พระคำของพระเจ้าในพระคัมภีร์ใหม่มีข้อลึกลับอยู่มากมายอยู่หลายเรื่องด้วยกัน ถ้าหากเราขอการเปิดตาจากพระเจ้าเพื่อจะให้เข้าใจหนังสือกาลาเทีย เราจะขอบพระคุณพระองค์ที่ได้รับภาระเบา แอกเบา กางเขนก็เบา และได้รับการพักผ่อนอย่างแท้จริง เนื่องจากว่าพระคุณพระเจ้าทรงกระทำโดยให้พระเยซูมาตายเพื่อไถ่บาปเรา เพื่อให้เราได้รอดจากบึงไฟ และพระคุณซ้อนพระคุณก็คือพระเจ้ากระทำเองโดยให้พระคริสต์ในสภาพของพระวิญญาณเข้ามาอยู่ในเราเพื่อทำดีแทนเรา
สรุปหนังสือกาลาเทียบทที่ 1 บทที่ 2 และบทที่ 3 เปาโลพูดถึงยุคปัจจุบันอันชั่วร้าย ก็คือยุคนี้ซึ่งเป็นยุคพระคุณหรือยุคคริสตจักรนั่นเอง เป็นเวลาแห่งความยากลำบากและจิตใจมนุษย์เสื่อม พระเจ้าทรงให้เรา
1. เต็มด้วยสันติสุขและพลังเพื่อทนได้
2. ทรงทำให้สิ่งที่ยากหนัก กลายเป็นง่ายและเบา คือความหมายของคำว่า ทรงไถ่เราจากยุคปัจจุบันอันชั่วร้ายนั่นเอง
...
เปาโลพูดถึงการเชื่อในคำสอนของคริสเตียนยิว ก็คือการแยกออกจากพระเจ้าและหล่นจากพระคุณ เปาโลเรียกคำสอนของคริสเตียนยิวว่าข่าวประเสริฐอื่น คือการบิดเบือนข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ สำหรับคนที่สอนก็จะถูกสาปแช่งเนื่องจากเขาเอาพระบัญญัติเข้ามาเกี่ยวข้อง ข้องเกี่ยวกับการไถ่บาปของพระเยซู
การไถ่บาปของพระเยซูคริสต์ ก็คือพระโลหิตของพระเยซูก็เพียงพอแล้ว พระโลหิตของพระเยซูจ่ายหนี้บาปครบถ้วนแล้ว เพราะฉะนั้นพระโลหิตของพระเยซูการตายของพระองค์บนไม้กางเขนเมื่อสองปีก่อน ทำให้เราได้กลายเป็นคนชอบธรรมและได้รอดจากบึงไฟ
สำหรับผู้ที่ประกาศข่าวประเสริฐอื่นหรือบิดเบือนข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์นี้ สอนว่าเชื่อยังไม่พอยังต้องรักษาพระบัญญัติ ต้องเชื่อฟัง ต้องทำดี เลิกทำบาปให้ได้ เพราะฉะนั้นจะไม่รอดหรือเราอาจจะสูญเสียความรอดได้
เปาโลต้องการยืนยันว่ารอดโดยทางความเชื่อเท่านั้นซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับปฏิบัติหรือรักษาพระบัญญัติ นี่คือข่าวประเสริฐของพระเจ้าซึ่งพระเยซูคริสต์ทรงประกาศเมื่อพระองค์ดำเนินชีวิตอยู่ในโลกนี้เป็นเวลา 3 ปีกว่า และข่าวประเสริฐนี้ ต้องถูกเปิดตาโดยพระวิญญาณจึงจะเข้าใจได้
หลังจากนั้นพระเจ้าก็ใช้เปาโลมาประกาศข่าวประเสริฐของพระเจ้าเพื่อช่วยพี่น้องมากมายที่หลงทางหลงเชื่อคำสอนของคริสเตียนยิวที่ออกไปเผยแพร่ข่าวประเสริฐอื่นนี้
...
ในบทที่ 1 สำหรับเปาโลการประกาศของท่านก็คือประกาศ 2 ด้านด้วยกัน
1. ประกาศข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์
2. ก็คือประกาศพระบุตร การประกาศพระบุตรก็คือการสำแดงชีวิตของพระคริสต์ผ่านตัวท่าน
...
สำหรับคริสเตียนเราน่ะครับ เราประกาศ 2 ด้านเหมือนกัน
ก็คือ 1. ประกาศข่าวประเสริฐ และ 2. ประกาศด้วยการดำเนินชีวิตที่มีพระคริสต์ทำแทนเราในแต่ละวันเหมือนเปาโลน่ะครับ
...
