ยุคพระคุณ รูปแนวชีวิตคือ เราไม่เน้นการเคร่งศาสนา ต้องทำ ต้องนู่นนี่นั่น จนกลายเป็นคนที่อยู่นอกโลกไปเลย
สำหรับคริสเตียนศาสนามักจะคิดว่า บาปที่ร้ายแรงคือการทำผิดฝ่ายร่างกายและจิตใจ แต่สำหรับพระเจ้า บาปที่ร้ายแรงคือการนอกใจพระเจ้า
พระเยซูยอมละเมิดสะบาโตเพื่อช่วยคนบาปคนป่วย
แต่คริสเตียนเคร่งและไม่สนใจผู้อื่นจะเป็นหรือตาย
เราขอบพระคุณพระเจ้า ที่พระเจ้าเมตตาและเปิดเผยพระคำแห่งความจริงให้กับพวกเรา อันนี้เราสรรเสริญพระวิญญาณบริสุทธิ์ เรารักพระองค์เอเมน
พูดถึงเรื่องบาปที่ร้ายแรง สำหรับมุมมองของคริสเตียนเราเคยคิดกันใช่ไหมว่า แต่ก่อนบาปที่ร้ายแรงสำหรับพวกเราก็คือ กิเลสตัณหาโกรธโลภหลง ซึ่งเป็นบาปฝ่ายร่างกายและจิตใจ
แต่พอมาถึงจุดนี้นะครับเราพบว่า บาปที่ร้ายแรงสำหรับพระเจ้า สำหรับพระเจ้านะครับ ก็คือการนอกใจพระเจ้า ก็คือการไปกราบไหว้ ไปเคารพพระอื่น หรือรูปเคารพ และการเข้าร่วมพิธีซึ่งเป็นการเล่นชู้ การเข้าร่วมพิธีทางศาสนาต่างๆ และการกินทานเลือดซึ่งเป็นตัวแทนของชีวิต ของสัตว์ของทุกสิ่งในโลกนี้
เราขอบคุณพระเยซูที่ พระองค์รักษาเราให้ดำเนินชีวิตอยู่ในการที่จะหลีกเลี่ยงเรื่องการกราบไหว้พระอื่น และการเข้าร่วมพิธีทางศาสนา อันนี้เราสบายใจนะครับ จิตใจเราสบายแล้ว ซึ่งเมื่อก่อนเราหนักใจ เมื่อเราทำผิดบาป กิเลส ตัณหา โกรธ โลภ หลง เราคิดว่าอาจจะไม่รอด หรืออาจจะรอด หรือกลัวพระเจ้าจะลงโทษอย่างร้ายแรงอย่างสาหัสนะครับ
แต่เรามาพบว่าการทำบาปฝ่ายร่างกาย กับตัวเราเอง หรือเพื่อนมนุษย์ ก็คือการตีสอน ซึ่งก็จะมีหนักเบา แต่ไม่หนักเท่าบาปฝ่ายวิญญาณ ก็คือการทำผิดต่อพระเจ้าซึ่งเป็นการกราบไหว้พระอื่น และการเข้าร่วมพิธีทางศาสนา เอเมนสรรเสริญพระเยซู
สำหรับการเคร่งศาสนา อันนี้เป็นเรื่องของศาสนาคริสต์นะครับ และเป็นเรื่องของคริสเตียนศาสนา ซึ่งเราที่เป็นคริสเตียนฝ่ายวิญญาณ เราไม่เน้นที่การเคร่งจน คือมันหนักใจ หนักใจหนักอกหนักใจ ต้องแบกภาระหนักมาก
แต่เราพบตัวอย่าง คือพระเยซูยอมละเมิดสะบาโต และเปาโลยอมทำทุกสิ่งเพื่อเอาใจ เพื่อได้ใจ เพื่อได้ชนะใจของคนที่ไม่เชื่อที่เป็นต่างชาติหรือศาสนาอื่นหรือเป็นยิวก็ตามนะครับ ยังยอมเข้าสุหนัต ซึ่งการกระทำเหล่านี้เป็นความผิดที่ถือว่าเล็กน้อยมาก และการละเมิดสะบาโตสำหรับยิวเนี่ยอย่าถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ใช่ไหม แต่พระเยซูก็ยังยอมกระทำ เพื่อเห็นแก่คนที่กำลังจะตาย หรือเห็นแก่คนที่กำลังเจ็บป่วยไข้ที่มีอาการหนักมาก
