พระเยซูต้องการคนรัก พระองค์ไม่ได้ต้องการคนงาน
ข้าสองเจ้าบ่าวสองนาย แล้วก็เรื่องส่ำสมสมบัติในสวรรค์
ข้าสองเจ้าบ่าวสองนาย คืออะไร
ถ้าเราปักใจไปอยู่ที่ไหน รักชอบอะไรมากที่สุดสิ่งนั้นก็เป็นนายของเรา ถ้าเราปักใจมาที่ฝ่ายเนื้อหนังมันก็เป็นนายของเรา ถ้าเราปักใจมาที่ฝ่ายวิญญาณ พระเยซูก็เป็นนายของเรา ทุกวันนี้เราจะมีนายคนไหนมันอยู่ที่เราปักใจไปที่ใคร
ถ้าเราชอบโทรศัพท์ เล่นโทรศัพท์ชอบมาก รุ่นใหม่ๆ ออกมาเราก็ไปซื้อ ไปซื้อๆ ชอบมากๆ เล่นทุกวัน เล่นเฟส เฟสก็เป็นนายเรา เข้าใจนะครับ
ถ้าเราชอบโทรศัพท์เล่นโทรศัพท์ทุกวัน โทรศัพท์ก็เป็นนายเรา ถ้าเราชอบเงิน เราชอบรถ เราชอบอะไรก็ตามที่เราชอบมากๆ ปักใจอยู่กับมัน สิ่งนั้นก็เป็นนายเรา
พระเยซูจึงบอกว่า คุณจะเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายไม่ได้ จะปักใจไปที่สองคนเหยียบเรือสองเรือไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราต้องมีใครคนหนึ่งที่เป็นนายเรา
หัวใจเรานะครับ อยู่ตรงกลางของหัวใจของเรา เราจะให้ใครเป็นนาย ถ้าจะให้พระเยซูเป็นนาย คือทำยังไง? มีหลายคนบอกว่า อ๋อ ทุกวันให้พระเยซูเป็นศูนย์กลางของชีวิต ให้พระเยซูเป็นนาย ให้พระเยซูเป็นกษัตริย์อยู่ในใจของเรา แล้วเขาทำอะไร? เพื่อยืนยันว่าพระเยซูเป็นนาย พระเยซูเป็นศูนย์กลางของชีวิตเรา เขาทำอะไร?
สนิท สนิทในพระเยซู ปักใจที่พระคำของพระเจ้า พูดคุยกับพระเยซูในแต่ละวัน แต่ละเวลาเราพูดคุยกับพระเยซู แล้วผลที่เราได้รับก็คือเราอยู่ใกล้พระเยซูมากที่สุด แล้วก็เรามีบำเหน็จมากที่สุด
อยากได้บำเหน็จไหม ง่ายๆ สนิทกับพระเยซู สนิทในพระเยซู พูดคุยกับพระเยซู ทำได้ไหม
สมัยก่อนเราเป็นคริสเตียนเราทำ ทำๆๆ เราตื่นแต่เช้า เราอดอาหาร เราอธิษฐาน เราอ่านพระคัมภีร์ เราขยันมากเพื่ออยากใกล้ชิดกับพระเยซูมากที่สุด แต่อันนั้นไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง
พระเยซูต้องการคนรัก ไม่ต้องการพนักงาน ไม่ต้องการคนงาน เข้าใจนะครับ พระเยซูต้องการคนรักไม่ใช่คนงาน ทุกวันนี้คริสเตียนมากมายเป็นคนงาน ไม่ใช่คนรัก
เพราะฉะนั้นขอบคุณพระเยซูที่คริสตจักรแห่งนี้ เรามุ่งหน้าไปสู่การเป็นคนรักของพระเยซู เพราะว่าพระเยซูบอกว่าเราต้องการเจ้าสาว ไม่ใช่ต้องการคนใช้