ในหนังสือกาลาเทียเปิดเผยว่า การได้พบข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ คือขั้นตอนแรกที่จะนำเราไปสู่ขั้นตอนต่อมา ก็คือเราจะพบพระคริสต์ตายเพื่อเราและดำเนินชีวิตอยู่เพื่อเรา ถ้าหากเราไม่เข้าใจข่าวประเสริฐของพระคริสต์ก็คือเชื่อเท่านั้นก็ได้รอด เราก็ไม่อาจเข้ามาถึงขั้นตอนที่ 2 คือให้พระคริสต์ดำเนินชีวิตแทนเรา
หลังจากที่พระเยซูทรงเสด็จขึ้นไปสู่พระบิดา ก็เกิดมีคริสตจักรมากมาย พี่น้องจอมปลอมก็คือพี่น้องคริสเตียนที่เชื่อว่าเชื่อไม่พอเท่านั้น ยังต้องรักษาพระบัญญัติเพื่อให้ได้กลายเป็นคนชอบธรรมและได้รอด ไปเผยแพร่ข่าวประเสริฐอื่น ก็คือสอนคำสอนผิดเหล่านี้ไปทุกที่ทุกหนทุกแห่ง
เปาโลจึงขึ้นไปเยรูซาเล็ม แล้วก็บอกพี่น้องบางคนเกี่ยวกับเรื่องข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ เพื่อตักเตือนพี่น้องคริสเตียนมากมาย เพราะท่านเป็นห่วงว่าทุกคนจะวิ่งแข่งและการวิ่งแข่งของพวกเขาเหล่านั้นไร้ประโยชน์ เราจะเห็นว่าทุกวันนี้มีคริสเตียนมากมายที่วิ่งแข่งแต่การวิ่งแข่งของพวกเขานั้นไร้ประโยชน์ ก็คือเขาใช้ตัวเก่า ใช้ชีวิตอาดัม ใช้เนื้อหนังที่ยังไม่ได้ผ่านกางเขนของพระเยซู และการฟื้นขึ้นของพระเยซูคริสต์เพื่อดำเนินชีวิตแทนเรา
การใช้ชีวิตเก่า ใช้เนื้อหนัง ใช้อาดัม ดำเนินชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้า ผลซึ่งได้รับก็คือความดีที่ตายแล้ว การรับใช้ที่ตายแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตายแล้ว สิ่งเหล่านี้เรียกว่าการวิ่งแข่งที่ไร้ประโยชน์
พี่น้องจอมปลอม แท้ที่จริงเปาโลพูดถึงคริสเตียนยิวที่ออกไปเผยแพร่ข่าวประเสริฐอยู่ทุกที่ทุกหนทุกแห่ง พวกเขาเหล่านั้นก็คิดว่าสิ่งที่เขาทำถูกแล้ว เขาไม่เข้าใจเนื่องจากว่าเขาถูกปลูกฝังให้รักษาพระบัญญัติมาตั้งแต่เด็กจนโต และเมื่อได้พบพระเยซูคริสต์เขาก็เชื่อในพระองค์และรักษาพระบัญญัติไปด้วย
เปาโลเปิดเผยว่าการรักษาพระบัญญัติก็คือการเป็นทาส แต่การได้รับอิสระก็คือการได้รู้ว่าเรารอดโดยทางความเชื่อเท่านั้น ทุกวันนี้มีผู้เชื่อมากมายที่เป็นทาสเนื่องจากว่าเขามีพระเยซูและยังรักษาพระบัญญัติเพื่อให้ได้กลายเป็นคนชอบธรรม
เปาโลพยายามต่อสู้เพื่อช่วยพี่น้องทั้งหลายให้หลุดพ้นจากคำสอนผิดหรือข่าวประเสริฐอื่นของพี่น้องจอมปลอมหรือพี่น้องชาวยิว และน่าเสียดายที่ทุกวันนี้ข่าวประเสริฐอื่นก็มาถึงพวกเราและถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก และคริสตจักรมากมายก็รับคำสอนนี้โดยไม่รู้ตัวว่ามันคือข่าวประเสริฐอื่นในหนังสือกาลาเทียนี่เอง
