เอเฟซัส 1:9 เมื่อตาใจเราถูกเปิดเราจะเห็นความยิ่งใหญ่และการบริหารของพระเจ้าที่สลับซับซ้อนมีระเบียบแบบแผนพระเจ้าทำทุกสิ่งมีระเบียบแบบแผนพระเจ้าทำทุกสิ่งมีแผนการมีการไตร่ตรองมีการคิด คือ ค้นคิดไม่ใช่พระเจ้าสร้างโลกแล้ว จะสร้างมนุษย์ แล้วก็พระเจ้าไม่ได้คิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป คือ พระเจ้าทรงทราบดี แล้วพระเจ้าทำให้มันจบในหนังสือวิวรณ์ ทั้งๆ ที่มันยังไม่ได้เกิด นี่คือสิ่งที่เราสามารถรู้จักรู้ล่วงหน้าเหมือนพระเจ้าได้ ถ้าหากตาใจของเรา ตาแห่งความสว่างมันสว่างขึ้น
...
ถาม.
สำหรับคนที่เชื่อเราจะเห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าใช่ไหมคับ จากความเชื่อใช่ไหม
ตอบ.
ใช่ครับ คือ สำหรับคนที่เชื่อในที่นี้ คือเฉพาะแต่คนที่อยู่ในข้อที่ 18 ก็คือตาแห่งความเข้าใจของเขาสว่างขึ้น แต่สำหรับคริสเตียนที่ตายังไม่ได้สว่าง ยังไม่ได้เห็น ยังไม่ได้รู้ ความจริงแปลพระคำพระเจ้าผิด เขาจะไม่เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า เขาพูดได้ว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่พระเจ้ายิ่งใหญ่เพราะว่าอะไรเพราะว่าพระคัมภีร์บอก เพราะว่าอะไร เพราะคนสอนกันมาแต่เขาไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเองของเขาว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่คืออะไร
แต่เราขอบคุณพระเจ้าใช่มั้ย ที่เราถูกเปิดตา แล้วเรารู้ว่าพระเจ้าเป็นยังไง พระเยซูเป็นยังไง ยิ่งใหญ่แบบไหนลักษณะไหน แล้วพระโลหิตของพระเยซู คือ มันมีฤทธานุภาพ มันมีคุณค่ามากกว่าที่เราจะเข้าใจ ที่เราเคยคิดเหมือนแต่ก่อน
...
ถาม.
มีพี่น้องมากมายอยู่คริสตจักรศาสนาคือเนื่องจากเขาเน้นความเชื่อว่าเชื่ออย่างไรก็เป็นอย่างนั้นแล้วอาจารย์ของเขาก็สอนให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้แล้วพระเจ้าจะอวยพรมากมายแล้วลูกแกะทำตามอย่างที่เขาบอก ก็คือเชื่อที่เขาบอกแต่ไม่ได้เป็นอย่างนั้น นี่คือว่าเชื่อผิด เนื่องจากเข้าใจผิดในสิ่ง รู้ผิด เชื่อผิด การเชื่อผิดก็จะไม่เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าใช่ไหมคับ
ตอบ.
เอเมน ใช่ครับ มีบางคนที่พอถวายตามที่เขาสั่ง เขาแนะนำ เขาสอน คือมันได้ผล เขาคิดว่าได้ผล แต่จริงๆแล้วสำหรับพระเจ้า พระเจ้าจะไม่สนับสนุนในคำสอนที่ผิด แต่พระเจ้าให้บางคนตามน้ำพระทัยของพระองค์และตามการสัตย์ซื่อในหัวใจของเขาที่รักพระเจ้า แล้วก็พระเจ้าสงสารที่ถึงแม้ว่าเขาจะเชื่อผิดเขาจะทำผิด แต่พระเจ้ารู้ว่าเขาทำไปเพราะว่าเขารักพระเจ้า พระเจ้าก็เมตตาพระเจ้าก็ให้ตามน้ำพระทัยของพระองค์
คริสเตียนศาสนามีส่วนที่ได้รับมรดกของพระเจ้าในฝ่ายร่างกายเยอะมากเหมือนกันเพราะว่า เขาทำโดยบริสุทธิ์ใจ ด้วยหัวใจที่รักพระเจ้า พระเจ้าจึงเมตตาและให้เขา
ยิ่งกว่านั้นเราขอบคุณพระเจ้าที่เราอยู่ในมานา เราทำทุกสิ่งด้วยความจริง เราทำทุกสิ่งด้วยตัวใหม่ อันนี้เราได้รับพระพรลักษณะที่ดีกว่า ได้รับมรดกที่ดีกว่า ได้รับสันติสุขที่ดีกว่า อะไรมันก็ดีกว่าไปหมด
ขอรับการหนุนในเอเฟซัส บทที่ 1 ข้อที่ 21 ครับ "สูงยิ่งเหนือบรรดาเทพผู้ครอบครอง เหนือศักดิเทพ เหนืออิทธิเทพ เหนือเทพอาณาจักร และเหนือนามทั้งปวงที่เขาเอ่ยขึ้น มิใช่ในยุคนี้เท่านั้นแต่ในยุคที่จะมาถึงด้วย"
ตอบ.
