ถาม.
ขอถามอีกข้อหนึ่งค่ะ สำหรับผู้เชื่อใหม่ คือวันนี้เขาได้ต้อนรับเป็นบุตรของพระเจ้าแล้ว เราจำเป็นไหมค่ะที่เราจะต้องกลับไปไหว้รูปเคารพที่บ้านอีก หรือไปไหว้พระอื่นอีก
ตอบ.
โดยปกตินะครับ สำหรับพระเจ้า สำหรับพระเจ้าพระองค์ไม่ประสงค์หรือไม่ต้องการให้ใคร ที่เมื่อมาเชื่อในพระเยซู และต้อนรับพระเจ้าแล้ว ก็คือพระองค์ต้องการให้เรานมัสการสรรเสริญกราบไหว้พระเจ้าเท่านั้น และเราไม่ต้องใช้อะไรทั้งนั้น ไม่ต้องใช้เงิน ไม่ต้องไปซื้ออะไรมา มาทำพิธีมาไหว้ มาอะไรก็แล้วแต่นะครับ เพื่อให้พระเจ้าดีใจเหมือนกับเราทำในตอนที่เราเป็นศาสนาเก่าอยู่ ซึ่งเราเพียงแต่เอาหัวใจมาให้พระเจ้า มานมัสการ สรรเสริญ ยกย่อง ขอบพระคุณพระเจ้า
และถามว่าพระเจ้าต้องการให้เรากลับไปทำในสิ่งที่เป็นสิ่งที่เราเคยทำไหม? พระเจ้าไม่ประสงค์นะครับ ไม่อยากให้เราทำ แต่พระเจ้าก็เข้าใจ
พระเจ้าก็เข้าใจ สำหรับคนที่เชื่อใหม่อาจจะยังมีศาสนาเดิมอยู่ ยังอยากจะกลับไปทำอยู่ ถ้าหากจำเป็นนะครับถ้าหากจำเป็น หรือกลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเราไหม หรือเห็นแก่ครอบครัวคนในครอบครัวที่เขายังทำอยู่ แต่เรามาเป็นคริสเตียนเรามาเชื่อในพระเยซูแล้ว เราอาจจะทำ เราอาจจะทำนะครับ แต่ถามว่าผิดไหมก็ผิด แต่พระเจ้าเข้าใจ
เอาแบบนี้ง่ายๆ คือการไปทำในสิ่งที่เราเคยทำอยู่เหมือนในศาสนาพุทธ เราทำนะครับ แต่พระเจ้าเข้าใจ พระเจ้าเห็นใจเรา และเราเชื่อนานไปพอเราเชื่อนานเข้าเนี่ย พระเจ้าจะเริ่มเปลี่ยนเราเอง และพระเจ้าจะทำให้เราหยุดทำเอง และเราจะไม่อยากทำในสิ่งที่เราเคยทำ เอเมนไหมครับ
สำหรับพี่น้องที่เป็นผู้ประกาศข่าวประเสริฐ หรือใครก็ตามนะครับ เมื่อเราชวนใครมาเชื่อ ชวนใครมารับรู้ความเข้าใจใหม่ความเชื่อใหม่ "มาเชื่อพระเยซูดูว่าจะได้รับอะไร จะมีความสุขมากกว่าเดิม จะมีสิ่งที่ดีมากกว่าเดิมเกิดขึ้นกับเรา พระเจ้าจะช่วยเราดูแลปกปักรักษาเรา ให้เรารอดในวันสุดท้ายไม่ต้องไปอยู่ในนรกบึงไฟ" เราบอกเขา และพอเขากลับใจเชื่อ เราอย่าไปบังคับเขา เราอย่าไปบอกเขานะครับว่าให้ทิ้งสิ่งเดิมทั้งหมด ไม่ต้องครับ
เราอธิษฐานเผื่อเขา เราอธิบายนะครับว่า พระคำพระเจ้าเป็นแบบนี้ รับพระเจ้าแล้วมีความสุข คือให้เขาเติบโตเอง พอเขาเติบโตเองนะครับ พอเขามีความเข้าใจในพระคำพระเจ้าในพระประสงค์ของพระเจ้า สุดท้ายเขาจะไม่ทำเอง พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเป็นคนสอนเขาครับ
