...
สนิทในพระเยซูยิ่งมากเท่าไหร่ และสะสมมากเท่าไหร่ พระวิญญาณแห่งความจริงก็จะชำระเราโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ สุดท้ายเราก็จะโตขึ้น โตขึ้น โตขึ้น โตขึ้นไปเรื่อยๆ
...
เราขอบพระคุณพระบิดาที่พระองค์รับคำยกย่องสรรเสริญ บทเพลง ขอบพระคุณ ทุกสิ่ง เราขอบพระคุณที่พระองค์ให้เราที่เคยเป็นคนบาปและตอนนี้ได้กลายเป็นคนชอบธรรม และได้เข้ามาหาพระองค์โดยทางพระโลหิต
ขอบพระคุณพระเจ้าที่พระองค์จัดเตรียมทุกสิ่งที่ดีทั้งหมดไว้เพื่อต้อนรับเรา เพื่อช่วยเรา เพื่อชำระเรา เพื่อทำให้เรากลายเป็นคนดีครบถ้วนโดยพระคริสต์ที่อยู่ภายในเรา สรรเสริญพระเยซู
เราขอบพระคุณพระองค์ที่เรามาถึงยอห์นบทที่ 16 ข้อที่ 12 ถึง 22 ซึ่งมีบางอย่างที่มีความสำคัญ เราขอบพระคุณพระเจ้าที่วันนี้เรามีพระวิญญาณแห่งความจริง ซึ่งมาช่วยปลดปล่อยพวกเราออกจากความไม่จริงที่ซาตานฝังลึกเข้าไปในความคิด และถ้อยคำที่ถูกเปลี่ยนแปลงแปลผิดเพี้ยน พระคำพระเจ้าพระคัมภีร์ที่แปลผิด ซึ่งเราจะเห็นความผิดพลาดมากมาย
และขอบพระคุณพระวิญญาณแห่งความจริงนี้ที่พระองค์ได้ทำหน้าที่และพยายามช่วยผู้เชื่อทั้งหลาย ให้ได้รับการปลดปล่อยมาถึงการชำระด้วยพระคำของพระองค์ที่เป็นความจริงที่มาจากพระองค์มาจากเบื้องบน เอเมน
เราพบว่าท่านยากอบได้พูดไว้ คือความชอบธรรมที่เราได้รับ เป็นการสำแดงความชอบธรรม ซึ่งเมื่อเชื่อก็ต้องมีผลแห่งความชอบธรรม และสติปัญญานี้ไม่ใช่มาจากเบื้องล่างหรือมาจากมนุษย์ แต่มาจากเบื้องบน ก็คือนำมาโดยพระวิญญาณแห่งความจริงนี้เอง
ขอบพระคุณพระเจ้าที่ทุกวันนี้เราได้รับการเปิดตา รับพระคำล้ำลึก หรือที่เรียกว่ามานาที่ซ่อนไว้ ที่เป็นของพระวิญญาณ ซึ่งนำมาสู่พวกเรา เปิดเผย เปิดตา เปิดใจ ทาตา หยอดตา รักษาตาเราให้หายตาบอด และอยู่ในความจริงของพระเจ้า เริ่มเข้าสู่สันติสุขทุกวันทุกเวลาได้ เริ่มเข้าสู่กระบวนการการเปลี่ยนแปลงโดยพระคริสต์ทำแทนมากขึ้น เราสรรเสริญยกย่องขอบพระคุณพระเยซู และขอบพระคุณพระวิญญาณแห่งความจริงนี้ เอเมน
สำหรับยอห์นบทที่ 16 เราพบว่าในข้อที่ 12 พระเยซูตรัสว่า "เรายังมีอีกหลายสิ่งที่จะบอกท่านทั้งหลาย แต่เดี๋ยวนี้ท่านยังรับไว้ไม่ได้"