ขอบคุณพระเจ้าที่เปิดตาใจของเราให้เข้าใจว่า เราจะมุ่งไปสู่การเป็นเจ้าสาว คนรัก ภรรยาของพระเยซู
ภรรยา เจ้าสาว คนรักที่ดีที่สุดของพระเยซูคือใคร
คือคนที่สนิทกับพระเยซูมากที่สุด ตื่นแต่เช้าพระเยซูข้าพระองค์รักพระองค์ อีกชั่วโมงต่อมาพระเยซูข้าพระองค์รักพระองค์ ทำอะไรก็ตามนะครับ พระเยซูข้าพระองค์รักพระองค์ รักพระเยซูๆๆ พูดไปเลย
ตอนที่เรามีแฟนใหม่ๆ เรามีคนรัก เรามีความรัก เราทำยังไง? ตื่นแต่เช้าเลยนะ เราทัก เราแชท ส่งข้อความไปหาแฟนเราใช่ไหม คิดถึงนะ รักนะ อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา รักนะ อยากบอกรักรู้สึกอยากบอกรัก คนที่มีแฟนนะ รู้สึกไหม? เคยเป็นไหม? คนที่มีความรักมันอยากบอกรัก อยากบอกคิดถึง
สำหรับคริสเตียนเรา หน้าที่ของเราคือคิดถึงพระเยซู บอกรักพระเยซู พูดคุยกับพระเยซู แล้วสิ่งที่เหลือนะครับพระเจ้าจะจัดการเอง พระเจ้าจะจัดการเอง
หน้าที่ของเราไม่ต้องกระวนกระวาย หน้าที่ของเรา คือคิดถึงพระเยซู บอกรักพระเยซู พูดคุยกับพระเยซู สนิทกับพระเยซู ให้เป็นคนใกล้ชิดกับพระเยซูมากที่สุด คนใกล้ชิดกับพระเยซูมากเท่าไหร่ พระเยซูจัดการมากเท่านั้น
ถ้าคุณมีเส้นมีสายคุณใกล้ชิดใคร เจ้าหน้าที่คุณมีเส้นมีสายเขาจัดการให้คุณเลย คุณอยากทำอะไรเขาจัดการให้คุณ เข้าใจไหม
"สมมุติถ้าผมมีเพื่อนเป็นจราจร ตำรวจจราจร ถ้าผมมีปัญหาอะไร ผมโทรไป (เขาโทรมาเคลียร์บอกว่าปล่อยเขาไปไม่ต้องทำอะไรเขา)"
"สมมุติถ้าผมอยากข้ามไปไทย ไม่ต้องทำหนังสือมีเพื่อนที่ด่าน ด่านบอก อ่ะ ปล่อยเขาไป"
ถ้ามีเส้นมีสาย ถ้าเรามีปัญหาอะไร เรามีเส้นมีสาย เราใกล้ใคร เรามีเส้นมีสายอันนั้นแล้วเขาก็จะช่วยเรา
เรามีเส้นมีสายพระเยซู พระเยซูก็จะช่วยทุกสิ่งทุกอย่าง เอเมนนะครับ
นี่นะครับข้าสองเจ้าบ่าวสองนาย ก็คือเรามีพระเยซูเป็นนาย พระเยซูอยู่ตรงกลางของหัวใจของเรา ไม้กางเขนพระเยซูอยู่ตรงกลางหัวใจเรา ก็คือสนิทในพระเยซู พูดคุยกับพระเยซู บอกรักพระเยซู แค่เนี่ย ก็คือเรียกว่าพระเยซูเป็นจุดศูนย์กลางของชีวิต ผลสุดท้ายเราจะได้รับบำเหน็จได้ตำแหน่งสูงมากในสวรรค์ในยุคหน้าด้วย แล้วในชีวิตนี้พระเยซูก็จะดูแล ปกปักรักษา คุ้มครองเรานะครับ
....