อันนี้นะครับเราเห็นอะไรในจุดนี้
ก็คือเราเห็น ''ความรัก'' ที่สำคัญกว่าการเคร่งเรื่องการปฏิบัติ เรื่องศาสนา ความรักนะครับสำคัญที่สุด
พี่น้องครับ ถ้าเราเห็นพี่น้องอื่น คนอื่นที่กระทำผิดอยู่ เราเห็นพี่น้องที่ดำเนินชีวิตในฝ่ายเนื้อหนังอยู่ อย่าเพิ่งไปมองอย่าเพิ่งไปตัดสิน อย่าเพิ่งไปกล่าวหาใส่ร้าย หรืออย่าเพิ่งไปซ้ำเติม เอาความรักนะครับไปให้เขา ให้เขาได้สัมผัสความรักของเรา แทนการจ้องมองด้วยการตัดสิน ด้วยการจับผิด เอเมนพระเยซู
เราขอบคุณและสรรเสริญพระเจ้า ที่พระองค์ให้พวกเรามาถึงชีวิตที่ครบบริบูรณ์ ให้มาถึงชีวิตที่พบสันติสุข ที่พระองค์เป็นแม่น้ำแห่งชีวิต เพื่อเราจะได้กินดื่มและไม่กระหายอีก ฮาเลลูยา
แล้วเราขอบพระคุณพระเจ้าที่พระองค์นำเราเข้าสู่การดำเนินชีวิตที่เบาสบาย แอกเบา ภาระเบา กางเขนเบา ทุกสิ่งเบาไปหมดแล้ว และอยู่ในการพักผ่อนในพระคริสต์ ชีวิตในพระคริสต์นะครับมันควรจะเป็นแบบนี้ ใช่ไหม แต่น่าเสียดายที่พี่น้องมากมายยังมาไม่ถึงการเปิดตา อาการตาบอดยังไม่หาย เราอธิษฐานเผื่อเขา และเราอธิษฐานเผื่อพี่น้องพวกเราเหมือนกันนะครับ
สิ่งที่เราได้มาพบ อาจจะยังอยู่ในการเริ่มต้น ก็ขอบคุณพระเยซูสำหรับพี่น้องหลายคนที่เติบโตและสะสมมานาฯ มาได้มากมายแล้ว แต่ยังมีอีกพี่น้องหลายท่านที่ยังต้องการการอธิษฐานเผื่อ และการเลี้ยงดูจากพวกเรา
ฉะนั้นมันเป็นสิ่งที่อัศจรรย์มาก การดำเนินชีวิตฝ่ายวิญญาณมันก็ควรจะเป็นแบบนี้ อยู่ในการอัศจรรย์ตลอดเวลา live living in miracle ก็คือการดำเนินชีวิตที่อยู่ภายใต้การอัศจรรย์ การอัศจรรย์ตรงนี้นะครับ ไม่ใช่เหมือนกันอัศจรรย์ที่คริสเตียนศาสนาได้มีประสบการณ์
ปกตินะครับเมื่อเราเชื่อ เราเป็นคริสเตียนฝ่ายเนื้อหนัง เรายังไม่ถูกเปิดตา เราอาจจะเห็นการรักษาโรคในคริสตจักรหลายคริสตจักร เราอาจเห็นการไล่ผี เราอาจจะเห็นการทำกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ก็มีอยู่นะครับ เราก็เห็นกันอยู่ใช่ไหม
แต่สิ่งที่พระเจ้าต้องการให้เราได้มีประสบการณ์มากกว่านั้นก็คือ การที่พระองค์นำพาชีวิตของเราภายในแต่ละวัน ในแต่ละวันก็คือ กระตุ้นเรา เร้าใจเรา เตือนเรา นำเรา บอกเรา ว่าไป ไม่ไป พูด ไม่พูด อยู่ ไม่อยู่ ประกาศ ไม่ประกาศ รับใช้ตรงนี้เมืองนี้ หรือออกไปจากเมืองนี้ นี่คือสิ่งที่พระองค์ต้องการที่จะให้เราเข้าสู่ประสบการณ์