อันนี้เราจะเห็นว่าพี่น้องผู้เชื่อมากมายที่มีประสบการณ์นี้ใช่ไหม? คือพอฟังคลิปมานาฯ เราจะเห็นว่าเริ่มรับได้ เริ่มเข้าใจ เริ่มถูกเปิดตา แต่คือมีความรู้มีข้อมูลมากมายเหลือเกินในคลิปแต่ละคลิปที่สั้นๆ ปรากฏว่ายิ่งฟังซ้ำเท่าไหร่ก็ยิ่งถูกเปิดเผย เปิดตามากขึ้นมากขึ้น นี่คือผลที่เราเห็นในข้อที่ 12 ที่พระเยซูตรัสว่า "เดี๋ยวนี้ท่านยังรับไม่ได้" เนื่องจากว่าการเปิดเผยของพระวิญญาณ คือจะเปิดเผยทีละน้อยทีละน้อย
ทำไม? คือมันเป็นแบบนี้ มนุษย์เกิดมาความคิดจะถูกปลูกฝังถูกสอนให้อยู่ในรูปแนวศาสนาเหมือนกับการนับถือศาสนาทั่วๆ ไป จึงไม่อาจเข้าใจเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ และความคิดที่อยู่ในรูปแนวชีวิต เป็นเหมือนครอบครัว สามีภรรยา พ่อแม่ลูกที่รักกันมากๆ เน้นที่ความรักเป็นใหญ่ เอาความรักเป็นหลัก นี่คือรูปแนวชีวิต ไม่มีกฎเกณฑ์ไม่มีข้อบังคับไม่มีการบังคับ ซึ่งถามว่าไม่มีเลยเป็นไปได้ไหม? ก็ไม่ใช่ คือการออกจากกฎเกณฑ์ข้อบังคับที่เราทำไม่ได้ ขอให้เข้าใจตรงนี้
กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ พระบัญญัติ ที่เราทำไม่ได้ เราจะไม่อยู่ตรงนี้ แต่เราย้ายเข้ามาอยู่ในพระคริสต์ซึ่งมีกฎเกณฑ์ใหม่ เป็นกฎเกณฑ์ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งจะทำให้เราทำได้โดยพระคริสต์ทำแทนเรา เข้าใจกันน่ะ ไม่ใช่ว่าเรามาอยู่ในกลุ่มมานาที่ซ่อนไว้ แล้วไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องแคร์กฎเกณฑ์ ไม่ต้องมีกฎเกณฑ์ คืออย่าเข้าใจผิด เรามีกฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ก็คือกฎเกณฑ์ที่เราทำได้โดยพระคริสต์ทำแทนเรา อันไหนที่เรายังทำไม่ได้เราก็ขอบคุณพระเยซู ก็รอคอยการก่อขึ้นของพระคริสต์ เพราะฉะนั้นอย่าเข้าใจผิดน่ะ
กลับมาพูดถึงเรื่องมนุษย์ที่ถูกปลูกฝังให้อยู่ในรูปแนวศาสนา เมื่อรากแห่งการนับถือศาสนาของพวกเขาถูกฝังลึกลงไปแล้ว มนุษย์จึงรับรู้ความคิดแบบรูปแนวชีวิตได้ยาก ซึ่งพระวิญญาณแห่งความจริงจะต้องค่อยๆ เปิดให้ทีละน้อยทีละน้อย และคนที่จะเข้าใจและเห็นคุณค่าของคำว่า "รูปแนวชีวิต" ก็ต้องใช้เวลา และได้ผ่านการพยายามทำในสิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้มาแล้ว เหมือนที่พวกเราใช่ไหมที่เราเคยพยายามรักษาพระบัญญัติ พยายามเชื่อฟังพระเจ้า พยายามเลิกทำบาปให้ได้
