ถาม.
การที่เราเจ็บป่วยบ่อยๆ มันเป็นมาจากเรื่องสุขภาพของเราเอง หรือว่าการตีตอนของเราบางเรื่องที่เราไม่ยอมกลับใจ บาปบางเรื่องที่เราสะสม หรือว่าพระเจ้าเตือนแล้วเราไม่ยอมทำ ประมาณนี้ค่ะ อยากทราบว่ามันใช่การตีสอนของพระเจ้าไหมในการที่เราป่วยบ่อยๆ เพราะว่าดิฉันป่วยบ่อยมากค่ะช่วงหลังๆ มาถึงแม้ว่าจะได้ฝึกมานาฯ ในระดับไหนก็ตาม แต่รู้สึกว่าทุกคนดิฉันสังเกตดูเขาจะป่วยกันเป็นหวัดปีละครั้ง แต่ดิฉันป่วยเดือนละครั้ง ป่วยทีก็นาน 2-3 อาทิตย์ ก็เลยอยากทราบว่าอันนี้มันเป็นการตีสอนในเรื่องการบาป หรือว่าการทดสอบทดลองความเชื่อกันแน่ เอเมนค่ะ
ตอบ.
เมื่อเราดูแลสุขภาพของเราเป็นอย่างดีแล้วนะครับ คืออะไร คือการกิน การพักผ่อน การนอนเพียงพอ การออกกำลังกาย ถ้าเราทำดีแล้ว เหมาะสมแล้ว
สองสิ่งนะครับคือสาเหตุ ก็คือ..
1. การตีสอนจากพระเจ้า
2. ก็คือการทดลองความเชื่อการทดสอบความเชื่อของเรา
โดยทั่วไปปกติสิ่งที่ 3. ไม่ค่อยจะมีในยุคนี้ ก็คือการถวายเกียรติแด่พระเจ้า อันนั้นเราอาจจะตัดออกไปได้ แต่เราก็ต้องดูว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นในลักษณะไหน
เราถามพระเจ้าก่อนนะครับ ว่าเราทำผิดอะไรไหม ทำไมถึงป่วยบ่อยๆ ขณะที่คนอื่นเขาป่วยนานๆ ที เราป่วยมันเยอะเกินไปมันบ่อยมาก เราถามพระเจ้าว่า
“ข้าพระองค์ทำผิดอะไรไหม ถ้าทำผิดข้าพระองค์ขอสารภาพ และขอพระองค์สำแดง และขอพระองค์ชำระข้าพระองค์ เพื่อที่ข้าพระองค์จะไม่ทำ”
เราถามพระเจ้านะครับ อาจจะเป็นการตีสอนที่เป็นมาจากพระเจ้าก็เป็นได้
สิ่งที่สองสาเหตุที่ 2. ก็คือ พระองค์อาจจะทดสอบความเชื่อของเรา หรือพระองค์ต้องการเรียกร้องความสนใจให้เราสนิทในพระองค์ อยู่ในฝ่ายวิญญาณมากกว่าที่จะใส่ใจในฝ่ายเนื้อหนัง
เราสำรวจเราเองว่าตอนนี้เราอยู่ในฝ่ายวิญญาณในแต่ละวัน สนิทในพระเยซูมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระองค์อยู่หรือไม่ ถ้าเราทำดีแล้ว
เราก็มาดูที่การถูกตีสอน คือเราได้ทำบาปอะไร อาจจะรู้ตัวหรืออาจจะไม่รู้ตัว อาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ เราถามพระเจ้าว่า
“ข้าพระองค์ทำผิดอะไร พระองค์ต้องการเตือนข้าพระองค์หรือบอกข้าพระองค์เรื่องอะไร ที่ข้าพระองค์ได้ทำผิดต่อน้ำพระทัยของพระองค์”
ถาม.
เอเมนค่ะ สมมุติว่าเรารู้แล้วว่ามันเป็นการตีสอนจากการทำบาปบางอย่าง ที่เรายังมีรากขมขื่น หรือมีอะไรขัดใจกับพี่น้องบางอย่าง แต่เราไม่ยอมไปเคลียร์ หรือเราไม่ต้องการที่จะให้เรื่องมันใหญ่ แต่เราต้องการจบอย่างนี้ค่ะ คือเหมือนกับว่าเราต้องการจบ แต่เราสารภาพบาปกับพระเจ้าเลย แต่เราไม่ต้องไปเคลียร์กับพี่น้องอย่างนี้โอเคไหมค่ะ ได้ไหมค่ะ หรือว่าเราต้องเคลียร์กับพี่น้อง หรือว่าเราแค่สารภาพบาปกับพระเจ้าแค่นี้ก็พอ
ตอบ.
