ภาชนะชนิดที่ 1. เรียกว่าภาชนะดิน
ภาชนะชนิดที่ 2. เรียกว่าภาชนะทองคำ เป็นภาชนะเงิน เป็นภาชนะทอง คือมันมีค่า
เปาโลกำลังพูดว่าในโลกนี้ มีคริสเตียนสองแบบ คริสเตียนที่เป็นดิน เป็นเนื้อหนัง ที่ใช้ชีวิตเก่าตัวเก่าเพื่อไปทำดีให้พระเจ้า อันนี้พระเจ้าไม่รับ
แต่ถ้าหากเราทำด้วยทองคำ เงิน เพชร พลอย ก็คือให้พระคริสต์เป็นคนทำในเรา เราจะทำอะไรก็ตาม เราเชื่อว่าพระคริสต์กำลังทำแทนเรา เราควักกระเป๋าเอาเงินให้คนยากคนจน เราไม่รู้ว่าใครกำลังทำอยู่ แต่เราเชื่อว่านี่คือพระเยซูกำลังทำอยู่ให้อยู่ ก็คือ ทองคำ
เรากำลังพูด เราบอกว่าพระเยซูกำลังพูดแทนข้าพระองค์ คำพูดออกมา ก็คือ ทองคำ
เราเล่นกีต้าร์ ถ้าเล่นด้วยตัวใหม่ เชื่อว่าตัวเก่ามันตายไปแล้ว มือที่กำลังดีดกีต้าร์เล่นกีต้าร์ ก็คือ มือใหม่ ก็คือ ทองคำ
ทุกสิ่งที่เราทำอยู่ ถ้าเราตระหนัก เราคิดถึงว่ากำลังทำด้วยภาชนะทองคำ ด้วยตัวใหม่ ตัวเก่าตายไปแล้ว ตัวใหม่กำลังทำอยู่ เรียกว่าเป็นภาชนะทองคำ
ทำอะไรก็ตามพระเจ้าจะเรียกว่าผลดี ที่ออกมาจากต้นดี ต้นดี ก็คือพระเยซู ถ้าอยากมีผลดี ก็คืออาศัยพระเยซูที่เป็นต้นดีทำให้เรา สิ่งสำคัญคุณทำอะไรก็ตามในแต่ละวัน อย่าให้มันเสียเปล่า ให้มันมีบำเหน็จรางวัล ก็คือทำด้วยตัวใหม่ ด้วยภาชนะทองคำ ด้วยภาชนะเงิน ก็คือพระเยซูเป็นคนทำให้
เราไม่รู้ว่าใครทำอยู่ตอนนี้ แต่เราเชื่อก่อน เชื่อว่าพระเยซูกำลังทำ พระเยซูกำลังขับรถ พระเยซูกำลังเดิน พระเยซูกำลังนั่งอยู่ พระเยซูกำลังฟังอยู่ พระเยซูกำลังมองอยู่ พระเยซูกำลังคิดแทนเราอยู่ คืออะไรก็พระเยซูไปหมดเลย โทรศัพท์ก็คือพระเยซูโทร โทรนานเท่าไหร่เงินก็ยังเหลืออยู่เยอะ บางทีโทรนานๆ แบตก็ไม่หมด
บางคนใช้ตัวเก่าทำเล่นเฟส ปุ๊บปั๊บแบตหมดแล้ว โทรศัพท์ก็เสื่อมเร็วเสียเร็ว แต่คนที่โทรคุยเรื่องพระเจ้า เรื่องพระเยซูโทรศัพท์มันทนนานมันทนมาก ไม่ต้องใช้รุ่นแพงๆ แต่มันคุยได้ทั้งวัน เพราะว่าอะไร ? พระเยซูทำแทน ทำงานทั้งวัน 8 ชั่วโมงแต่เวลามันวิ่งเร็วมาก
ถึงเวลากลับบ้านแล้วหรอทำไมเร็วจัง สำหรับผมอันนี้ขอเป็นพยานเลยน่ะครับ ขอบคุณพระเจ้าไปทำงานที่ตลาด ไปนั่งดูเวลา อุ้ย ถึงเที่ยงแล้วหรอ ถึงเวลาทานข้าวแล้ว ก็ไปทานข้าว กลับมานั่งปุ๊บ อุ้ย ถึงเวลากลับบ้านแล้วเหรอ คือเวลาของเราไม่เท่ากัน