จนสุดท้ายเมื่อพระวิญญาณแห่งความจริง นำความจริงของพระองค์จากเบื้องบนจากพระเจ้ามาสู่พวกเรา เราโห่ร้อง เราสรรเสริญ เราดีใจ ตื้นตัน เราร้องไห้ เราฟังไม่หยุด เราหิวกระหายมาก เราไม่ยอมถอยหนี เราอยากฟัง อยากกิน อยากอ่าน เพราะว่าของดีมันอร่อย เราลองไปร้านอาหารร้านก๋วยเตี๋ยวหรือร้านอะไรก็ตามที่ไปแล้วชิมรสชาติมันอร่อยมาก แน่นอนเราจะต้องกลับไป ไปกิน กลับไปๆๆๆ ใช่ไหม คือเราจะเป็นขาประจำของร้านนั้น
แต่นี่.. มานาที่ซ่อนไว้ พระคำล้ำลึกของพระเจ้า ซึ่งเป็นมาโดยพระวิญญาณแห่งความจริง นำสิ่งดีๆ มาสู่เรา นำของดีมาให้เรา เราจึงไม่เบื่อ เราจึงกระหายและอยากจะกินตลอดไป เราสรรเสริญและขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพระวิญญาณแห่งความจริงนี้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราจะต้องใช้เวลาที่จะรับการเปิดตา เมื่อรับการเปิดตา เราเห็นคุณค่าของพระคำแห่งความจริงนี้ เราจด เราสะสม เราแยกแยะเป็นเรื่องเป็นราว เป็นบท เพื่อที่จะง่ายสำหรับเราจะกลับมาค้นหา กลับมากินใหม่ กินได้ทุกวัน และนำไปแบ่งปันสู่พี่น้องให้เขาได้กินของอร่อยๆ ที่มาจากพระวิญญาณแห่งความจริง เอเมน
พระวิญญาณแห่งความจริงภาษาอังกฤษก็คือ the Spirit of truth คือพระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่จะนำความจริงเข้ามาส่องสว่าง ให้เราเห็นความไม่จริงหรือความมืดในอาดัม ซึ่งซาตานทำให้มนุษย์ตาบอด ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพระคำล้ำลึกหรือมานาที่ซ่อนไว้ ที่พระวิญญาณแห่งความจริงนี้ได้นำมาสำแดงแก่เรา และให้ความหวังแก่เราอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เราอยู่ในความไม่จริงมานานหลายปี เราจึงพบว่าความรอดมีสองรอดใช่ไหมตอนนี้ ซึ่งขณะที่ผู้เชื่อมากมายไม่รู้ ยังรู้แต่ว่ารอดมีรอดเดียว จากนรกบึงไฟเท่านั้น เขาไม่รู้เรื่องอาณาจักรคืออะไร พระโลหิตมีค่ามากกว่าที่เราคิดอีก
