สิ่งที่สำคัญที่สุดเคล็ดลับ ก็คือการสนิท การสร้างความสัมพันธ์ การอยู่ใกล้ชิด การเข้าเฝ้าพระเจ้าทุกวันทุกเวลานาที ขณะที่เราทำงาน ขณะที่เราอยู่ที่บ้าน ขณะที่เราอยู่ที่ไหนก็ตาม ขับรถก็ตาม เราสามัคคีธรรมกับพระเจ้าได้ เราคุยกับพระเยซูสนทนากับพระวิญญาณ
คริสเตียนส่วนมากจะอธิษฐานใช่ไหม แล้วก็ปิดอธิษฐานก็จบ เราก็ทำสิ่งอื่นต่อไป แต่สำหรับคริสเตียนที่แท้จริง น้ำพระทัยของพระเจ้า คือพระเจ้าต้องการให้เราสนิทในพระเยซู และพระเจ้าก็จะสนิทในเรา (ยอห์น 15:1-5 พระเยซูตรัสว่าจงสนิทในเรา และเราสนิทในท่าน ถ้าหากเราไม่สนิทในพระเจ้า พระเจ้าก็สนิทในเราไม่ได้)
การสนิท ในที่นี้ ไม่ใช่การอธิษฐานบางครั้งบางเวลาในแต่ละวัน การสนิทในพระเจ้า ก็คือการ คุย การสนทนาการสามัคคีธรรม การบอกรักพระเจ้าทุกวัน ทุกเวลา ทุกช่วง ทุกชั่วโมง
คริสเตียนส่วนมากล้มเหลวในการที่จะคุยกับพระเจ้าแบบเหมือนกับว่าเราคุยกับใครบางคนอยู่ สำหรับพระเจ้าแล้วพระเยซูในสภาพของพระวิญญาณเป็นบุคคลที่มาอยู่กับเราอยู่ในเรา พระเยซูรอเพื่อเราจะคุยกับพระองค์ และพระองค์จะคุยกับเรา รอที่เราจะสนิทกับพระองค์ และพระองค์จะสนิทในเรา
เราเปลี่ยนคำว่า อธิษฐาน เป็นการคุย หรือการสนทนา
ในภาษากรีกพระคัมภีร์ใหม่ตลอดทั้งเล่มไม่มีคำว่า อธิษฐาน ซึ่งผู้แปลผู้เขียนทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาไทย และภาษาอื่นๆ ทั่วไปมักจะใช้คำว่า อธิษฐาน แปลภาษากรีกความหมายของคำว่า อธิษฐาน ในพระคัมภีร์ใหม่ ก็คือ คุย (Proseucheesthe) คุย, สนทนา, คุยกัน ก็คือคุยกันจะต้องใช้สองคน ต้องมีสองคน หรือหลายๆ คนขึ้นไป จึงเรียกว่าคุยได้
ส่วนการอธิษฐาน ก็คือคนเดียวนั่งหลับตาคุกเข่าแล้วก็อธิษฐานถึงพระเจ้าบนฟ้าสวรรค์ หรือที่ไหนก็ตาม
สำหรับคริสเตียนพระเจ้าต้องการให้เราคุยกับพระองค์ สนทนากับพระองค์ สนิทในพระองค์ เหมือนคุยกับใครสักคนหนึ่ง ที่อยู่ใกล้เรา อยู่กับเรา
ถ้าหากเราทำอย่างนี้ทุกวัน เราจะพบการเต็มล้น และรับการเต็มล้นในพระวิญญาณด้วยพระวิญญาณ ถ้าหากเราสนิทในพระเจ้าในลักษณะนี้ เราจะได้รับการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้านในภายใน หรือ (Pleroo) ทุกวันทุกเวลาทุกนาที สันติสุขที่เราจะไม่กระหายอีก น้ำที่เราได้ดื่มจะไม่กระหายอีกเลย พระเยซูสัญญาแล้ว (ยอห์น 4:14/15:11) สันติสุขที่พระเยซูให้เราเราจะไม่กระหายอีกเลย
สำหรับการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้านนอก หรือภายนอก หรือ (Pletho) เป็นสัญญาของพระเจ้าพระบิดาในหนังสือ โยเอล ที่พระเจ้าสัญญาเรื่องฤทธิ์เดช เรื่องอำนาจ ส่วนการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้านใน หรือการรับพระวิญญาณเป็นสัญญาของพระเยซู พระเยซูทรงสัญญาไว้ในยอห์น 14:16
สำหรับการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้านนอก สาวกได้รับเมื่อพระเยซูเริ่มก่อตั้งคริสตจักรขึ้นในหนังสือกิจการบทที่ 2
ส่วนการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ภายในการเริ่มรับพระวิญญาณ และการเริ่มเต็มล้นด้วยพระวิญญาณสาวกได้รับในหนังสือยอห์น 20:22
ถ้าหากผู้เชื่อได้รับการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้านใน หรือภายใน (Pleroo) มีมากขึ้นทุกวัน เราเต็มล้นทุกวันๆ การเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้านใน หรือภายในนี้ เน้นที่การเข้าใจความหมายของพระคัมภีร์อย่างถูกต้อง คือการตีความหมายพระคัมภีร์ ถ้าหากเราไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของพระคำของพระเจ้า โอกาสที่เราจะได้รับการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้านใน หรือภายใน มีน้อยมาก หรืออาจจะไม่มีเลย
การเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้านใน หรือภายใน ขึ้นอยู่กับการได้เรียนรู้เข้าใจความหมายพระคัมภีร์ที่ถูกต้อง พระคำพระเจ้าทุกวันนี้มีการตีความหมายมีการแปลที่ผิดเพี้ยนมาก ซึ่งพระคำพระเจ้าความรู้ที่แปลกปลอมเข้ามาในคริสตจักรที่ผสมกับพระคำของพระเจ้าที่เป็นความจริงมีมากมายเหลือเกิน
เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าหากเราอ่านพระคัมภีร์ และไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง มีการแปลผิดมีการตีความหมายที่ผิด เราจะโตไม่ได้ เราจะดำเนินชีวิต และแบกภาระหนัก
สาเหตุมาจากว่าพระคำของพระเจ้าแท้ที่จริงแทนที่จะช่วยให้เราได้รับอิสระ ได้เป็นอิสระจากการดำเนินชีวิตที่แบกภาระหนัก มีทุกข์ ชีวิตขึ้นลงๆ พระเยซูตรัสว่าใน ยอห์น17:17; โรม12:2 พระองค์ทรงอธิษฐานถึงพระบิดาว่าพระบิดาเจ้าข้าขอพระองค์ทรงชำระเขาเถิดขอพระองค์ทรงเปลี่ยนเขาเถิดด้วยพระคำของพระองค์เพราะว่าพระคำของพระองค์เป็นความจริง
เมื่อเราอ่านพระคำ เราก็อ่านพระคำ หลายคนอ่านตั้งแต่ปฐมกาลจนถึงวิวรณ์ แล้วก็บางคนบอกว่าอ่านมาหลายรอบแล้ว แต่ถามว่าทำไมชีวิตไม่เปลี่ยน ปัญหาอยู่ตรงนี้ ปัญหาก็คือการตีความหมายการแปลความหมายของพระคัมภีร์เราแปลไม่ถูก ถ้าหากเราเข้าใจความหมายพระคัมภีร์ที่แท้จริง เราแปลพระคัมภีร์ถูก เราตีความหมายถูก พระคำของพระเจ้าเป็นชีวิตเป็นฤทธิ์เดชเป็นความจริงจะสามารถเปลี่ยนเราได้ เราจะได้รับการชำระ และการเปลี่ยนแปลง หลังจากนั้นเราก็จะได้รับการชำระโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์