และคนที่จะได้รับการนำพาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์มากมายในแต่ละวัน ก็คือผู้ที่สนิทในพระคริสต์ บอกรัก สะสมมานา ถูกเปิดตาให้ได้มากขึ้น
เมื่อตาสว่าง ร่างกายทุกส่วนก็จะสว่างไปหมด เราจะเห็นทุกส่วนชัดเจน ขอบคุณพระเยซู
ก็มันจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ถ้าหากว่ามีบางคนที่เกิดมาแล้วตาบอด ขอโทษนะครับสำหรับพี่น้องที่อาจจะมีปัญหาเรื่องนี้ ผมขอยกตัวอย่างนะครับ เขาจะไม่มีโอกาสได้เห็นดอกไม้ที่สวยงาม มีมากมายหลายชนิด มีหลายสี แล้วเขาไม่อาจจะมีโอกาสได้เห็นได้ชมวิวทิวทัศน์ได้เห็นธรรมชาติ ได้เห็นต้นไม้ ได้เห็นสัตว์มากมายหลายชนิด ได้เห็นโลกนะครับแผ่นดินโลก
เช่นเดียวกัน คริสเตียนที่มาถึงพระเจ้า แต่ไม่มีโอกาสได้เห็นสีสัน ไม่เห็นดอกไม้ ไม่เห็นชีวิตในฝ่ายวิญญาณที่เต็มครบบริบูรณ์ในพระคริสต์
แต่วันนี้เราได้พบแล้วได้เห็นแล้ว พระเจ้าสีสันสวยงาม พระเจ้าน่ารัก พระเจ้าแสนดี เราได้เข้าใจแล้ว และโลกนี้เป็นสวรรค์บนดินสำหรับพวกเรา เราได้เข้าใจแล้ว เราได้ชิมลิ้มรสแห่งสันติสุขทุกวันเวลาแล้ว ขอบคุณพระเยซู
เรามาถึงพระเจ้า เป็นคริสเตียนศาสนาก็ได้รับความรอด เป็นสิ่งที่ดีนะครับ ไม่ใช่ไม่ดี แต่การที่จะให้ชีวิตที่ได้ครบบริบูรณ์หรือชีวิตที่เรียกว่าดีกว่า ชีวิตที่พิเศษ ชีวิตคริสเตียนที่ปกติ ก็คือเราเข้ามาถึงพระที่นั่งของพระคริสต์ และได้อยู่ใกล้พระบาทของพระองค์ และอยู่ในพระนิเวศน์ของพระเจ้า 24 ชั่วโมง 7 วันไม่ออกไปไหน เป็นสิ่งเดียวที่เราต้องการและเป็นสิ่งเดียวที่ตอบเป็นคำตอบสำหรับชีวิต ความต้องการของเราในทุกส่วนทุกสิ่งในชีวิตนี้ คือการได้อยู่ใกล้พระเจ้า
อีกครั้ง การใช้ชีวิตที่อยู่ในการอัศจรรย์ ในการนำพาของพระวิญญาณบริสุทธิ์ การช่วยเหลือของพระเจ้าที่เป็นในเรื่องเกี่ยวกับการทรงนำ การเตือน การบอก การพูด การตรัส การกล่าวกับเรา เราจะเห็นการอัศจรรย์ในลักษณะนี้ ก็คือการที่จะสนิทในพระคริสต์ บอกรักพระองค์ สร้างความผูกพันที่ดีกับพระเยซู เป็นสิ่งที่เราควรจะมีควรจะเป็นนะครับ
ถ้าหากเราเห็นว่า เออ ไม่ค่อยได้ยินเสียงพระเจ้า ไม่ค่อยได้สัมผัสพระเจ้า ไม่ค่อยได้เห็นถึงการอัศจรรย์ในเรื่องการนำพาของพระเจ้า อันนี้เราต้องเช็คดูนะครับว่า สุขภาพฝ่ายวิญญาณของเราอยู่ที่ไหน เป็นในลักษณะไหนแล้ว
เพราะฉะนั้นขอให้เรานะครับ เน้นที่การฝึกเดินในพระวิญญาณ เดินในพระวิญญาณเป็นสิ่งที่พระเจ้าตรัสผ่านเปาโล ให้คริสเตียนเราได้กระทำในแต่ละวัน เพื่อเราจะอยู่ในพระนิเวศน์ของพระเจ้าตลอดเวลา เอเมน