เมื่อก่อนเรารู้แค่ว่าพระโลหิตจ่ายหนี้บาป จบ! แต่ขอบพระคุณพระเจ้าตอนนี้เราเห็นว่า คุณค่าของพระโลหิต คือเราเข้ามาหาพระเจ้าโดยทางพระโลหิตได้ทุกวันทุกเวลา แม้แต่เราโกรธ เรามีกิเลส ตัณหา โลภ โกรธ หลง เต็มอยู่ในเรา แต่เราเดินเข้ามาหาพระเจ้าบอกว่า (พระองค์ วันนี้ข้าพระองค์อยากร่วมสามัคคีธรรมกับพี่น้องในกลุ่มตอนนี้ โดยทางพระโลหิต แต่ข้าพระองค์โกรธอยู่ โมโหเมื่อเช้ามีรถมาปาดหน้า) พระเจ้าจะตอบว่ายังไง? ยินดีต้อนรับใช่ไหม เข้ามาเลยลูก เข้ามาหาพ่อเลย มาทางพระโลหิตพระเยซู
และเราไม่ต้องกลัวที่ซาตานจะฟ้องเราได้อีก ซาตานฟ้องเราไม่ได้ เนื่องจากว่าพระโลหิตตั้งไว้เพื่อให้ซาตานไม่ฟ้องเราได้อีกต่อไป และยังไม่พอภายในจิตใจของเราเมื่อเราทำบาปมากๆ เราทำไม่ดีมากๆ เราพูดไม่ดี เราพูดหยาบคายอะไรก็ตาม เราก็เกิดมีการฟ้องผิดภายในจิตใจของเรา
เพราะฉะนั้นขอบพระคุณพระเจ้าที่พระเยซูและพระบิดาตั้งพระโลหิตไว้ เพื่อให้เราไม่ต้องฟ้องผิด เมื่อคุณทำผิด เมื่อคุณโมโห เมื่อคุณโกรธร้าย เมื่อคุณยังมีกิเลส ตัณหา โลภ โกรธ หลง แล้วคุณอยากมาหาพระเจ้า มาทางพระโลหิตและไม่ต้องฟ้องผิด เอเมนสรรเสริญพระเยซูสำหรับความรู้ความเข้าใจสติปัญญาที่มาจากเบื้องบน ทำให้เราเห็นคุณค่าของพระโลหิตที่มีมากมายมากกว่าที่คริสเตียนมากมายเข้าใจ นี่คือผลที่ได้รับจากพระวิญญาณแห่งความจริง
และเรารู้อีกว่า ขอบพระคุณพระเจ้าตอนนี้เรารู้ว่าพระคริสต์อยู่ในเรา ทั้งๆ ที่คริสเตียนมากมายไม่รู้ และขอบคุณพระเจ้าที่ตอนนี้เรารู้ว่าคนเก่าหมดไป จบชีวิตแล้วที่กางเขน และเล็ดลอดกางเขนไม่ได้ แต่ออกจากอุโมงค์ก็คือคนใหม่ สรรเสริญพระเยซูเรามีส่วนในชีวิตใหม่เป็นคนใหม่เป็นน้องๆ ของพระเยซู เป็นมนุษย์วิญญาณ ทำอะไรก็ต้องทำด้วยคนใหม่คนนี้
ฟังก็ต้องฟังด้วยหูใหม่ มองก็ต้องมองด้วยตาใหม่ พูดก็ต้องพูดด้วยลิ้นใหม่ มือ เท้า เดิน จับ แตะต้องอะไรก็ตาม ทุกสิ่ง หัวใจของเราก็เป็นหัวใจใหม่ ให้เชื่อทุกวันว่าใหม่แล้ว ใหม่ๆๆๆๆๆ ในพระคริสต์ ใหม่ในพระคริสต์ ทุกวันให้เราจำได้ในสิ่งที่อยู่ในความจริงของพระเจ้า เมื่อเราจำสิ่งนี้ แล้วเราพูดทุกวัน เรายืนยันความจริงของพระเจ้าให้เข้ามาเกิดขึ้นในชีวิตของเรา พระวิญญาณแห่งความจริงนี้จะทำให้เราได้รับการชำระ และเข้าสู่การกระทำแทนของพระคริสต์ทุกครั้งทุกวันทุกเวลาได้ เอเมน
เราขอบคุณพระเจ้าพระวิญญาณแห่งความจริงทำให้เราเดินในวิญญาณอย่างถูกต้อง และรับใช้ในพระคริสต์อย่างถูกต้อง และนมัสการในวิญญาณอย่างถูกต้องแล้ว สรรเสริญพระเยซู
