พระบัญญัติจะไม่ถูกทำลายไปโดยเด็ดขาดแต่เราถูกทำลาย
พระบัญญัติจะไม่ถูกลบล้างเป็นอันขาดแต่คริสเตียนไม่ต้องอยู่ใต้พระบัญญัติ คริสเตียนตายแล้วจากพระบัญญัติ พระบัญญัติยังอยู่ไม่ได้ไปไหนยังไม่ถูกลบล้าง แต่พระคริสต์สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนแล้วพระองค์ให้เราทุกคนมีส่วนในการตายกับพระองค์ด้วย
เมื่อเราตายแล้วเนื้อหนังของเราก็ถูกทำลายไปเราทุกวันนี้เป็นมนุษย์วิญญาณเมื่อพระเยซูฟื้นคืนพระชนม์พระองค์ประทานชีวิตใหม่ให้แก่เราเราจึงเป็นมนุษย์วิญญาณมีชีวิตใหม่เราตายแล้วเราตายจากพระบัญญัติ
พระบัญญัติเป็นของเนื้อหนังและมีไว้เพื่อให้เนื้อหนังรักษาปฏิบัติตามแต่ถ้าหากเราตายพระบัญญัติยังอยู่เราก็ไม่ต้องอยู่ใต้พระบัญญัติอีกต่อไปแต่อยู่ใต้พระคุณ ร่างกายนี้ ชีวิตนี้ เป็นชีวิตใหม่ และชีวิตใหม่นี้มีพระคริสต์ที่อยู่ในเราพระองค์เป็นผู้กระทำความดีผลของพระวิญญาณปรากฏในชีวิตของเรา
อีกครั้ง พระบัญญัติจะไม่ถูกทำลายไปโดยเด็ดขาดแต่เราถูกทำลายแล้วพระเยซูถูกตรึงบนไม้กางเขน พระองค์นับเราทุกคนเข้าไปตายกับพระองค์ด้วยเรามีส่วนตายกับพระองค์
ในมัทธิวบทที่ 5 ข้อที่ 17 กล่าวว่า (อย่าคิดว่าเรามาเพื่อจะทำลายพระราชบัญญัติหรือคำของศาสดาพยากรณ์เสีย เรามิได้มาเพื่อจะทำลาย แต่มาเพื่อจะให้สำเร็จ)
พระบัญญัติแม้แต่ขีดเดียวก็จะไม่ถูกทำลายไม่ถูกลบล้างแต่สิ่งที่ถูกลบล้างและสิ่งที่ถูกทำลายก็คือเรา
โรมบทที่ 7 ข้อที่ 4 กล่าวว่า (เช่นนั้นแหละ พี่น้องทั้งหลายของข้าพเจ้า ท่านทั้งหลายได้ตายจากพระราชบัญญัติทางพระกายของพระคริสต์ด้วย เพื่อท่านจะตกเป็นของผู้อื่น คือของพระองค์ผู้ทรงฟื้นขึ้นมาจากความตายแล้ว เพื่อเราทั้งหลายจะได้เกิดผลถวายแด่พระเจ้า)
หมายความว่ายังไง พระบัญญัติมีไว้เพื่อให้เนื้อหนังรักษาฝ่ายเนื้อหนังเมื่อไหร่เมื่อเรายังมีชีวิตอยู่ยังเป็นเนื้อหนังมนุษย์อาดัมถ้าหากชีวิตของเราไม่สอดคล้องไม่อยู่ใต้พระบัญญัติเราก็จะถูกลงโทษชีวิตของเราไม่มาถึงมาตรฐานของพระบัญญัติที่พระเจ้าตั้งไว้
แต่ว่าขอบพระคุณพระเจ้า พระเยซูคริสต์เป็นข่าวดีพระองค์ไม่เพียงแค่ตายเพื่อไถ่บาปอยู่ที่กางเขน 2000 ปีก่อนเท่านั้น แต่ว่าพระองค์นับเราทุกคนเข้าไปมีส่วนในการตายของพระองค์ด้วยเราตายกับพระองค์แล้วหมายความยังไง คืออะไร การตายร่วมกับพระเยซูเราตายจากเนื้อหนังจากมนุษย์อาดัมเราทุกวันนี้เป็นมนุษย์วิญญาณ
ยอห์นบทที่ 3 ข้อที่ 3-5 กล่าวว่า (พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ถ้าผู้ใดไม่ได้บังเกิดใหม่ ผู้นั้นจะเห็นอาณาจักรของพระเจ้าไม่ได้” นิโคเดมัสทูลพระองค์ว่า “คนชราแล้วจะบังเกิดใหม่อย่างไรได้ จะเข้าในครรภ์มารดาครั้งที่สองและบังเกิดใหม่ได้หรือ” พระเยซูตรัสตอบว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ถ้าผู้ใดไม่ได้บังเกิดจากน้ำและพระวิญญาณ ผู้นั้นจะเข้าในอาณาจักรของพระเจ้าไม่ได้)