ขอโทษนะครับ พูดตามตรง ขอพูดอย่างครบเลยนะครับ
ก็คือสำหรับพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่ และเรามีใจบาดหมางกับเขา หรือมีรากขมขื่นที่ยังยกโทษให้เขาไม่ได้ หรือยังคิดลบกับเขาอยู่ แต่เราต้องการอยากมีความสัมพันธ์อยากสามัคคีธรรมกับพระเจ้าอยากอยู่ในพระวิญญาณอยู่ในพระคริสต์ สิ่งที่จำเป็นสิ่งที่สำคัญที่เราต้องทำ ก็คือต้องไปเคลียร์กับเขา ต้องไปสารภาพต่อกันก่อน การสารภาพกับเขาไม่ใช่เรื่องใหญ่ สำหรับพระเจ้านะครับ เป็นสิ่งที่เราควรทำเพื่อสำแดงความถ่อมใจ เพื่อสำแดงความไม่มีตัวตนของเรา
ถ้าหากเราจะเป็นคริสเตียนที่แท้จริง เราไม่มีตัวตนนะครับ เราตายแล้ว คุณตายแล้ว ทุกคนตายแล้ว ชีวิตเก่าของเราอาดัมตัวที่มีอีโก้สูง ตัวที่มีความหยิ่งผยองพองตัว เราตายกันหมดแล้ว เอเมน ทุกวันนี้เราปัจจุบันนี้ เราเป็นคนใหม่ เป็นคนที่ไร้ตัวตน ไม่มีค่าอะไรเลย
แต่พระเจ้าเรียกเราเลือกเรามาเป็นบุตรของพระเจ้าและให้อยู่ในสภาพของคนที่ถ่อมจนถึงดินไม่มีค่าอะไร แต่พระคริสต์เป็นคุณค่าเป็นค่าที่สูงส่งที่อยู่ในพวกเรา เอเมน
เพราะฉะนั้นถ้าหากใครมีปัญหากับใคร เราไปสารภาพต่อกันและเคลียร์กัน เปาโลพูดโดยพระวิญญาณว่าใครมีปัญหามีเรื่องกับใคร จงสารภาพต่อกัน และเมื่อเราสารภาพพระโลหิตของพระเจ้าก็จะชำระเรา และเราก็จะมีส่วนในพระกายมีส่วนในการสามัคคีธรรม
ถ้าหากเราไม่สารภาพเรายังมีรากขมขื่น เรายังมีจิตใจที่ไม่ค่อยจะพอใจเขาเท่าไหร่ การสามัคคีธรรม การนมัสการ การมาร่วมกับพี่น้องของเรา พระเจ้าไม่เห็นไม่มีความหมายไม่มีค่าอะไรเลย มันเสียเวลาเปล่า
แต่เมื่อเราสารภาพผิดต่อกัน เราขอโทษพระเจ้า พระโลหิตของพระเจ้าก็จะชำระเรา และนำเราเข้ามาสู่อ้อมอกของพระบิดา และสู่อ้อมอกของพระกาย สู่ความรักของพระคริสต์ที่เคลื่อนไปมาที่ทำงานท่ามกลางพวกเราขณะนี้ และอาหารก็จะเป็นอาหารที่มีรสชาติโอชาอร่อยที่สุดสำหรับเราในวันนี้ ขอบคุณพระเยซูเอเมน
"แต่ไม่จำเป็นนะครับ ที่จะสารภาพต่อหน้าพี่น้องทุกคน" ก็คือทักเขาไปทักไลน์คุยทางไลน์ก็ได้ คุยทางไหนก็ได้ที่สะดวก หรือไปหากันก็ได้ สำหรับผมนะครับถ้าทำผิดกับใครไปหาดีกว่า รู้สึกว่าได้อยู่ใกล้แล้วก็ได้พูดต่อหน้ามันดีกว่า จะมีความรู้สึกที่มันผูกพันความสัมพันธ์การยกโทษการสารภาพต่อกันที่มีคุณค่ากว่า แต่ถ้าไม่สะดวก ไม่สะดวกก็คือขอโทษสารภาพต่อกันทางไลน์ก็ได้ทางไหนก็ได้ครับ (แต่พูดด้วยความจริงใจ)
ถาม.