ในข้อที่ 15 "ทุกสิ่งที่พระบิดาทรงมีนั้นก็เป็นของเรา" เมื่อพระเยซูทนทุกข์ทรมาน ถูกตี ทุบตี ถูกเฆี่ยน และตายบนกางเขน คือการกระทำที่ทำให้พระองค์ได้รับเกียรติจากพระบิดา ผู้ชายชื่อเยซูคนหนึ่งนะครับ กระทำตามน้ำพระทัยของพระบิดา ให้พระบิดาสถิตอยู่และใช้ชีวิตของพระองค์เพื่อดำเนินชีวิตดำแดงนิสัยของพระองค์ให้โลกเห็นพระองค์ผ่านเยซูคนนี้ และผู้ชายชื่อเยซูคนนี้ สุดท้ายก็ได้กลายเป็นวิญญาณที่แบ่งปันชีวิตให้มนุษย์โลกได้
ทุกคนที่เชื่อพระเยซูก็จะได้รับชีวิตนี้ และได้รับวิญญาณของพระองค์เข้ามาอยู่ในพวกเรา และผู้ชายคนนี้ได้รับเกียรติจากพระบิดาแล้ว พระองค์จึงได้รับทุกสิ่งที่เป็นมรดกที่พระบิดาประทานให้ ก็คือเป็นของพระเยซูแล้ว
เพราะฉะนั้นพระเยซูตอนนี้เป็นตัวแทนของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ เมื่อเราจะขออะไร ขอพระเยซูได้ พระเจ้ายินดีตอบ เมื่อเราจะขอบพระคุณ ขอบพระคุณพระเยซูได้ พระเจ้าก็ได้รับการขอบพระคุณด้วย เมื่อสรรเสริญยกย่องพระเยซู พระบิดาพระบุตรพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ดีใจก็ได้รับการยกย่องสรรเสริญด้วย เพียงแต่ว่าขอให้เราเข้าใจนะครับ ขอให้เราตั้งอยู่บนฐานแห่งความเข้าใจนี้ก่อนว่าพระคริสต์พระเยซูเป็นตัวแทนของพระเจ้าทั้งสามพระภาค
และเมื่อเราขอบคุณพระเยซู เรารู้นะครับว่าเรากำลังขอบคุณพระเจ้าทั้งสามพระภาค พระเจ้าทั้งสามพระภาคก็ได้รับการยกย่องสรรเสริญและขอบพระคุณ เอเมน
เพราะฉะนั้นเราจะเห็นว่าแม้แต่การบัพติศมา ในหนังสือกิจการพูดถึงการบัพติศมา บางคนบัพติสมาในพระนามพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราก็เอเมนก็ยังใช้ได้ และบางคนบางที่ในบางข้อพูดถึงการบัพติศมาในพระนามของพระเยซู อันนี้ก็ใช้ได้
ถ้าหากเราจะบัพติศมาใคร เราจะบอกว่าวันนี้ "เราจะบัพติศมาท่านในพระนามของพระเยซู" ก็ได้ สั้นๆ ก็ได้ หรืออยากให้เขามั่นใจ หรือเขาไม่แน่ใจไม่มีพื้นฐานแห่งความรู้เรื่องเกี่ยวกับพระเจ้าสามพระภาค ที่พระเยซูเป็นตัวแทนแล้ว เราอยากบัพติศมาแบบเก่าก็ได้ก็ไม่เป็นไร ก็ใช้ได้ทั้งสองอย่าง
