกันไม่ได้อีกแล้ว จะมาเป็นแฟนกันขอจีบหน่อย ขอเป็นแฟนหน่อย คนนี้คนนั้น อันนี้ไม่มีแฟนแล้วนะครับ คือทุกคนจะเป็นพี่เป็นน้องเป็นเพื่อนกันอยู่ในฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่
แล้วเวลาไปกับผู้หญิง ชอบไปกับผู้หญิงแล้วก็ไปเกาะแขนแล้วก็เดินไป ชอบไปกับผู้ชายแล้วก็เกาะแขนเดินไปกับผู้ชาย แต่ในวิญญาณของเราในจิตของเรา รู้ซึ้งรู้ดีว่าเราเป็นมนุษย์วิญญาณจะไม่มีความรู้สึกทางเพศ จะไม่มีความรู้สึกทางตัณหาอะไรอีกต่อไปแล้ว
...
ถาม.
ในเมื่ออาจารย์บอกว่าถ้าเราไม่ถูกเปลี่ยนใหม่ขณะอยู่ในโลกนี้เราไม่สุกงอม เราจะถูกบ่มไว้นอกอาณาจักรพันปี แล้วเพศที่ 3 เขาเชื่อเขารอดแล้วรอดเลย แล้วอาจารย์บอกให้เราสุกงอมให้เราเปลี่ยนใหม่ขณะที่อยู่ในโลกนี้ แล้วคนอย่างนี้ไม่เปลี่ยนใหม่แล้วเขาจะไม่อยู่นอกอาณาจักร คือย่างไงคะ
ตอบ.
สำหรับคนที่สุกงอม คำว่า สุกงอม คืออะไร
จริงๆ แล้วคำว่า สุกงอม ก็คือการดำเนินชีวิตที่เลิกทำบาปได้แล้ว
การเลิกทำบาป คืออะไร
คือการเกิดผลของพระวิญญาณ ก็คือการสำแดงชีวิต และนิสัยของพระเยซูได้ครบ
การสำแดงชีวิต และนิสัยของพระเยซูได้ครบ คืออะไร
กาลาเทียบทที่ 5 ข้อที่ 22-23 คือความรัก ความปราบปลื้มใจ สันติสุข ความอดกลั้นใจ ความปราณี ความดี ความเชื่อ ความสุภาพอ่อนน้อม การรู้จักบังคับตน นี่คืออาการสุกงอมของชีวิตของคริสเตียน
แล้วถ้ายิ่งสุกงอมมากเท่าไหร่ เรื่องกิเลส ตัณหา โลภ โกรธ หลง ก็จะมีน้อยลง น้อยลง น้อยลง แล้วก็จะหายไป
เพราะฉะนั้นซึ่งมีบางคนสมมุตินะครับ ผู้ชายบางคนแต่งงานกับผู้ชายปรากฏว่าอยู่กินเป็นสามี แล้วเมื่อเขาเป็นคริสเตียน แล้วเขารับมานาฯ แล้วสุกงอม อาการของผู้ชายคนนั้นก็จะเปลี่ยนไป เขาจะไม่ใส่ใจเรื่องเพศ เรื่องตัณหา เรื่องกิเลส เขาจะใส่ใจเรื่องฝ่ายวิญญาณมากกว่า
แล้วถามว่าคู่ของเขาล่ะ พระเจ้าก็จะให้เขาเข้าใจ หรืออธิษฐานเผื่อหรือสอนอีกคนหนึ่งอีกฝ่ายให้รับมานาฯ มากขึ้น หรือเติบโตสุกงอมมากขึ้น เพื่อจะอยู่ด้วยกันได้ จะเป็นพี่จะเป็นน้องกันในอนาคตต่อไป
แต่ถ้าอีกคนหนึ่งรับไม่ได้ ยอมรับไม่ได้ เอ่อ..คนนี้เปลี่ยนไปแล้ว ตัณหาไม่มี กิเลสไม่มี เขาก็อาจจะเลิกกันไป อันนี้ก็เป็นเรื่องของบุคคล ของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ
พูดง่ายๆ สามีภรรยา ที่สามีรับมานาฯ แต่ภรรยาไม่รับ สุดท้ายก็อยู่ร่วมกันไม่ได้ใช่ไหม หรืออยู่ร่วมกันได้แต่ก็อยู่ยาก เนื่องจากว่าความเชื่อไม่เหมือนกัน ความเชื่อไม่เหมือนกันอยู่ที่ไหนก็จะมีการแตกแยกอยู่ที่นั่น
ผมเมื่อก่อนตอนที่อยู่อเมริกา คือผมเป็นคนที่ไม่ชอบผู้ชายที่แต่งตัวเป็นผู้หญิง ไม่ชอบเอามากๆ แล้วไม่อยากอยู่ใกล้ด้วย ไม่รู้เป็นอะไรเกลียดเขามาก แม้แต่ผมเป็นคริสเตียนนะครับก็ยังมีความรู้สึกแบบนี้
