ถาม.
ถามอาจารย์เรื่องนิมิตครับ เมื่อคืนตอนใกล้สว่างแล้ว มีนิมิตบอกว่า ผู้นำของท่านเป็นผักเป็นปลาเป็นอาหาร สั้นๆ เท่านี้เลยครับ ผมก็ยังไม่เข้าใจในจุดนี้ครับ
ตอบ.
ถ้าเป็นผู้นำที่อยู่ในมานา ก็คือใช่ครับเขาเป็นอาหาร แต่เป็นอาหารที่ผ่านอาหารของพระเจ้า คือในเขามีพระคำล้ำลึก ในเขามีเนื้อมีผักมีพืชมีผลไม้ มีทุกสิ่งที่เรากินแล้ว ก็คือจะได้รับประโยชน์ แล้วทำให้เราเติบโตได้ สู่ชีวิตและนิสัยของพระเยซู
พระเยซูเป็นอาหารฉันใด ผู้นำที่อยู่ในมานาฯ ก็เป็นอาหารสำหรับพี่น้องฉันนั้น แต่อาหารนี้ก็คืออาหารที่รองลงมา ที่เป็นอวัยวะเป็นภาชนะที่ใส่อาหารของพระเยซู มาสู่พวกเรา
ใช่ครับพวกเราเป็นอาหาร เอเมน
...
ถาม.
อาจารย์ค่ะพอมาถึงข้อนี้ก็เลยถือระลึกว่า เมื่อเรากินอาหารอิ่ม เราควรจะขอบคุณคนที่ปรุงอาหารนั้นให้เราไหม นอกจากเราขอบคุณพระเยซูแล้ว คนรองลงมาเราควรจะมีอะไรกับเขาบ้างไหมค่ะ เพราะว่าปกติเราอยู่ในคริสเตียนศาสนาเราก็ได้ถวายสิบลดหรืออะไรต่อมิอะไรผ่านเข้าไป หรือว่าผู้รับใช้ก็มีเงินเดือน
แต่ในมานาฯ ผู้รับใช้ของเราไม่มีเงินเดือน ที่นี่พี่น้องบางคนไม่ทราบว่า เขาคงรู้น่ะก็ขอบคุณพระเยซู ถามอาจารย์เลยว่า เมื่อคิดเรื่องกินอาหารแล้วจะระลึกเสมอว่าเมื่ออาหารนั้นอิ่มอร่อย เขาปรุงให้เราอิ่มอร่อยเลยเรากินแล้วกินอีกไม่เบื่อหน่ายเลย คิดถึงเขาอยากตอบแทนเขา อันนี้ถูกไหม คิดว่าพี่น้องคงรู้คำตอบน่ะ
ตอบ.
คือคริสเตียนมากมายหลงทำผิดอย่างหนึ่ง ตอนที่เราเป็นคริสเตียนศาสนา เรามักจะอธิษฐาน ขอบพระคุณพระเจ้าที่พระองค์ประทานอาหาร ที่พระองค์ทำอาหารให้พวกเรากิน ต่อหน้าคนที่ไม่เชื่อ อาจจะเป็นพ่อแม่สามีภรรยาหรือญาติของเรา หรือไปที่ไหนก็ตามนะครับเราอธิษฐานต่อหน้าเขา ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนทำอาหารทำกับข้าวให้เรากิน อันนี้เป็นการกระทำที่ผิดนะครับ
การขอบพระคุณพระเจ้าต่อหน้าคนที่เขาไม่เชื่อ เราขอบพระคุณในใจ และเราขอบคุณเขาต่อหน้าเขา โดยคำพูด อันนี้จะทำให้เขาไม่สะดุด
แต่ทุกวันนี้มีคริสเตียนมากมาย ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว ก็คือคนที่ไม่เชื่อที่เป็นญาติของเรา ที่เป็นเพื่อนของเรา พ่อแม่เรา สามีภรรยาเรา ที่ไม่เชื่อ ก็คือทำกับข้าวให้เรา แล้วเรากลับไปอธิษฐานแล้วขอบพระคุณพระเจ้าต่อหน้าเขานะครับบอกว่า พระเจ้าเป็นคนประทานอาหารให้ เขาสะดุดนะครับ ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่ไม่สมควร
เมื่อเราอยู่กับคนที่ไม่เชื่อเราขอบพระคุณพระเจ้าในใจ บอกว่าพระองค์ประทานอาหารให้ ขอบพระคุณพระเจ้า พระองค์นี่แหละเป็นคนให้จริงๆ คนที่ให้จริงๆ ก็คือพระองค์ แต่เรามองไปที่เขานะครับแล้วบอกว่าขอบคุณมากครับ อาหารนี้อร่อย ขอบคุณมากครับที่ทำอาหารวันนี้ให้กิน
...