แต่สำหรับคนที่เข้าใจดี รู้ รับสติปัญญาของพระเจ้าแล้ว ก็ขอบพระคุณพระเยซูที่เปิดเผยสติปัญญานี้ และเราบัพติศมาในพระนามพระเยซูได้ เราขอบพระคุณพระเยซูได้ เราสรรเสริญพระเยซูได้ เราสารภาพบาปในนามพระเยซูได้ ทำทุกสิ่งโดยพระเยซูได้ โดยที่เรารู้ว่าพระเจ้าทั้งสามพระภาคก็มีส่วนร่วม เอเมน
สำหรับสิ่งที่สำคัญที่อยากจะเน้น ก็คือเราจะพบว่าข้อที่ 20 และข้อที่ 22 เป็นการเริ่มต้นหรือการกำเนิดของเผ่าพันธุ์ใหม่ หรือมนุษย์คนที่สอง เราเข้าใจกันน่ะ มนุษย์คนแรกก็คืออาดัม เขาตายไปแล้ว เขาจบแล้ว ชีวิตของเขาผ่านกางเขนไม่ได้ และออกจากอุโมงค์ก็คือมนุษย์คนใหม่เผ่าพันธุ์ใหม่ หรือพระเยซูที่เป็นคนใหม่คนแรก บุตรชายคนแรกของพระบิดา ซึ่งเป็นมนุษย์วิญญาณ และเป็นมนุษย์คนที่สอง จากมนุษย์คนที่หนึ่ง ก็คืออาดัม
เป็นเรื่องของการกำเนิด ต้นกำเนิดของฝ่ายวิญญาณของชีวิตวิญญาณ เป็นเผ่าพันธุ์ใหม่ที่จะมาแทนที่อาดัมที่เป็นเผ่าพันธุ์เก่าที่ถูกสาปแช่งตกต่ำและบาปแล้ว
และผู้เชื่อคือน้องๆ ของพระเยซู และพระเยซูก็คือพี่ชายคนโต หรือบุตรหัวปีของพระเจ้านี่เอง ขอบคุณพระเจ้าเราเริ่มเข้าสู่การเป็นบุตรของพระเจ้ามีส่วนในครอบครัวใหญ่ของพระเจ้าในโลกนี้ เอเมน เราเป็นลูกๆ ของพระองค์ เราเป็นน้องๆ ของพระเยซู เอเมน เราเป็นวิญญาณแล้ว ซึ่งต่อไปนี้เราจะไม่มองในเนื้อหนัง เราจะไม่มองด้วยสายตา แต่เรามองที่ฝ่ายวิญญาณ เรามองที่ความจริงแห่งพระคำพระเจ้าที่พระวิญญาณแห่งความจริงได้นำเข้ามาสู่พวกเรา เอเมน
ถาม.
ขอถาม ยอห์น 16:12 แสดงว่าเราที่เป็นผู้ที่ได้รับการเปิดตาฝ่ายวิญญาณแล้วก็จริง แต่ว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่พระวิญญาณยังจะบอกเราใช่ไหมครับ เพราะว่าเราอาจจะยังไม่โตหรือว่าเราอาจจะยังรับไว้ไม่ได้ ใช่ไหมครับ
ตอบ.
สำหรับพระเจ้า พระเจ้าทรงรู้ ทรงทราบดีว่าใครมีความคิด มีสติปัญญา มีอาการตอบโต้ ตอบสนองต่อพระเจ้า เมื่อพระวิญญาณแห่งความจริงนำความจริงเข้ามาสู่แต่ละคน
เพราะฉะนั้น คือพระเจ้าจะให้แต่ละคนไม่เท่ากัน ไม่เหมือนกัน และเวลานะครับบางคนช้า บางคนเร็ว ไม่เท่ากัน ซึ่งแล้วแต่ แต่ละบุคคลที่จะรับได้ หรือรับไม่ได้ รับเร็ว หรือรับช้า แล้วแต่ อันนี้พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงทราบดี และพระองค์จะทำงานของพระองค์ต่อพวกเราแต่ละคนซึ่งไม่เหมือนกันครับ