เวลาของคริสเตียนไม่เท่ากัน สำหรับเวลาของคริสเตียนที่ใช้ชีวิตเป็นภาชนะดิน คือใช้เนื้อหนังใช้ตัวเก่าทำ ไม่มีพระเยซูทำแทน ไม่อธิษฐานไม่คุยกับพระเยซูบ่อยๆ จะไม่มีสันติสุข และเวลามันจะวิ่งช้ามาก ดูนาฬิกาเมื่อไหร่ก็ยังอยู่ที่เดิม
แต่คนที่สนิทในพระเยซูทำด้วยตัวใหม่ เป็นภาชนะทองคำของพระเยซู ก็คือดูนาฬิกามันจะวิ่งเร็วมาก อย่าลืมน่ะ นาฬิกาอันเดียวกันแต่มันไม่เท่ากันสำหรับคริสเตียนเรา
เราคนใจเย็นเราคนที่แบบสนิทในพระเยซู เวลามันจะเร็ว เร็วๆ แต่วันไหนที่เราคิดถึงเนื้อหนังไปบ่อยๆ เราคิดถึงอะไรบ้าง คือแบต ถ่านมันจะหมดเร็วอะไรมันก็จะช้าลง คือมันจะทำให้เราไม่พอใจไม่มีความสุข
เพราะฉะนั้นดำเนินชีวิตด้วยภาชนะทองคำ ก็คือเชื่อว่าเราตายต่อตัวเก่าแล้ว เราเป็นคนใหม่แล้ว ทำทุกสิ่งเชื่อว่าพระเยซูกำลังทำอยู่
อย่าลืมน่ะการฝึกนี้ มันจะมีเผลอ คุณจะเผลอกลับไปเป็นดิน แล้วคุณก็กลับมาใหม่ได้ กลับมาใหม่ได้ทั้งวัน คือชีวิตคริสเตียนเราไม่ได้มีอะไรทำมาก เราฝึกสิ่งนี้ พระเจ้าต้องการให้เราฝึกแค่นั้นเอง
ฝึกเพื่ออะไร ? เพื่อเอานิสัยใหม่ของพระเยซูเข้ามาเยอะๆ นี่คือสิ่งที่พระเจ้าต้องการ พระเจ้าไม่ได้ต้องการให้เราบังคับตนให้ไปเลิกทำบาป แต่พระเจ้าให้เราใช้เวลาอยู่กับการฝึก กลับเข้ามาในพระวิญญาณ กลับเข้ามาเป็นทองคำ คือเชื่อว่าเราเป็นคนใหม่
...
ก็คือ สะสมบทเรียนมากขึ้น แล้วก็สนิทกับพระเยซู พูดคุยกับพระเยซูมากขึ้น แล้วอีกอย่าง อันนี้เรียกว่ากระบวนการ กระบวนการ ก็คือต้องใช้เวลา พวกคุณไม่ต้องห่วง หน้าที่ของพวกคุณ คือใกล้ชิดพระเยซูให้มาก สนิทมากๆ ทำบาปมันก็จะน้อยลงๆ ไปเอง
การเติบโตของชีวิตคริสเตียนจากดิน สู่ภาชนะทองคำหรือเงิน มันต้องใช้เวลาเหมือนกับต้นไม้ที่เราไปปลูก มีใครไหมที่ไปปลูกต้นมะนาวแล้วอีก 5 นาทีจะมีผลออกมา แล้วเราก็เอามาบีบคั้นใส่ส้มตำ มีไหม
ต้องใช้เวลานาน สำหรับเราก็เหมือนกัน แต่อย่างน้อยพระเจ้าให้มัดจำสิ่งหนึ่ง ก็คือ สันติสุข ทุกคนที่เชื่อ พระเจ้าให้แล้วคือสันติสุข แล้วเรื่องการเติบโต เลิกทำบาป คือต้องใช้เวลา แต่สันติสุขได้มาโดยทันที
การทำบาป เลิกบาป ต้องใช้เวลา แต่สันติสุขก็คือได้มาทันที