ทีนี้ส่ำสมสมบัติในสวรรค์ คืออะไร
ถ้าเราสะสมเงินเราในบัญชีธนาคาร เราทำยังไง? เราก็ไปธนาคารแล้วก็บอกว่าเอาเงินเข้าหนึ่งตื้อ เอาเงินเข้าร้อยล้านกีบ เอาเงินเข้าบัญชีธนาคาร เรียกว่าสะสมเงินอยู่ในธนาคาร
แต่การสะสม ส่ำสมสมบัติในสวรรค์คืออะไร ข้อแรกนะครับคือ เราเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามีเป็นของพระเยซู มันขึ้นชื่อเป็นของเราแต่เจ้าของที่แท้จริงก็คือพระเยซู อะไรก็ตามนะครับที่เป็นของเราเป็นของพระเยซูหมด ชีวิตของเราก็เป็นของพระเยซู รถของเราก็เป็นของพระเยซู แฟนของเรา ภรรยาของเรา สามีของเรา ก็เป็นของพระเยซู ที่ดิน บ้าน รถอะไร ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของพระเยซูหมดนะครับ อันนี้เรียกว่า ส่ำสมสมบัติในสวรรค์
แล้วการใช้มัน การใช้ก็คือใช้เพื่อพระเยซู ใช้เพื่อพระเยซู รถที่มันจะเสียมันก็ไม่เสีย รถที่มันจะพังมันก็ไม่พัง บ้านมันก็จะรุ่งเรืองมันก็จะเจริญขึ้นได้ ครอบครัวก็จะอบอุ่นขึ้นได้ ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของพระเยซูแล้วนะครับ ใช้ให้ถูกต้อง แล้วก็เชื่อว่าเป็นของพระเยซู เอเมน
ชีวิตของเราก็เหมือนกันเราทำอะไรเราทำด้วยตัวใหม่ ทำด้วยคนๆใหม่ ไม่ใช่คนเก่าอีกแล้ว เราทำด้วยคนใหม่มือใหม่ทำอยู่ ชีวิตใหม่ทำอยู่ อันนี้เรียกว่าส่ำสมสมบัติในสวรรค์ เราจะมีทรัพย์สมบัติมากมาย แล้วการที่ส่ำสมสมบัติในสวรรค์มี 3 ข้อที่พระเยซูสอนไว้
ข้อแรกก็คือการให้ การให้เงิน ให้คนยากคนจน ให้คริสตจักร ให้พระกายเพื่อซื้ออาหาร ค่าไฟ ค่าน้ำมัน บางคนที่ยากจน ช่วยพี่ช่วยน้องคริสตจักรของพวกเรา แล้วให้ด้วยตัวใหม่ ให้ด้วยความรัก ไม่ใช่บังคับ ไม่ใช่ฝืน ไม่ใช่กฎเกณฑ์ (ไม่ใช่ อ๋อ มันจำเป็นต้องให้ ก็เลยให้ไป ไม่นะครับ) คือให้ด้วยความรัก ไม่ฝืนใจ
ให้ไม่ใช่จำนวนมากหรือจำนวนน้อย แต่ให้ตามขนาดของความเชื่อเข้าใจนะครับ
เมื่อก่อนเราให้คริสตจักรเราให้สิบลดใช่ไหม เราถวายสิบลด สิบเปอร์เซนต์ 10% ก็คือเรามีแสนหนึ่งเราก็จะเอาออกหนึ่งหมื่น เรามีล้านหนึ่งเราก็จะเอาออกแสนหนึ่ง เพื่อให้คนยากจนหรือให้คริสตจักร อันนี้เรียกว่าสิบลด อันนั้นสมัยก่อน บางคนนะยากจนไม่มีก็จำเป็นต้องควักกระเป๋า เวลาควักกระเป๋าให้คือมันจำใจ มันจำเป็น ไม่พอใจเท่าไหร่ใช่ไหม ยังเสียดายออกไปจากคริสตจักร โอ๊ยเสียดาย หลายคนเป็นนะผมก็เคยเป็น
แต่เราให้ไม่ใช่ 10% แล้ว ไม่มีสิบลดแล้ว พระเยซูสอนนะครับว่าใน 2 คร 9:7 บอกว่าเราให้ตามขนาดของความเชื่อ ไม่ใช่จำนวน แต่ให้ตามขนาดของความเชื่อให้เท่าไหร่ก็ได้ เห็นคนยากจนสงสารเขาให้เขาไป ตามขนาดของความเชื่อก็คือควักกระเป๋ามา โอ้มันเยอะเกินไปเสียดายเราก็เอากลับ แล้วก็ควักใบเล็กๆให้
** "การสะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตัวในสวรรค์" คือการช่วยเหลือคนยากจนขัดสน (มธ 19:21) ช่วยเหลือพี่น้องผู้เชื่อที่ขัดสน (กจ 2:45; 4:34-35; 11:29 / โรม 15:26) และช่วยเหลือผู้รับใช้ของพระเจ้าเพื่อการรับใช้อยู่กินของเขา (ฟป 4:16-17)