กาลาเทียบทที่ 2:20 ก็คือหลักการ การดำเนินชีวิตของคริสเตียนในแต่ละวัน คือข้าพเจ้าถูกตรึงแล้วกับพระเยซูคริสต์ ข้าพเจ้าจึงไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่มีชีวิตอยู่ในเรา แต่พระคริสต์ต่างหากที่มีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า ผู้เชื่อมากมายเข้าใจผิดคิดว่าพระคัมภีร์ข้อนี้เปาโลพูดถึงท่านเท่านั้น แต่แท้ที่จริงเราทุกคนมีประสบการณ์ชีวิตเหมือนกับเปาโลคือเราทุกคนตายแล้วและเราทุกคนถูกฝังกับพระเยซูคริสต์แล้ว และเราทุกคนไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแต่พระคริสต์ต่างหากที่มีชีวิตอยู่ในพวกเรา
เราทราบกันดีว่าในหนังสือมัทธิวพระเยซูประทานพระบัญญัติใหม่ให้แก่พวกเรา แต่ในหนังสือยอห์นพระเยซูเสด็จมาเพื่อเข้ามาอยู่ในเราและรักษาพระบัญญัตินั้นแทนเรา
เปาโลเปิดเผยในหนังสือกาลาเทียนี้ว่า ไม่มีผู้ใดผู้หนึ่งชอบธรรมเลยสำหรับพระเจ้า สำหรับพระเจ้าน่ะครับ สำหรับมนุษย์เราอาจจะมองเห็นว่ามีบางคนเป็นคนดีหรือดีมากๆน่ะครับ แต่สำหรับพระเจ้ามองถ้าหากเราไม่ได้บังเกิดใหม่ไม่มีพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่ในเราและไม่มีพระคริสต์เป็นเสื้อที่ดีที่สวมใส่
เราจะทำดีมากมายแค่ไหน จะเป็นคนดีมากมายเท่าไหร่ ก็ไม่สำคัญสำหรับพระเจ้าเลย เพราะว่าชีวิตเก่าของเราคือชีวิตที่ตายแล้ว ความดีของเราก็คือความดีที่ตายแล้ว เราไม่อาจทำให้พระเจ้าพอพระทัยในสิ่งที่เราทำอยู่ เพราะเหตุนี้เอง "เราจึงต้องการพระคุณและพระคุณซ้อนพระคุณ"
พระคุณก็คือ พระเยซูตายเพื่อไถ่บาปเรา พระโลหิตจ่ายครบถ้วนแล้ว เรารอดแล้ว เราเป็นบุตรพระเจ้า เราได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราได้รับมรดกร่วมกับอับราฮัม
และพระคุณซ้อนพระคุณ ก็คือพระคริสต์ในสภาพของพระวิญญาณ เข้ามาสถิตอยู่ในเราพระองค์ก่อร่างขึ้นในแต่ละวันเพื่อช่วยเราในการทำดี เชื่อฟัง รักษาพระบัญญัติใหม่ของพระเยซูคริสต์ได้
...
เปาโลย้ำน่ะครับ ว่าคนที่ชื่อว่าการรักษาพระบัญญัติจะทำให้เขากลายเป็นคนชอบธรรมได้และได้รับความรอดคือคนโง่เขลา
การได้กลายเป็นคนชอบธรรมต่อพระพักตร์พระเจ้า ก็คือโดยทางความเชื่อ โดยการเชื่อในพระเยซูคริสต์เท่านั้น
มีพี่น้องผู้เชื่อมากมายน่ะครับที่ยังไม่เข้าใจ คำว่าเชื่อไม่มีการประพฤติก็คือความเชื่อที่ตายแล้ว
การเชื่อที่มีการประพฤติแน่นอนที่สุดทุกคนที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ ถ้าหากเขาได้บังเกิดใหม่จริงๆ เขาจะมีผลของชีวิตใหม่ไม่มากก็น้อย แต่ผลของชีวิตใหม่ของเขาไม่ใช่เพื่อให้เขาได้รอด แต่เพื่อพิสูจน์ว่าเขาได้บังเกิดใหม่จริงๆ
เพราะฉะนั้น คำว่า ความเชื่อที่ไม่มีการประพฤติ ก็คือความเชื่อที่ตายแล้วไม่มีประโยชน์อะไรจะทำให้เรารอดไม่ได้ คำนี้ไม่ได้แปลว่า ความเชื่อที่ไม่ต้องรักษาพระบัญญัติให้ครบ ก็คือความเชื่อที่ตายแล้วไม่ใช่น่ะครับ
แต่ความหมายก็คือ ความเชื่อที่ไม่มีการประพฤติ ไม่มีการหิวกระหาย ไม่มีการกระตือรือร้น ไม่มีการแสวงหาพระเจ้า ไม่มีการอธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์ รู้สึกฟ้องผิดในใจเมื่อทำบาป สิ่งเหล่านี้ก็คือการประพฤติที่ท่านยากอบและเปาโลพูดถึงน่ะครับ