จริงๆ ที่ถามไปคือมันเป็นเรื่องในอดีตแล้วนะคะ แต่ฉันไม่แน่ใจว่ามันเป็นเรื่องนั้นหรือเปล่าที่พระเจ้าตีสอน จริงๆ มันนานมากแล้วค่ะมันนานมากๆ แล้ว แต่เวลาเราอธิษฐานทำไมเรื่องนี้มันผุดขึ้นมาในใจ ก็เลยมาสอบถามอาจารย์ดูว่ามันใช่เรื่องตีสอนไหม
แต่ถ้าเราสองคนขอโทษกันแล้วแต่ว่าใจของเราลึกๆ มันยังผูกมัดตัวเองอยู่ อาการนี้เราจะทำยังไงค่ะ เราจะสารภาพบาปหรือสนิทกับพระเจ้ามากขึ้นกว่าเดิมค่ะ หรือว่ารอการชำระจากพระเจ้าที่พระองค์จะทรงปลดปล่อยตรงนี้ค่ะ
ตอบ.
ก็คือง่ายๆ นะครับ เราขอการชำระจากพระเจ้าครับ ก็คือ “พระเยซูชำระข้าพระองค์ด้วย ข้าพระองค์ยังมีรากขมขื่นยังลืมสิ่งที่เขาทำกับข้าพระองค์ไม่ได้”
แล้วก็สิ่งสำคัญ สิ่งสำคัญที่เราทำทุกวันจำได้ไหม เรานับตาย ถวายตัว ตายแล้วๆๆๆ ตัวเก่านี้ตายไปแล้วตายนานแล้วตายกับพระเยซูแล้ว ตายเมื่อ 2,000 ปีก่อนแล้ว คอนเฟิร์มยืนยันว่ามันตายจริงๆ ทำให้เป็นความจริงต่อชีวิตของเราต่อความคิดของเรา เมื่อเราท่องเราจำเราทำเป็นประจำทุกๆ วัน
คำตอบอยู่ในโรมบทที่ 6:4 เมื่อท่านจำเริญขึ้นในความตาย เมื่อท่านสนิทในการตายกับพระคริสต์ ท่านก็จะจำเริญขึ้นในความตายของพระคริสต์ มันคืออะไร? ก็คือเราจะตายมากขึ้น แล้วตัวเก่าของเราความหยิ่งผยองพองตัวมันจะลดน้อยลงและหายไป และความคิดในเรื่องของอาดัม ความไม่พอใจ ความโกรธ ความโมโห การไม่ให้อภัย มันก็จะตายไปก็จะหายไป
คือท่อง จำ นับตาย ถวายตัว และเชื่อว่าเราเป็นคนใหม่และสนิทในพระเยซูบอกรักพระองค์ให้มากในแต่ละวัน สุดท้ายผลของพระวิญญาณก็จะตามมาจะเกิดขึ้นและเข้ามาแทนที่ผลของอาดัมที่เป็นสิ่งที่ไม่ดี เอเมน
สำหรับพระเจ้า ผู้ชนะที่แท้จริง คือคนที่ชอบขอโทษ หรือบางครั้งเราอาจจะไม่ได้ทำผิด เราขอโทษก็เป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่พระเจ้าชอบพระทัย ซึ่งการขอโทษนำมาถึงการสร้างความผูกพัน มิตรภาพที่ดีขึ้นมาใหม่ได้ และทำให้คนมองเราว่าเป็นคนที่ถ่อมใจจริงๆ และเป็นมาโดยพระเจ้าจริงๆ มีความรักแท้อากาเป้จริงๆ
บางคนที่ไม่ชอบหน้าเรา บางคนที่เรามีปากเสียงทะเลาะกัน หรือถกเถียง หรือมีเรื่องต่อกันที่ผ่านมา ถ้าหากเราเป็นคนที่ยอมขอโทษ รู้ไหมครับว่าทุกสิ่งจากร้ายมันกลายกลับมาเป็นดีจากหน้ามือเป็นหลังมือเป็นไปได้ ด้วยคำ “ขอโทษ” คำเดียว
แล้วสิ่งที่พระเจ้าต้องการ ก็คือให้เรา “ขอโทษ” ถึงแม้ว่าบางครั้งเราอาจจะไม่ผิดก็ตาม นี่คือการถวายเกียรติแด่พระเจ้าที่แท้จริง เราทุกวันนี้เป็น peacemaker เราบุตรพระเจ้าเป็นคริสเตียนฝ่ายวิญญาณที่แท้จริงก็คือเป็น peacemaker ก็คือเป็นคนที่สร้างสันติในมัทธิวบทที่ 5:9 พระเยซูตรัสว่า บุคคลผู้ใดสร้างสันติคนนั้นจะเป็นบุตรแห่งอาณาจักรของพระเจ้า