เทพมี 2 ฝ่ายก็คือทูตสวรรค์ทั้งหลายที่เป็นทูตสวรรค์แห่งพระเจ้าก็มี แล้วทูตสวรรค์ที่เป็นฝ่ายซาตานก็มี เพราะฉะนั้นสำหรับพระเยซูพระองค์ทรงชนะความตายแล้ว แล้วก็ชนะโลกแล้ว แล้วก็ชนะเทพทั้งหลาย พระองค์ทรงถูกยกขึ้นพระบิดาให้เกียรติ แล้วพระองค์ทรงยิ่งใหญ่เหนือเทพทั้งหลายทั้งสองฝ่าย
สำหรับพวกเรา เราไม่กลัวใครทั้งนั้น ไม่กลัวคำสาปแช่ง ไม่กลัวเขาจะมาทำอะไรกับเรา แต่ไม่ได้หมายความว่าประมาทน่ะครับ ไม่ต้องประมาท คือเราขอบคุณพระเจ้า เราอยู่ในการดูแลคุ้มครองครอบครองปกครองของพระเยซู
...
สำหรับเรื่องฉีดวัคซีนมีพี่น้องหลายคนก็ถามผมมาเหมือนกันว่าจะฉีดดีไหม แล้วถ้าฉีดมันจะเกี่ยวข้องอะไรกับผิดต่อน้ำพระทัยพระเจ้าไหมผิดต่อพระคัมภีร์ไหม การฉีดวัคซีนไม่ได้ผิดพระคัมภีร์แล้วก็ไม่เกี่ยวข้องกับ 666 เครื่องหมายซาตานไม่ได้เกี่ยวกัน
เครื่องหมายซาตาน ก็คือ อย่างที่เราพูด อย่างที่เราเข้าใจกัน ก็คือ ชื่อของ "นีโร ซีซาร์" ที่อยู่บนหน้าผากของคนที่ไม่เชื่อของคนที่จงรักภักดีต่อซาตาน
แต่การฉีดวัคซีนเราก็ต้องระมัดระวัง เราก็ต้องอธิษฐานขอสติปัญญาจากพระเยซูให้พระองค์ตัดสินใจว่าจะฉีดดีไหม บางคนฉีดก็ดี บางคนฉีดก็มีปัญหามีผลกระทบใช่ไหม มีผลข้างเคียง มีเรื่องสุขภาพเราก็ไม่ฉีด
แต่ถ้าฉีดแล้วคือจำเป็นต้องฉีดหรือว่าบ้านเมืองเขาสั่งให้ฉีดรัฐบาลให้ฉีดเพื่อเดินทางสะดวกเหมือนอย่างที่ประเทศลาวถ้าจะไปไหนมาไหนเดินทางก็ต้องมีไปฉีดมาก่อน แล้วมีหนังสือยืนยันแล้วยื่นให้เขา เขาถึงปล่อยให้ไปได้ หรือจะเข้าไปร้านอะไรไปที่ไหนสักแห่งหนึ่ง
แต่ถึงยังไงก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพระคัมภีร์ไม่ได้ผิดพระคัมภีร์ แล้วก็เราฉีดได้ ถ้าจะเป็นประโยชน์ แต่เราระมัดระวังแล้วขอสติปัญญาจากพระเยซูแล้วก็ขอบคุณพระเยซูเมื่อเราฉีด
...
ถาม.
ถ้าสมมุติว่าอย่างที่หลายคนกลัวกันนั้นแล้วมีคนรณรงค์ต่อต้านวัคซีนด้วยคือว่า RNA ใช่มั้ยฮะ คือเขาบอกว่ามีเชื้อบางอย่างเพื่อจะควบคุมมนุษย์ในอนาคตเลยเขาว่างี้ คือจริงหรือไม่จริงผมก็ไม่ทราบนะ แต่ถ้าเกิดมันจริงขึ้นมาสมมุติมันจริง แล้วเราไม่รู้แต่เราฉีดด้วยความเชื่อมันจะไม่มีผลกับความเชื่อที่แท้จริงใช่ไหมฮะ
ตอบ.
ก่อนอื่นถ้าหากเรา อันนี้สำคัญมากขอบคุณพระเยซูที่พระองค์ให้เราพูดคุยกันถึงเรื่องความสว่างก่อน เมื่อเราอยู่ในความสว่างอย่างสม่ำเสมอจำได้ไหมภาษาอังกฤษ (walk in the spirit)
ก็คือ เดินในความสว่างทุกก้าวสนิทในพระองค์ พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเตือนเรา แล้วพระเยซูจะให้สติปัญญาแก่เราว่าฉีดหรือไม่ฉีด แล้วฉีดมันจะมีอะไรต่อชีวิตของเรา พระเยซูจะดูแลพระเยซูจะนำทางเราเอง เราไม่ต้องห่วง
- แต่สิ่งสำคัญที่สุดไม่ต้องคิดว่าจะฉีดหรือไม่ฉีดจะเป็นอะไรหรือเกิดอะไรขึ้น
แต่สิ่งที่เราคิดนะครับหันมาทางนี้ ก็คือ ฝ่ายวิญญาณ เดินในพระเยซูทุกก้าวอยู่ในสติปัญญาของพระเยซูพระองค์จะตัดสินใจแทนเราเอง นี่คือคำตอบที่ผมอยากให้พวกเรามองเห็นภาพด้วยกัน ก็คือ ขอให้สติปัญญาของพระเยซูตอนนั้นคิดแทนเราทำแทนเรา เราไม่ต้องตัดสินใจ แล้วถ้าสมมติในอนาคตจะเกิดขึ้นจริงแล้วฉีดแล้วมันจะมีผลกระทบในการบังคับบงการชีวิตของเราเหมือนที่น้องชายพูด พระเจ้าจะมีทางออกให้เราทุกทางเพราะว่าเราเดินในความสว่าง
...
ถาม.
แสดงว่าเรื่องสำคัญที่สุด สำหรับชีวิตของผู้เชื่อ ก็คือ การเดินในความสว่างอยู่ในพระคริสต์
ตอบ.
แน่นอนที่สุดครับ