สำหรับผู้รับใช้ที่เลี้ยงดูเราในฝ่ายวิญญาณ ก็คือเราอธิษฐาน เราขอพระเจ้าดลใจเราว่า เราจะมีน้ำใจ หรือผ่อนนะครับ ผ่อนหนักผ่อนเบา หรือแบ่งเบาภาระของเขาได้มากน้อยเท่าไหร่ตามขนาดของความเชื่อ แล้วเราก็ทำตาม
ซึ่งถ้าหากบางคนนะครับผู้รับใช้บางคนผู้นำบางคนเขาอาจจะไม่ต้องการ หรือเห็นว่าเขาไม่ได้จำเป็นนะครับ ก็คือพอมีพอใช้อยู่ เขาจะไม่เรียกร้องหรือไม่ตอบคำถามของเรา ซึ่งอันนี้เราถามพระเจ้าเราคุยกับพระเจ้า สมควรไหมที่เราจะให้ หรือช่วยเล็กน้อย หรือตามสมควร อันนี้เป็นสิ่งที่ควรทำนะครับ แต่ไม่ได้เป็นกฎเกณฑ์ ไม่ได้เป็นกฎข้อบังคับ หรือเป็นสิ่งที่เราต้องทำ พระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเป็นคนดลใจ ผู้ที่ให้ และให้คนที่สมควรที่จะได้รับ
สำหรับผมนะครับ เชื่อการนำพาของพระเจ้าอยู่เสมอ อย่าลืม คริสตจักรใครเป็นคนสร้าง อีกครั้งหนึ่งใครเป็นคนสร้างคริสตจักร (พระเยซู)
เพราะฉะนั้นคนที่บริหารคริสตจักรทุกวันนี้ อีกครั้งคนที่บริหารคริสตจักรทุกวันนี้ ก็คือพระเยซู และพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพราะฉะนั้นเราไว้วางใจในพระเจ้านะครับ เมื่อมีผู้ใดขัดสน พี่น้องขัดสน หรือแม้แต่ผู้นำบางคนขัดสน พระวิญญาณบริสุทธิ์จะดลใจพี่น้องที่สะดวกในทรัพย์สิน ให้ช่วยนะครับ
สำหรับผมนะครับก็คือเชื่อในสิ่งนี้ แล้วก็ขอบพระคุณพระเจ้าที่พระองค์ให้เห็นการทำงานของพระเจ้าเป็นระยะๆ
คืออันนี้เราแตกต่างจากคริสเตียนศาสนา ซึ่งเขาจะบอกนะครับว่าอาจารย์ไม่สะดวก อาจารย์ต้องการเงินเดือนเท่านี้เท่านั้น คือเขาจะพูดออกมาเลยนะครับ
แต่สำหรับพวกเรา พระเยซูเป็นคนก่อตั้งคริสตจักร เอเมน และพระเยซูจะเป็นคนที่บริหารคริสตจักรของพระองค์ พระองค์เห็นว่าคนนี้ขัดสน พระองค์จะดลสะกิดนะครับคนนี้บอกให้ไปช่วย อันนี้คือสิ่งที่จะเกิดขึ้น เพราะว่าเราเชื่อถูก เรามาถูกทาง และพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ทำงานอย่างเต็มล้นในคริสตจักรของพวกเรา เราไม่ตายนะครับไม่อดอยากนะครับ
...
ถาม.
อาจารย์เดี๋ยวถามอีกหน่อยว่า สมมุติว่า มีคนที่ว่าพระเจ้าเร้าใจอาจารย์ แล้วก็อาจารย์เคยนึกไหมว่าจะแบ่งปันไปให้ใครที่เขามีของประทานช่วยด้านนี้บ้าง อาจารย์เคยนึกด้านนี้ไหมค่ะ
ตอบ.
