a. พระเจ้าทรงรับรู้ และมองเห็นทุกสิ่ง และทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรา
b. พระเจ้าอนุญาตให้ปัญหา การข่มเหงเข้ามามากน้อยก็อยู่ที่พระองค์เป็นคนกำหนด
c. ปัญหาจะไม่หนักเกินไป ไม่มากเกินความอดทนของเรา ไม่นานเกินไป และพระองค์ก็คอยปลอบประโลมเราตลอดเวลา ไม่ทิ้งเราให้ลำบากผ่านมรสุมคนเดียว
d. ถึงแม้ว่าบางครั้งพวกผู้เชื่อกลุ่มหนึ่งต้องการกำจัดผู้เชื่ออีกกลุ่มหนึ่งเพราะคิดว่าเขาสอนผิดโดยการยืมมือกฎหมายหรือผู้ปกครองบ้านเมือง แต่พระเจ้าก็ทำให้พวกเขามองเห็นความยุติธรรม ชอบธรรม และเที่ยงธรรมอยู่บ้าง เราจึงพ้นภัยได้ หรือหนักกลายเป็นเบา ร้ายกลายเป็นดีได้
อีกคำถามหนึ่ง คือ ทุกวันนี้ ยังมีตำแหน่งฐานะของอัครทูตอยู่ไหม บางคนบอกว่ายังเป็นได้อยู่ บ้างก็บอกว่า หมดสมัยแล้ว
คำตอบ คือ เป็นได้ เพราะเป็นหนึ่งในของประทาน (อฟ 4:11) จะอยู่ในยุคสมัยใดก็ตาม คือผู้เชื่อบางคนที่ได้กิน นอน ไป มา พูดคุย กับพระเยซูอยู่เสมอ นี่คือคุณสมบัติของอัครทูต จนพระองค์ให้สิ่งหนึ่งแก่เขา คือ เป็นอัครทูต เขาช่วยคนเรื่องฝ่ายวิญญาณได้มากมาย
1. ขอพระวิญญาณเปิดตาใจเราให้รู้และเข้าใจเรื่อง เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า be one with God / ร่วมกันกับพระเจ้า join with the Lord และการสามัคคีธรรมกับพระเจ้า abide in Him
2. พระเจ้าทรงเรียกเรามาให้รอด justified พระเจ้าเลือกเรามาให้เข้าสู่การชำระ (แยกออก) sanctified จากชีวิตที่ผิดบาปในแต่ละวัน เพื่อเข้าสู่สง่าราศีทั้งในชีวิตนี้และชีวิตหน้า glorified
3. ตั้งแต่วันที่เราเชื่อ ชีวิตของเราจึงอยู่ภายใต้การดูแล และแผนการงานของพระองค์จะสำเร็จในผู้เชื่อทุกคนตามที่พระเจ้ามองเห็นตั้งแต่ก่อนที่จะสร้างโลก เพราะฉะนั้น เมื่อรู้เราจึงวางใจในพระองค์และปล่อยปลงวางกับชีวิตและอธิษฐานขอให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระบิดา
4. การข่มเหง ปัญหา มรสุมชีวิต ที่เข้ามา ล้วนแต่พระเจ้าอนุญาต มันคือแสงแดด เพื่อเราจะเข้มแข็งและเพื่อพิสูจน์ว่าเราไม่ละทิ้งและบ่นว่าพระเจ้าแต่ขอบพระคุณ รักพระองค์วันยังค่ำ เบื้องหลังก็คือบำเหน็จพระพรเมื่อเราผ่านมันไปได้โดยพระคริสต์ในเรา
5. อย่าคิดหรือคาดหวังว่าพี่น้องผู้เชื่อด้วยกันจะไม่ทำร้ายทำลายเรา มนุษย์ที่ยังไม่ได้รับการชำระนั้นไม่มีอะไรแน่นอน วันนี้อาจรักเรามากแต่เมื่อไม่ได้ดั่งใจหรือเขามองเห็นว่าเราผิดเขาจะหมดรักต่อเรา โลกอาจทำร้ายผู้เชื่อประมาณหนึ่งแต่ผู้เชื่อด้วยกันจะทำให้เราเจ็บช้ำมากกว่าก็เป็นได้
- เราที่เป็นบุตรที่รักของพระบิดา เราจะไม่ทำร้าย ทำลายใคร เราเดินด้วยรัก ยกโทษอภัย 70×7 เพราะว่าพระบิดาทรงกล่าวว่า การแก้แค้นเป็นของเรา สนามรบนี้เป็นของเรา
ตั้งแต่ ค.ศ. 70 จนถึงทุกวันนี้ ยิวต้องรับผิดชอบที่ขอให้ผู้ปกครองประหารพระเยซู (มธ 27:25) แล้วประชาชนทุกคนตอบ และกล่าวว่า “ให้โลหิตของเขาตกอยู่บนพวกเรา และบนบุตรทั้งหลายของพวกเราเถิด”
- ศัตรูผู้ข่มเหง เข้ามาหาเราทำไม เพื่อที่เราจะรักเขา
- คนที่เกลียดชังมาหาเราทำไม เพื่อเราจะรักและอภัยเขา
- คนบาปมาหาเรา เพื่อเราจะทำดีกับเขาเพื่อส่องสว่างของพระเจ้าถึงเขา
- คนที่พูดใส่ ประชดประชัน พูดให้เราเจ็บ มาหาเรา เพื่อเราจะพูดด้วยรสเค็ม
- คนที่ชอบเอาเปรียบมาหาเรา เพื่อเราจะฝึกเดินเรื่องยอมเสียเปรียบ
- คนที่ชอบถกเถียงมาหาเราทำไม ก็เพื่อเราจะฝึกสงบนิ่งไม่ต่อสู้แต่สร้างสันติ
ผลลัพธ์ ก็คือ เราได้รับอาณาจักร
1 คร 13 ความรักก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ไม่ช่างจดจำความผิด ทำดีต่อผู้อื่น ฯลฯ