** และเราสังเกตได้ยังไง?
สำหรับคนที่รับมากพอแล้ว ความสงบสุขก็เกิดขึ้น สันติสุขก็เริ่มมี อันนี้เป็นสิ่งที่จะต้องมีก่อน ส่วนเรื่องการก่อขึ้นการสำแดงชีวิตและนิสัยของพระเยซูจะมาทีหลัง และบางคนบอกว่า เออ... รู้สึกว่าอภัยพี่น้องได้เมื่อรับมานาฯ ได้เพียงแค่ปีเดียว หรืออาจจะ 5-6 เดือน อันนั้นคือการสำแดงการให้ชิมลิ้มรส ให้เราได้รู้ว่าเรามาถูกทางแล้วนะครับ
พี่น้องที่รับมานาหลายคนนะครับเห็นการเปลี่ยนแปลงบ้าง อย่าเพิ่งดีใจนะครับ เป็นการเปิดเผย เป็นการสำแดง เป็นการคือ Sample ให้ชิม ให้ดูว่าเนี่ยคือผลที่ได้รับจากการเข้าสู่พระคำล้ำลึก
** แต่จะให้ถาวร จะให้มั่นคง ให้ชีวิตใหม่ของพระคริสต์ทำแทนในแต่ละวันได้อย่างมั่นคง คือไม่เปลี่ยนแปลง
ก็คือการสะสมมานาฯ ก็คือความเข้าใจที่ถูกเปิดเผยโดยพระวิญญาณแห่งความจริง แล้วจากนั้นก็นำมาฝึก และเดินในแต่ละวัน สุดท้ายนะครับก็มีความรัก "อากาเป" อย่างสม่ำเสมอ ยกโทษอย่างสม่ำเสมอ ทุกสิ่งทำทุกสิ่งสม่ำเสมอ ไม่เผลอ ไม่พลั้ง ไม่พลาด นี่คือผลที่ได้รับจากการโตขึ้นเมื่อรับมานาฯ สะสมมากเท่าไหร่ ฝึกนะครับ ท่องพระคำพระเจ้า และนำไปใช้ นำไปแบ่งปันพี่น้อง ประกาศด้วยนะครับ
สนิทในพระเยซูยิ่งมากเท่าไหร่ และสะสมมากเท่าไหร่ พระวิญญาณแห่งความจริงก็จะชำระเราโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ สุดท้ายเราก็จะโตขึ้น โตขึ้น โตขึ้น โตขึ้นไปเรื่อยๆ
นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ว่า เรารับมากน้อยแค่ไหน รับได้มากเท่าไหร่แล้วนะครับ
...
ถาม.
คือในช่วงที่เราฝึกเดินในวิญญาณบางครั้งก็เหมือนกับว่าเรามาถึงแล้ว เหมือนกับว่าเราสามารถยอมรับทุกปัญหาได้ สามารถอภัยให้คนอื่นได้ แต่บางครั้งเราเกิดอาการท้อแท้ เหมือนกับว่าพระเจ้าออกห่างอย่างงี้ครับ แต่ว่าภายในใจเราก็เชื่อว่าพระเจ้าจะไม่ออกห่างจากเรา ไม่มีสิ่งใดที่เราจะขาดจากความรักของพระเจ้าได้ ก็เหมือนกับว่าเรายังฝึกเดินแล้วก็ยังไม่โตมากพอไหม อจ.
ตอบ.
เรื่องการออกห่าง การหลุดหลงไปจากพระคริสต์ ออกนอกพระคริสต์ มี 2 แบบ
แบบที่ 1 ก็คือ นานๆ ทีหนึ่ง ซึ่งนี่คืออาการของบุตร หรือผู้ใหญ่ หรือคนที่อยู่ในระดับพ่อ เขาจะหลุดบ้าง หลงบ้างเป็นธรรมดานะครับ มีนะครับ
แบบที่ 2 ก็คือ แต่คนที่หลุดหลงบ่อยๆ นะครับเรียกว่ายังเด็กอยู่ คือเขายังเด็ก แต่เข้าสู่มานาฯ และเริ่มเข้าสู่ระดับหนุ่มแล้ว เขาจะหลุดจะหลงบ่อยๆ นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ให้รู้นะครับว่าใครอยู่ในระดับไหน