เมื่อเราเข้าใจความหมายพระคัมภีร์ที่แท้จริง เมื่อเราตีความหมายพระคัมภีร์ถูก การเปลี่ยนแปลงก็จะมา การเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้านใน หรือภายใน ก็จะมีมากขึ้นในแต่ละวัน จิตใจของเราจะเปลี่ยนใหม่ เปลี่ยนใหม่ๆๆ ไปเรื่อยๆ เนื่องจากเราเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนความเข้าใจ เปลี่ยนทุกสิ่งใหม่หมด จากนั้นพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะมาเปลี่ยนเราชำระเรา เราจึงมีพระลักษณะของพระเยซูคริสต์สำแดงออกมาผ่านเราในแต่ละวัน
พระเยซูคริสต์สัญญาว่าเราจะเข้ามาอยู่ในเจ้าใน วว 3:20; กท 2:20
พระเยซูเป็นผู้ดำเนินชีวิตอยู่แทนเรา พระคัมภีร์ฟีลิปปี 1:21 ภาษาไทยภาษาลาวภาษาอื่นๆ ส่วนมากจะแปลว่า สำหรับข้าพเจ้าการมีชีวิตอยู่ก็อยู่เพื่อพระคริสต์ อันนี้แปลผิด สำหรับภาษากรีกและภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษแปลว่า (For to me to live is Christ) ความหมายก็คือ สำหรับข้าพเจ้าการมีชีวิตอยู่ก็คือพระคริสต์เป็นผู้มีชีวิตอยู่ ภาษาอังกฤษแปลตรงจากภาษากรีก ภาษาอังกฤษแปลตรงมาก ภาษาอังกฤษแปลว่า การมีชีวิตอยู่ก็คือพระคริสต์เป็นผู้มีชีวิตอยู่ ไม่ใช่เราๆ มีชีวิตอยู่ ไม่ใช่ผม ไม่ใช่คุณ
และในฟีลิปปี 1:20 อาจารย์เปาโลกล่าวว่าพระคริสต์ก่อร่างสร้างตัวขึ้น แล้วถามว่าทุกวันนี้พระคริสต์ก่อร่างขึ้นในเราหรือยัง และถามว่าทุกวันนี้พระคริสต์ก่อร่างขึ้นในเราหรือยัง หรือว่าตอนนี้ เรามีจิตใจของเราเอง เรายังเป็นมนุษย์คนเดิมคนเก่า ที่แบบว่าขึ้นลงๆ สุขทุกข์ๆ ดีบาปๆ ไปเรื่อยๆ จนตาย
ใน กท 5:16 กล่าวถึงผลของพระคริสต์ไม่ใช่ผลของเรา ผลของพระคริสต์ที่ดำเนินชีวิตผ่านเรา เพราะฉะนั้นการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณด้านนอก คือ (Pletho) คือการรับใช้พระเจ้าช่วยเหลือคริสตจักรพระกายของพระคริสต์ขยายตัวใหญ่ขึ้น
ส่วนการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้านใน หรือภายใน หรือ (Pleroo) คือการที่เรามีชีวิตของพระเยซูคริสต์มากขึ้นๆ ในแต่ละวัน และในที่สุดพระเยซูคริสต์ก็ครอบครองจิตใจเราได้ และพระเยซูคริสต์จะเป็นผู้ที่ดำเนินชีวิตผ่านเราในเราเพื่อเรา เพราะว่าเราทำไม่ได้ไง
ขอพระเจ้าช่วยเราที่จะมาถึงจุดนี้ คือจุดแห่งการดำเนินชีวิตที่มีพระเยซูคริสต์สำแดงพระองค์ผ่านเราไม่ใช่เราดำเนินชีวิตเอง
ขอให้พี่น้องจำเริญในพระคุณพระเจ้า เอเมน.