เราบังเกิดใหม่ในพระวิญญาณเมื่อเราบังเกิดใหม่ในพระวิญญาณเราก็เป็นมนุษย์วิญญาณเรามีชีวิตของพระวิญญาณของพระคริสต์อยู่ในเราเพราะฉะนั้นฝ่ายร่างกายฝ่ายเนื้อหนังเราตายแล้วพระเจ้านับว่าเราตายแล้วอีกครั้งพระบัญญัติยังอยู่พระบัญญัติไม่ถูกทำลายไม่ถูกลบล้างแม้แต่ขีดเดียว ถูกต้อง
แต่เราตายจากพระบัญญัติเรานี่แหละเป็นคนที่ถูกลบล้างเป็นคนที่ถูกทำลายไปชีวิตอาดัมของเราไม่เหลืออะไรอีกแล้วมันหมดแล้ว
ทุกวันนี้ผมคือคนใหม่ คุณเป็นคนใหม่ ใหม่ในพระคริสต์ ใหม่โดยทางความเชื่อ ตาเรามองไม่เห็นแต่เราเชื่อเมื่อเราเชื่อมมากขึ้นผู้คนผู้ใหม่ที่อยู่ภายในเราที่ซ่อนอยู่จะออกมาปรากฏและดำเนินชีวิตในแต่ละวันร่วมกับพระคริสต์สองคนในร่างเดียว
เราไม่ได้อยู่ใต้พระบัญญัติแต่อยู่ภายใต้พระคุณ การอยู่ใต้พระคุณก็คือการที่เราให้พระเยซูคริสต์ใช้ร่างกายนี้ใช้ชีวิตนี้จิตใจนี้เพื่อดำเนินชีวิตที่เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า
มีพี่น้องบางท่านอาจจะสงสัยว่าอัครทูตเปาโลยังไม่มาถึงผู้ชนะเลยแล้วในยุคนี้จะมีผู้ชนะเกิดขึ้นได้หรอ
เนื่องจากพี่น้องไม่เข้าใจพระคัมภีร์ข้อนี้เราเห็นว่า โรมบทที่ 7 อัครทูตเปาโลต่อสู้ดิ้นรนกับตัวบาปและไม่สามารถเอาชนะตัวบาปได้หลายคนใช้พระคัมภีร์ข้อนี้เพื่ออ้างว่าไม่มีผู้ชนะ
ใน 1 โครินธ์ 9:26 (ดังนั้นส่วนข้าพเจ้าวิ่งแข่งอย่างนี้โดยมีเป้าหมายข้าพเจ้าไม่ได้ต่อสู้อย่างนี้ไม่ใช่อย่างนักมวยที่ชกลม )
เปาโลกล่าวว่าเรากำลังวิ่งแข่งแต่พี่น้องผู้เชื่อส่วนมากไม่รู้ว่ามีอีกที่หนึ่ง
2 ทิโมธีบทที่ 4 ข้อที่ 7 ( ข้าพเจ้าได้ต่อสู้อย่างเต็มกำลัง ข้าพเจ้าได้แข่งขันจนถึงที่สุด ข้าพเจ้าได้รักษาความเชื่อไว้แล้ว)
ท่านกล่าวว่าเราได้มาถึงแล้วเราพบแล้วเราชนะแล้วสำหรับโรมที่ 7 เป็นการเล่าเรื่องของการต่อสู้ชีวิตเอาชนะบาปของเปาโลเราไม่เห็นนะว่าโรมบทที่ 8 เป็นคำตอบ ท่านกล่าวถึงโรมบทที่ 6 จากนั้นกล่าวถึงโรมบทที่ 7 ท่านพบปัญหาเรื่องการต่อสู้กับบาปไม่ชนะสักทีและในข้อสุดท้ายของโรมบทที่ 7 ท่านกล่าวว่าโอ้ใครจะช่วยปลดปล่อยข้าจากร่างกายแห่งความบาปแห่งความตายนี้ได้แล้วเปาโลก็ร้องขึ้นอยู่ว่าโอ้ขอบพระคุณพระเยซูขอบพระคุณพระบิดาในพระคริสต์