ส่วนระดับพ่อนะครับ ก็คืออยู่ในพระคริสต์ ฝึกเดินได้อย่างสม่ำเสมอ คือทนได้อะไรมาก็ได้ ปล่อย ปลง วางได้ ไม่ถด ไม่ท้อ ไม่ถอย ไม่หนี ไม่หลุด ไม่หลง ไม่โกรธ ไม่โมโห ไม่มีกิเลส ตัณหา โลภ โกรธหลงนะครับ แต่นานๆ ทีหนึ่ง นานๆ ทีหนึ่ง
แต่ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับระดับพ่อ จะกลับเข้ามาในพระคริสต์ สุดง่าย ง่ายสุด ไม่นานไม่ถึงชั่วโมง หรือไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ถ้าเขาหลุดเขาเผลอพลาดไป ก็ขอบคุณพระเยซูสารภาพแล้วกลับเข้ามาใหม่ มาอยู่ในตำแหน่งเดิม ก็คือในระดับพ่อเหมือนเดิม
แต่ส่วนสำหรับเด็ก หรือระดับหนุ่ม ก็จะออกไปแล้วก็ออกไปหลายชั่วโมงบ้าง ออกไปเป็นวันๆ เลยก็มีใช่ไหม? ก็ขอบคุณพระเจ้าก็กลับมาเนื่องจากว่าพระคำแห่งความจริงฝังลึกเข้าไปในชีวิตของเขาแล้ว เขาจะอยู่ในอาดัมอยู่นานๆ ไม่ได้หรอก เขาก็ต้องกลับเข้ามา เพื่อสันติสุข เพื่อความชื่นชมยินดี เพื่อความสงบสุขของภายในจิตใจของเขา ที่มันคอยฟ้องอยู่
อย่าลืมนะครับพระวิญญาณบริสุทธิ์ทุกวันนี้ ให้พระคำแห่งความจริงฟ้องเรา ฟ้องเราเมื่อไหร่ที่เราออกไป เมื่อไหร่ที่เราทำผิด เมื่อไหร่ที่เรามีกิเลส ตัณหา โลภ โกรธ หลง พระองค์จะนำเรากลับเข้ามาแน่นอน จะดึงเรามานะครับ
** สรุปนะครับ สิ่งที่พิสูจน์ได้นะครับ ขอย้ำว่าคนที่หลุดหลงนานๆ ทีหนึ่ง ก็คือเข้ามาสู่ระดับหนุ่มที่จะถึงระดับพ่อแล้ว
** แต่คนที่หลุดหลงบ่อยๆ เป็นประจำ คือบ่นตลอด ก็ส่งคำอธิษฐานเข้าสู่ถึงพี่น้องในกลุ่ม อธิษฐานเผื่อด้วย กลุ้มใจ ไม่สบายใจ อะไรหลายเรื่องเนี่ย ก็คือคนนั้นแสดงว่ายังเป็นเด็กและเข้าสู่หนุ่มเท่านั้น
ขอบพระคุณพระเยซูสำหรับวันนี้ที่พระองค์รักพวกเรา และแสดงความรักแก่พวกเรา และอยู่ท่ามกลางพวกเรา เพื่อยกย่องสรรเสริญขอบพระคุณนมัสการพระบิดา
ขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์ให้พวกเราตาสว่างเข้าสู่พระคำล้ำลึก ซึ่งเป็นมาโดยพระวิญญาณแห่งความจริง เราสรรเสริญพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราขอบคุณพระเยซูที่ให้เรากระจ่างชัดเจนเข้าใจทะลุพระคำของพระเจ้า ทุกถ้อยคำทุกข้อทุกตอน และขอบพระคุณพระเจ้าที่ให้เราทั้งหลายเป็นผู้ชนะแล้ว พระพรทุกประการเป็นของเราแล้ว และเราจะถูกรับขึ้นแน่นอนที่สุด และเราจะมีชีวิตและนิสัยของพระเยซูมากขึ้นมากขึ้น ขอบพระคุณพระเยซูที่พระองค์ทำสำเร็จแล้ว และประทานความสำเร็จนี้ให้แก่พวกเราที่เป็นลูกๆ ของพระองค์ เอเมน