คือสำหรับผม สำหรับผมถ้าไม่ได้ผ่านผมก็คือผ่านพี่น้องหลายๆ คนที่พระเจ้าเลือกและตั้งเอาไว้นะครับเพื่อที่จะไปแบ่งปันให้เขา คือไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นผมคนเดียวที่จะไปช่วยคนนั้นคนนี้ คือตอนนี้มีพี่น้องที่แบ่งเบาผมเยอะมาก ขอบคุณพระเยซูและขอบคุณพี่น้องที่ช่วยกัน
สำหรับเรานะครับสำหรับพี่น้องพวกเรา ขอให้อธิษฐานเผื่อเรื่องการฝึกเดินของทุกๆ คน เพื่อพระเจ้าจะนำเราให้ตายตั้งแต่เช้า ให้ตายทุกวัน เปาโลเป็นแบบอย่างที่ดี เราเรียนจากเปาโล คือเปาโลบอกว่า ข้าพเจ้าตายทุกวัน (1 คร 15:31) ก็คือท่านฝึกนะครับ ตื่นนอนตอนเช้าปุ๊บก็คือตายแล้ว เอเมนพระเยซูข้าพระองค์ตายแล้ว สองพีนปีก่อนเมื่อพระเยซู ตายข้าพระองค์ก็ตายด้วย แล้วตอนนี้ก็คือเป็นคนใหม่ ที่เดินอยู่ก็คนใหม่ มองอยู่ก็ตาใหม่ หูใหม่ ทุกสิ่งใหม่หมด ตั้งแต่เช้านะครับเราฝึกตั้งแต่เช้า
สำหรับคลิปที่ผมทำแล้วลงยูทูป ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้วที่เป็นภาษาไทยนะครับ ก็คือบอกตามตรงว่า ไม่ได้เหนื่อยครับไม่ได้เหนื่อย ขอบคุณที่เป็นห่วง แล้วถึงแม้ว่าจะเป็นตอนที่หิมะตกหนักก็ไม่ได้เหนื่อยก็สนุกนะครับถ่ายคลิปทุกครั้งก็สนุกทุกครั้ง เพราะว่ามันมีแต่น้ำตาแล้วก็มันมีแต่การนำของพระวิญญาณการเร้าใจของพระเจ้าที่จะให้พูด
คือตอนที่ผมทำงานก็จด ก็พระองค์ให้แต่หัวข้อ ก็ได้แต่หัวข้อนะครับว่าเรื่องอะไรจะพูด พอออกไปปุ๊บก็คือพระเยซูอยากพูดอะไรกับพี่น้อง อยากพูดอะไรกับพวกเขาก็พูด จากนั้นก็กดอัดนะครับกดอัดแล้วก็เดินไปมาแล้วก็พูดออกมา ก็ขอบพระคุณพระบิดา ขอบพระคุณพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่พระองค์นำ แล้วทำให้เป็นอาหารที่พวกเราได้กินกันจนถึงทุกวันนี้ เอเมน
ขอบคุณพี่น้องที่อาจจะเป็นห่วงเรื่องการใช้ชีวิต การทำมาหาเลี้ยงชีพ ผมถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำงานมา 3-4 ปี แต่ขอบคุณพระเจ้าที่พระเจ้าดูแล ไม่เคยขัดสน ผมไม่มีงานทำไม่ได้หมายความว่าขี้เกียจนะครับ ผมขยันแล้วก็แสวงหาการทำงาน แต่เนื่องจากการไม่สะดวกเรื่องสถานที่ เรื่องที่อยู่ พี่น้องอาจจะสงสัยนะครับว่าผมอยู่ที่ไหน ผมทำอะไรอยู่ อันนี้ขอให้อธิษฐานนะครับ ขออธิษฐานเผื่อ แต่เรื่องการเป็นห่วงก็อธิษฐานเผื่อนะครับ ขอบคุณพระเจ้าที่ผมไม่เคยมีปัญหาเรื่องการขัดสน ไม่เคยมีปัญหาเรื่องการเป็นอยู่การอยู่กิน พระเจ้าเลี้ยงดูตลอดเวลา อาจจะผ่านพี่น้องบ้าง อาจผ่านญาติบ้าง
คือพระเจ้ารู้ แล้วพระเจ้าก็สะกิดคนที่เหมาะสม แล้วก็ขอบคุณพี่น้องนะครับ พระพร สันติสุข ความมั่งคั่ง จะมาถึงผู้ที่มีจิตใจกว้าง ผู้ที่มีใจกว้าง
อีกครั้ง อันแรกก็คือพระเยซูก่อตั้งคริสตจักรก็คือพระกายนี้ เอเมน และพระเยซูจะเป็นคนบริหารคริสตจักร ก็คือบริหารพระกายนี้ และพระเยซูจะช่วยเราในการฝึกเดิน และยังมีอีกมากมายหลายสิ่งที่พระเยซูจะเป็นคนทำ เราอาจจะไม่รู้ตัว แต่พระเจ้าทำอยู่
เราทุกคนตอนนี้อยู่ในสัญญาของพระเจ้า สัญญากับพระเจ้า พระเจ้าเซ็นสัญญากับพวกเรา และพระองค์ก็ทำกิจทำงานฝ่ายพระองค์ แล้วฝ่ายเราสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้ทำ ก็คือ สนิท บอกรัก และฝึกเดินทุกวัน ตื่นนอนตอนเช้าตาย ตอนเที่ยงตาย ตอนเย็นตาย ตอนค่ำตาย และเป็นคนใหม่ตั้งแต่ตอนเช้า ตอนสาย ตอนบ่าย ตอนเย็น เราเป็นคนใหม่ๆ เท่านี้เองที่พระเจ้าต้องการ แล้วที่เหลือพระองค์จะเป็นคนกระทำ