ในพระคริสต์คือท่านยอมแพ้ต่อตัวของท่านเองยอมแพ้คือหมดหวังแล้วในชีวิตของท่านในตัวของท่านและท่านฝากความหวังไว้ที่พระเยซูและในโรมบทที่ 8 เราอ่านต่อเรื่องเล่าของอาจารย์เปาโลเราจะเห็นว่าในโรมบทที่ 8 ข้อที่ 1-2 ท่านบอกว่า (เหตุฉะนั้นบัดนี้การปรับโทษจึงไม่มีแก่คนทั้งหลายที่อยู่ในพระเยซูคริสต์ ผู้ไม่ดำเนินตามฝ่ายเนื้อหนัง แต่ตามฝ่ายพระวิญญาณ เพราะว่ากฎของพระวิญญาณแห่งชีวิตในพระเยซูคริสต์ ได้ทำให้ข้าพเจ้าพ้นจากกฎแห่งบาปและความตาย)
ท่านบอกว่าเหตุฉะนั้นการลงโทษจึงไม่มีแก่บรรดาผู้ที่อยู่ในพระคริสต์ผู้ที่ไม่ดำเนินตามเนื้อหนังแต่ดำเนินตามฝ่ายพระวิญญาณเพราะว่ากฎแห่งพระวิญญาณและกฎแห่งชีวิตได้ทำให้พวกเราได้หลุดพ้นจากกฎแห่งความบาปและกฎแห่งความตายเพราะฉะนั้นเปาโลเป็นผู้ชนะผู้หนึ่งและสาวกอีกมากมายกลายเป็นผู้ชนะเนื่องจากว่าเขาได้พบเคล็บลับ คือ การดำเนินชีวิตที่มีพระบัญญัติอยู่แต่ว่าเราถูกย้ายออกมาจากพระบัญญัติเราตายจากพระบัญญัติ
พระบัญญัติไม่ตายพระบัญญัติไม่ถูกลบล้างแต่เรานี่แหละถูกลบล้างเรานี่แหละตายไป โรมบทที่ 7:4 (เช่นนั้นแหละพี่น้องทั้งหลายของข้าพเจ้าท่านทั้งหลายได้ตายจากพระราชบัญญัติทางพระกายของพระคริสต์ด้วยเพื่อท่านจะตกเป็นของผู้อื่นคือของพระองค์ผู้ทรงฟื้นขึ้นมาจากความตายแล้วเมื่อเราทั้งหลายจะได้เกิดผลถวายแด่พระเจ้า )
และโรมบทที่ 6:14 (เพราะว่าบาปจะมีอำนาจเหนือท่านทั้งหลายต่อไปก็หามิได้เพราะว่าท่านทั้งหลายไม่ได้อยู่ใต้พระราชบัญญัติแต่อยู่ใต้พระคุณ)
การอยู่ใต้พระคุณ ก็คือการทำแทนของพระเยซูที่อยู่ในเราใช้ร่างกายใช้ชีวิตของเราเพื่อรักษาพระบัญญัติ
การที่จะมีชีวิตที่เป็นผู้ชนะได้ในแต่ละวันเราไม่ต้องพึ่งพาฤทธิ์อำนาจการเสริมกำลังจากพระเจ้า
เราไม่ต้องขอกำลังฤทธิ์เดชจากพระเจ้าเพื่อให้มาช่วยเรา ให้เราเข้มแข็งขึ้น มีพลังมหาศาลที่จะทำดีเชื่อฟังพระเจ้าได้ เอาชนะบาปได้ ไม่ครับ
การที่จะเป็นผู้ชนะ การที่จะเอาชนะบาปได้ ก็คือการเป็นคนที่อ่อนแอที่สุด เราไม่ต้องการความเข้มแข็ง เราไม่ต้องการพลังที่พระเจ้าจะให้เราไม่ครับผม แต่เรายอมเป็นคนที่อ่อนแอที่สุด ยอมจำนนท์ต่อพระเจ้า ยอมแพ้แล้ว ไม่สู้แล้ว เราหมดหวังในชีวิตของเราแล้ว
เมื่อเราหมดหวังในตัวนี้ บุคคลผู้นี้ มนุษย์คนเก่าผู้นี้เป็นเสื้อที่ขาดแล้ว ทำดีเชื่อฟังพระเจ้าไม่ได้ ทำได้แต่ก็เล็กน้อย
เพราะฉะนั้น ความอ่อนแออยู่ที่ไหน พลังยิ่งใหญ่กฎแห่งพระวิญญาณ และกฎแห่งชีวิตก็จะเข้ามาช่วยเราอยู่ในพระคริสต์ได้ ก็คือพระคริสต์เป็นผู้ดำเนินชีวิตแทนเรา
- เมื่อเรายอม พระองค์ก็จะทำ
- เมื่อเราจบ พระองค์ก็จะเริ่มต้น
- เมื่อเราตาย พระองค์ก็จะมีชีวิตอยู่
- เมื่อเราอ่อนแอ ยอมรับว่าเราเป็นคนอ่อนแอ ไม่สู้แล้ว ความเข้มแข็งของพระคริสต์ก็จะมา
ชีวิตผู้ชนะไม่ใช่ชีวิตของเราเอง
ชีวิตผู้ชนะ เป็นชีวิตของพระเจ้าที่อยู่ในเรา ที่นำชัยชนะให้เราในแต่ละวัน แต่ละเวลา แต่ละวัน แต่ละชั่วโมงครับ.
ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม เราไม่ใช่คนที่จะต่อสู้กับความบาป ไม่ต้องดิ้นรนต่อไป แต่พระคริสต์ที่อยู่ในเรา. เป็นผู้กระทำดีเป็นผู้ดำเนินชีวิตแทนเรา
การเปลี่ยนแปลงได้มาจากการที่เรายอมตายจากตัวเก่า และดำเนินชีวิตในตัวใหม่ และตัวใหม่นี้เราจะต้องพึ่งพาพระคริสต์ที่อยู่ในเรา และตัวใหม่นี้ ยอมรับว่าเป็นคนที่อ่อนแอ ไร้สมรรถภาพ ไร้กำลัง อ่อนแอสุดๆ
เมื่อเรายอมรับว่าเราเป็นคนอ่อนแอสุดๆ แล้ว ชีวิตผู้ชนะคือชีวิตพระคริสต์ที่อยู่ในเรา ก็จะปรากฎและช่วยเราให้สามารถมีชัยชนะต่อความบาปในแต่ละวัน แต่ละเวลาได้ ง่ายมากครับขอเพียงแต่รู้เคล็ดลับ
ถ้าจะรับไฟ เราจะรับการขอฤทธิ์เดช ขออำนาจจากพระเจ้าให้มาเสริมกำลังเรา อันนั้นไม่ได้ครับ
พระเจ้าไม่สนับสนุนให้ใช้ตัวเก่า มนุษย์คนเก่า แต่พระเจ้าให้เราใช้ตัวใหม่ มนุษย์คนใหม่และมีพระคริสต์เป็นผู้ทำแทนในแต่ละวัน (กท 2:20 / 2 คร 12:10 - 13:4)
https://youtu.be/xwbrDLHBH9E
บทความเพิ่มเติม:
พระบัญญัติเดิมกลายเป็นพระบัญญัติใหม่แล้ว แต่พี่น้องคริสเตียนเรายังไม่รู้
ตาบอดอยู่ใต้พระบัญญัติ ตาดีอยู่เหนือพระบัญญัติ (อยู่ใต้พระคุณ)
ถ้าในพระคำภีร์ทั้งเล่มยังสนับสนุนให้รักษาพระบัญญัติเดิมอยู่ คุณจะว่าอย่างไร
ผู้เชื่อชาวยิวที่รักษาพระบัญญัติเดิมไม่ได้ จะได้รับความรอดหรือไม่
เรายังต้องรักษาพระบัญญัติเดิมเพื่อให้ได้รอด หรือเชื่อในผู้หนึ่งที่ตายไถ่บาป
เมื่อพระคริสต์อยู่ในเรา และเราอยู่ในพระคริสต์ จะเกิดอะไรขึ้น
พระบัญญัติคือเราทำดีเพื่อพระเจ้า พระคุณคือพระเจ้าทำดีเพื่อเราในเรา
ผู้รักษาพระบัญญัติ เชื่อพระเยชูเป็นพี่น้องจอมปลอม คุณเอาตรงมาสรุปครับ
พระบัญญัติเปิดโปงความบาปผิดของเรา พระคุณปกปิดความผิดบาปของเรา