เรายอมในวันนี้ เราถ่อมใจ เราเป็นคนที่ไม่มีค่าในวันนี้ เราจะเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรของพระเจ้า และเชื่อกันไหมครับว่าสิ่งที่ตามมาคืออะไร มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเราสารภาพต่อกัน เมื่อเราขอโทษเขา เมื่อเราทำในสิ่งที่พระเจ้าชอบพระทัย
รู้ไหมครับว่ามีอะไรจะเกิดขึ้น มีบุคคลที่สามที่จะเริ่มกระทำการบางอย่าง ก็คือพระวิญญาณบริสุทธิ์ สันติสุขจะเต็มล้น อาการสงบสุขจะมีมากมายในเรา และหัวใจที่เต็มด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ มันจะค่อยๆ เย็นชุ่มฉ่ำเย็นสบายในหัวใจของเรา
สิ่งนี้จะตามมาเมื่อเราขอโทษใครบางคน เมื่อเราสารภาพผิดต่อใครบางคน เมื่อเราทำในสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัย พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเป็นคนสนับสนุน ก็คือทำให้หัวใจของเราเต็มด้วยความสงบสุข เต็มด้วยหัวใจที่เย็นชุ่มฉ่ำ ขอบคุณพระเยซูเอเมน
อย่าลืมว่าการถ่อมใจเป็นหัวใจของพระเจ้า พระเยซูเป็นผู้ที่ถ่อมใจมากที่สุด และเป็นแบบอย่างที่เราควรใช้ชีวิตในการถ่อมใจในลักษณะของพระองค์ และให้พระองค์นั่นแหละเป็นคนที่ถ่อมใจอยู่ในเรา
และการที่ไม่ถ่อมใจ ตรงข้ามก็คือเป็นการอวดตัว หยิ่งพยองพองตัว อวดเก่ง อวดดี คือสิ่งที่ทำให้พี่น้องก็ไม่รักเรา แล้วก็พระบิดาก็ไม่ชอบพระทัยในชีวิตการงานการรับใช้ของเรา สิ่งที่เราทำก็ไร้ค่าในสายพระเนตรของพระบิดา
เพราะฉะนั้นอีกครั้ง “ขอโทษ” สารภาพผิดต่อกัน เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า และทำให้เกิดมิตรภาพ เราสร้างสันติ ดีกว่าสร้างศัตรู เอเมน
เราสำรวจดูว่าเราทำผิดกับใคร แล้วใครที่ไม่พอใจเราอยู่ เราได้ทะเลาะกับใคร ถกเถียงกับใคร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็กก็ตาม ไปเคลียร์กัน และถ้าหากพี่น้องที่เราไปเคลียร์ด้วยเขาไม่เล่นด้วยเขาไม่ยอมรับเขาไม่พูดด้วย อันนั้นก็คือเราก็ปล่อยให้เป็นภาระของพระเจ้ากับเขา แต่เรื่องของเราก็คือเราได้ขอโทษแล้ว สารภาพผิดแล้ว เราก็เคลียร์กับพระเจ้าเรียบร้อยแล้ว เอเมน (แต่ต้องขอโทษและสารภาพต่อกันด้วยความจริงใจ)
นมัสการในวิญญาณ คืออาศัยความเชื่อ ไม่มองด้วยสายตาอารมณ์ความรู้สึก
ในความจริง ก็คือเราใหม่แล้ว อยู่ในพระคริสต์แล้ว เต็มด้วยพระพรฝ่ายวิญญาณแล้ว เป็นบุตรที่รักของพระบิดา เป็นเจ้าสาวของพระคริสต์ เป็นพระกายของคริสตจักรแล้ว
ในความจริงคือพวกเรา รัก รักพระบิดา และรักซึ่งกันและกัน ผู้ที่ไม่รักพระเจ้าและพี่น้องก็ไม่ได้อยู่ในความจริง
สารภาพต่อกันและสารภาพต่อพระบิดา ก่อนที่จะเข้าร่วมในวิญญาณและในความจริง เพื่อพระโลหิตจะชำระเราและจะทรงต้อนรับเรา