แต่พอมารู้จักผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก แล้วอีกไม่นานต่อมาทุกคนรู้นะครับว่าเขาเป็นกระเทย แล้วผมก็เริ่มเข้าใจ เขาร้องไห้เขาอธิบาย เขาพูดว่า คือเกิดมาเป็นแบบนี้จะให้ทำยังไง จะให้เปลี่ยนยังไง มันเปลี่ยนไม่ได้ มันเป็นเรื่องของจิตใจ แล้วผมก็ร้องไห้กับเขา แล้วก็ตั้งแต่วันนั้นเริ่มรู้ เริ่มเข้าใจ และเริ่มเห็นใจเพศที่สาม
ชายหญิงไม่สำคัญนะครับ จะเป็นจิตใจแบบไหนก็ไม่สำคัญ เขาไม่ได้ต้องการจะเป็นหรืออาจจะต้องการเป็นเนื่องจากว่าความตกต่ำของชีวิตอาดัมเนื้อหนัง อันนี้เราต้องมีจิตใจที่เปิดรับเขา รักเขา เมตตาเขา และเห็นใจเขา อย่าไปรังเกียจอย่าไปเกลียด อย่าไปแบ่งแยกเขา เอาความรักเป็นใหญ่
...
ถาม.
ขอถามคะมีเพื่อนคนหนึ่งเป็นโรคจิตคะ มีทางเดียวเท่านั้นใช่ไหมคะที่เราจะช่วยเขาได้คือการอธิษฐานเผื่อเขา เพราะเราไม่สามารถที่จะไปตำหนิหรืออธิบายหรือชี้นำชี้แนะอะไรเพราะว่าเขาจะไม่ฟัง เพราะสิ่งที่เขาเป็น เป็นโรคจิต ต้องอธิษฐานอย่างเดียวใช่ไหมคะ
ตอบ.
แน่นอนครับถ้าหากว่าใคร สมมุติว่าเป็นเพื่อนเราหรือสนิทกับเราหรือเป็นญาติเรา เราช่วยเขาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ถ้าทำได้นะครับ คือถ้าช่วยพูดอธิบายแนะนำบอกให้เขาเลิก แล้วเขาเลิกได้ก็ดี แต่ถ้าหากเราไม่สามารถพูดได้เขาไม่ฟังเราก็อธิษฐานเผื่ออย่างเดียวครับ
คือถ้าเป็นห่วง ถ้ารักเขา ก็ต้องช่วยเขาด้านใดด้านหนึ่งครับ
เราจำกันได้นะครับมนุษย์เรามันไม่เต็ม ไม่เต็มบาท ไม่มีใครเต็มสักคนเดียว คือทุกคนไม่โรคจิตมากก็โรคจิตน้อย ไม่เป็นอะไร ก็เป็นอย่างใด ก็เป็นอย่างหนึ่งใช่ไหมครับ เราปฏิเสธไม่ได้
เพราะฉะนั้นเรารักและเห็นใจทุกๆ คน เห็นใจกันและกัน และอธิษฐานเผื่อกันและกัน เอเมนนะครับ
คือผมตอนแรกเมื่อก่อนผมไม่รู้นะว่าอาการโรคจิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน คิดว่าเป็นเรื่องเดียว แต่ต่อมาก็ได้มารู้ได้มาเรียนรู้ว่า คนเรามีสิ่งที่แปลกๆ เยอะแยะเต็มไปหมดเลย แต่ละคนจะมีอะไรที่ทั้งดีทั้งร้าย ทั้งดีทั้งไม่ดี ทั้งแปลกๆ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนะครับ เป็นเรื่องของความตกต่ำของชีวิตอาดัมของเนื้อหนังที่เสื่อมทรามเสื่อมโทรมที่ป่วย ขอใช้คำเดียวนะครับก็คือป่วย ไม่ว่าจะเป็นโรคจิต หรือเป็นโรคอะไร หรือเป็นยังไงก็แล้วแต่ คือมนุษย์เราทุกคนป่วย ไม่ป่วยด้านใดก็ป่วยด้านหนึ่ง
เพราะฉะนั้นพระเยซูจึงสอนนะครับว่าให้รักกันและกัน ให้รัก ความรักเป็นใหญ่ เราจึงมองไม่เห็นใครเป็นโรคอะไรไม่มองเห็นนะครับ