สำหรับผมนะครับเคยเห็นผู้ประกาศพี่น้องหลายคนที่ไปประกาศ พอเขากลับใจเชื่อก็ชวนเขาอธิษฐานต้อนรับพระเยซู พอเสร็จแล้วนะครับ ผู้ประกาศก็บอกว่าตั้งแต่นี้ไป ทิ้งเลย แท่นบูชา พระทั้งหลายเอาไปทิ้ง แต่สุดท้ายนะครับครอบครัวก็เดือดร้อน เนื่องจากว่าคนในครอบครัวเขายังไม่ต้อนรับพระเยซูทั้งหมด เพียงแต่เขาคนเดียวที่ต้อนรับพระเยซู
เพราะฉะนั้นเราต้องเห็นใจ เราต้องเข้าใจคนในครอบครัวของเขา สมาชิกครอบครัวของเขา และเห็นแก่ความเชื่อใหม่ของเขาที่เขายังระหวาดระแวง เขายังสงสัย เขายังสับสน ซึ่งเขาอาจจะยังอยากไปกราบไหว้พระเดิมที่เขาเคยกราบไหว้อยู่ ปล่อยให้เขาทำไปนะครับ ปล่อยให้เขาทำ เพียงแต่เราค่อยๆ อธิษฐาน และค่อยๆ อธิบายให้เขาเข้าใจ
จากนั้นไม่นานนะครับไม่นานเราเห็นไหมครับว่าคริสเตียนหลายคนพอเชื่อพระเยซู 3-4-5 เดือน ปีหนึ่งผ่านไป มีใครไหมที่กลับไปกราบไหว้พระเดิม ไม่มีใช่ไหม เราไม่ต้องใจร้อนนะครับ เราไม่ต้องรีบไปบอกเขา (เอาทิ้งเดี๋ยวนี้ ทิ้งวันนี้ ตั้งแต่นี้ไป) อันนั้นจะทำให้เขาเดือดร้อนและคนในครอบครัวของเขาจะเดือดร้อน เนื่องจากว่ามารซาตานจะเล่นงานทุกคนที่มันเล่นงานได้ในตอนนั้นนะครับ
สำหรับกรณีที่บางคนที่มีพี่น้องบางคนที่ต้อนรับพระเยซูใหม่ๆ เชื่อใหม่ๆ เขาตัดสินใจเด็ดเดี่ยวอย่างเด็ดขาดว่าผมอยากทิ้งทั้งหมดอยากตัดสินใจ คือต้อนรับพระเยซูเอาพระเยซูผู้เดียวเท่านั้น ไม่สนใจสิ่งอื่นแล้ว อันนั้นโอเคครับเอเมนเราบอกเขาได้ คือพระเจ้าต้องการให้เราทิ้ง ถ้าทิ้งได้ก็ทิ้ง ถ้ากลัวอยู่ก็รอไปก่อน ก็ทำไปก่อนได้ไม่เป็นไร
อย่าลืมนะครับเราทำทุกสิ่งตามขนาดของความเชื่อ และเราไม่เคร่งศาสนา เราไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เราค่อยเป็นค่อยไป
แน่นอนครับบุตรพระเจ้าทุกคนเนี่ย ในที่สุดไม่มีใครหรอกที่ได้รับรู้สันติสุข ได้รับรู้ความรอดความเข้าใจใหม่ และซาบซึ้งในความรักของพระเยซู สุดท้ายทุกคนจะไม่หนีไปไหน และจะไม่กราบไหว้สิ่งอื่นพระอื่นแน่นอน แต่กราบไหว้นมัสการพระเยซูเท่านั้น พี่น้องพวกเราในที่นี้มีใครไหมที่อยากจะกลับไปกราบไหว้ ไม่มีใช่ไหม เพราะว่าเราซาบซึ้งในความรักในพระคุณของพระเจ้า เรารับความรู้ความเข้าใจที่เต็มล้นแล้ว อันนี้แน่นอน ใครชวนไปก็ไม่ไป ใครบังคับให้ไปก็ไม่ไปแน่นอนครับ
แต่สำหรับพี่น้องที่เชื่อใหม่ เราเห็นใจเขา เราอธิษฐานเผื่อเขา เราให้ความรู้แก่เขา และเขาจะเป็นคนตัดสินใจเอง